ศูนย์บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศ.อ.บ.ต.) เป็นแนวคิดที่ดีมากในการแก้ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ครับ
ผมจะอธิบายให้ฟัง
เหตุผลก็คือวัฒนธรรมมุสลิมสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีทั้งความเป็นลักษณะเฉพาะท้องถิ่น คือ มีเฉพาะที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น
และ มีวัฒนธรรมที่เป็นลักษณะร่วมของวัฒนธรรมสากล วัฒนธรรมในพื้นที่แห่งนี้ ถูกผลิตและแสดงมาในลักษณะของ ภาษา ศาสนา กติกาการ
อยู่ร่วมกัน พูดง่ายๆก็คือ คุณจะกฎหมายที่ใช้ทั่วประเทศบางอย่างไปใช้ในท้องถิ่นนั้นๆเป็นเรื่องไม่สมควรเพราะเป็นท้องถิ่นลักษณะเฉพาะ
เท่าที่ผมรู้มาว่าเขาแตกต่าง ไม่เพียงแต่กับพุทธนะครับกระทั้งกับมุสลิมด้วยกันเขายังมีลักษณะเฉพาะอยู่มากเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่นวัฒน
ธรรมมุสลิมที่เกี่ยวกับภาษา วัฒนธรรมด้านภาษาของชาวมุสลิมสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากจะสื่อสารกันด้วยภาษาพูดภาษาไทยแล้ว
ยังมีการใช้ภาษาพูดที่เป็นภาษามลายูที่เรียกว่า "ภาษามาเลย์/ภาษามลายู" หรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่า"
ภาษายาวี" ทั้งที่เป็นภาษามลา
ยูถิ่นและภาษามลายูกลาง เป็นหลัก
ในส่วนภาษาเขียนนอกจากเขียนภาษาไทยแล้ว ยังมีภาษาเขียนในท้องถิ่น ทั้งภาษามลายูกลางและมลายูถิ่นปัตตานี ในสองลักษณะคือ
ภาษายาวี (ภาษามลายูที่ใช้เขียนด้วยตัวอักษรภาษาอาหรับ)ภาษารูมี (ภาษามลายูที่ใช้เขียนด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษ)
แม้แต่การเรียกตนเองของชาวมุสลิม ในระดับชาวบ้านมักนิยมเรียกตนเองว่า "ออแฆนายู" ซึ่งหมายถึง คนมลายู มากกว่าจะเรียกตัวเองว่า
"ออแฆอิสแล" หมายถึงคนอิสลาม และไม่นิยมเรียกตนเองในภาษามลายูว่า"ออแฆมุสลิม"หมายถึงคนมุสลิม ส่วนผู้ที่เข้ารับนับถือศาสนา
อิสลามจะถูกเรียกว่า"มาโซะนายู" (-เข้ารับมลายู) มากกว่าที่จะเรียกว่า "มาโซะอิสแล" (-เข้ารับอิสลาม) ซึ่งควรจะเรียกชื่ออย่างหลัง
จึงจะถูกต้อง
ความแตกต่างในระบบโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม ซึ่งแบ่งการศึกษาศาสนาออกเป็น สามระดับ ระดับอิบตีดาอีห์(ชั้น 1-4) ระดับมูตาวัตสิต
(ชั้น 5-7) และระดับซานาวี(ชั้น 8-10) โดยศึกษาควบคู่ไปกับวิชาสามัญในระดับมัธยมศึกษา(ม.1-6) และสุดท้ายคือ ระดับกุลลิยะฮ คือ
ระดับคณะของวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัย เช่น วิทยาลัยอิสลามศึกษาหรือวิทยาอิสลามยะลา เป็นต้น
ที่กลมกลืนกันได้ก็มีนะครับอย่างเช่นวัฒนธรรมมุสลิมที่เกี่ยวกับการเกิด โดยเฉพาะในจังหวัดยะลา ปัตตานีและนราธิวาส รวมถึงภาคใต้ตอนบนคือ
