ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 11:38
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สโมสรริมน้ำ  |  รักที่ถูกร้อยเป็นพวงเมื่อเป็นโสด กับ รักหนึ่งที่มีเจ้าของ ถ้าเป็นคุณจะเลือกอะไร 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
รักที่ถูกร้อยเป็นพวงเมื่อเป็นโสด กับ รักหนึ่งที่มีเจ้าของ ถ้าเป็นคุณจะเลือกอะไร  (อ่าน 1977 ครั้ง)
คำตัดพ้อของใบไม้
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,032


ทุกคนคือเพื่อน ...แม้โจรก็เป็นเพื่อนเราได้


« เมื่อ: 14-09-2006, 15:45 »

 Smile Smile Smile Smile


   ปัจจุบันนี้  การสละโสดถือว่าเป็นเรื่องที่ตัดสินใจยากมาก
เพราะการที่อยู่เป็นโสด  บางครั้ง  สามารถร้อยรักได้เป็นพวง
หัวใจอิสระเสรี  อยากจะแอบรักใคร  อยากที่จะสนิทชิดชอบ
กับใคร คบหาสมาคมกับใคร  สถานะอย่างใด  ได้ทั้งนั้น
ถ้าทุกอย่าง  วิ่งตามเลน  อยู่ในกรอบของวัฒนธรรมไทยอันดีงาม


---ตอนเช้า  นั่งคุยฮะโหล  อยู่กับหนุ่มคนหนึ่งอย่างสบายอารมณ์


-- ตอนสายๆ  อาจจะคุยกับหนุ่มอีกคน  โดยที่หนุ่มคนแรกไม่สามารถล่วงรู้ก็เป็นไปได้
   ไม่มีใครเป็นเจ้าของหัวใจ  คุยได้หลากหลายอารมณ์



---  ตอนกลางคืน  หรือตอนบ่ายๆ  อาจจะคุยกับหนุ่มวัยกลางคน  วัยดึก  แล้วแต่ความพอใจ
     แล้วแต่อารมณ์ที่อยากจะคุย  ก็ไม่มีมาเป็นผู้ปกครอง  คอยจ้องดูว่าจะคุยกับใคร
     และจะคุยอย่างไร  ที่ไหนก็ได้  ถ้ากรอบที่วางไว้  ก็คือ  แค่การคุยไม่ล้ำเส้น



  ถึงได้บอกไงคะ  ว่าหัวใจของคนเป็นโสด  อิสระมาก  ดั่งเช่นนกโผบิน
จะบินไปไหนก็ได้  หัวใจไม่ต้องให้ใครผูก  และไม่ต้องไปผูกหัวใจใคร



  แต่ถ้าเมื่อไหร่  รักนี้เป็นหนึ่ง  มีเจ้าของ  มีผู้ปกครองหัวใจ  การจะคบหาสมาคม
จะพูดคุยกับใคร  จะไปไหนมาไหนกับใคร  เริ่มมีอาณาจักรของความเป็นเจ้าของ
เริ้มต้องระมัดระวังตัวเพิ่มมากขึ้น  เริ่มต้องอยู่ในกรอบมากขึ้น



----ถ้าเป็นคุณล่ะคคะ     ชอบชีวิตแบบไหนกันบ้างคะ
บันทึกการเข้า

....พูดดี  ทำดี  คิดดี ...ทุกวินาที
คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
คำตัดพ้อของใบไม้
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,032


ทุกคนคือเพื่อน ...แม้โจรก็เป็นเพื่อนเราได้


« ตอบ #1 เมื่อ: 14-09-2006, 15:49 »




----ถ้าชีวิตเดินถอยหลังได้   ถามว่า---

ระหว่างการเป็นโสด  กับการมีคู่   คุณจะเลือกอะไร
บันทึกการเข้า

....พูดดี  ทำดี  คิดดี ...ทุกวินาที
คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #2 เมื่อ: 14-09-2006, 15:51 »

ว้า...มี 2 แบบให้เลือกเอง
ไม่ครอบคลุม

ผมชอบแบบ ที่ไม่มีอยู่ในนี้ฮับ

ชอบแบบ ไม่โสด แระก็มีสิทธิ มี กิ๊ก เยอะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
Embarassed Embarassed
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
คำตัดพ้อของใบไม้
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,032


ทุกคนคือเพื่อน ...แม้โจรก็เป็นเพื่อนเราได้


« ตอบ #3 เมื่อ: 14-09-2006, 15:57 »

ว้า...มี 2 แบบให้เลือกเอง
ไม่ครอบคลุม

ผมชอบแบบ ที่ไม่มีอยู่ในนี้ฮับ

ชอบแบบ ไม่โสด แระก็มีสิทธิ มี กิ๊ก เยอะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
Embarassed Embarassed


 Smile Smile Smile Smile   คุณคาเมรอนคะ   เคยได้ยินหลายคนพูดบ่อยว่า
กิ๊ก  คือมากกว่าชู้  แต่ยังไงๆๆก็เมียรู้ไม่ได้   จริงมะ
บันทึกการเข้า

....พูดดี  ทำดี  คิดดี ...ทุกวินาที
คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
so what?
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,729


« ตอบ #4 เมื่อ: 14-09-2006, 16:09 »




----ถ้าชีวิตเดินถอยหลังได้   ถามว่า---

ระหว่างการเป็นโสด  กับการมีคู่   คุณจะเลือกอะไร

เดี๋ยวคุณแสวงก็มาตอบว่า

ขอเลือกอย่างแรกค้าบบบบ
     Laughing  Mr. Green  Laughing
บันทึกการเข้า
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #5 เมื่อ: 14-09-2006, 16:16 »

ว้า...มี 2 แบบให้เลือกเอง
ไม่ครอบคลุม

ผมชอบแบบ ที่ไม่มีอยู่ในนี้ฮับ

ชอบแบบ ไม่โสด แระก็มีสิทธิ มี กิ๊ก เยอะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
Embarassed Embarassed


 Smile Smile Smile Smile   คุณคาเมรอนคะ   เคยได้ยินหลายคนพูดบ่อยว่า
กิ๊ก  คือมากกว่าชู้  แต่ยังไงๆๆก็เมียรู้ไม่ได้   จริงมะ


อ่า...ไม่รู้จะตอบถูกรึเปล่า เพราะมีแต่ทฤษฎี  Crying or Very sad

กิ๊ก เป็นคำที่ "เดิ้น" กว่าชู้ ทั้งความหมายและพฤติกรรมนะครับ เท่าที่จำขี้ปากเขามา

เช่น กิ๊ก อาจไม่ต้องการอะไรเลย นอกจากการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ทางเพศ
      กิ๊ก ไม่มีสถานะ "ต้อยต่ำ" เหมือนชู้ หรือ เมียน้อย (ผัวน้อย) เพราะไม่เอาชีวิตตัวเองมาผูกโยงกับ "คนมีกิ๊ก"
      กิ๊ก มีสิทธิสร้างความสัมพันธ์กับ "คนต้องการกิ๊ก" ได้มากกว่า 1 คนในเวลาเดียวกัน และ "คนมีกิ๊ก" ก็ไม่มีสิทธิ์หึงหวง เรียกร้อง โวยวาย เพราะไม่งั้น ความสูงส่งของ "กิ๊ก" จะถูกลดค่ากลายเป็น "ชู้"
      กิ๊ก มีสิทธิ์เลือกที่จะ "อยู่" หรือ "ไป" ได้ทุกเมื่อ โดยไม่ต้องมีเหตุผลใด ๆ รองรับ

      และอีก ฯลฯ ประมาณนี้

ส่วนเรื่อง ให้เมียรู้ไม่ได้นั้น แน่นอนครับ ไม่ว่า ชู้ หรือ กิ๊ก
ถ้า "ถูกรู้" ก็มีสิทธิ ได้ยินเสียง "กริ๊ก" (เสียงเหนี่ยวไกปืน) โดยเท่าเทียมกัน
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #6 เมื่อ: 14-09-2006, 16:24 »

