ตรวจเชิงลึก-วิชิตรับตัวกลาง
โพสต์ทูเดย์ แบงก์ชาติซุ่มสอบไทยพาณิชย์ปล่อยกู้เทกโอเวอร์ชินคอร์ป
แหล่งข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้แบงก์ชาติได้เข้าไปตรวจการปล่อยสินเชื่อของธนาคารไทยพาณิชย์ กรณีการปล่อยกู้เพื่อสนับสนุนการซื้อขายหุ้น บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น หรือชินคอร์ป โดยเฉพาะ บริษัท กุหลาบแก้ว ที่ธนาคารมีการปล่อยกู้ให้แก่ นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารธนชาต จำนวน 32.86 ล้านบาท โดยคิดดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (เอ็มอาร์อาร์) บวก 3.5% แต่นายศุภเดชนำไปลงทุนใน บริษัท กุหลาบแก้ว ได้ผลตอบแทนเพียง 3% ต่อปี กระทั่งถูกตรวจสอบจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่าอาจเป็นนอมินีในการถือหุ้นแทน บริษัท ไซเพรส โฮลดิ้งส์ ของกลุ่มเทมาเซกที่ค้ำประกันเงินกู้ให้
แหล่งข่าวกล่าวว่า การตรวจสอบของแบงก์ชาติ เป็นการดำเนินการในทางลึก ซึ่งหากพบความผิดปกติก็จะมีการรายงานต่อ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการแบงก์ชาติ ให้มีการดำเนินการของฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งผลการตรวจสอบเส้นทางเงินนี้จะเป็นหลักฐานสำคัญในการเชื่อมโยงการเป็นนอมินีของผู้ถือหุ้นชินคอร์ป
ทางด้านผู้บริหารของธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ผู้บริหารของธนาคารทุกระดับชั้นต่างไม่สบายใจที่การปล่อยกู้ครั้งนี้ถูกนำไปเชื่อมโยงทางการเมือง เนื่องจากเห็นพ้องกันว่าไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะการปล่อยกู้เช่นนี้เป็นเรื่องธรรมดา และธนาคารตกที่นั่งลำบาก เนื่องจากกองทุนเทมาเซกเป็นผู้ถือหุ้นของธนาคารด้วย
ทั้งนี้ นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการ บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ทำหนังสือถึงพนักงานลงวันที่ 24 มกราคม 2549 โดยระบุ ว่า ธนาคารมีส่วนเกี่ยวข้องกับกับการซื้อขายหุ้น ชินคอร์ป ทั้งในฐานะผู้ลงทุนและผู้ให้กู้ เนื่องจากได้รับเชิญจาก บริษัท เทมาเซก โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์และเป็นผู้ถือหุ้นรายหนึ่งของธนาคารให้เข้าร่วมลงทุนในบริษัทชินคอร์ป
แหล่งข่าวกล่าวว่า นายวิชิต ระบุในเอกสารดังกล่าวว่า บริษัท เทมาเซก โฮลดิ้งส์ มีวิสัยทัศน์ มีความน่าเชื่อถือ และมีความมั่นคงมาก อีกทั้งมีความสัมพันธ์กับธนาคารอย่างดีมาโดยตลอด
นอกจากนั้นธนาคารยังเห็นความสำคัญของธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศแบบไร้สายว่าจะเพิ่มศักยภาพของธนาคารได้ในอนาคต เป็นกระดูก สันหลังของธุรกิจธนาคารในด้านสารสนเทศ สอดคล้องกับความต้องการของธนาคารในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและให้บริการแบบครบวงจร
ประกอบกับ บริษัท เทมาเซก โฮลดิ้งส์ มีประสบการณ์ในการลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคมในประเทศอื่นๆ มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสิงเทล ในสิงคโปร์, เทเลคอม มาเลเซีย และบริษัท ออปตัส ในออสเตรเลีย ทำให้เชื่อมั่นว่าเทมาเซกจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโทรคมนาคมของไทยในอนาคต
ก่อนหน้านี้ธนาคารไทยพาณิชย์ได้ปล่อยกู้เพื่อการเทกโอเวอร์แก่กลุ่มแกรมมี่ เพื่อให้นำเงิน มาซื้อหุ้นของ บริษัท มติชน และบริษัท โพสต์ พับลิชชิง ซึ่งถูกโจมตีจากสาธารณชนว่าเป็นการปล่อยกู้ที่ไม่สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาล
http://www.posttoday.com/newsdet.php?sec=finance&id=121514---------------------------