ว่ายทวนน้ำ โดยใบตองแห้ง ไทยโพสต์ 25 กันยายน 2549
สวัสดีครับ คุณใบตองแห้งที่เคารพผมเข้าใจว่าคุณใบตองแห้งไม่สนับสนุนวิธีรัฐประหาร ซึ่งมันยากจริงๆ...ที่จะพัฒนาประเทศ
ชาติต่อไป คนจะเดินทางชีวิตของตนในกรอบต่อไปได้อย่างไรถ้ายกเว้นปฏิบัติอยู่เรื่อยๆ
ไม่มีการแก้ไขโดยเหตุผล...มันยากครับ การที่หลักการทางวิทยาศาสตร์ทฤษฎีต่างๆ ก็ดี
พุทธศาสนาธรรมะก็ดี จะบอกให้ทุกคนยืนบนหลักการ และหลักธรรม การสนับสนุนให้ทำ
รัฐประหารจึงเสมือนกับการที่เรา "หันหลังให้หลักการ"...ถึงแม้มันก็เป็นเพียงหลักการ
หลักการหนึ่งเป็นจุดๆ หนึ่งของการปกครองเท่านั้น แต่ผลร้ายที่อาจจะกระทบสังคมคืออะไร
ผลร้ายที่น่าจะเกิดขึ้น คือคนในสังคมจะไม่พากเพียรที่จะรักษากฎเกณฑ์, กติกา ผลก็คือ
ความศักดิ์สิทธิ์ของตัวบทกฎหมายต่างๆ ย่อมถูกละเมิดได้ การพัฒนาทางกฎหมายไม่มี
ทางวิทยาศาสตร์ก็คือไม่พากเพียรที่จะยึดหลักการมาอธิบายธรรมชาติ, ปรากฏการณ์ที่
ค้นพบ และยึดติดอยู่กับความรู้ในหนังสือเท่านั้น ผลก็คือ ไม่เกิดการพัฒนาทางวิทยาการ
ที่แท้จริง การลอกเลียนนวัตกรรมของผู้อื่น และอื่นๆ ซึ่งยังผลสุดท้ายคือ คนในประเทศ
ชาติติดนิสัยเอากันง่ายๆ ไม่รักษากฎเกณฑ์ ตรงนี้ครับที่น่ากลัวที่สุด
ส่วน
ผลดีของรัฐประหารครั้งนี้ก็คือ การลดความเสี่ยง (ทฤษฎีนี้ผมชอบใช้) ซึ่งมีมากมาย
ในรัฐบาลทักษิณ ถ้าคิดว่าอำนาจอื่นที่ชอบธรรมกว่า (เช่น ทหาร) ยึดอำนาจรัฐบาล
เผด็จการ (ยึดครองสื่อบิดเบือนความจริง, คอรัปชั่น, ใช้อำนาจมืดเช็กบิลผู้อื่น) ได้เพื่อ
ความมั่นคงของชาติ คำตอบของเหตุการณ์ครั้งนี้จะยังคงอยู่ในหลักการได้ ผมคิดเช่นนี้
ครับ แต่รายละเอียดปลีกย่อยของผลเสียมีมากเราต้องระมัดระวัง คือการไม่ลืมที่จะรณรงค์
ยกบรรทัดฐานกฎหมาย ค่านิยมของประชาชนให้สูงขึ้นควบคู่กันไปด้วย
ที่ใดมีแสงสว่าง ย่อมมีเงามืดทอดอยู่เบื้องหลัง ฉันใด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นย่อมมีทั้งดีและ
ไม่ดี อย่าปล่อยตัวเองลอยตามกระแส ในทางธรรมก็คือ อย่าเอาอารมณ์เป็นตัวตั้ง อย่า