อ่า ขอเชิญ จขกท. มาพากระทู้กลับเข้าฝั่งด้วยครับ

ผมพาออกไปเที่ยวทะเล 2-300 เมตร เท่านั้น

พอกลับมาตั้งหลักใหม่ไหว
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
แสวง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 593



« ตอบ #7 เมื่อ: 14-09-2006, 16:29 »




----ถ้าชีวิตเดินถอยหลังได้   ถามว่า---

ระหว่างการเป็นโสด  กับการมีคู่   คุณจะเลือกอะไร

เดี๋ยวคุณแสวงก็มาตอบว่า

ขอเลือกอย่างแรกค้าบบบบ
     Laughing  Mr. Green  Laughing

ฮี่ๆๆ ... มาดักคอกันนี่น่า ... แล้วผมจะตอบไงดีละ .. Tongue out
..
ไหนๆ ก็เข้ามาแล้ว ( ว่าจะไม่เข้ามาที่สโมสรริมน้ำแล้วนา) ..
ก็ว่าสักกะหน่อย .. เอาซีเรียสนะครับ ....

 Smile
ผมเคยแนะนำน้องๆ พูดคุยกับเพื่อนๆ ในเรื่องการย้อนเวลาอยู่หลายครั้ง
ผมจะพูดว่า ... อย่าคิดไปย้อนเวลาเลยครับ .. แต่เอาอดีตมาเป็น
บทเรียน เพื่อทำสิ่งที่ดีๆ สำหรับวันนี้และวันพรุ่งนี้ครับ
.....
 Wink Wink
บันทึกการเข้า

so what?
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,729


« ตอบ #8 เมื่อ: 14-09-2006, 16:41 »

ฮี่ๆๆ ... มาดักคอกันนี่น่า ... แล้วผมจะตอบไงดีละ .. Tongue out
..
ไหนๆ ก็เข้ามาแล้ว ( ว่าจะไม่เข้ามาที่สโมสรริมน้ำแล้วนา) ..
ก็ว่าสักกะหน่อย .. เอาซีเรียสนะครับ ....

 Smile
ผมเคยแนะนำน้องๆ พูดคุยกับเพื่อนๆ ในเรื่องการย้อนเวลาอยู่หลายครั้ง
ผมจะพูดว่า ... อย่าคิดไปย้อนเวลาเลยครับ .. แต่เอาอดีตมาเป็น
บทเรียน เพื่อทำสิ่งที่ดีๆ สำหรับวันนี้และวันพรุ่งนี้ครับ
.....
 Wink Wink

แหะๆ โทษทีค้าบบบบบ เฮียแหวง

พอเห็นข้อความนั้นแล้ว คนแรกที่ผมนึกถึงก็คือเฮียนี่แหละ สาบานได้    Mr. Green Laughing Mr. Green
บันทึกการเข้า
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #9 เมื่อ: 14-09-2006, 16:41 »

Smile Smile Smile Smile


   


---ตอนเช้า  นั่งคุยฮะโหล  อยู่กับหนุ่มคนหนึ่งอย่างสบายอารมณ์


-- ตอนสายๆ  อาจจะคุยกับหนุ่มอีกคน  โดยที่หนุ่มคนแรกไม่สามารถล่วงรู้ก็เป็นไปได้
   ไม่มีใครเป็นเจ้าของหัวใจ  คุยได้หลากหลายอารมณ์



---  ตอนกลางคืน  หรือตอนบ่ายๆ  อาจจะคุยกับหนุ่มวัยกลางคน  วัยดึก  แล้วแต่ความพอใจ
     แล้วแต่อารมณ์ที่อยากจะคุย  ก็ไม่มีมาเป็นผู้ปกครอง  คอยจ้องดูว่าจะคุยกับใคร
     และจะคุยอย่างไร  ที่ไหนก็ได้  ถ้ากรอบที่วางไว้  ก็คือ  แค่การคุยไม่ล้ำเส้น



  ถึงได้บอกไงคะ  ว่าหัวใจของคนเป็นโสด  อิสระมาก  ดั่งเช่นนกโผบิน
จะบินไปไหนก็ได้  หัวใจไม่ต้องให้ใครผูก  และไม่ต้องไปผูกหัวใจใคร



