"แด๊ก บิ๊กแอส" ยืนกรานปฏิเสธต่อศาลข้อหาพรากผู้เยาว์ พร้อมขอศาลเลื่อนตรวจสอบพยานหลักฐานออกไปอีกหนึ่งครั้ง อ้างขาดความพร้อม ส่วนคู่กรณี "ฝ้าย"ไม่ติดใจ ลั่นยังเป็นเพื่อนกันได้ พร้อมเผยทุกอย่างปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ก่อนเปิดใจถึงพ่อที่แท้จริงของ"น้องจัสติน"
ในช่วงสายของวันนี้ (11 ก.ย. ) เวลาประมาณ 9.00 น. ที่ศาลอาญารัชฎา ศาลได้นัดแถลงเปิดคดีที่"ฝ้าย" ยื่นฟ้อง"แด๊ก บิ๊กแอส"หรือนาย เอกรัตน์ วงศ์ฉลาด ในข้อหาพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร เป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่เลื่อนมาจากนัดแรกในวันที่ 28 สิงหาคม
โดยในวันนี้ ศาลได้นัดทั้ง 2 ฝ่ายมาเพื่อสอบสวนและตรวจสอบพยานหลักฐานชั้นต้น ซึ่งถือเป็นการเผชิญหน้ากันครั้งแรกของการขึ้นศาล ฝ่ายนักร้องดัง "แด๊ก บิ๊กแอส" ได้เดินทางมาพร้อมทนาย "สมหมาย กู้ทรัพย์" ในขณะที่ฝ่ายคู่กรณีน้องฝ้ายได้เดินทางมาพร้อมกับทนายและคุณแม่ โดยทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีท่าทีหรือสีหน้าที่วิตกกังวลแต่อย่างใด
ภายหลังออกจากห้องพิจารณา "นายปรีชา ณ เชียงใหม่" ซึ่งเป็นทนายของน้องฝ้ายได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า...
"ทั้งสองฝ่ายต่างไม่ได้ติดใจอะไรกัน ไม่ได้ทะเลาะกัน ยังเป็นเพื่อน เป็นคนรู้จักกัน แต่เมื่อทุกอย่างมันอยู่ในกระบวนการของศาล เราก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอน พูดมากไม่ได้ เพราะจะกระทบหน้าศาล ทั้งสองฝ่ายต่างก็อยากพึ่งความยุติธรรมของศ่าล ต่างฝ่ายต่างก็คงต้องสืบพยานไป สุดท้ายผลจะเป็นยังไงก็แล้วแต่คำตัดสินของศาล"
"ความคืบหน้าวันนี้เป็นที่พอใจ พยานหลักฐานทางเรามีพร้อม แต่ฝ่ายจำเลยขอเลื่อนไปอีกครั้ง เพราะยังไม่พร้อมในเรื่องพยานหลักฐาน ซึ่งก็ไม่เป็นไร ศาลนัดทั้งสองฝ่ายอีกทีในวันที่ 25 กันยายน และต่อไปฝ้ายไม่จำเป็นต้องมาก็ได้เพราะเป็นแค่ชั้นตรวจพยานหลักฐาน ต่อจากนั้นศาลถึงจะนัดสืบพยานอีกทีว่าจะเป็นวันไหน"
ความมั่นใจในคดีมีมากน้อยแค่ไหน?
"ตอนนี้เราพูดไม่ได้ ต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของศาล เราจะไปก้าวล่วงไม่ได้ หลังจากวันที่ 25 ฝ้ายต้องมารอขึ้นศาลเพื่อ สืบพยานต่อไป คดีนี้ระยะเวลาที่ต่อสู้ไม่นานมาก เพราะศาลท่านก็กำชับและเร่งให้อยู่ คิดว่าปีนี้น่าจะจบ หลักฐานทางโจทก์เราพร้อมอยู่แล้ว เพียงแต่ฝ่ายจำเลยยังไม่พร้อม แต่ศาลกำชับไม่ให้เกิน 2 อาทิตย์ ซึ่งก็ถือว่าเร็วมาก"
"คดีนี้ไกล่เกลี่ยไม่ได้เพราะเป็นคดีอาญาแผ่นดินส่วนทั้งสองฝ่ายอาจจะมีการเคลียร์ปัญหาคาใจกันอันนี้ก็อาจเป็นไปได้เพราะทั้งสองฝ่ายไม่ได้โกรธอะไรกัน แต่ด้วยคดีนี้ไม่สามารถที่จะถอนฟ้องหรือยอมความกันได้บทลงโทษของคดีนี้จะจำคุกมากน้อยยังไงขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล"
ขณะเดียวกันทางฝ่ายแด๊ก บิ๊กแอส ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเพียงสั้นๆว่า "ทุกอย่างผมปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการของศาลและยกให้ทีมทนายดูแลทั้งหมดแล้วครับ"
เช่นเดียวกับคู่กรณีอย่าง "น้องฝ้าย" ที่บอกว่าเรื่องคดีนั้นคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม โดยตนไม่ติดใจอะไรแล้ว พร้อมเปิดใจเรื่องพ่อที่แท้จริงของน้อง"จัสติน" ซึ่งได้มีการตรวจพิสูจน์ ดีเอ็นเอ ไปเมื่อก่อนหน้านี้และภายหลังผลที่ออกมายืนยันว่าใช่ ทางฝ่ายชายก็พร้อมจะรับผิดชอบโดยส่งเสียค่าเลี้ยงดูให้เดือนละหนึ่งหมื่นบาทพร้อมกับเซ็นรับรองเป็นบุตรด้วย
"ที่ต้องมาวันนี้ด้วยเพราะมาตามหมายสั่งศาล กับพี่แด๊กก็พูดคุยกันคำสองคำ ถามว่าเป็นยังไงบ้าง เหมือนเพื่อนกันทั่วไปค่ะ"
"ตอนนี้รู้แล้วว่าใครเป็นพ่อน้องจัสติน แต่ฝ้ายไม่ได้ฟ้องร้องอะไรเพราะเราตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่าเขาจะรับผิดชอบ ช่วยค่าเลี้ยงดูเดือนละหนึ่งหมื่นบาท หลังจากที่หนูติดต่อไปให้เขามาตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์ซึ่งทางเขาก็ยินดีไม่มีปัญหาอะไร พอทราบผลว่าใช่ เขาก็ยินดีจะรับผิดชอบ ส่งเสียค่าเลี้ยงดูและเซ็นรับรองเป็นลูก แต่ไม่ต้องมารับผิดชอบหนู"
"ตอนนี้เขาอยู่ต่างประเทศก็เลยไม่ค่อยได้เจอกัน จัสตินตอนนี้กำลังหัดพูด กำลังน่ารักและหนูเองก็ไม่ได้เครียดอะไรแล้ว ชีวิตตอนนี้ก็แฮปปี้ดี"
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9490000114909สังคมเมืองไทย อะไรจะขนาดนั้น ... เศร้า