คนเชียงใหม่ดีใจทหารปฏิวัติ หญิงอ้อหอบลูกหนีสิงคโปร์
คนเชียงใหม่ดีใจทหารยึดอำนาจ หวั่นม็อบจัดตั้งเคลื่อนไหวร้องให้"ทักษิณ" คืนรัง ขณะที่นักวิชารการตกใจปฏิบัติเร็วไป ชาวเวบไซต์ชม-ด่าเท่า ๆ กัน ทหารคุมตัว"มิ่งขวัญ"ปล่อย"ทักษิณ"จ้อ กระแสข่าวคุณหญิงอ้อหอบลูกหนีทางสิงคโปร์
หลังจากคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้ประกาศยึดอำนาจ นำโดยพล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ได้มีประชาชนให้ความสนใจเข้าไปติดตามอ่านข่าวสารผ่านทางเวบไซต์ต่าง ๆ แต่ปรากฏว่าส่วนใหญ่แล้วล่มและใช้การได้เมื่อเข้าสู่วันที่ 20 กันยายน
ชาวเวบไซต์มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
ทั้งนี้จากการตรวจสอบ
WWW.PANTIP.COM ที่โต๊ะราชดำเนินมีกระทู้ที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเมือง โดยหลายกระทู้ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของคณะปฏิรูปฯและโจมตีอย่างรุนแรง บางประเด็นเสนอให้ประชาชนทั้งประเทศใส่ชุดดำไว้อาลัยประชาธิปไตยที่กำลังจะตายไป
อย่างไรก็ตามเท่าที่สำรวจจากเว็บไซด์ที่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นได้ก็มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย อย่างเช่น สนุกดอทคอม
ทหารคุมตัว"มิ่งขวัญ"ปล่อย"ทักษิณ"จ้อ
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ผบ.ทบ.ได้สั่งการให้โทรทัศน์ทุกช่องเตรียมพร้อมให้ถ่ายทอดสดจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ โดยห้ามมิให้มีรายการอื่นใดเข้าแทรก พร้อมทั้งสั่งกำลังพลทุกหน่วยพร้อม ณ ที่ตั้ง
อย่างไรก็ดี ทันทีที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ถ่ายทอดเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้มีการส่งกำลังทหารเข้าไปควบคุมการออกอากาศทั้งหมด โดยการคำประกาศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ทันได้ประกาศย้อนหลังอีกรอบก็ถูกตัดสัญญาณ
นอกจากนี้ ได้มีข่าวการควบคุมตัวนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท. เอาไว้เช่นกัน
"พจมาน"พร้อมครอบครัวเผ่น
ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 19 ก.ย. คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยาอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้หลบหนีออกจากไปประเทศสิงค์โปร์พร้อมครอบครัว
นักวิชาการเชียงใหม่ตกใจ
ผศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล คณบดีคณะนิติศาสตร์ มช. กล่าวว่า เหตุการณ์ยึดอำนาจที่เกิดขึ้นคาดว่า เนื่องจากฝ่ายทหารไม่พอใจที่มีเหตุการณ์ความแตกแยกในบ้านเมือง โดยเชื่อว่า ไม่มีเจตนาต้องการเป็นนายกรัฐมนตรีแทน พ.ต.ท.ทักษิณ และเชื่อว่ากำลังจะเข้าสู่มาตรา 7 ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดที่ต้องการให้มีนายกฯพระราชทาน ทั้งนี้ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศปฏิวัติยึดอำนาจ โดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งประกาศเมื่อเวลา 22.0 0 น.ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ได้ยินข่าวลือปฏิวัติในช่วงเที่ยงของวันเดียวกัน แต่ไม่ได้ คิดอะไร มองว่าเป็นเพียงข่าวโคมลอยเท่านั้น แต่เมื่อเกิดขึ้นจริง ก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าจะเกิดปฏิวัติใน พ.ศ.นี้
คนเชียงใหม่ดีใจยึดอำนาจคืน
นายจักรี ศรสิริ อายุ 29 ปี ผู้จัการสถานีบริการน้ำามันเจท สาขาสนามบิน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า หลังมีประกาศยึดอำนาจ ได้รับคำสั่งจากสำนักงานใหญ่ให้ปิดบริการซุปเปอร์มาเกตภายในปั๊มทันทีจากเดิมที่เคยเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่การให้บริการเติมน้ำมันได้ปิดตามเวลาปกติ โดยระบุว่าคำสั่งปิดซุปเปอร์มาเก็ตมีผลกับสถานีบริการเจ็ททุกสาขาทั่วทั้งประเทศ โดยให้เหตุผลถึงความปลอดภัย เพราะเกรงว่าอาจเกิดเหตุร้ายกับสถานีบริการน้ำมันได้
นายจักรี กล่าวว่า รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากกับการยึดอำนาจในครั้งนี้ เนื่องจากเชื่อว่าจะเป็นทางออกที่ทุกคนเห็นสมควรแล้ว เพราะที่ผ่านมาผู้นำประเทศทำไม่ถูกต้องหลายประการ และคิดว่าหลังจากนี้จะมีการขอพระราชทานนายกรัฐมนตรีตามประกาศของคณะปฏวิตต่อไป
อย่างไรก็ตามเกรงว่าอาจจะมีการจัดกลุ่มประชาชนในภาคเหนือทำการเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำรงตำแหน่งตามเดิม ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นได้ ทั้งนี้ได้ติดตามข่าวจากสื่อต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด
นายสิทธิชัย มีกา อายุ 18 ปี พนักงานให้บริาการเติมน้ำมันปั๊มเดียวกัน กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวทางโทรทัศน์ ไม่รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจเป็นเพราะเหตุการณ์ในจังหวัดเชียงใหม่ในขณะนี้ไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นและเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อจังหวัดเชียงใหม่มากนัก แต่ทั้งนี้เกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นในกรุงเทพมหานครหากสถานการณืไม่นิ่งโดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างทหารกลุ่มอื่น ๆ ที่ไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจในครั้งนี้
สถานการณ์ทั่วไปในจังหวัดเชียงใหม่ ปรากฏว่า เป็นไปด้วยความเงียบเหงาถนนแต่ละสายในเขตอำเภอเมือง ว่ามีรถวิ่งอยู่บางตาจนแทบจะกลายเป็นเมืองร้าง ขณะเดียวกันบรรดาประชาชนที่เข้ามาจับจ่ายซื้อของในร้านสะดวกซื้อต่างๆภายในปั๊มน้ำมันต่างให้ความสนใจจับกลุ่มเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนใหญ่มีความกังวลเกรงว่าจะเกิดการนองเลือดจากกลุ่มกลุ่มที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน โดยต่างภาวนาขอให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
http://www.komchadluek.net/2006/09/20/a001_49060.php?news_id=49060