 

----ถ้าเป็นคุณล่ะคคะ     ชอบชีวิตแบบไหนกันบ้างคะ

สำหรับอนา คิดเหมือนพี่ใบไม้ในตอนแรกแบบนี้เลยค่ะ มันโครตจะอิสระเสรี มากๆๆๆ  จะไปไหนมาไหนกับเพื่อนไม่ต้องรายงาน เห็นเพื่อนตัวเองจะไปไหนมาไหนช่างลำบากใจ เห็นแล้วอดรำคาญ

แต่เมื่อได้รุจักความรัก ความคิดอนาเปลี่ยนค่ะ ........ แล้วก็เชื่อว่า คนที่แต่งงานด้วยความรักจะเข้าใจในสิ่งที่อนาพูด ว่าทำไมถึงเปลี่ยน.........
 Embarassed Embarassed


บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #10 เมื่อ: 14-09-2006, 16:54 »

เอาละ มาตอบเป็นจริงเป็นจังบ้าง
เดี๋ยวเขาจะว่า ดีแต่พาลงทะเล

อาจจะไม่ตรงกับคำถามนัก แต่ผมมาขอยืนยันในส่วนของผมว่า

ในเวลาที่ผมมีแฟน ผมจะ "ซื่อสัตย์" ต่อเขามาก ทั้งกาย วาจา ใจ

ผมศรัทธาใน รักเดียวใจเดียว แบบบ้าคลั่ง

ไม่เคยมีแฟนพร้อมกันหลาย ๆ คน ไม่เคยคิดปันใจไปมองหญิงอื่น

และ ปิดประตู ลงกลอนแน่น ไม่ยอมให้ สาวไหน เข้ามาเกาะแกะวอแว เป็นอันขาด

และ เวลามีเหตุให้ต้องเลิกรากัน จะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่

ผมก็มักจะมานั่งด่าตัวเองว่า
โธ่...ไอ้ควาย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-09-2006, 16:57 โดย cameronDZ » บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
Sky
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 913



« ตอบ #11 เมื่อ: 14-09-2006, 16:56 »

Smile Smile Smile Smile


   ปัจจุบันนี้  การสละโสดถือว่าเป็นเรื่องที่ตัดสินใจยากมาก
เพราะการที่อยู่เป็นโสด  บางครั้ง  สามารถร้อยรักได้เป็นพวง
หัวใจอิสระเสรี  อยากจะแอบรักใคร  อยากที่จะสนิทชิดชอบ
กับใคร คบหาสมาคมกับใคร  สถานะอย่างใด  ได้ทั้งนั้น
ถ้าทุกอย่าง  วิ่งตามเลน  อยู่ในกรอบของวัฒนธรรมไทยอันดีงาม


---ตอนเช้า  นั่งคุยฮะโหล  อยู่กับหนุ่มคนหนึ่งอย่างสบายอารมณ์


-- ตอนสายๆ  อาจจะคุยกับหนุ่มอีกคน  โดยที่หนุ่มคนแรกไม่สามารถล่วงรู้ก็เป็นไปได้
   ไม่มีใครเป็นเจ้าของหัวใจ  คุยได้หลากหลายอารมณ์



---  ตอนกลางคืน  หรือตอนบ่ายๆ  อาจจะคุยกับหนุ่มวัยกลางคน  วัยดึก  แล้วแต่ความพอใจ
     แล้วแต่อารมณ์ที่อยากจะคุย  ก็ไม่มีมาเป็นผู้ปกครอง  คอยจ้องดูว่าจะคุยกับใคร
     และจะคุยอย่างไร  ที่ไหนก็ได้  ถ้ากรอบที่วางไว้  ก็คือ  แค่การคุยไม่ล้ำเส้น



  ถึงได้บอกไงคะ  ว่าหัวใจของคนเป็นโสด  อิสระมาก  ดั่งเช่นนกโผบิน
จะบินไปไหนก็ได้  หัวใจไม่ต้องให้ใครผูก  และไม่ต้องไปผูกหัวใจใคร