ประมาทกับทุกสิ่ง (คือให้ว่ายทวนน้ำบ้าง)
ถ้ายังคงมีคุณใบตองแห้ง คอยเตือนสติผู้อ่านว่า ไม่ควรเอาแต่ (สะ) ใจ, ไม่ควรเอาอารมณ์
เข้าครอบงำ หลักการ คือหลักการ ไม่มีวันที่มันจะบิดเบือน ผมว่าอีก 1-2 ปี เราจะถอยหลัง
เข้าคลองรึเปล่า อาจจะขึ้นอยู่กับสื่ออย่างคุณใบตองแห้งว่าจะเตือนสติคนไทยได้รึไม่ ว่า
ที่ทำอยู่นี้เอาง่าย, มักง่ายเกินไปรึเปล่า? ข้อดีมีมากข้อเสียก็มี การทำรัฐประหารครั้งนี้ ทำ
ได้คลาสสิก ไม่มีคนเสียเลือดเสียเนื้อ ดีจนประชาชนอาจจะลืมคิดไปว่าถ้าเลือกได้จะไม่
เลือกวิธีนี้เด็ดขาด
จึงเขียนมาแสดงความคิดเห็น
นอมินีจำเป็น-----------------------------------
ตอบ คุณนอมินีจำเป็นผลดีผลเสียของการรัฐประหารอยู่ในตัวเอง เป็นหนึ่งเดียวกัน ในขณะที่
ผลดีคือการยุติ
ระบอบทักษิณโดยไม่ต้องนองเลือด ยุติความระส่ำระสายไม่แน่นอน ที่ดำเนินมาตลอด
9 เดือน แต่
ผลเสียในตัวก็คือ คุณอย่าไปคาดหวังว่าประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมของ
ประชาชนจะเติบโต สมมติว่ามีรัฐบาลใหม่ ร่างรัฐธรรมนูญ ครบ 1 ปีเลือกตั้ง ยังไงๆ
ก็ต้องได้นักการเมืองนักเลือกตั้ง ที่อีกไม่นานคนก็เบื่อหน่าย ครบวงจร 15 ปี ก็อาจจะ
เรียกร้องให้ทหารออกมาอีก
แล้วก็พากันหอบลูกจูงหลานไปถ่ายรูปกับรถถัง ยังกะมีงานเฉลิมฉลอง เหมือนแห่ไปดู
ฝนดาวตก สุริยุปราคา ที่สิบกว่าปี ยี่สิบปี จะมีครั้ง โอกาสพิเศษยังงี้ ครั้งหนึ่งในชีวิต
พลาดได้ไง
ฝรั่งมันรายงานข่าวอย่างเซอร์ไพรส์ ด้านหนึ่งเราก็ภาคภูมิใจว่านี่แหละรัฐประหารแบบ
ไทยๆ ไม่เสียเลือดเนื้อ ทหารเป็นมิตรกับประชาชน แต่อีกด้านหนึ่งทั่วโลกเขาก็ปุจฉา
ว่า เฮ้ย คนไทยนี่มันไม่รู้สึกรู้สาเลยหรือที่รัฐธรรมนูญถูกฉีก สิทธิเสรีภาพทางการเมือง
ถูกระงับ วิทยุชุมชนถูกปิด SMS โฟนอิน ถูกห้าม สื่อต่างๆ เซ็นเซอร์ตัวเองไม่มากก็น้อย
ผมฟังบางท่านผมก็ยังพอยอมรับได้นะ เช่น อาจารย์สมเกียรติ อ่อนวิมล ท่านบอกว่าท่าน
ตอบรับรัฐประหาร แต่โดยส่วนตัว hurt มากเลยในฐานะคนร่างรัฐธรรมนูญ เคยต่อสู้มา
ตั้งแต่ 14 ตุลาคม
"มันจะจบยังไงก็ไม่รู้ แต่เขาสัญญาว่าภายใน 1 ปีจะมีรัฐธรรมนูญและเลือกตั้งใหม่
คนที่ยึดอำนาจทั่วโลกก็สัญญากันแบบนี้ไม่มีอะไรใหม่ ถึงเวลาก็คงไป แต่อาจจะเกิน
1 ปีไปสักนิด แล้วก็เลือกตั้งใหม่ พรรคการเมืองเดิม อาจจะเปลี่ยนชื่อใหม่กลับเข้ามาอีก
ถ้าเป็นอย่างนี้ก็เหมือนเดิม เดี๋ยวผมก็ตาย แล้วลูกผมก็มาเริ่มที่เดิม ตั้งแต่ไม่มีรัฐธรรมนูญ
มันเป็นชีวิตที่น่าเบื่อหน่าย"
"ถ้ามีทางเลือก ผมก็คิดว่าให้ประเทศชาติมันเสียหายอย่างยับเยินด้วยฝีมือทักษิณ ให้
ประเทศเละเทะไปเลย ผมว่าสัก 12 ปีถ้าดูจากโบลิเวีย อาร์เจนตินา เวเนซุเอลา แล้วก็
สมน้ำหน้าประชาชนผู้โง่เขลา ทักษิณก็รวยเละและถูกอัปเปหิโดยฝูงชนให้ไปอยู่ลอนดอน
อย่างทุกวันนี้ แต่วันนี้ไปด้วยกระบอกปืน ไม่ได้โดนประชาชนไล่ ฉะนั้นมันไม่จบลงแบบ
เป็นบทเรียนให้ทักษิณและประชาชน เขาอาจจะคอยจังหวะกลับมาอีก"
นี่ผมลอกมาให้ดูจากที่อาจารย์สมเกียรติคุยกับเว็บไซต์ประชาไท เพราะติดใจอยากถามว่า
แล้วประเทศไทยมีทางเลือกไหม ไม่ถึง 12 ปีหรอก ที่จริงหลังเลือกตั้งยังไงๆ ทักษิณก็
ต้องถูกบีบจากทุกฝ่ายจนต้องเว้นวรรค อาจจะสมคิดขึ้นเป็นนายกฯ แต่ไม่ใช่นอมินีเต็มตัว
เพราะเสียงกลุ่มอื่นใน ทรท.ก็จะขึ้นมาคาน ทักษิณจะลดอำนาจจากการกุมพรรคเบ็ดเสร็จ
ไปเป็นกุมเสียงข้างมาก แล้วก็จะลดลงเรื่อยๆ พลังประชาชนจะมีอำนาจต่อรองขึ้นเรื่อยๆ
(ถ้ามีสติ) แล้วก็จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วม แม้ทักษิณอาจจะยังมีส่วน
มากหน่อย แต่ก็จะต่อสู้ความคิดกันถกเถียงกันต่อหน้าประชาชนทั้งประเทศ
โอเคมันเป็นทฤษฎีไปหน่อย อารมณ์สังคมไทยยอมทนอย่างนั้นไม่ได้ ผู้หลักผู้ใหญ่ใน
สังคมไทยทนเห็นการ "เขย่า" กันอย่างนี้ไม่ได้เพราะเกรงบ้านเมืองจะเสียหาย ไม่สงบ
เราชอบใช้วิธีตัดตอนกันเสีย
แต่ทำไมนักวิชาการนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ ทั้งหลายกลับไปสนับสนุนวิธีการ
ตัดตอนเช่นนี้ แล้วต่อไปใครจะเป็นหลักในการวางรากฐานประชาธิปไตย ตอนนี้ก็เริ่มออกมา
พลิกลิ้นกันแล้ว เห็นทยอยออกตัวไม่สนับสนุนการรัฐประหารกันทีละรายสองราย ขี้หมา!
สู้กับทักษิณในกระบวนการ ถ้าเทียบกับรัฐประหารแล้วเป็นไงล่ะ ขบวนการไล่ทักษิณมี
ทุกขั้ว ตั้งแต่อนุรักษนิยมไปจนนักประชาธิปไตย คนชั้นกลาง นายทุน พ่อค้า กรรมกร
เอ็นจีโอ ระบบราชการ หลากหลายมาก แต่พอรัฐประหารมันก็คือการพลิกให้ขั้วอนุรักษนิยม
ระบบทหาร ขึ้นมามีอำนาจเบ็ดเสร็จเหนือกลุ่มอื่น เหนือทุกพลังในสังคมไทย มีอำนาจ
ยิ่งกว่าทักษิณอีกเพราะนี่คืออำนาจรัฐประหาร
บางคนบอกว่าทักษิณฉีกรัฐธรรมนูญก่อน เผด็จการก่อน ใช่ แต่ทุกฝ่ายก็ยังสามารถสู้กับ
ทักษิณในกรอบเพราะทักษิณจำต้องอ้างกติกา คุณม็อบได้ ชุมนุมได้ ชูป้ายได้ ฉีกบัตร
เลือกตั้งได้ หรือแม้แต่ตะโกนด่าได้ ตอนนี้ได้ไหมล่ะ
ทักษิณครอบงำสื่อ แทรกแซงสื่อ แต่ตอนท้ายเหลือสื่อกี่ฉบับยืนข้างทักษิณ แล้ววันนี้
สื่อมีเสรีเต็มที่ไหมล่ะ
สิ่งแตกต่างกันประการเดียวคือผู้ยึดอำนาจมีคุณธรรมจริยธรรมกว่าทักษิณ อันนี้ผมเชื่อ
แต่ไม่ใช่ว่ามีแล้วเขาจะทำถูกหมดทุกอย่าง เขาก็ทำตามแนวคิดเขา แนวคิดจารีตนิยมที่
เคยล้มเหลวมาแล้ว แนวคิดที่เชื่อว่า 19 ล้านเสียงมันโง่ 16 ล้านเสียงมันโง่ คงจะปล่อย
ให้เป็นประชาธิปไตยเต็มใบไม่ได้ คราวนี้อาจจะเอาสัก 3 ใน 4 ใบก็พอ
แล้วนักประชาธิปไตยจะไปหวังอะไร นอกจากรอความเมตตาปรานี หวังว่าเขาจะทำดี
หวังว่าเขาจะให้มีส่วนร่วม พอไม่ได้ดังหวังตอนนี้ก็ออกมาโวยกันแล้ว เช่น คัดค้านการ
ร่างธรรมนูญชั่วคราวที่ให้ "ดรีมทีม" ยุคพันปีอย่างมีชัย ฤชุพันธุ์, เนติบริกร บวรสาก
เป็นคลังสมอง
ล่าสุดวันนี้ ครป. ก็ออกมาแถลงแล้ว อาจารย์สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เจ้าเก่า ก็ออกมาแล้ว
แกบรรยายเป็นฉากๆ ไว้ล่วงหน้าเลยว่า ถ้า คปค.ยังทำอย่างนี้ ประชาชนเริ่มจะไม่ยอมรับ
มากขึ้นเรื่อยๆ เป็นลำดับขั้น คือ 1. แรกเลย ประชาชนสนับสนุนอย่างกว้างขวาง 2. เกิด
ความคลางแคลงสงสัยว่ารัฐประหารเพื่อปฏิรูปหรือรัฐประหารเพียงเพื่อให้อำนาจ "เปลี่ยนมือ"
จากกลุ่มหนึ่งมาสู่อีกกลุ่ม 3. เกิดความเสื่อมถอย ประชาชนจะเริ่มกล้าเผชิญหน้ามากขึ้น
เรื่อยๆ 4. เกิดการต่อต้านโดยมวลชนอันไพศาล
เห็นไหม มันไม่จบหรอกครับ ผมว่าทั่นผู้นำที่ลอนดอนเริ่มจะนั่งหัวเราะบ้างแล้ว
ขอแสดงความนับถือ
ใบตองแห้งhttp://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=25/Sep/2549&news_id=130583&cat_id=400