[บทความ]ความเปลี่ยนแปลงชองเวบพันทิพจะรุ่งหรือจะร่วง??

ผมเอาบทความนี่มาจากเว็บประชาไท อาจจะทำให้ทุกคนรู้สึกดีขึ้นบ้าง ลองอ่านดูนะครับ
---------------------------------------------------------------
หากถามว่าเวบยอดนิยมที่เรารู้จักกันดี เชื่อแน่ว่าอย่างน้อยก็ต้องมีชื่อว่า เวบพันทิพ ติดอยู่ในหัวของใครหลายต่อหลายคน

ด้วยเหตุที่เป็นเวบที่เกิดในยุคแรกของการสร้างเวบในเมืองไทย เสน่ห์สำคัญของเวบนี้ คือการเป็นเวบบอร์ดให้คนแวะเวียนมาลงกระทู้แสดงความเห็นอย่างเป็นอิสระ จึงเป็นที่ถูกใจของกลุ่มคนที่เห็นว่าสังคมมีปัญหาต้องรับการแก้ไข กลุ่มคนที่ต้องการสร้างมิตรภาพและการแลกเปลี่ยนความรู้กันและกัน จนนำไปสู่สังคมชุมชนออนไลส์ในท้ายที่สุด

ในช่วงการก่อร่างสร้างเวบ ตัวผู้จัดทำเวบพันทิพเอง บ่อยครั้งที่เขียนลงในกระทู้แสดงถึงจุดยืนของตนว่าต้องการให้เวบนี้เป็นเวบที่ให้ผู้คนแสดงความเห็นอย่างสร้างสรรค์อย่างแท้จริง เวบนี้มิได้มุ่งหวังผลกำไรทางการค้า จนบ่อยครั้งผู้จัดทำออกมาร้องโอดโอยต่อคนในชุมชนแห่งนี้ว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเวบให้ดำรงคงอยู่นั่นเป็นเงินมหาศาลแต่จะพยายามสู้ทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเสน่ห์ทำให้ผู้ได้บังเอิญผ่านเข้ามาตามกระแสปากต่อปาก และยอมรับเวบพันทิพเป็นเวบในดวงใจในที่สุด

การเสนอความเห็นในระยะแรกเป้นการแสดงความเห็นโดยผู้แสดงความเห็นมิต้องบ่งบอกว่าตนเป็นใคร ทำให้การแสดงความเห็นทำได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในห้องราชดำเนินซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการเกิดพันทิพย์ทีเดียว สิ่งที่ตามมาคือ ผู้มีอำนาจการเมืองล้วนจับตามองความก้าวหน้าของการแสดงความเห็นของชุมชนแห่งนี้อย่างมิวางใจ บ่อยครั้งที่จ้างคนของตนออกมาแต่งกระทู้โดยหวังจะทำให้ผู้คนเกิดความไขว้เขวและขัดแย้งกันเอง

การแสดงความเห็นที่รุนแรงในปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ส่งผลให้ผู้จัดทำเวบต้องมีปัญหากับผู้มีอำนาจทางการเมืองไปด้วย แต่เวบพันทิพย์ก็เติบโตต่อไป และโตขึ้นอย่างรวดเร็วมากท่ามกลางความไม่พอใจของผู้มีอำนาจในบ้านเมือง

จุดเปลี่ยนของพันทิพย์ครั้งยิ่งใหญ่มีจุดเริ่มมาจากการมีข้อเสนอว่า จะให้ผู้ลงโพสต์หรือแสดงความเห็นต้องระบุชื่อและที่มาของตน สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดข้อถกเถียงกันอย่างรุนแรงตามห้องต่างๆในเวบ สาเหตุเพราะความคิดนี้มีทั้งดีและเสีย ในด้านดีเพื่อให้รู้ว่าใครเป็นใคร ในด้านร้ายคือ แล้วจะมีหลักประกันให้กับผู้โพสต์ว่าจะไม่ถูกตามแก้แค้นภายหลังหากต้องระบุตัวตนที่แท้จริงออกมา แต่ไม่ว่าผลจะเป็นเช่นไร สำหรับตัวผู้จัดทำเวบพันทิพย์มีแต่ได้ประโยชน์ เพราะตัวเองสามารถหลุดพ้นจากความไม่พอใจของผู้มีอำนาจทางบ้านเมืองไปได้อีกเปลาะหนึ่ง บทสรุปในครั้งนั้นทำให้เกิดระบบสมาชิกและไม่เป็นสมาชิกขึ้นมาเป็นครั้งแรก

ภายหลังการออกกฎข้อนี้ ส่งผลให้บรรดาผู้คนที่อึดอัดกับสภาพสังคมส่วนหนึ่งซึ่งก็ใหญ่พอควร ยุติบทบาทตนเองในเวบพันทิพย์ เพราะไม่แน่ใจในความปลอดภัยว่าชื่อและที่มาของตนจะไม่ถูกแฮกเกอร์หรือกลุ่มคนที่อ้างตัวว่าเป็นผู้ดูแลเวบบางคนในเวบพันทิพย์ที่เป็นคนของผู้มีอำนาจแฝงตัวเข้ามา เพื่อหาวาใครเป็นปฎิปักษ์บ้าง

กำเกณฑ์เหล่านี้ ทำให้ผู้ที่มีประสบการณ์มองออกว่า นับแต่นั้นไปเวบพันทิพย์คงจะมิใช่ต้นไม้ลำต้นตรงอีกต่อไป แต่กำลังเริ่มเอียงไปตามกระแสลมที่แรงและแรงขึ้น

อย่างไรก็ดี เวบพันทิพย์ยังก้าวต่อไป เพราะยังมีกลุ่มคนที่ยังรักพันทิพอย่างเหนียวแน่นหรือเพราะไม่รู้จะไปแสดงความเห็นที่ไหนให้คนได้อ่าน และการเข้ามาใหม่ของกลุ่มผู้ใช้เวบพันทิพย์รุ่นใหม่ที่เข้ามาตามกระแสเนทที่นับวันจะนิยมจนระบาดไปทั่ว

หลายปีผ่านไป นับวันเวบพันทิพย์ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆทางด้านการทำธุรกิจผ่านเวบ จนเป็นเวบที่ทำกำไรให้ผู้ทำเวบอย่างมหาศาล แต่สิ่งที่ควบคู่ไปกับความก้าวหน้าทางธุรกิจ ก็คือนับวันเวบพันทิพย์เริ่มออกกฎเล็กกฎน้อยควบคุมการแสดงความเห็นของคนในเวบ จนเริ่มปรากฎการณ์ที่เรียกว่า "ขาประจำ" เพราะผู้เข้ามาใช้บริการขาจรเริ่มรู้สึกว่าจะแสดงความเห็นอะไรก็ลำบากขึ้นลำบากขึ้น เพราะจะถูกคอยจับตาโดยกลุ่มคนในเวบพันทิพย์กลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีสัญญาณว่าคนเหล่านี้น่าจะเป็นกลุ่มรับจ้างโพสต์หรือป่วนกระทู้ให้กับผู้มีอำนาจ ซึ่งคอยพยายามยุยงหรือดึงให้เวบพันทิพย์เอียงไปเรื่อยๆ

จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของเวบพันทิพย์เริ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ นั่นคือห้องราชดำเนินกลางห้องยอดนิยมที่สุดในเวบพันทิพย์ ถูกกำหนดให้ใช้กฎอย่างเข้มข้นกฎเดียวที่เคยถกเถียงเมื่อหลายปีก่อน นั่นคือ ผู้แสดงความเห็นต้องระบุชื่อและที่มาของตนเท่านั้น ไม่มีทางเลือกอื่นอีกต่อไป ผลที่ตามมาในครั้งนี้จึงถือเป็นการล้างบางกลุ่มคนในเวบที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของผู้มีอำนาจในบ้านเมืองอย่างสิ้นเชิง วันนี้หากเข้าไปในห้องราชดำเนิน สิ่งที่เห็นคือจะเหลือคนกลุ่มเดียวไม่กี่คนที่ทำหน้าที่ราวกับเป็นเจ้าของห้อง กำหนดทิศทางห้องเพื่อรับใช้ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองอย่างเห็นได้ชัด

มิหนำซ้ำ ยังเกิดปรากฎการณ์การกำหนดทิศทางแสดงความเห็นอย่างเดียวกันนี้ไปตามห้องต่างๆในเวบพันทิพย์ขึ้นอีกด้วย!!!

ณ ขณะนี้การแสดงความเห็นในเชิงที่ขัดแย้งกับผู้มีอำนาจในด้านใดก็ตามจะถูกจับตามอง ตามมาด้วยกระทู้ถูกเสนอประชามติให้ลบ หรือหาทางไม่ให้กระทู้เหล่านั้นได้ขึ้นไปแสดง จนดูเหมือนห้องต่างๆมีความสงบเรยบร้อย ไม่มีความขัดแย้ง มีแต่เห็นด้วยหรือกระทู้ที่ไม่ทำให้ผู้คนฉุกคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นผลกระทบมาจากการเมืองไทยมีปัญหา

ภายใต้สิ่งที่เรียกว่าประชามติของคนในเวบ ที่เนื้อแท้ก็คือกลุ่มคนไม่กี่คนที่เข้ามาอย่างเป็นขบวนการจนทราบกันดีว่ากลุ่มขาประจำป่วนห้องได้กลายเป็นตัวกำหนดการแสดงความเห็นในห้องต่างๆ จนในอนาคตเชื่อได้ว่าเวบพันทิพย์จะกลายเป็นเวบที่ไม่มีความขัดแย้งทางความเห็นอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นเวบที่สนับสนุนความเห็นของผู้นำในบ้านเมืองในยุคนั้นๆ เพราะผู้คนที่ขัดแย้งในการแสดงความเห็นและรู้สึกว่าการแสดงความเห็นนั้นยากขึ้นและถูกลบง่ายๆจะทะยอยออกไปเรื่อยๆ เหมือนเลือดไหลไม่หยุด

สิ่งหนึ่งที่ขอเสนอแนะต่อเวบพันทิพย์ ในยามที่บ้านเมืองมีปัญหาทุกด้านไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจและสังคม นั่นคือ กรุงโรมที่ยิ่งใหญ่ยังล่มสลายได้ และเช่นเดีนยวกัน แม้เวบพันทิพย์จะเคยเป็นเวบชุมชนออนไลน์ที่ยิ่งใหญ่ แต่ทุกวันนี้เวบใหม่ๆเกิดขึ้นทุกวันไม่ใช่จำกัดว่ามีแต่เวบพันทิพย์อย่างในอดีตอีกต่อไป การสร้างเวบในวันนี้ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เวบพันทิพย์จะเป็นเวบชุมชนออนไลส์ได้อย่างไร หากนับวันคนในชุมชนค่อยๆหดหายเพราะรู้สึกว่าถูกจำกัดสิทธิ์ เสน่ห์เมื่อวันวานที่บอกกันปากต่อปากถึงความเป้นอิสระในการแสดงความเห็นให้ไปที่เวบพันทิพย์ อีกไม่ช้าจะถูกแทนที่ด้วยปากต่อปากว่าเวบพันทิพย์มิใช่เวบแสดงความเห็นโดยอิสระอีกต่อไป แต่เป็นแค่เวบที่ผู้จัดทำต้องการเอาตัวรอดเพื่อรักษาผลประโยชน์ทางการค้าผ่านเวบของตนเอาไว้ จนยอมให้การแสดงความเห็นในห้องต่างๆนับวันจะยิ่งวิปริต เพราะเหลือแต่กลุ่มคนกลุ่มเดียวที่นับวันจะใหญ่ขึ้นใหญ่ขึ้นจนคับห้องต่างๆในเวบพันทิพย์คอยกำหนดทิศทางของเวบนี้ไปเรียบร้อย

สิ่งที่ต้องทิ้งท้ายอีกอย่างนึงถึงเจ้าของเวบ ก็คือยังจำสิ่งที่ตนเองเคยเน้นย้ำต่อเพื่อชาวเวบอยู่เสมอเมื่อวันวานถึงวัตถุประสงค์การเปิดเวบพันทิพย์ได้หรือปล่าวนั่นเอง...