ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
24-04-2024, 16:23
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  บางคำพูดแม่ทัพ๓...ความหวังของแผ่นดิน 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
บางคำพูดแม่ทัพ๓...ความหวังของแผ่นดิน  (อ่าน 957 ครั้ง)
THE THIRD WAY
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,821


Love looks not with eyes, but with the mind.


« เมื่อ: 17-09-2006, 09:21 »

ฯลฯ
คำถาม อยู่นิ่งๆไม่ดีกว่าหรือ?
คำตอบ นั่นเป็นตัวอย่างที่เลว เราไม่ควรเฉยแล้ว สื่อมวลชนนี่เป็นหน้าต่างของการรับรู้
ควรจะต้องเป็นผู้นำทางการกระตุ้นให้เกิดความรู้สึก ว่านี่คือบ้านเมืองของเรา
บางทีกล้าอย่างเดี่ยวอย่างผมไม่มี ก็กล้าแบบหมู่สิ
เหมือนคนกลัวผี ไปคนเดียวไม่ได้ แต่ถ้าไปสักเจ็ดแปดคนก็พอเอาหน่อย

ฯลฯ
คำถาม กังวลกับเรื่องตำแหน่งไหมหลังจากออกมาประกาศจุดยืน
คำตอบ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ถ้าขืนไปกลัวว่าถ้าเป็นคนตรง พูดตรง
แล้วไม่มีโอกาสได้ขึ้นไปถึงจุดสุดยอด ผมคิดว่าถ้าอย่างนั้นแล้วก็ไม่ได้ทำความดี
เพราะคุณเริ่มเบี่ยงเบนตั้งแต่วันที่คุณเปลี่ยนใจแล้ว
คุณจะมาเสียคนตอนแก่เหรอ

ดังนั้นโผทหารที่จะออกมาก็เรื่องของมัน ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะวิตก

ถ้ากรรมเก่าผมยังดี ผมต้องเข้าสู่ไลน์ที่ผมต้องเป็น
วันนั้นจะเห็นความเปลี่ยนแปลง ทั้งปัญหาเรื่องภาคใต้
ผู้มีอิทธิพลทั้งหลายต้องหัวหด
นักการเมืองเลวในจังหวัดต่างๆ
อย่ามาสมัครโดยเด็ดขาด
[/size]

มติชนรายวัน ๑๗กันยายน๒๕๔๙

อย่างนี้ต้องปรบมือดังๆ
แล้วส่งกำลังใจไปให้ท่านแล้ว
ขอเชิญชวนครับ
บันทึกการเข้า

ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้
************************
การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
อังศนา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,860


Can't fight the moonlight!


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 17-09-2006, 09:47 »

..ชอบ พล ท. สพรั่งจริงๆ

บันทึกการเข้า

แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย 
ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
decison_making
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 254


แม่ไม่ว่าเหรอแม้ว ทำตัวอย่างงี้


« ตอบ #2 เมื่อ: 17-09-2006, 12:02 »

มีแบบเต็มๆมั้ยอ่ะ เมื่อวานอ่านแล้ว น้ำตาไหลเลย
บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #3 เมื่อ: 17-09-2006, 12:03 »

อนาคต เอาตำแหน่ง ผบ.ทบ.ไปเลยค่ะ แล้วช่วยกวาดไอ้พวกเศษเดนทรราชที่ยังค้างอยู่ในกองทัพให้หมดด้วยนะคะ
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #4 เมื่อ: 17-09-2006, 16:23 »

มีแบบเต็มๆมั้ยอ่ะ เมื่อวานอ่านแล้ว น้ำตาไหลเลย



พล.ท.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาคที่ 3 "นักรบผู้ศึกษาธรรม"

โดย ชมพูนุท นำภา



ชื่อของ "พล.ท.สพรั่ง กัลยาณมิตร" แม่ทัพภาคที่ 3 ปรากฏบนสื่อมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เมื่อครั้งเกิดกรณี "ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ"

เป็นผู้ออกมาประกาศจุดยืนท่ามกลางความปั่นป่วนของสถานการณ์การเมืองในตอนนั้น ว่า "ขอเป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ไม่ขอเป็นเครื่องมือของฝ่ายใด

ความหมายแห่งนัยยะนี้ ย่อมรู้กันดีว่า พล.ท.ผู้นี้ขอยืนอยู่ข้าง "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ระหว่างเกิดความขัดแย้งกับนักการเมือง

