....เรียนท่านหัวหน้าคณะปฏิรูปที่เคารพ....
** ขอเรียนถึงท่านด้วยความเคารพว่า ....การที่เหตุการณ์บ้านเมือง
ที่ผ่านมามีวิกฤตทางการเมือง จนท่านต้องเข้ามายึดอำนาจเพื่อ
ปฏิรูปการวิกฤตการเมือง...ให้เป็นไปในทางผ่อนคลาย ให้เป็นไปในทาง
ที่ดีขึ้น ซึ่งวิกฤตที่ว่านั้น ...เป็นเรื่องที่สำคัญ ดังต่อไปนี้
.. การบริหารราชการแผ่นดิน โดยรัฐบาลรักษาการที่ผ่านมา ได้ก่อให้เกิด
ความแตกแยกในสังคมไทยอย่างรุนแรงอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในสังคมไทย
.. การบริหารราชการแผ่นดินส่อไปในทางทุจริต ประพฤติมิชอบ และเอื้อประ
โยชน์ต่อพวกพ้องอย่างกว้างขวาง
.. มีพฤติกรรมแทรกแซงอำนาจขององค์กรอิสระจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่หรือ
แก้ไขปัญหาสำคัญของชาติให้ลุล่วงไปได้
... ซึ่งท่านได้ให้สัมภาษณ์ว่า ท่านจะใช้เวลาในการสะสางวิกฤตนี้ให้ลุล่วงเป็นไป
ด้วยดี เพราะฉะนั้นการยึดอำนาจเพื่อปฏิรูปวิกฤตการเมืองของท่านครั้งนี้ เมื่อเสร็จ
สิ้นภาระกิจของท่าน ท่านต้องตอบคำถามได้อย่างชัดเจนว่า ประเด็นสำคัญข้างบน
ท่านได้ลงมือทำอย่างจริงจัง และตรงประเด็นแล้วหรือยัง....
**มีหลายอย่างที่เป็นข้อสงสัย คือ ทำไมดึง อาจารย์วิษณุ และอาจารย์บวรศักดิ์
ซึ่งเป็นคนที่เคยคลุกคลีกับ ทรท มาก่อน และ ณ วินาทีนี้ ก็เป็นวินาทีที่กำลังจะ
สะสางตรวจสอบ การทุจริตคอรัปชั่นของรัฐบาล ทรทลงไปอย่างจริงใจ และโปร่งใส
...แล้วประชาชนชาวไทยจะเชื่อถือการตรวจสอบนี้ได้อย่างไร....ในเมื่อนักกฏหมายใน
เมืองไทยที่เก่งๆยังมีอีกมากมาย ทำไมไม่ดึงเขาเข้ามาทำงานเพื่อสร้างมิติใหม่ มิฉะนั้น
รัฐธรรมนูญก็จะออกมาเหมือนหน้าตาคนสองคนนั้น ซึ่งประชาชนรู้สึกผิดหวังกับเขาทั้ง
สอง มาห้าปีกว่าแล้ว
... ประเด็นที่สอง ทำไม คุณแก้วสรร อติโพธิ จึงถูกกีดกันจากการ....ที่เข้ามา
ช่วยเหลือในเรื่องการตรวจสอบการทุจริตครั้งนี้ทุกกรอบ ทั้งๆที่คุณแก้วสรรเป็น
คนตรงไปตรงมา ชัดเจน ไม่เข้าใครออกใคร เรื่องนี้ มีคนพูดถึงวิพากษ์กันมากพอควร
ประชาชนกำลังมีความรู้สึกว่า ผลสุดท้าย คปค. ก็ถูกครอบงำด้วยคนเก่าของ ทรท.
ภายในเวลาอันสั้น แล้วไหนว่าจะแก้วิกฤตเพื่อให้องค์กรเป็นอิสระ เพราะคนส่วนใหญ่
กำลังเล็งเห็นว่า มีเงาดำของ ทรท. ทำให้นึกสยองว่า ต้นทุนที่ลงทุนไป
ของท่านและประชาชน จะกลายเป็นลมที่พัดผ่านแล้ว ประทับความชอบธรรมให้กับ
คนกลุ่มนั้น โดยเจตนาหรือไม่ก็แล้วแต่ อย่าให้ความตั้งใจแก้วิกฤตของท่านกลายเป็น
วิกฤตของประชาชนและท่านประธานองคมนตรีอีกรอบ
... ท่านหัวหน้าคณะปฏิรูปที่เคารพคะ ....ประชาชนกำลังเพ่งมองนะคะว่า
ประเด็นสำคัญที่ท่านได้กล่าวไว้ ท่านลงมือทำจริง ทำจัง ขนาดไหน ดูมัน
เบาๆอย่างไรไม่รู้นะคะ .... เกรงว่า เมื่อถึงวินาทีสุดท้าย หรือไม่นาน ....