สงขลา สตูล มักจะมีวัฒนธรรม ที่สืบเนื่องมาจาการการเกิดของบุตรที่คล้ายคลึงกัน โดย วิธีการปฏิบัติกับเด็กแรกเกิด เช่น พิธีโกนผมไฟ การตั้งชื่อ
ที่มีทั้งไทยและอาหรับ ยกเว้นบางครอบครัวใช้ภาษาอาหรับอย่างเดียว
หรือบางอย่างเช่นพิธีงานศพเป็นประเพณีปฏิบัติประจำท้องถิ่นที่มีความคลุมเครือในหลักการอิสลาม มีทั้งผู้ปฏิบัติและไม่ปฏิบัติ เช่น การอ่านตะละ
เก็นตฺที่ปากหลุมฝังคนตาย การแจกเงินให้กับผู้มาร่วมละหมาดญานาซะหฺ การทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ตาย เป็นต้น
วัฒนธรรมเกี่ยวกับการแต่งกาย เป็นวัฒนธรรมสำคัญของศาสนาอิสลาม ทั้งชายและหญิง ซึ่งมีทั้งข้อพึงปฏิบัติและข้อพึงละเว้น ทำให้สามารถชี้
ได้ชัดว่าการแต่งกายของมุสลิม เช่น
การคลุมฮิญาบ ของสตรีเป็นเพราะคำสอนของศาสนาที่กำหนดให้สตรีต้องปกปิดอวัยวะทุกส่วน
ของร่างกายให้มิดชิดยกเว้นใบหน้าและมือ การห้ามเพศชายที่ต้องปกปิดระหว่างสะดือถึงหัวเข่า เป็นต้น
ทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างเล็กๆน้อยๆของการศึกษาเรียนรู้ "วัฒนธรรม" ที่เขาเชื่อ คิด ปฏิบัติ จะทำให้เราเข้าใจและรู้ว่าควรปฏิบัติต่อเขาที่ต่างจาก
เราอย่างไร
การมี ศ.อ.บ.ต ในฐานะรัฐหรือเจ้าหน้าที่รัฐ จะอยู่ร่วมกับเขาหรือสัมพันธ์กับเขา(ชาวบ้านหรือคนในพื้นที่) ในลักษณะของ การช่วย
เหลือ การวางนโยบายทางการปกครอง การส่งเสริมและแก้ปัญหาความยากจน ส่งเสริมการค้าขาย การให้การศึกษา กับเขาได้อย่างไร ในแบบ
ที่เรียกว่า ตรงกับความต้องการ ตรงกับกาละเทศะ และสอดคล้องกับหลักศรัทธาในศาสนาที่เขาเหล่านั้นยึดถือ ปฏิบัติ ทักษิณแย่มากครับที่ยุบ ศ.อ.บ.ต ตอนสมัยก่อนที่เขาจะปกครองภาคใต้สงบมากครับ ผมไปเที่ยวหลายครั้งกับเพื่อนมุสลิม ไม่มีอะไรเลย
ไปกินโจ๊กกบที่เบตง ไหว้เจ้าแม่ลิ้มกอเนี่ยวที่ปัตตาตี ไหว้พระที่นราธิวาศ เห็นท่านเจ้าอาวาสมีคนมุสลิมมานั่งคุยด้วยมากมาย ลุงมุสลิมแกบอกว่า
มีชาวมลายูมุสลิมพากันมา "ขึ้น" อยู่ด้วยมากกว่าชาวพุทธเสียอีกคือมาให้การอุปัฏฐาก เพราะท่านเป็นคนดีมีเมตตาสูง จึงได้รับการเคารพจาก
ชาวบ้าน โดยไม่เกี่ยวกับการนุ่งเหลืองห่มเหลืองแต่อย่างไร
เพื่อนผมบอกว่า ทักษิณดูรายงานตอนเข้ามาใหม่ๆเขาเห็นว่า ศ.อ.บ.ต เป็นผลงานของประชาธิปปัตต์ และดูรายชื่อผู้อาจเป็น ผู้ก่อการร้ายเหลือ
อยู่ประมาณ 60 คน เขาจึงหลุดปากว่า โจรกระจอก สั่งยุบ ศ.อ.บ.ต เรียกตำรวจลงไปใช้วิธีอุ้ม 60 คนไปซะ (วิธีเดียวกับเขาใช้ปราบยาบ้า)แต่ผล
ลุกลามอย่างไร ก็ขอให้ดูปัจจุบันเถอะ
ทักษิณยุบ ศ.อ.บ.ต ได้วันเดียวในหลวงท่านก็เรียกท่าน พลากร สุวรรณรัฐ ผู้อำนวยการ ศ.อ.บ.ต ไปเป็นองคมนตรีทันที พวกคุณคิดเอาเองว่า
หมายความว่าอย่างไรและ ศ.อ.บ.ต สำคัญแค่ไหน"
โดยคุณ อ่านแลต๊ะ [ วันเสาร์ ที่ 2 กันยายน 2549 เวลา 14:49 น. ] ผู้ตอบคนที่ 5
http://www.yala.go.th/webboard/view.php?No=3347