ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 08:39
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  **เมื่อ เปาบึ้มจี้ ตัดสินคดีลอบสังหารท่านอ๋องเหลี่ยม (ตอนที่ 2)** 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
**เมื่อ เปาบึ้มจี้ ตัดสินคดีลอบสังหารท่านอ๋องเหลี่ยม (ตอนที่ 2)**  (อ่าน 924 ครั้ง)
*bonny
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,459



« เมื่อ: 15-09-2006, 10:11 »

ตอนที่ 2


ภาย
ในห้องพิจารณาคดี  เปาบึ้มจี้ เทพเจ้าหน้าดำ ออกนั่งบัลลังก์โดยมีองครักษ์ซ้ายขวา หวังเฉา หม่าฮั่นยืนค้ำบัลลังก์ และท่านกงซุนเชอะ กุนซือคู่บารมียืนประกบอยู่เหมือนเช่นเคย เบื้องหน้าเป็นอ๋องเหลี่ยมซึ่งก็มีองครักษ์ซ้ายขวายืนประกบอยู่เช่นกัน

“เปิดศาล”

“คารวะท่านเปาบึ้มจี้”  ทหารตะโกนเสียงดัง ทุกคนก้มศีรษะลงคารวะ อ๋องเหลี่ยมยกมือขึ้นประสานทำท่าคารวะแต่สายตาบิดเบือนไปทางอื่น

“เจ้าใช่ไหมคืออ๋องเหลี่ยม เจ้าสำนักไถ่แล้วไถ”  เปาบึ้มจี้ถามขึ้น

“อืมม์..ใช่แล้ว”  อ๋องเหลี่ยมตอบ ใบหน้าแสดงอาการไม่ยำเกรง

“เบิกตัวจำเลย”  ท่านเปาสั่ง

“เบิกตัวจำเลย”

ชายคนหนึ่งถูกพันธนาการอย่างแน่นหนาอยู่ในสภาพอิดโรยเต็มกำลังถูกนำตัวเข้ามาในห้องพิจารณาคดี เมื่อมาถึงหน้าบัลลังก์ก็คุกเข่าลง ก้มหน้านิ่ง

“นี่คือ ถุ่กเค้าใช้ เคยเป็นพลแบกเกี้ยวของหัวหน้านายทหารที่เฝ้าประตูเมือง ถูกจับได้คาเกี้ยวที่พบว่า มีประทัดไฟจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ คนของท่านอ๋องเหลี่ยมจับตัวเขาได้ และนำส่งมาที่นี่เพื่อขอให้ใต้เท้าลงโทษทัณฑ์สูงสุด เนื่องจากมีเจตนาลอบสังหารท่านอ๋อง”  กงซุนเชอะอ่านรายงานให้ท่านเปารับทราบ

“อืมม์..แล้วเจ้าคิดลอบสังหารท่านอ๋องจริงหรือเปล่า”  ท่านเปาวางมาดถามด้วยเสียงเคร่งขรึม

“ข้า..ข้าไม่ทราบว่ามีประทัดไฟอยู่ภายใน ข้าเพียงแต่..”  ถุ่กเค้าใช้พยายามจะอธิบาย สีหน้าเป็นกังวลอย่างยิ่ง

“เอาล่ะ..เอาล่ะ..ในเมื่อเจ้าเป็นพลแบกเกี้ยวไม่รู้ว่ามีอะไรซุกอยู่ในเกี้ยวได้อย่างไร คำแก้ตัวของเจ้าฟังไม่ขึ้น ข้าขอตัดสินให้เจ้ามีความผิดมหันต์..”  ท่านเปาตัดสินอย่างรวดเร็ว กำลังจะทุบโต๊ะอยู่แล้ว

“เดี๋ยว..ใต้เท้า ท่านยังไม่ได้ฟังเขาแก้ข้อกล่าวหาเลย คดีนี้น่าจะมีเงื่อนงำนะท่าน เหตุไฉนด่วนสรุป”  กงซุนท้วงเอาไว้ได้ทัน

“เงื่อนงำอย่างไร เจ้านี่มันเคยเป็นพลเกี้ยวของกลุ่มคนเกลียดอ๋องเหลี่ยมมิใช่หรือ ย่อมประสงค์จะสังหารข้าแน่นอน หลักฐานปรากฏชัดเจน ท่านเปาก็ตัดสินยุติธรรมแล้ว”  อ๋องเหลี่ยมรีบชิงพูดขึ้นมาทันทีทันใด

“ท่านอ๋อง ท่านบอกว่าเขาเคยอยู่กับกลุ่มคนเกลียดอ๋องเหลี่ยม แล้วกลุ่มคนเกลียดอ๋องเหลี่ยมประกอบไปด้วยใครบ้างล่ะ”  กงซุนถามกลับ

“อ๋อ..กลุ่มคนเกลียดอ๋องเหลี่ยมเหรอ..เดี๋ยวขอข้าไล่เรียงก่อนนะ  เอาเท่าที่นึกได้คร่าวๆ นะ ก็มี..อำมาตย์ป๊ะป๋า..อำมาตย์ฝ่ายบุ๋นทั้งหมด..ราชนิกูล..แม่ทัพใหญ่..แม่ทัพสาม..แม่ทัพน้อย(ใจ)ทั้งหลาย..หัวหน้ากองพันในเขตเมืองหลวงทั้งหมด..อาจารย์ของบัณฑิตที่จะมาสอบจอหงวนทั้งหมด..นักปราชญ์ราชบัณฑิต..ประชาชนในเมืองไคฟง..ประชาชนในหัวเมืองทางตอนใต้ทั้งหมด..หมอในราชสำนักทั้งหมด..ผู้มีหน้าที่ตัดสินคดีความของทางราชการทั้งหมด..และ..”

“พอ..พอ พอแล้วท่านอ๋อง ข้าขอสั่งให้เจ้าพอแค่นี้”  ท่านเปารีบส่งเสียงปราม  กงซุนเชอะต้องชำเลืองมองด้วยสายตาประหลาด

“แล้วฝ่ายสนับสนุนอ๋องเหลี่ยมล่ะ”  กงซุนถามต่อ 

ท่านอ๋องเหลี่ยมกระหยิ่มยิ้มย่องขึ้นมาในทันทีก่อนตอบอย่างภาคภูมิใจ

“เหล่าโจรถ่*** ข้าราชการกังฉินและชาวบ้านจากแดนไกลที่ศรัทธาในกุศโลบายการใช้เงินตราของข้า”

“หมดแล้วหรือ..”  กงซุนขมวดคิ้วถาม ไม่แน่ใจเหตุใดคำตอบจึงสั้นกะรุดจุ๊ดจู๋

“มีอีก มีอีก บอกเขาไปสิท่านอ๋อง ข้าให้เวลาท่านคิดสองวัน ท่านกงซุนอย่าไปเร่งรัดสิ”  ท่านเปากล่าวหนุนหลังขณะที่ส่งสายตามาตำหนิกุนซือคู่ใจ

“เอ่อ..ข้าไม่แน่ใจว่าหมดหรือยัง..อาจจะมีหลงเหลืออยู่ที่ไหนสักแห่ง..เอ่อ..อ  อ้อ..นึกได้แล้ว”  อ๋องเหลี่ยมสีหน้าเบิกบานในทันที

“เป็นเพื่อนข้าที่อยู่ต่างแดนไง  เขาแซ่ หลี่ ชื่อ เซียนหลง เป็นอ๋องใหญ่แห่งประเทศสิ้นคาเป้า”

คำตอบของอ๋องเหลี่ยมทำท่านเปาต้องกุมขมับ  ส่วนกงซุนหัวเราะร่า

“ฮ่า..ท่านบังอาจรับการสนับสนุนจากคนต่างชาติเลยเรอะ”

ท่านอ๋องคิดได้ รีบปฏิเสธ

“ปละ..เปล่า ไม่ใช่ ก็แค่คนรู้จัก เขามิได้สนับสนุนทางการเงินใดๆ ให้ข้าน๊า”  อ๋องเหลี่ยมโบกมือเป็นพัลวัน

“ยังจะปากแข็ง ข้าทราบมาว่า ท่านขายทรัพย์สินทั้งหมดของท่านให้คนชาตินี้มิใช่เรอะ”  กงซุนขย่มต่อ

“ยุ่งไรท่านด้วย คนละคดีกัน วันนี้ มีคนลอบสังหารข้า หลักฐานจะแจ้ง ใยพวกท่านไม่เร่งตัดสินคดีความ ยังมาใส่ความข้าอีก ยุติธรรมแล้วหรือ”  อ๋องเหลี่ยมแสดงอาการโมโหโกรธา

“เอาล่ะ..เอาล่ะ ท่านกงซุน ข้าขอให้ท่านยุติการละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของท่านอ๋องเดี๋ยวนี้เลย มาว่ากันที่คดีลอบสังหารท่านอ๋องกันต่อดีกว่า ท่านว่า มันมีเงื่อนงำ มีอย่างไรก็ว่าไป”  ท่านเปาปรามกงซุนเอาไว้อีกครั้ง

“ข้าให้หวังเฉา หม่าฮั่นไปสืบ ได้ความมาว่า ตอนขบวนของท่านอ๋องและคณะเดินผ่านเกี้ยวที่มีประทัดไฟบรรจุอยู่ ท่านอ๋องเองก็สังเกตเห็นเกี้ยวนั้นจอดอยู่  แต่ก็ยังผ่านไปได้โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น หากถุ่กเค้าใช้คิดลอบสังหารท่านอ๋อง ทำไมไม่จุดระเบิดตั้งแต่ตอนที่ขบวนของท่านอ๋องเดินผ่าน ไฉนปล่อยให้ลอยนวลไปจนถึงที่ทำงานได้ทั้งๆ ที่คนของท่านอ๋องบอกว่า เห็นมารอตั้งนานแล้ว และอีกประการหนึ่ง  ไหนๆ ก็ลอบสังหารไม่สำเร็จแล้ว ทำไมเจ้าถุ่กเค้าใช้จึงไม่นำเกี้ยวหลบไปเสียให้พ้นสายตา จอดทิ้งไว้ทั้งๆ ที่ไม่มีความจำเป็นแล้ว แถมยังนั่งอยู่เฝ้าเกี้ยวรอให้เจ้าหน้าที่ทางการจับกุมซะอีก  มันน่าแปลกอยู่ ขอให้ใต้เท้าพิจารณาดูอีกที”  กงซุนกล่าว

“ไม่เห็นแปลกเลย การลอบสังหารท่านอ๋องซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่สุดของเมืองนี้ย่อมต้องมีแผนหนึ่ง แผนสอง แผนสาม เป็นธรรมดา เมื่อแผนหนึ่งพลาดไป ผู้รับผิดชอบแผนการก็ควรถูกจับกุมเพื่อดำเนินคดีซะจะได้เข็ด นี่ดีนะ ที่ท่านอ๋องรู้ตัวก่อน ไม่งั้นแผนสองพวกกลุ่มเกลียดอ๋องเหลี่ยมจะใช้บั้งไฟยโสฯยิงใส่ท่านอ๋อง  หากยังรอดไปได้อีก คราวนี้พวกเขาจะใช้กำลังทหารโค่นล้มบัลลังก์ท่านอ๋อง จับท่านอ๋องและครอบครัวเป็นตัวประกัน จากนั้นสถาปนาพวกของตัวเองขึ้นครองอำนาจ”  ท่านเปาสาธยายเป็นคุ้งเป็นแคว เป็นตุเป็นตะ เป็นฉากเป็นตอน เป็นวักเป็นเวร จนทำให้ทุกคนในห้องพิจารณาคดีอึ้งทึ่งเสียวและคันยุบคันยิบไปตามๆ กัน

“ใต้เท้า..ทะ..ท่านวันนี้ดูแปลกๆ ไป เรายังสอบสวนไปไม่ถึงเลยนะ ท่านไปเอามาจากไหน ปกติท่านไม่พล่ามอะไรที่ไร้เหตุผลเช่นนี้นี่นา”  กงซุนพยายามจ้องมองท่านเปาอย่างพินิจพิจารณา  หวังเฉา หม่าฮั่นก็รู้สึกเช่นเดียวกัน

“บังอาจ..! คิดใส่ความข้าเหรอ  ทหารจับท่านกงซุนไปขัง เพื่อรอพิจารณาคดี หมิ่นศาล”  ท่านเปาคำรามหร้อมกับทุบโต๊ะ

“เดี๋ยวก่อน..!!!!”

เสียงหนึ่งดังขึ้นในห้องพิจารณาคดี เป็นเสียงที่กึกก้องและทรงพลังอำนาจ  ทุกคนต่างหันไปดูที่มาของเสียงกันอย่างพร้อมเพรียง

เปาบึ้มจี้อีกคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องพิจารณาคดีพร้อมกับจั่นเจา  ข้างหลังมีสองโจรถ่*** มารดำและมารหัวขนถูกมัดมือเดินห้อยตามมาด้วย

“ท่าน..ใต้เท้า..เอ๊ะ..จั่นเจา  นี่มันเกิดอะไรขึ้น”  กงซุนเชอะทำหน้าประมาณตกใจสุดขีดก็ไม่ใช่ ผวาสุดขีดก็ไม่เชิง

“บังอาจมาก คิดปลอมตัวเป็นข้า ตัดสินคดีงั้นหรือ”  เปาบึ้มจี้คนที่เข้ามาใหม่ชี้หน้าใส่เปาบึ้มจี้บนบัลลังก์

“เจ้าเป็นใคร บังอาจมาก มาหาว่า ข้าปลอมตัวเป็นเจ้า ทหารจับตัวเอาไว้”  เปาบึ้มจี้บนบัลลังก์ลุกขึ้นตะโกนสั่ง  หทารรักษาการณ์สองนายทำท่าจะเข้าไปแต่แล้วก็ผงะถอยกลับ

“ใครขืนขยับเข้ามาใกล้ใต้เท้าเปา ข้าจะไม่ไว้หน้า”  จั่นเจาตวาดลั่น ขยับด้ามมีดที่เอวไปมา

“เรื่องเป็นมายังไงกันท่านจั่นเจา แล้วนี่ใครเป็นตัวจริงตัวปลอมกันแน่”  กงซุนเกาศีรษะแก่รกๆ

“บนบัลลังก์คือ ตัวปลอม”

“เจ้านั่นแหละตัวปลอม”

“ท่านกงซุน หวังเฉา หม่าอั่น พวกท่านติดตามข้ามานานหลายปี ไม่สังเกตเห็นความผิดปกติบ้างเลยรึ”  เปาบึ้มจี้ที่ยืนอยู่ด้านล่างชี้หน้าคนสนิททั้งสาม

“พวกข้าก็รู้สึกแปลกๆ กับกริยาท่าทางของใต้เท้าท่านนี้เช่นกัน”  หวังเฉากล่าว ชวนหม่าฮั่นและกงซุนเดินลงมาหาท่านเปาบึ้มจี้ที่เข้ามาใหม่ที่ด้านล่าง

“แต่คนข้างบนก็หน้าดำเหมือนกัน มีตาที่สามที่หน้าผากเหมือนกัน รูปร่างอ้วนใหญ่ แต่งกายเหมือนกัน แถมนั่งอยู่บนบัลลังก์ด้วย จะไม่ใช่เปาบึ้มจี้ได้อย่างไร”  อ๋องเหลี่ยมพยายามชักจูง

“คนอ้วนดำหาใช่มีแต่ข้าคนเดียวซะที่ไหน”  เปาบึ้มจี้ที่เพิ่งมาใหม่เดินเข้าไปเผชิญหน้ากับเปาบึ้มจี้ที่นั่งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แคะขี้เล็บในมืออยู่บนบัลลังก์

“พวกเจ้าล้วนมีตาแต่หามีแววตาไม่ พวกท่านมิสังเกตหรือว่า หมวกของข้าทำจากสักหลาดชั้นดีของราชสำนัก แต่หมวกของเปาบึ้มจี้ผู้นี้เป็นหมวกไหมพรมราคาถูก”  พอเปาบึ้มจี้ที่เข้ามาใหม่ชี้ให้ดู  ทุกคนในห้องก็ส่งเสียงครางออกมากันอึงอื้อ  เปาบึ้มจี้บนบังลังก์ถึงกับสะดุ้งไปในทันที  เหงื่อไหลออกมาท่วมใบหน้าจนต้องยกแขนเสื้อขึ้นปาด

“พวกเจ้าเดินเข้ามาดูใกล้ๆ กันเถอะ”  เปาบึ้มจี้ที่อยู่ด้านล่างชักชวน  เหล่าองครักษ์พากันเดินเข้ามาห้อมล้อมเปาบึ้มจี้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์

“เห็นหรือไม่ว่า เมื่อมันใช้แขนเสื้อปาดเหงื่อที่หน้าผากโดยแรง ตาที่สามที่ใช้สีเขียนเอาไว้ก็เริ่มจะเลอะเลือนไปแล้ว”  เปาบึ้มจี้ที่มาใหม่ชี้ให้ดูหลักฐานที่หน้าผากของตัวปลอม

“โอ..ใช่แล้ว..ชัดเจนมาก แม้ทำได้เนียนแต่ยังไงก็ของเลียนแบบ”  กงซุนผงกศีรษะเอามือลูบเคราที่ใต้คาง

“ทหาร จับตัวไปขังเดี๋ยวนี้”  จั่นเจาออกคำสั่ง ทหารสองนายวิ่งขึ้นไปบนบัลลังก์ทันที

“อย่า..อย่าทำข้าเลย ได้โปรด ข้าถูกเขาใช้ให้ทำ”  เปาตัวปลอมยอมรับสารภาพ

“ใครใช้ให้เจ้าทำ บอกมาเดี๋ยวนี้ หาไม่ข้าจะสั่งประหารเจ้าด้วยเครื่องประหารหัวสุนัข”  เปาบึ้มจี้ตัวจริงถลึงตาคำรามใส่อย่างเอาจริง

“เขา..เขา..คือ..”  เปาตัวปลอมมองลงไปที่กลางโถง แต่ก่อนที่จะพูดอะไรออกมา มีดปลายแหลมเล่มหนึ่งก็พุ่งเข้ามาเสียบคอหอยของมันอย่างรวดเร็ว

“อั๊ก..ก อัอก..ก..อ่อ..” 

โลหิตมิทันได้หยาดลงบนพื้น มันก็สิ้นใจตายเสียก่อนแล้ว

“มีดบินบ่อเถ่าโล่ว”  หม่าฮั่นกระชากมีดบินออกมาพิจารณา มันเป็นมีดเล่มเล็กขนาดครึ่งฝ่ามือที่เหลาขึ้นมาเอง

“เจ้าของมีดบินยังอยู่ในห้องโถงนี้”  จั่นเจากล่าว ทุกสายตามองไปที่โถงกลางห้อง อ๋องเหลี่ยมและองครักษ์สองนายยืนทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย

“อย่าได้บังอาจคิดปรักปรำพวกข้าอีก พวกข้าหาได้มีส่วนใดๆ ไม่”  อ๋องเหลี่ยมที่ยืนเอามือประสานไว้ที่หน้าอกกล่าว ในบัดดลยังเผยรอยยิ้มเยาะที่มุมปาก

“เรื่องมันเป็นยังไง ทำไมมันผู้นี้จึงปลอมตัวมาเป็นใต้เท้าได้”  กงซุนถาม

“เมื่อเช้านี้ มีคนลอบเข้าไปที่ห้องนอนของข้า ใช้ไม้ตีที่ศีรษะของข้าจนสลบไป จากนั้นจับข้าไปขังไว้ในห้องลับแห่งหนึ่ง ดีที่จั่นเจาบุกเข้าไปช่วยข้าได้ทัน ไม่งั้นอาจถูกฆ่าตายไปแล้ว”  เปาบึ้มจี้เล่าเหตุการณ์ให้ทุกคนฟัง

“ข้าคาดคั้นความจริงจากสองมารที่จับตัวมาได้เมื่อเช้า ทราบว่า มันเป็นพวกโจรถ่***ที่หนีออกมาจากคุกได้โดยให้สินบนขุนนางกังฉิน จึงบุกไปที่รังของพวกมัน ไม่นึกว่าจะพบใต้เท้าเปาถูกจับขังอยู่ที่นั่น”  จั่นเจากล่าว

“ถือว่า ฟ้ามีตา สวรรค์มีใจ ใต้เท้าเปารอดเงื้อมมือโจรออกมาได้ และมาทันเวลาพอดีก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป”  กงซุนกล่าวอย่างซาบซึ้ง

“มัวแต่ร่ายนิยายให้ฟังกันอยู่นั่นแหละ หากไม่ตัดสินคดี ข้าจะขอตัวกลับก่อนแล้ว”  อ๋องเหลี่ยมหันไปมองหน้าสมุน ทำท่าจะเดินกลับ

“เดี๋ยว..ท่านยังไปไม่ได้”  กงซุนร้องห้าม

“ทำไม จับคนที่ลอบสังหารข้าได้ แต่ไม่ยอมลงทัณฑ์ พวกเจ้ายังคิดจะใส่ความข้าอีกหรือไง”

“อ๋องเหลี่ยม ข้ารู้ว่า การลอบสังหารท่านครั้งนี้มีเงื่อนงำซับซ้อน จำเลยยังไม่ได้ให้การยอมรับข้อกล่าวหาของเจ้า ข้าจึงไม่อาจตัดสินลงทัณฑ์เขาในวันนี้ได้ แต่จะขังเอาไว้สอบสวนต่อไป แต่เจ้าก็อย่าหยิ่งผยองลำพองใจไปนัก เพราะข้าทราบมาว่า เจ้าเป็นที่เกลียดชังของคนดีมีศีลธรรมทั่วฟ้าทั่วแผ่นดิน จนมีการรวมตัวกันขับไล่เจ้าออกจากตำแหน่ง  แต่จู่ๆ ก็เกิดคดีลอบสังหารเจ้าขึ้นมา ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งที่หลงรักเจ้าเข้าใจผิดคิดว่า เป็นฝีมือของฝ่ายที่เกลียดชังเจ้า ก่อให้เกิดการเผชิญหน้ากันของคนทั้งสองฝ่าย ทำให้ตำแหน่งของเจ้ามั่นคงไปได้อีกระยะหนึ่ง  ข้าจึงยังไม่ปักใจเชื่อว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง  อาจเป็นภาพลวงที่ท่านสร้างขึ้นก็ได้  เพราะเจ้าก็เคยสร้างฉากหลอกลวงชาวบ้านเรื่องหวัดนกไม่มีในประเทศ.. เรื่องคนจนจะหมดไป.. เรื่องส่งทหารไปรับใช้ต่างชาติจนทหารของเราตาย..เรื่องซุกทรัพย์แต่บอกไม่ได้ซุก..เรื่องแก้ปัญหาโจรใต้ เจ้ายังจำเรื่องเหล่านี้ได้ไหม”  เปาบึ้มจี้ไล่เรียงเป็นลำดับ อ๋องเหลี่ยมยกมือขึ้นปิดหู

“บัดนี้..พยานปากสำคัญได้ตายไปแล้ว ข้าต้องสืบรู้ให้ได้ว่า ใครเป็นเจ้าของมีดบินบ่อเถ่วโล่ว และคดีลอบสังหารนี้ท่านปั้นแต่งขึ้นมาจริงหรือไม่เสียก่อน”  เปาบึ้มจี้กล่าว ดวงตาจ้องมองอ๋องเหลี่ยมประหนึ่ง คนรู้ทัน

“เชอะ! ไป พวกเรากลับ”  อ๋องเหลี่ยมหันไปสั่งสมุนคู่ใจก่อนจะหมุนตัวกลับไปทางประตู  จั่นเจาทำท่าจะตาม แต่เปาบึ้มจี้ยกแขนขึ้นปรามเอาไว้

“เรายังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึง คงต้องปล่อยไปก่อน”

หลังจากอ๋องเหลี่ยมและสมุนทั้งสองออกเดินไปได้สามก้าว  สมุนนายหนึ่งก็หันกลับมาเหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นมาได้

“ถ้าพวกท่านไม่นำไปใช้อะไร มีดบินเล่มนั้นข้าขอคืนก็แล้วกัน”

“โธ่..ไอ้ปากห้อยเอ๊ย!!!”  อ๋องเหลี่ยมหันหน้ามาตวาดเสียงดัง เอามือบ้องหูสมุนคู่ใจไปหนึ่งที

.........จบก่อนจะเจ๊งกันทั่วหน้า..........
บันทึกการเข้า

ประเทศชาติมีภัย  เสรีไทยร่วมกอบกู้
Sweet Chin Music
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,613



« ตอบ #1 เมื่อ: 15-09-2006, 10:15 »

ตอนที่ 1 อยู่ไหนอะครับ ? อยากอ่านๆ


เหอๆๆ ตอนแรกหาไม่เจอ ตอนนี้เจอแล้วครับ อิอิ
http://forum.serithai.net/index.php?topic=7046.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2006, 10:31 โดย liverpudlian » บันทึกการเข้า


You'll Never Walk Alone
เข้าไปกันได้ค๊าป- - - >http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sweetchinmusic&group=1
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 15-09-2006, 11:31 »

555 ชอบครับ อิอิ
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
*bonny
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,459



« ตอบ #3 เมื่อ: 15-09-2006, 12:01 »

"เหล่าโจรถ่*** ข้าราชการกังฉินและชาวบ้านจากแดนไกลที่ศรัทธาในกุศโลบายการใช้เงินตราของข้า”

ผมเพิ่งรู้จริงๆ นะเนี่ยว่า เสรีไทยของเรามีคำกรองคำนี้ด้วย พัฒนาแล้วจริงๆ  ไม่กี่วันที่แล้วยังเห็นสิงสาราสัตว์วิ่งกันพล่าน Shocked
บันทึกการเข้า

ประเทศชาติมีภัย  เสรีไทยร่วมกอบกู้
เพนกวินน้อยนักอ่าน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 866



« ตอบ #4 เมื่อ: 15-09-2006, 14:50 »

เหล่าโจร ถ่ อ ย แก๊งค์ หน้าเหลี่ยม ชั่วชาติ อุ บ า ท ว์ สุดๆ
ก็ได้นี่ครับ
 Laughing
บันทึกการเข้า
คนในวงการ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,393


FLY WITH NO FEAR !!


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 15-09-2006, 17:13 »

อืมม ... นะ จบซะงั้นคุณบอนนี่
บันทึกการเข้า

"Be without fear in the face of your enemies. Be brave and upright that God may love thee.
Speak the truth, always, even if it leads to your death. Safeguard the helpless, and do no wrong. That is your oath."
- Balian of Ibelin -
หน้า: [1]
    กระโดดไป: