กลัวว่ากระทู้จะขาดเนื้อหาว่าเค้าทำอะไรกันบ้าง ขอนำสรุปข่าวมาเกาะท้ายไว้หน่อย
.................................................................................................
จุฬาเดินหน้าชุมนุมไล่ทักษิณ ลั่นตื้อจนยุติบทบาท [14 ก.ย. 49 - 23:33]
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14 ก.ย.) เครือข่ายจุฬาฯ เชิดชูคุณธรรม นำประชาธิปไตย (จคป.) และเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพ ประมาณ 500 คน เดินขบวนรวมพลังเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงจากตำแหน่ง ไปยังลานพระบรมราชานุสาวรีย์ 2 รัชกาล โดยมี นายประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ อดีตอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำถวายสัตย์ปฏิญาณ และนายอานันท์ เหล่าเลิศวรกุล อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อ่านแถลงการณ์ร่วมของอาจารย์มหาวิทยาลัย และเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพ ฉบับวันที่ 2 ก.ย. เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยุติบทบาททางการเมืองอย่างเด็ดขาดทันที เพื่อเปิดโอกาสให้องค์กรตรวจสอบที่เป็นกลาง เข้ามาพิสูจน์ข้อกล่าวหาต่างๆ ที่มีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ และขอเรียกร้องให้ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติงานซื่อสัตย์สุจริต คำนึงถึงศักดิ์ศรีว่า ไม่ใช่พนักงานของบริษัทรัฐบาล ที่ไร้ความชอบธรรม ขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ มุ่งประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง อดทนแข็งขืนต่อคำสั่งที่ไม่ชอบธรรม โดยไม่หวั่นเกรงต่ออำนาจทางการเมือง และไม่หวั่นไหวต่ออามิสสินจ้าง และผลประโยชน์ใดๆ ขอเรียกร้องให้ประชาชนรักสามัคคี อดทนรับฟังความเห็นที่แตกต่าง ระวังตนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของนักการเมือง ที่ฉ้อฉล และอย่าได้เคารพกราบไหว้บุคคล ผู้ไร้ศีลสัตย์ อย่าตอบรับ อย่าให้ความสำคัญกับบุคคลประเภทนี้ ไม่ว่าจะไปปรากฏกาย ณ ที่แห่งใด และร่วมกันแสดงพลังคัดค้าน ประท้วงโดยสันติทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง จนกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะยุติบทบาททางการเมืองโดยเด็ดขาด
นายประพันธ์พงศ์ กล่าวต่อถึงกรณีนายสุนัย จุลพงศธร คณะทำงานฝ่ายกฎหมายและการเมือง พรรคไทยรักไทย เรียกร้องไม่ให้นำชื่อสถาบันมาเป็นข้ออ้างในการเคลื่อนไหวว่า นายสุนัย เป็นลูกศิษย์ของตนคนหนึ่ง ลืมไปแล้วหรือว่า ในสมัย 14 ตุลา 2516 และ 6 ตุลา 2519 มีการต่อสู้อำนาจรัฐเหมือนกัน และการเคลื่อนไหวครั้งนี้ ไม่มีการพาดพิงคนในสถาบัน เป็นการแสดงออกตามสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ อยากให้ประชาธิปไตยเป็นประชาธิปไตยทั้งจิตวิญญาณ ไม่ใช่แค่มีการเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญฉบับนี้ถือเป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด แต่มีคนหาช่องว่างของกฎหมาย นำมาใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง การแสดงออกครั้งนี้ ถือเป็นสิ่งสวยงามตามระบอบประชาธิปไตย และถือเป็นการทดแทนบุญคุณแผ่นดิน
วันเดียวกัน บริเวณลานศรีมหาโพธิ์ หน้าหอสมุดกลาง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการเสวนาเรื่อง "การเมืองเรื่องของทุกคน" โดย นพ.จรัส สุวรรณเวลา คณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า วันนี้ภาวะการเมืองไทยไม่ปกติ ไม่สามารถไว้วางใจรัฐบาลรักษาการได้ และองค์กรอิสระยังถูกแทรกแซง การได้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดใหม่ มาจัดการเลือกตั้ง ยังไม่ใช่ทางออก การที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลุกขึ้นมา เพื่อจุดไฟให้สังคมเห็นความเป็นจริง เป็นเวทีวิชาการ ไม่ใช่ไฮปาร์คทางการเมือง ต้องรู้เรื่องการเมืองให้ลึก ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นเหยื่อ เกิดการทะเลาะกันโดยไม่มีเหตุผล
ด้าน นายสุรัตน์ โหราชัยกุล อาจารย์ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ที่ไหนผู้นำเอาอำนาจชอบธรรมไปหาประโยชน์ใส่ตนเอง ถือเป็นปัญหา การเมืองจึงเป็นเรื่องของทุกคน หากคิดว่าการเมืองเป็นของนักการเมือง จะทำให้คุณค่าของประชาธิปไตยเท่ากับการเลือกตั้งเท่านั้น ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะการเลือกตั้งเป็นแค่ส่วนหนึ่งของกระบวนการประชาธิปไตย แม้ว่าจะชนะการเลือกตั้งแล้ว ผู้นำไม่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้ เหมือนกับให้ตำรวจเฝ้าบ้านให้ แต่ตำรวจกลับมาปล้นบ้านประชาชน
ขณะที่ นางสาวอุบลรัตน์ ศิริยุวศักดิ์ อาจารย์คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ กล่าว ในหัวข้อ "บทบาทของสื่อ ในภาวะการเมืองแตกแยก" ว่า สื่อมวลชนถือเป็นฐานันดรที่ 4 ขณะนี้มีทั้งข่าวลือ ข่าวปล่อย ทุกคนต้องติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด บทบาทของสื่อต้องเปิดพื้นที่ให้กับประชาธิปไตยทางตรงมากขึ้น ขณะนี้เกิดคำถามว่า สื่อบางฉบับวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลมาก เรื่องนี้สื่อต้องทำต่อไป เพราะเป็นหน้าที่พื้นฐาน สื่อที่ไม่ต่อต้านรัฐบาล ขายไม่ดีหรอก และการที่สื่อวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลมาก ไม่ใช่ต้องการล้มล้างรัฐบาล แต่กำลังทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหาร เหมือนหมอรักษาคนไข้ ขณะนี้ไม่อยากให้เรียกว่าสังคมแบ่งออกเป็น 2 พวก แต่อยากให้เรียกว่าแตกต่างกันทางความคิดมากกว่า
นางสาวอุบลรัตน์ กล่าวว่า สื่อหนังสือพิมพ์มีการแบ่งภาพอย่างชัดเจนว่าฉบับไหนเป็นอย่างไร แต่สื่อโทรทัศน์ไม่ได้แบ่ง จึงอยากขอถามจุดยืนว่าอยู่ตรงไหน เพราะสื่อโทรทัศน์ถือว่ามีบทบาทเข้าถึงประชาชนมากที่สุด แต่ก็เข้าใจว่าบางองค์กรอาจจะมีปัญหา เพราะเจ้านายตั้งเป้าไว้แล้ว จึงอยากขอให้สื่อเข้มแข็ง เป็นพลังแก่สังคมต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอภิปรายวันเดียวกันนี้ มีประชาชนสนใจรับฟังเป็นจำนวนมาก เต็มลานศรีมหาโพธิ์ โดยมี นายพิจิตต รัตตกุล อดีต ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ รักษาการ ส.ว.กทม. นายขวัญสรวง อติโพธิ ส.ว.กทม. เข้าร่วมรับฟังการเสวนาด้วย ระหว่างการเสวนา ยังมีการแสดงดนตรีของนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และวงดนตรีโฮป