ในอดีต พล.ท.สพรั่ง เป็นนักรบที่ผ่านศึกมาแล้วหลายสมรภูมิ ผ่านการปะทะกับผู้ก่อการร้ายไม่ต่ำกว่า 200 ครั้ง

เขาประกาศตัวเป็นทหารอาชีพ ไม่ชอบเป็นข่าว แต่เมื่อออกสื่อสู่สาธารณะครั้งใด นั่นแปลว่านักรบผู้นี้มีความจำเป็นบางอย่าง

พล.ท.สพรั่ง เติบโตมาในครอบครัวทหาร มีพ่อ-พ.ท.ศรี กัลยาณมิตร เป็นนายทหารช่วงปลายสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นนักเรียนนายร้อยรุ่นที่ 17

จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 7 นักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 18 นักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 43 จบปริญญาโทการจัดการภาครัฐและเอกชน จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

แต่งงานกับ "วิภาดา กัลยาณมิตร" มีบุตรด้วยกัน 3 คน ทั้งหมดเรียนทหารตามรอยผู้เป็นพ่อ โดยคนโตและคนรองได้ทุนไปเรียนที่เยอรมนี คนสุดท้องได้ทุนไปเรียนที่สเปน ทั้งสามเป็นความภูมิใจของ พล.ท.สพรั่งอย่างมาก

คำพูดเป็นนายของนายทหารชั้นผู้ใหญ่คนนี้มีว่า

"เป็นคน ถ้าไม่ทำความดี จะเกิดมาทำไม? การจะมารักษาประคองตัวเองไว้เพื่อไม่ให้คนเกลียดอย่างนั้นถือว่าเสียชาติเกิด"

ทั้งเจ็บ ทั้งคัน ดีแท้!!

"""""""""""""""""""

"ทำไมถึงอยากเป็นทหาร"

มาจากการหล่อหลอมของครอบครัว เพราะคุณพ่อ-พ.ท.ศรี กัลยาณมิตร เป็นทหารเคยไปรบสงครามมหาเอเชียบูรพา หรือสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นผู้บังคับกองพันเล็ก

พ่อเป็นนายทหารที่เราภาคภูมิใจได้ว่า ท่านมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างแน่นอน และท่านเป็นทหารที่ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่

ในสมัยรัชกาลที่ 7 พ่อเคยถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกนิยมเจ้า เมื่อก่อนนี้ใครนิยมเจ้าจะถูกกีดกันไม่ให้มีความเจริญก้าวหน้า จำความได้ว่าคุณพ่อขมขื่นมาก คุณพ่อมียศทางทหารสุดท้ายคือ พันโท สมัยก่อนพันโทมีเกียรติและยิ่งใหญ่มาก เพราะคือพลโทสมัยนี้ ยืนคุยกับผู้ว่าฯได้สบายๆ

พอสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง คุณพ่อต้องออกจากราชการ สมัยนั้นจะมีคำพูดว่า "นักรบตกอับ" ไม่สง่างาม ไม่ใช่ว่าทหารไม่สง่างามนะ แต่หมายถึงรัฐบาลในสมัยโน้นปฏิบัติต่อกองทัพไม่สง่างาม

"เลยถูกหล่อหลอมเรื่องความรักสถาบันด้วย"

ครับ คุณพ่อจะอบรมสั่งสอนลูกๆ ให้มีความซื่อสัตย์ จงรักภักดีต่อแผ่นดิน มันจารึกเข้าไปในกระดูกดำ พอมีโอกาสเป็นนักเรียนเตรียมทหาร เป็นนักเรียนนายร้อย ก็ถูกหล่อหลอมเรื่องความรักชาติ ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นธรรมชาติของโรงเรียนนายร้อย จปร. อยู่แล้ว

สังคมเราตอนนี้กำลังสับสน เกิดความแตกแยก ผมคิดว่าการปลูกฝังหล่อหลอมจากครอบครัวในเรื่องความรักชาติ เป็นเรื่องสำคัญ ไม่จำเป็นต้องเป็นโรงเรียนทหาร สถาบันการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ และอุดมศึกษา ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ได้ โดยสอนผ่านเนื้อหาวิชาหรือหลักสูตรที่ตัวเองสอนเด็กๆ เพื่อจะเป็นภูมิคุ้มกัน ที่ช่วยให้เยาวชนลูกหลานคนไทย มีความรักชาติ ไม่ว่าประกอบอาชีพอะไร แม้แต่เป็นเจ้าของธุรกิจ เมื่อถึงเวลาหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ ก็จะทำให้เขานึกถึงส่วนรวมเสมอ สังคมจะเข้มแข็ง การเมืองก็จะเข้มแข็ง


"เป็นทหารที่ตัวเล็ก ตอนเรียนโดนเพื่อนๆ แกล้งไหม?"

เพราะตัวเล็กนี่แหละตอนเป็นนักเรียนเลยอยู่ท้ายแถว พวกรุ่นพี่ พล.อ.สมทัต อัตตะนันทน์, พันเอกวินัย สมพงษ์ ปรารถนาดีอยากให้ตัวโต เลยโดนเคี่ยว ศัพท์ทหารเรียกว่า "ซ่อม" พอโดนซ่อมผมก็จะยิ้ม พี่ๆ เข้าใจว่าผมหน้าเป็น ทะเล้น เลยโดนหนักเข้าไปอีก เขาสั่งให้วิ่งเพิ่มอีก 50 รอบ โดนซ่อมมากจนกินข้าวไม่ลง พอกินข้าวไม่ลงตัวก็ไม่โต

แล้วที่ผม "ยิ้ม" นี่ เป็นเพราะพ่อผมสอนว่าเวลาเจอวิกฤตให้ยิ้มสู้ หรือยิ้มได้เมื่อภัยมา แต่พี่ๆ เขาไม่เข้าใจ

ชีวิตในโรงเรียนนายร้อยให้ประสบการณ์ที่ดีมาก นอกเหนือจากวิชาการ คือเรื่องภาวะผู้นำ และเรื่องของคุณธรรม ทหารสำคัญที่สุดคือ "Honour System"

ผมเป็นคนที่ธาตุไม่เปลี่ยน ผมจะพูดกับน้องๆ เสมอว่า ผมเป็นประเภทธาตุที่ไม่เปลี่ยน ไม่ใช่พวกสารประกอบ ไม่ว่าอะไรก็เข้ามากัดกร่อนเราไม่ได้ ฉะนั้นเราจึงต่อสู้ในสิ่งที่ถูกต้อง

"แต่คนที่ตรงมากๆ มักอยู่ได้ไม่นาน"

เป็นตัวอย่างที่ไม่ควรเอาอย่างหรือไง? (เสียงเข้ม) คือผมไม่กลัว ไม่ใช่ว่าไม่ปรับตัว ผมเป็นคนที่ยืดหยุ่นอ่อนตัวมาก แต่ไม่โลเลเหลาะแหละ

อ่อนตัว คือ รับรู้สภาพ เช่นบ้านเมืองตอนนี้เป็นภาวะวิกฤตทางจรรยาบรรณ หรือศีลธรรม ก็แล้วแต่ ถามว่าเราประพฤติตนในสิ่งที่ตรง ที่ถูกต้อง เพื่อช่วยยับยั้งสิ่งที่มันไม่ตรงไม่ถูกต้อง ให้ทำอันตรายต่อสังคมน้อยลง แล้วเราจะอยู่ไม่ได้อย่างไรหรือ? อย่าเอามาใส่ใจ

เราไม่เสียใจกับการทำความดี ความก้าวหน้าในชีวิตต่างๆ ไม่ใช่สาระสำคัญ สาระสำคัญคือมีโอกาสได้ทำความดี

ไม่ว่าไปที่ไหนผมจะไปกราบพระเสมอ แล้วบอกท่านว่า ขอโอกาสได้ทำความดี ไม่เคยบอกว่า ขอให้เป็นใหญ่เป็นโตเลยสักครั้งเดียว

"เชื่อเรื่องทำดีได้ดี-ทำชั่วได้ชั่ว?"