เหตุการณ์ก็จะดำเนิน เข้ารอยเดิม .....
ด้วยความเคารพค่ะท่าน ....
จากผู้ใช้นามแฝง คำตัดพ้อของใบไม้
จึงขอติงมา ในกระทู้นี้ค่ะ-------------------------------------------------------------------------------------------------------
สนธิร่วม4ผบ.แถลงการณ์
ต่อมาเวลา 09.30 น. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะปฏิรูป
การปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมด้วย
พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ.
พล.ร.อ. สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร.และ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.ได้ร่วมกัน
อ่านแถลงการณ์ โดยพล.อ.สนธิ กล่าวว่า การที่คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประ
ชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้ทำการยึดอำนาจการปกครองเป็นที่
เรียบร้อยแล้ว และมีผลให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 วุฒิสภา
สภาผู้แทนราษฎร คณะรัฐมนตรี และศาลรัฐธรรมนูญ มีอันสิ้นสุดลง
ทั้งนี้ คณะปฏิรูปการปกครองฯ ซึ่งประกอบด้วย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการ
เหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีความเห็นร่วมกันว่า....
การบริหารราชการแผ่นดิน โดยรัฐบาลรักษาการที่ผ่านมา ได้ก่อให้เกิดความแตกแยก
ในสังคมไทยอย่างรุนแรงอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในสังคมไทย การบริหารราชการแผ่นดินส่อไปในทางทุจริต ประพฤติมิชอบ และเอื้อประโยชน์ต่อ
พวกพ้องอย่างกว้างขวาง อีกทั้ง
มีพฤติกรรมแทรกแซงอำนาจขององค์กรอิสระจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่หรือแก้ไข
ปัญหาสำคัญของชาติให้ลุล่วงไปได้ หากปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปเช่นนี้ต่อไป จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
และเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม รวมทั้งการดำเนินการกิจกรรมทางการเมือง บางโอ
กาสจึงหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่ง
เป็นที่เคารพเทิดทูนของประชาชนชาวไทย
ดังนั้น คณะปฏิรูปการปกครองฯ จึงมีความจำเป็นต้องเข้ายึดอำนาจจากการปกครองแผ่นดิน
เพื่อควบคุมและแก้ไขสถานการณ์ของประเทศให้กลับคืนสู่สภาวะปกติ และสร้างความรู้รัก
สามัคคีในหมู่ประชาชนให้ฟื้นคืนมาโดยเร็ว ทั้งนี้ คณะปฏิรูปการปกครองฯ ขอยืนยันว่า ไม่มี
เจตนาที่จะเข้ามาเป็นผู้บริหารราชการแผ่นดินเอง และจะคืนอำนาจการปกครองระบอบประชา
ธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กลับคืนสู่ชาวไทยโดยเร็วที่สุด รวมทั้งจะธำรงรัก
ษาไว้ซึ่งความสงบสุข และความมั่นคงของชาติ เทิดทูน ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่
รักยิ่งของปวงชนชาวไทย
จึงใคร่ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนให้ตั้งมั่นอยู่ในความสงบและสนับสนุนให้การ
ดำเนินการบรรลุเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ พล.อ.สนธิ แถลงเป็นแถลงการณ์ฉบับแรกที่ออกเมื่อเวลา 23.50 น
.วันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา
ออกแถลงการณ์11ฉบับ
ต่อมาเวลา 00.36 น.วันที่ 20 ก.ย. มีแถลงการณ์ฉบับที่ 2 มีใจความสรุปว่าให้ทหารทุก
นายไปรายงานตัว ณ ต้นสังกัด และห้ามเคลื่อนย้ายกำลัง
http://webboard.mthai.com/30/2006-09-20/268419.html