  แต่ถ้าเมื่อไหร่  รักนี้เป็นหนึ่ง  มีเจ้าของ  มีผู้ปกครองหัวใจ  การจะคบหาสมาคม
จะพูดคุยกับใคร  จะไปไหนมาไหนกับใคร  เริ่มมีอาณาจักรของความเป็นเจ้าของ
เริ้มต้องระมัดระวังตัวเพิ่มมากขึ้น  เริ่มต้องอยู่ในกรอบมากขึ้น



----ถ้าเป็นคุณล่ะคะ     ชอบชีวิตแบบไหนกันบ้างคะ


น่าจะคิดผิดนะครับ...
เวลาที่เรารักใครสักคน  ควรจริงใจให้กับเธอ...

หากเรารักเขา  แต่เมื่อไปพบคนอื่น  ก็ไม่จีบคนอื่น  และมีอะไรด้วย
มันไม่เหมาะสมครับ หรือเผื่อใจให้คนอื่น
หากผู้ชาย  ไปนอนกับกิ๊ก คนอื่น ๆ ได้

แล้วผู้หญิงที่เรารัก  ทำอย่างนั้นบ้าง  หรือเผื่อใจอย่างนั้นบ้าง
เราจะรับหรือทำใจได้ไหม

ใจเขาใจเรา...

หากสิ่งใดที่เราไม่ชอบ  คนที่รักขอลเราก็คงไม่ชอบเหมือนกัน
และหากเราทำได้(เช่นเผื่อใจให้คนอื่น ๆ )
แล้วผู้หญิงที่เรารักทำบ้าง  เราผผู้ชาย)จะคิดอย่างไร  จะเจ็บปวดหรือไม่

หากรักแล้ว  ก็รักเลย

ในป่า  มีใบไม้มากมาย นับไม่ถ้วน
สำหรับตัวผม  ขอเพียงแค่ใบเดียว  ก็เพียงพอครับ


บันทึกการเข้า
Sky
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 913



« ตอบ #12 เมื่อ: 14-09-2006, 17:29 »

การที่คนเรามีบ้าน
บ้านในความหมายของผม  คือการมีคนห่วงหาอาทรนั้น
เป็นสิ่งที่ดี...

มีพี่ที่ทำงาน  จะไปดื่มเหล้าหรือไปทานอาหารนอกบ้านกับผม
พี่เขาก็โทรศัพท์กลับไปแจ้งภรรยาก่อน
ว่าจะกลับบ้านกี่โมง ไม่ต้องรอทานข้าวนะ ง่วงก็นอนหลับไปก่อน
ไม่ต้องรอเปิดประตู มีกุญแจเข้าบ้านแล้ว

ผมก็เคยถาม พี่เขา...
พี่เขาตอบว่า 
แฟนพี่จะได้ไม้เป็นห่วง
การที่ให้ทานข้าวก่อน  ก็กลัวจะหิว 
(เพราะมักจะทานข้าวพร้อมหน้ากันเกือบทุกวันทั้งครอบครัว)
คนที่หิว  ก็อาจโมโหหิว และมีอารมณ์โกรธได้
และการที่บอกว่า  ง่วงก็ให้หลับ 
หากแฟนนั่งรอ  อาจคิดมาก

การที่แจ้งว่า  ไปกับคุณ.. เผื่อมีปัญหาอะไร  แฟนพี่ก็จะติดต่อกับคุณได้
หรือโทรเข้ามือถือคุณ  หากติดต่อผมไมใด้  เขาก็จะไม่เป็นห่วง

และที่ต้องแจ้ง  เพราะแฟนพี่จะห่วง และกังวล
หากพี่เป็นอะไรไป  หรือเสียชีวิต เขาอาจต้องเลี้ยงลูกคนเดียว
ชีวิตของเขาและลูกจะเป็นอย่างไร
อยากไปกับเพื่อนฝูง  ไปไหนก็ได้  แต่ขอให้กลับบ้านตรงเวลา
หรืออยากดื่มเหล้า  อยากให้เพื่อนมาดื่มที่บ้าน
แฟนพี่เขาก็จะทำกับแกล้มให้กิน
แต่กินแล้ว  ห้ามชวนออกไปต่อข้างนอก

หึ หึ ...