สิ่งที่ผมทำต้องได้รับการตรวจสอบแล้วว่าเป็นสิ่งที่ดี เป็นคุณกับประเทศชาติ ผลคือทำให้น้องๆ รุ่นหลังมีแบบอย่างที่ดี แล้วคนที่กำลังสิ้นหวังก็เกิดความรู้สึกว่ายังมีคนที่รักบ้านรักเมืองอยู่

ฉะนั้น อย่าอิจฉา!! คนบางคนไม่เห็นเข้าท่าสักหน่อย แต่ก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน เราดูแล้วก็โอ้โห ผลงานเท่าที่เห็นใน พ.ศ.ที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่เห็นมีอะไรเลย ผมเข้าใจนะว่าเขากำลังกินผลของกรรมดีในอดีตที่เขาเคยทำ แต่ที่เขาทำชั่วในปัจจุบันอย่างมหาศาลนั้น เขาต้องได้รับกรรมในนรกแน่นอน

ผมเป็นนักรบที่ศึกษาธรรมะ ไม่ใช่นักรบแบบบ้าๆ บอๆ ผมปะทะกับข้าศึก ผมไม่ปะทะด้วยความสนุกแต่เป็นการทำตามหน้าที่ ผมไม่เคยทำร้ายศัตรูในยามที่เขาบาดเจ็บ

"แล้วเสียเปรียบไหม?"

ไม่ ผมก็รบชนะมาตลอด ผมยึดที่หมายได้ทุกครั้ง ที่หนักๆ ดุเดือดแค่ไหน ผมก็ยึดได้ เคยเข้าตีที่หมายข้าศึกที่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ดุเดือดมาก เขามีปืน ปรส. (ปืนไร้แรงสะท้อน) มีทั้งเครื่องยิงลูกระเบิด แต่เราก็สามารถเข้ายึดที่หมายได้โดยสูญเสียน้อยที่สุด

คนที่เคยผ่านการรบมาแล้ว เวลาเขามาดูแลกองทัพ เขาไม่ลืมว่าต้องทำให้กองทัพเข้มแข็งเสมอ เพราะเขารู้รสชาติของการไปรบมาแล้ว

ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ดูแลฟูมฟักกองทัพ แถมยังมาทำให้กองทัพอ่อนแอด้วยการแต่งตั้งคนที่ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นผู้นำในแต่ละยุค มันจึงทำให้กองทัพอ่อนแอมาเป็นระยะ แล้วพอมาถึงวันที่วิกฤตสุดสุด มันสะท้อนให้เห็นว่า ไม่ใช่ว่ากองทัพเพิ่งอ่อน แต่มันมีผลพวงมาจากอดีต สั่งสมกันมา เหมือนเขื่อนจะพังก็เพราะมันมีรอยร้าวมาแล้ว แต่คนกลับไม่สนใจ

"ช่วงชีวิตที่เป็นนักรบดุเดือด?"

ปะทะกับผู้ก่อการร้ายเป็นร้อยๆ ครั้ง มีครั้งหนึ่งโดนซุ่มโจมตี 2 ชั่วโมงเต็ม ที่เขาค้อ ตั้งแต่บ่ายสองถึงสี่โมงเย็น ยิงกันไม่หยุด รถพรุนไปหมด ถ้าไปเห็นรอยกระสุนแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะมีชีวิตรอดมาได้ แต่ครั้งนั้นฝ่ายเราตายไปคนเดียว

ผมภาคภูมิใจว่าผมได้ทำหน้าที่อย่างเต็มภาคภูมิ และไม่ต้องการชื่อเสียงจากสิ่งที่ทำ และแอบภูมิใจตัวเองว่า เออ..ชีวิตนี้เราได้เป็นทหารสมบูรณ์แบบแล้ว เพราะเราได้รบปกป้องประเทศ

"ถูกวิจารณ์มากว่าทหารสมัยหลังๆ ไปรับใช้นักการเมืองเพราะว่างงาน"

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการแต่งตั้งแม่ทัพนายกอง เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดความอ่อนแอในกองทัพ

ส่วนที่ว่าทหารไม่มีอะไรทำ ทหารว่างงานนั้น สำหรับคนที่ไม่ใช่ทหาร ตอบว่าไม่มีอะไรทำก็ถูกของเขา แต่ในแง่ของผม การเตรียมกำลังของกองทัพทุกประเทศในโลก เมื่อเสร็จจากสงครามแล้ว ต้องเตรียมที่จะรบต่อไป ทหารต้องไม่ประมาท กองทัพต้องเตรียมพร้อมและฝึกปรือ และเตรียมยุทโธปกรณ์ไว้ให้พร้อม แต่ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะถูกตัดงบฯจากรัฐบาลที่อ่อนแอ

ถ้ารัฐบาลเข้มแข็งเขาจะต้องทำให้กองทัพเข้มแข็ง เพราะกองทัพเป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาทางการเมืองของโลก มีไหมที่จอร์จ บุช ที่ไปข่มขู่อิรัก อิหร่าน เกาหลีเหนือ ด้วยการเจรจาบนโต๊ะโดยไม่ได้แสดงแสนยานุภาพ มีไหม?

ถ้าบอกว่าแม่ทัพนายกองไม่มีอะไรทำ ก็ต้องบอกว่าการเมืองแต่งตั้งแม่ทัพนายกองแบบไหนล่ะ เล่นพรรคเล่นพวก ทหารเราไปบอกนักการเมืองได้อย่างไรว่าไม่มีอะไรทำ ตั้งแต่ผมรับราชการมาผมยังไม่ได้สบายเลยแม้แต่วินาทีเดียว

"ทหารถูกการเมืองแทรกแซง"

ถ้ากองทัพเข้มแข็ง ป่านนี้ความขัดแย้งในสังคมคลี่คลายไปตั้งนานแล้ว

ความรู้สึกของผม คืออัดอั้น เลยบอกกับสังคมแบบสุภาพ ว่าทหารต้องเข้มแข็งนะ กองทัพภาคที่ 3 ต้องเข้มแข็ง เป็นกองทัพตัวอย่าง ซึ่งความเข้มแข็งก็คือ มีความเป็นเอกภาพ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญและเสียสละ ติดตามสถานการณ์ของบ้านเมืองตลอดเวลา ไม่เพิกเฉย ไม่ใช่ว่าให้สถานการณ์มันวิกฤตแล้วจึงมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างนี้เจ๊ง!

"แล้วคำจำกัดความ "ทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ที่พูดคืออะไร?"

ใน 364 วัน ผมได้ถวายความจงรักภักดีตามบทบาทของกองทัพเพื่อให้ประเทศชาติอยู่รอดปลอดภัยอยู่แล้ว ถือว่าเป็นการปฏิบัติที่สำคัญกว่าอามิสบูชา ผมไม่ได้ปฏิบัติแค่วันเดียว คือวันที่ไปถวายสัตย์ปฏิญาณ

ฉะนั้นใครพูดก็พูดไป ที่บอกว่าผมพูดพร่ำเพรื่อ เฝือ แต่ที่ผมพูดมาก ผมไม่ได้เฝือ ผมพูดตอกกลับพวกที่เล่นสำนวนกับผม

สิ่งที่เป็นสิ่งที่ดีนั้นพูดทั้งวันก็ยิ่งดีใหญ่ แต่ถ้าคนเลวพูดแม้แต่ครั้งเดียวแย่ที่สุด คนเลวไม่มีสิทธิที่จะพูดเลย

บางคนว่าผมอยากเด่นอยากดัง อยากเป็นใหญ่เป็นโต ผมก็เลยสวนไปว่า "คนอย่างผมถ้าเพียงมีนิสัยคล้ายๆ อย่างคุณสักเล็กน้อย ไม่ต้องเต็มร้อยอย่างที่คุณกล่าวหา ผมเป็นผู้บัญชาการทหารบกไปนานแล้ว"

ผมกล้าเผชิญหน้ากับทุกคน เพราะผมเชื่อว่าผมมีคุณธรรมที่เขาไม่มี ผมสู้เขาไม่ได้คือเรื่องความร่ำรวย เรื่องเดียว

ผมไม่ใช่คนก้าวร้าว แต่ถ้าใครมาเล่นงานผมตรงๆ ผมซัดกลับเลย นี่คือบุคลิกตัวตนของ พล.ท.สพรั่ง

"ผู้นำที่เป็นแบบอย่างที่ดีในสายตา"

ต้องประธานองคมนตรีแน่นอน ที่จริงผมชอบหลายคน แต่ในหลายคนนั้นชอบเป็นบางเรื่องเท่านั้น ผมเป็นคนที่รักใครก็จะประกาศในที่สาธารณะเสมอ

"ช่วงนี้ต้องเดินสายพูดหลายที่"

ไปพูดเพื่อสร้างจิตสำนึก เพื่อมีส่วนร่วมในการตัดสินอนาคตของชาติบ้านเมือง เพื่อประกาศการต่อสู้กับอำนาจเลวๆ ของท้องถิ่นที่เหิมเกริม เห็นว่าทหารเงียบๆ ก็เลยชักเหิมเกริม

แต่ผมก็บอกกับน้องๆ ตำรวจภาค 5 ภาค 6 ท่านผู้ว่าฯในพื้นที่ของผม ซึ่งมีความรักกันมาก่อนที่จะเกิดเหตุ ว่า ถ้าน้องอึดอัดใจต่อการที่พี่ได้ออกมา แล้วทำให้ถูกเหล่ ก็ไม่ต้องทักพี่ก็ได้ พี่จะไม่โกรธเลย เพราะพี่รู้ว่าเป็นความจำเป็น เขาบอกว่าไม่ล่ะพี่ ตำรวจทุกคนก็มีหัวใจ ถือว่าเป็นโชคดีของประเทศชาติ ความหวังของประเทศชาติยังมีอยู่

"อยู่นิ่งๆ ไม่ดีกว่าหรือ?"

นั่นเป็นตัวอย่างที่เลว เราไม่ควรเฉย แล้วสื่อมวลชนนี่เป็นหน้าต่างของการรับรู้ ควรจะต้องเป็นผู้นำทางการกระตุ้นให้เกิดความรู้สึก ว่านี่คือบ้านเมืองของเรา บางทีกล้าเดี่ยวอย่างผมไม่มี ก็กล้าแบบหมู่สิ เหมือนคนกลัวผี ไปคนเดียวไม่ได้ แต่ถ้าไปสักเจ็ดแปดคนก็เอาหน่อย

"เป้าหมายชีวิตราชการทหาร"

ความฝันของผมตั้งแต่ตอนเด็กๆ คืออยากเป็นจอมพล ตอนเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ผมเขียนเลยว่า จอมพล ส. กัลยาณมิตร เพราะว่าถูกปลูกฝังมาว่าเราเป็นโรงเรียนผู้นำ ก็เลยไปหัดเซ็นลายเซ็น พอตอนหลังไม่มียศจอมพลแล้ว ก็เขียน พลเอก ส. แทน นี่คือเรื่องของแต่ก่อน

ส่วนตอนนี้อย่างที่บอก เวลากราบพระ ผมบอกท่านว่า ผมขอโอกาสได้ทำความดี ไม่เคยขอว่าให้ได้ตำแหน่งอะไร

"กังวลกับเรื่องตำแหน่งไหมหลังจากออกมาประกาศจุดยืน"

อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ถ้าขืนไปกลัวว่าถ้าเป็นคนตรง พูดตรง แล้วไม่มีโอกาสได้ขึ้นไปถึงจุดสุดยอด ผมคิดว่าถ้าอย่างนั้นแล้วก็ไม่ได้ทำความดี เพราะคุณเริ่มเบี่ยงเบนตั้งแต่วันที่คุณเปลี่ยนใจแล้ว คุณจะมาเสียคนเอาตอนแก่เหรอ

ดังนั้นโผทหารที่จะออกมาก็เรื่องของมัน ไม่ใช่เรื่องของผมที่จะวิตก

ถ้ากรรมเก่าผมยังดี ผมต้องเข้าสู่ไลน์ที่ผมต้องเป็น วันนั้นจะเห็นความเปลี่ยนแปลง ทั้งปัญหาเรื่องภาคใต้ผู้มีอิทธิพลทั้งหลายต้องหัวหด นักการเมืองเลวในจังหวัดต่างๆ อย่ามาสมัครโดยเด็ดขาด

หน้า 17

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01fun01170949&day=2006/09/17
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
THE THIRD WAY
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,821


Love looks not with eyes, but with the mind.


« ตอบ #5 เมื่อ: 17-09-2006, 16:32 »

และเมื่อหันไปมองกองทัพ
เหมือนที่ท่านว่าจริงๆ

ผมว่าโผทหารเที่ยวนี้
จะเป็นสิ่งบ่งชี้
อนาคตของกองทัพ
บันทึกการเข้า

ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้
************************
การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 17-09-2006, 19:23 »

กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดีจริงๆครับ วานกำจัดทหารเลวอย่างเสธไอซ์กับบิ๊กแอ๊ดขี้เมาด้วยละกัน ทหารเลวของกองทัพไทย
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


หน้า: [1]
    กระโดดไป: