กำไรหวยแสนล้าน !!! สิ่งที่ "ทักษิณ-สุรสิทธิ์-วราเทพ" ไม่เคยตอบคำถาม ?
แล้วประเด็นเรื่องเงินกำไรจากหวยก็กลายเป็นวิวาทะอันร้อนแรงระหว่าง พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคไทยรักไทย เมื่อ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่าการใช้ประโยชน์จากเงินหวยอันเป็นเงินนอกงบประมาณ ไม่โปร่งใส
"เงินงบประมาณที่มีการใช้จ่ายกันอย่างปัจจุบันยังขาดประสิทธิภาพ ขาดการจัดลำดับความสำคัญ ยังมีเงินที่อยู่นอกระบบงบประมาณที่ยังมีการใช้จ่ายกันอีกมากมาย ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้กลับเข้ามาสู่ระบบการบริหารจัดการที่ดี ผมยกตัวอย่างเดียว เงินของกองสลากฯ ทราบมั้ยครับว่าหนึ่งปี 72 งวด มีรายได้เข้ามา 28,000 ล้าน ซึ่งจำเป็นต้องมีการเข้ามาบริหารจัดการให้ถูกต้องตามหลักของธรรมาภิบาล
"พรรคประชาธิปัตย์ยังมีนโยบายนำรายได้ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ได้จากการจำหน่ายหวยบนดิน ปีละ 24 งวด เป็นเงินเฉลี่ย 1 หมื่นล้านบาทต่อปี มาเข้าสู่ระบบงบประมาณ โดยจะต้องส่งรายได้เข้าคลังแทนการใช้เงินโดยไม่มีหลักเกณฑ์รองรับ"
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ซึ่งส่งเพื่อนรักชื่อ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ ไปคุมกองสลากฯ ก็ออกมาโต้ว่า
"ผมได้ให้โอกาสคนจนหลายเรื่องด้วยเงินของกองสลากฯ เป็นเงินที่เกิดจากเราเอาหวยใต้ดินขึ้นมาบนดิน และแน่นอนว่ามันขัดผลประโยชน์คนจำนวนมาก เพราะเงินเหล่านี้ปีหนึ่งๆ กำไรไม่น้อยกว่าหมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่คนค้าหวยได้เอาไปใช้เพื่อสร้างอิทธิพลต่างๆ พอผมเอามาให้ทุนการศึกษาเด็กยากจนทั้งหลาย คนเหล่านี้ก็ไม่พอใจ และหลายคนได้ไปร่วมกับกลุ่มพันธมิตรมาต่อต้านผม แต่ผมถือว่าเรื่องแบบนี้ผมไม่รู้สึกอะไร เพราะผมถือว่าคนเราทำความดีก็ทำไป วันนี้ไม่เข้าใจสักวันก็เข้าใจ"
จริงๆ แล้ว เป็นการโต้กันคนละประเด็น "มาร์ค" เสนอให้มีการจัดการเรื่องเงินหวยอย่างโปร่งใสแต่ "แม้ว" ไปพูดเรื่องเงินหวยช่วยคนจน มิหนำซ้ำยังโยงไปเรื่องมาเฟียหวยใต้ดินที่สูญเสียผลประโยชน์ จึงรวมตัวกันมาล้มรัฐบาล คนที่ตอบได้ตรงประเด็นมากกว่า "แม้ว" คือ นายวราเทพ รัตนากร รักษาการ รมช.กระทรวงการคลัง ที่ชี้แจงว่า
"พรรคประชาธิปัตย์ก็เอาเรื่องนี้ไปวิพากษ์วิจารณ์ทุกครั้ง เพราะในอดีต พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้คิดในแง่การบริหารจัดสรรงบประมาณจากสำนักงานสลากกินแบ่งฯอย่างเป็นระบบ และให้สามารถนำไปแก้ปัญหาได้ทันเวลา"
"การจัดตั้งกองทุนก็เพิ่งมาเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์คิดจะเอาเงินจากสำนักงานสลากฯเข้าไปอยู่ในระบบงบประมาณ ทำไมตอนที่เป็นรัฐบาลอยู่ 3 ปีกว่าถึงไม่คิด
เรื่องหวยบนดินเราเอาขึ้นมาจากใต้ดินเพื่อนำประโยชน์กลับคืนไปสู่ผู้ด้อยโอกาส และส่งเสริมด้านการศึกษาให้เด็กและเยาวชน งบฯส่วนนี้จึงไม่ควรเอาไปรวมกับงบประมาณรวมที่จะถูกนำไปแบ่งให้ส่วนราชการอื่นๆ
ถ้าตัดเงินส่วนนี้ไปจะกระทบ ไม่มีเงินไป
ดูแลนักเรียนทุนของรัฐบาล และนักเรียน
หนึ่งทุน หนึ่งอำเภอ พรรคประชาธิปัตย์เอาประเด็นนี้มาโจมตี เพราะพรรคไทยรักไทย
นำเงินหวยบนดินมาทำแล้วได้ผลงาน"แต่ทีมข่าว "ประชาชาติธุรกิจ"
พบว่าสิ่งที่ "ทักษิณ-สุรสิทธิ์ และวราเทพ" พูดความจริงไม่หมด มีอยู่อีกหลายประเด็นและไม่เคยมีคำตอบที่ชัดเจน นอกจากพูดหาเสียง เรื่องเงินหวยช่วยคนจน และ 1 อำเภอ 1 ทุน (ทุนเรียนดอกเตอร์)
ประเด็นแรก "ประชาชาติธุรกิจ" ยื่นขอให้กองสลากฯของ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เปิดเผยการใช้เงินกำไรจากสลากพิเศษ (สลากการกุศล) ย้อนหลัง 5 ปี และสลากเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว ทุกรายการ ตั้งแต่งวดแรก สิงหาคม 2546 จนถึงปัจจุบัน บัดนี้ล่วงเลยเวลามา 1 ปีแล้ว ยังไม่มีคำตอบ
ประเด็นที่สอง กองทุนเงินหวยที่นายวราเทพอ้างว่ารัฐบาลไทยรักไทยเป็นผู้ริเริ่มให้ดำเนินการนั้น ประชาชาติธุรกิจเคยตั้งคำถามว่า เหตุใดกรรมการจึงมีแต่นักการเมืองกับข้าราชการเป็นส่วนใหญ่ นายวราเทพตอบว่า คนนอกก็มี เช่น นายสมพงษ์ จิตระดับ จากคณะครุศาสตร์ จุฬาฯ
ซึ่งครั้งหนึ่ง อาจารย์สมพงษ์เคยให้สัมภาษณ์ประชาชาติธุรกิจว่า "มีการวิ่งเต้น รุมทึ้ง สูบเงินหวย จริง"
ประชาชาติธุรกิจ ถามรัฐมนตรีวราเทพว่า ทำไมไม่แต่งตั้งผู้หลักผู้ใหญ่ที่น่าเชื่อถือ และปลอดการเมือง เข้าไปเป็นกรรมการ รัฐมนตรี วราเทพตอบว่า ไม่อยากให้กองทุนหวยเหมือนกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ของ หมอประเวศ วะสี
แต่รัฐมนตรีวราเทพไม่เคยตอบว่า กองทุนแบบ สสส.ไม่ดีตรงไหน ?
ประเด็นที่สาม การใช้เงินสลากพิเศษมีความไม่โปร่งใสอย่างมาก ครั้งหนึ่ง กองสลากฯอนุมัติเงินบริจาค 2 แสนบาท ให้วัดแห่งหนึ่งในภาคอีสาน แต่ปรากฏว่า ส.ส.พรรคไทยรักไทยหักเงินค่าหัวคิววัดไป 150,000 บาท แล้วจ่ายให้เจ้าอาวาสไปแค่ 5 หมื่นบาท คำถามคือ เหตุใดหัวหน้าพรรคไทยรักไทยจึงแค่สั่งให้ลูกพรรคคืนเงินวัด แล้วจบเรื่อง แทนที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายให้เข็ดหลาบ
ประเด็นคำถามต่อมาคือ ยังมีนักการเมืองจากไทยรักไทยคนอื่นหรือไม่ที่ชักค่าหัวคิวเงินหวย
ประเด็นที่สี่ เหตุใดกองสลากฯไม่เคยให้ความรู้กับชาวบ้านว่า โอกาสถูกหวยมีต่ำเพียงใด เช่นเดียวกับไม่เคยบอกว่า ผลตอบแทนของการซื้อหวยต่ำกว่าการลงทุนทุกประเภท
แต่กองสลากฯกลับกระตุ้นยอดขายหวย โดยการเปิดเผยชื่อและเรื่องราวของผู้โชคดีที่ถูกหวยก้อนโต เช่น คนเก็บขยะ สาวเสิร์ฟ หรือชาวไร่ ชาวนา ซึ่งความจริงด้านเดียวเหล่านี้คือ สิ่งที่ทำให้ชาวบ้านงมงายบ้าหวย จนกลายเป็นคนจนถาวร
แล้วเงินบาปก้อนหนึ่งก็ถูกส่งผ่านไปให้เด็ก เรียนดอกเตอร์ในต่างประเทศ
แต่เงินก้อนโตถูกนำไปเอื้อประโยชน์การเมืองแบบเอิกเกริก ดังเห็นได้จากปรากฏการณ์ตะลอนทัวร์ของนายกฯร่วมกับ ผอ.กองสลากฯที่แจกเงินหวยเป็นว่าเล่น เหล่านี้ คือ กระบวนการใช้เงินบาปที่ทักษิณ วราเทพ และสุรสิทธิ์ ไม่เคยตอบได้ !!
หน้า 43
http://www.matichon.co.th/prachachart/prachachart_detail.php?s_tag=02pol01140949&day=2006/09/14