บันทึกการเข้า
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #13 เมื่อ: 15-09-2006, 18:03 »

สาว ๆ ระวังนะคะ สองวันก่อนอ่าน "ฐานเศรษฐกิจ" เจอข่าว.. พบว่า ผู้ชายไทย 1 ใน 3 เป็นเกย์ค่ะ  Surprised ประมาณว่า จำนวนผู้ชายไทยที่เป็นเกย์มีประมาณ 10 ล้านคน โอ้วววว

อ้างอิงจาก http://www.thannews.th.com/detialNews.php?id=M2421482&issue=2148

เกย์-เมโทรเซ็กช่วล มาแรง 
 
สมัยหนึ่งนักการตลาดได้จัดการแบ่งกลุ่มลูกค้าเป็นรุ่น ที่คุ้นเคยกันและมีการพูดถึงกันมากเห็นจะเป็น เจนเนอเรชั่น เอ็กซ์ (Generation -X) หมายถึงคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่มีพื้นฐานการศึกษาดี มีความเป็นตัวของเองสูง ทะเยอทะยานต้องการประสบความสำเร็จ และไม่อยากเป็นลูกจ้างใคร ต่อมาก็ขยับมาเป็นรุ่นเจนเนอเรชั่น วาย (Generation-Y) เป็นภาพรวมของวัยรุ่นที่เติบโตมายุคอินเตอร์เน็ตกำลังเฟื่องฟู ดังนั้นในบางครั้งก็เรียกคนกลุ่มนี้ว่า Net Generation

มาถึงวันนี้กลุ่มผู้บริโภคที่ได้รับการตามองอย่างมากในช่วง 1-2 ปีนี้ก็คือ กลุ่มเมโทรเซกช่วล ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ชายที่มีบุคลิกดี เนี้ยบ รู้จักแต่งหน้าและใช้เครื่องสำอางเหมือนผู้หญิง ซึ่งปัจจุบันมีสินค้า

หรือบริการที่ออกมารองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่เกี่ยวกับ

การเสริมสร้างบุคลิก อย่างเช่น เครื่องสำอาง เสื้อผ้า อาหารเสริม และสถานออกกำลังกาย

โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มเครื่องสำอางนั้นค่อนจะให้ความสนใจกับลูกค้ากลุ่มเมโทรเซกช่วลอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางที่มีเคาน์เตอร์ในห้าง เช่น ลังโคม ไบโอเธิร์ม เอสเต้ ลอเดอร์

คลีนิกข์ ชิเซโด้ หรือแม้แต่เครื่องสำอางแบรนด์ที่จับตลาดแมส เช่น นีเวีย คาโอ บีโอเร โดดลงมาลุยตลาดนี้กันคึกคัก ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจขายตรงเช่น กิฟฟารีน ก็สนใจตลาดเครื่องสำอางสำหรับผู้ชายด้วย

ในสายตาของ ภูสิต เพ็ญศิริ กรรมการบริหาร บริษัท นาโน เซิร์ช จำกัด ซึ่งเป็นนักวิจัยการตลาดที่ให้ความสนใจตลาดผู้บริโภคผู้ชายได้ให้ความเห็นว่าปัจจุบันผู้บริโภคกลุ่มเมโทรเซกช่วล จัดเป็นตลาดใหญ่ ซึ่งมีกำลังซื้อสูง เพราะเป็นกลุ่มที่รวมเอาผู้ชายรักเพศเดียวกันไม่ว่าเกย์ ตุ๊ด กะเทย เข้ารวมอยู่ในกลุ่มเดียวกับผู้ชายที่ให้ความสำคัญกับการปรุงแต่งบุคลิกให้ดูดี ด้วยการแต่งหน้า แต่งตัว

คาดการณ์ว่าตลาดสินค้ากลุ่มเมโทรเซกช่วลในปีนี้มีการเติบโตเกือบ 10% จากเดิมที่มีการเติบโตในระดับ 6-7% เนื่องจากผู้ชายที่ไลฟ์สไตล์เมโทรเซกช่วลจะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ด้วยรายได้ที่สูงกว่าคนปกติถึงสองเท่า ทำให้ช่วงหลังมีสินค้าหลายรายออกสินค้ามาจับลูกค้ากลุ่มดังกล่าว แม้แต่ประกันชีวิตสมัยหนึ่งไม่เปิดรับ แต่วันนี้บริษัท ฟินันซ่าประกันชีวิต ก็จัดบริการประกันชีวิตมาเพื่อลูกค้าคนรักเพศเดียวกันโดยเฉพาะ

นอกจากสินค้าหรือบริการแล้ว เมื่อเร็วๆนี้ มีกลุ่มผู้รักเพศเดียวกันที่ใช้ชื่อว่าคณะกรรมการบริหารองค์กรเทศกาลไพร์ดแถลงข่าวจัดงานปาร์ตี้คนรักเพศเดียวกัน ภายใต้ชื่อ บางกอกสมานฉันท์ 2549 ในวันที่ 28 ตุลาคม ถึง 5 พฤศจิกายนนี้ งานนี้จะเป็นทั้งงานฉลองความภาคภูมิใจในความเป็นคนรักเพศเดียวกันแล้ว ยังมีการสัมมนาเพื่อให้สังคมมีความรู้และยอมรับในการความหลากหลายทางเพศที่มีในประเทศไทย เพื่อสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกของคนกลุ่มนี้ไปด้วย

สำหรับสินค้าหรือบริการที่เปิดตัวว่าเป็นผู้สนับสนุนงานบางกอกสมานฉันท์นี้ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจบริการประเภทผับ บาร์ อาทิ เดอะ บีช กรุ๊ป เทเลโฟน ผับ เดอะ บัลโคนี บั๊กแอนด์บี คาเฟ่

เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังสื่อที่ให้การสนับสนุนอีกไม่น้อย ซึ่งก็คงจะเป็นบริการและสื่อที่คนในกลุ่มนี้จะรู้จักและคุ้นเคยกัน

ทางด้านคณะกรรมการจัดงานนี้มีบุคคลที่สังคมรู้จักกันดีหลายคน เช่น วิโรจน์ ตั้งวาณิช นายกสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย และพิธีกรรายการต่างๆ ที่เพิ่งจะผ่านสนามเลือกตั้ง ส.ว.กรุงเทพฯ และล่าสุดก็โยกไปสังกัดพรรคชาติไทยเรียบร้อยแล้ว "แดนนี่-เดอะ บีช หรือกิตตินันท์ ธรมธัช เจ้าสของและผู้บริหารธุรกิจบันเทิงชื่อเดอะ บีช กรุ๊ป นอกจากนี้ยังมีนักธุรกิจฮอ่งกงผู้เป็นเจ้าของร้านกาแฟชื่อบั๊กแอนด์บี และยังมีนักธุรกิจทั้งไทยและเทศอีกหลายคนซึ่งมีชื่ออยู่ในทำเนียบคณะกรรมการจัดงานนี้

แนวโน้มตลาดเกย์ หรือเมโทรเซกช่วล เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และน่าสนใจ ทั้งนี้ได้มีการสำรวจพบว่าชายไทย 1 ใน 3 เป็นเกย์ นั่นหมายถึงมีชายไทยเกือบ 10 ล้านคนที่เป็นเกย์ มีทั้งที่แสดงออกและไม่แสดงออก บวกกับสังคมให้การยอมรับเพศที่สามมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้กลายเป็นตลาดที่

สินค้าหรือบริการต่างให้ความสนใจกันมาก
 
บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
THE THIRD WAY
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,821


Love looks not with eyes, but with the mind.


« ตอบ #14 เมื่อ: 15-09-2006, 20:27 »

Smile Smile Smile Smile


   ปัจจุบันนี้  การสละโสดถือว่าเป็นเรื่องที่ตัดสินใจยากมาก
เพราะการที่อยู่เป็นโสด  บางครั้ง  สามารถร้อยรักได้เป็นพวง
หัวใจอิสระเสรี  อยากจะแอบรักใคร  อยากที่จะสนิทชิดชอบ
กับใคร คบหาสมาคมกับใคร  สถานะอย่างใด  ได้ทั้งนั้น
ถ้าทุกอย่าง  วิ่งตามเลน  อยู่ในกรอบของวัฒนธรรมไทยอันดีงาม


---ตอนเช้า  นั่งคุยฮะโหล  อยู่กับหนุ่มคนหนึ่งอย่างสบายอารมณ์


-- ตอนสายๆ  อาจจะคุยกับหนุ่มอีกคน  โดยที่หนุ่มคนแรกไม่สามารถล่วงรู้ก็เป็นไปได้
   ไม่มีใครเป็นเจ้าของหัวใจ  คุยได้หลากหลายอารมณ์



---  ตอนกลางคืน  หรือตอนบ่ายๆ  อาจจะคุยกับหนุ่มวัยกลางคน  วัยดึก  แล้วแต่ความพอใจ
     แล้วแต่อารมณ์ที่อยากจะคุย  ก็ไม่มีมาเป็นผู้ปกครอง  คอยจ้องดูว่าจะคุยกับใคร
     และจะคุยอย่างไร  ที่ไหนก็ได้  ถ้ากรอบที่วางไว้  ก็คือ  แค่การคุยไม่ล้ำเส้น



  ถึงได้บอกไงคะ  ว่าหัวใจของคนเป็นโสด  อิสระมาก  ดั่งเช่นนกโผบิน
จะบินไปไหนก็ได้  หัวใจไม่ต้องให้ใครผูก  และไม่ต้องไปผูกหัวใจใคร



  แต่ถ้าเมื่อไหร่  รักนี้เป็นหนึ่ง  มีเจ้าของ  มีผู้ปกครองหัวใจ  การจะคบหาสมาคม
จะพูดคุยกับใคร  จะไปไหนมาไหนกับใคร  เริ่มมีอาณาจักรของความเป็นเจ้าของ
เริ้มต้องระมัดระวังตัวเพิ่มมากขึ้น  เริ่มต้องอยู่ในกรอบมากขึ้น



----ถ้าเป็นคุณล่ะคคะ     ชอบชีวิตแบบไหนกันบ้างคะ
---------------------------
ถ้าเรารักใครสักคน นั่นหมายถึงว่าเราต้องมีความรับผิดชอบครับ
เพราะความสวยงามแห่งความรัก
เป็นสิ่งที่สองคนต้องช่วยกันรังสรรค์ขึ้นมา

การที่เช้าสายบ่ายเย็น
โทร.คุยกับคนนั้นคนนี้
แสดงว่าเธอยังไม่ได้ตัดสินใจครับ
ถ้าตัดสินใจแล้ว ผมเชื่อว่า
ทุกคนอยากถนอมความรักของตัวเอง
อยากเห็นความรักของตนเองกับคนรัก
เจริญงอกงาม เป็นกำลังใจใส่ปุ๋ยให้กับความรัก
การที่รักใครสักคนและเป็นเจ้าของซึ่งกันและกัน
เป็นสิ่งที่คนรักกันทุกคนปรารถนาครับ
การที่ระมัดระวังตัวต่อทุกสิ่ง เพื่อคนที่เรารัก เป็นสิ่งน่ารักครับ

ถ้าเลือกได้
ผมอยากมีคนรักครับ




โลกของความรัก สวยงามเสมอครับ
บันทึกการเข้า

ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้
************************
การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 16-09-2006, 12:16 »

ชีวิตเลือกกันไม่ค่อยได้ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
คนเลือกจะโสด เลือกจะมี เลือกไปก็เท่านั้น
สุดท้ายก็แล้วแต่บุญแต่กรรม อยากโสดแต่ดันมี อยากมีแต่ดันโสด
มันก็ช่วยอะไรไม่ได้ ว่าแล้วก็ไปบวชดีกว่า  Cool
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
หน้า: [1]
    กระโดดไป: