สถานการณ์ เลือกตั้ง สถานการณ์ โค่น "ทักษิณ" กับ ม.36 รัฐธรรมนูญ
คอลัมน์ วิภาคแห่งวิพากษ์คำประกาศของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่จะไม่ให้ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร
เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย ทั้งรุนแรง ทั้งแข็งกร้าว
เป็นความรุนแรง แข็งกร้าว อันสะท้อนกลยุทธ์ "ทุบหม้อ จมเรือ" ของ "เซี่ยงหวี่"
เป็นความรุนแรง แข็งกร้าว อันสะท้อนกลยุทธ์ "ทุบหม้อข้าว ตีบุกหน้า" ของ "เจ้าตาก" ก่อน
ยึดเมืองจันทบุรี
ลำพังคำประกาศทวงคืนประเทศไทยเมื่อเดือนกันยายน 2548 ก็แหลมคมยิ่งแล้ว
ลำพังการเคลื่อนไหว "ถวายคืนพระราชอำนาจ" พร้อมกับทูลเกล้าฯ ขอ "นายกฯ พระราชทาน"
อันประสานกับการเคลื่อนไหวเพื่อนำเอา มาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 มาใช้เพื่อโค่น
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ก็แหลมคมยิ่งแล้ว
ลำพังการเคลื่อนไหวและเรียกร้องให้ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ประกาศ "เว้นวรรค" ทางการเมือง
ที่กระหึ่มขึ้นในเดือนมีนาคม 2549 ก่อนการเลือกตั้งทั่วไป สมัย 2 เมษายน 2549 ก็แหลมคม
ยิ่งแล้ว
มาตรการใหม่ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ไม่จะยินยอมให้ พ.ต.ท. ทักษิณ
ชินวัตร เดินทางกลับเข้ามาในประเทศในวันที่ 22 กันยายน 2549
ยิ่งแหลมคม ยิ่งรุนแรง ยิ่งแข็งกร้าว จนยากที่จะสามารถประนีประนอมกันได้
ถึงแม้ว่า มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญจะบัญญัติไว้ว่า
"บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ"
ถึงแม้ว่า มาตรา 39 ของรัฐธรรมนูญจะบัญญัติไว้ว่า
"บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณาและ
การสื่อความหมายโดยวิธีอื่น"
กระนั้น
มาตรา 36 ของรัฐธรรมนูญก็บัญญัติไว้ด้วยว่า
"บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการเดินทางและมีเสรีภาพในการเลือกถิ่นที่อยู่ภายในราชอาณาจักร
การจำกัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่ง
กฎหมาย เฉพาะเพื่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน
การผังเมือง หรือเพื่อสวัสดิภาพของผู้เยาว์
การเนรเทศบุคคลผู้มีสัญชาติไทยออกนอกราชอาณาจักร หรือห้ามมิให้บุคคลผู้มีสัญชาติ
ไทยเข้ามาในราชอาณาจักร จะกระทำมิได้"คำประกาศของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงรุนแรง แข็งกร้าวยิ่ง
เท่ากับเป็นคำประกาศในลักษณะของการ "เนรเทศ" บุคคลผู้มีสัญชาติไทยออกนอก
ราชอาณาจักร
เท่ากับเป็นคำประกาศในลักษณะของ "การห้าม" มิให้บุคคลผู้มีสัญชาติไทยเข้ามาใน
ราชอาณาจักร
เท่ากับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทรงอำนาจสูงยิ่ง
มีความเห็นต่างปรากฏขึ้นในท่ามกลางคำประกาศอันรุนแรง แข็งกร้าว ของพันธมิตรประชาชน
เพื่อประชาธิปไตย
ด้าน 1 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ต้องการให้ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เข้าประเทศ
ขณะเดียวกัน ด้าน 1 อย่างน้อยก็มี นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กับ
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทย เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รีบ
เดินทางกลับจากต่างประเทศแล้ว เดินทางไปยังสถานที่เกิดระเบิดที่หาดใหญ่ สงขลา
คล้ายกับข้อเรียกร้องของโฆษกพรรคประชาธิปัตย์และของรองหัวหน้าพรรคชาติไทยจะเป็นไป
ตามกระสวนและความเคยชินในทางการเมือง
แต่ในอีกด้านก็เท่ากับเป็นการยอมรับต่อสถานะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดำรงอยู่
นั่นก็คือ สถานะ 1 เป็นสถานะของความเป็นบุคคลสัญชาติไทยดำรงอยู่สถานะ 1 เป็นสถานะที่
ดำรงอยู่ในตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรีอันอยู่ในฐานะประมุขในอำนาจฝ่ายบริหาร
ข้อเรียกร้องของโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ข้อเรียกร้องของรองหัวหน้าพรรคชาติไทย จึงเท่ากับ
สวนทางกับคำประกาศของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยสิ้นเชิง
ไม่มีใครบอกได้ว่าคำประกาศของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะเป็นอย่างไร
จะเป็นจริง หรือว่า ไม่เป็นจริง
สถานการณ์การชุมนุมใหญ่ในวันที่ 20 กันยายน 2549 จะเป็นคำตอบ 1 ปริมาณการเข้าร่วมของ
ประชาชน จะเป็นคำตอบ 1
กระนั้น มาตรา 36 ของรัฐธรรมนูญ ก็น่าจะเป็นอีกคำตอบ 1 ด้วย
ที่มา มติชน วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 ปีที่ 29 ฉบับที่ 10419http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01col01190949&day=2006/09/19