Killer
|
 |
« เมื่อ: 08-09-2006, 19:32 » |
|
1 ในนักคิดชื่อดังของโลกด้านบริหารจัดการ มั่นใจไทยมีศักยภาพพอที่จะทำให้ราย ได้ต่อหัวของประชากรเพิ่มขึ้นเป็น 2 แสนบาทต่อคนต่อปีได้
ในการบรรยายพิเศษหัวข้อมิติไร้พรมแดน ประเทศไทยบนเวทีโลก ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนจัดขึ้นที่หอประชุมกองทัพเรือวันนี้ เพื่อให้ผู้บริหารทุกภาคส่วนในสังคมเห็นความจำเป็นและความสำคัญในการติดตาม การเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของระบบกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกในเอเชีย ซึ่งเป็นไปอย่างรวดเร็วและซับซ้อน เพื่อนำมาปรับยุทธศาสตร์นโยบายการทำงาน ของทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งประเทศชาติ โดยมีนายเคนอิชิ โอมาเอะ ชาวญี่ปุ่น 1 ในนักคิดชื่อดังของโลกด้านการบริหารจัดการเป็นวิทยากร ทั้งนี้นายโอมาเอะ มั่นใจว่า ไทยมีศักยภาพ พอที่จะทำให้รายได้เฉลี่ยของ ประชากรเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า หรือ 5,000 เหรียญสหรัฐต่อปี หรือ 2 แสนบาท หากมีแผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจที่ดี โดยจำเป็นต้องเน้นศักยภาพด้านการลงทุน เพิ่มขีดความสามารถด้านการศึกษาให้ประชากร รวมทั้งกระจายการปกครองในรูป แบบรัฐภูมิภาค หรือ CEO มากกว่ารวมอยู่ที่ศูนย์กลาง เช่นที่พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีนำมาปรับใช้ อีกทั้งใช้สนามบินสุวรรณภูมิดึงดูดบริษัทการบินนานาชาติ มาตั้งสำนักงานใหญ่ในไทยก็จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ไม่ยาก นอกจากนี้ การที่จะทำให้ไทยมีตลาดดีขึ้น ยังต้องเน้นสร้างสัมพันธ์พิเศษกับชาติต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้มูลค่าการค้าเพิ่มมากกว่าการทำ FTA ก็เป็นได้
กูรูปรมาจารย์ ด้านกลยุทธระดับโลก ยอมรับแนวทางการบริหารประเทศ ของดร.ทักษิณ ว่ามาถูกทางแล้ว และจะสามารถนำพาประเทศชาติให้รอดพ้น จากความยากจนได้
หวังว่าคงช่วยให้คนแถวนี้ มีสติสัมปชัญญะกันบ้าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พรรณชมพู
|
 |
« ตอบ #1 เมื่อ: 08-09-2006, 19:36 » |
|
กูรู หรือ มึงรู จากไหนคะ ขุดมาจาก รูไหน
ครุ ของไทย เขาบอก ไอ้นี่ชั่วค่ะ ญี่ปุ่น พาไปเที่ยวตรอกข้าวสารดีกว่ามั้งคะ
ไปหามาใหม่ ไป๊
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Killer
|
 |
« ตอบ #2 เมื่อ: 08-09-2006, 20:55 » |
|
ทำไมใช้วาจาสถุลอย่างนั้น
ถ้าไม่มีปัญญาจะตอบ อย่าบังอาจ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชอบแถ
|
 |
« ตอบ #3 เมื่อ: 08-09-2006, 21:23 » |
|
ศักยภาพทางเศรษฐกิจ มาจากความเชื่อมั่นในทุกทุกด้าน ตอนนี้นายกทักษิณคงหืดจับ เพราะมีพวกคอยจะทุบความเชื่อมั่นทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้สร้างมาในยุคนี้ทั้งสนามบินหรือ อะไรก็ได้ที่รัฐบาลทำ ทั้งๆที่มันเป็นเครดิตของประเทศที่เขาอาศัยอยู่เอง ความหวังดี ของคนกลุ่มนี้อาจทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนเผาบ้านเพื่อจับหนูนั่นเอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
somebody
|
 |
« ตอบ #4 เมื่อ: 08-09-2006, 21:25 » |
|
เขาพูดถึงโครงสร้างการบริหารจัดการบางส่วนของภาครัฐเท่านั้นเอง เสียดายตอนนี้ส่วนนักการเมืองเหลือแต่ห้อยกับโหน หมดน้ำยาไปแล้ว 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ดอกฟ้ากับหมาวัด
|
 |
« ตอบ #5 เมื่อ: 08-09-2006, 21:30 » |
|
ทำไมใช้วาจาสถุลอย่างนั้น มีใครตกใต้ถุนเหรอค่ะ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ
น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
|
|
|
ชอบแถ
|
 |
« ตอบ #6 เมื่อ: 08-09-2006, 21:33 » |
|
พิมพ์ผิดตกยกเว้นไปบ้างเราไม่ว่ากันอยู่แล้ว ลอลิงกับนอหนู ก็ห่างกันแค่สองสามปุ่มกดผิดกันได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
bontae
|
 |
« ตอบ #7 เมื่อ: 08-09-2006, 21:39 » |
|
กูรู หรือ มึงรู จากไหนคะ ขุดมาจาก รูไหน
ครุ ของไทย เขาบอก ไอ้นี่ชั่วค่ะ ญี่ปุ่น พาไปเที่ยวตรอกข้าวสารดีกว่ามั้งคะ
ไปหามาใหม่ ไป๊
========================= บางครั้งถ้าไม่รู้ ก็อย่าแสดงว่ารู้ เดี๋ยวคนอื่นจะรู้ว่าสมองกลวง บางครั้งไม่พูด ดีกว่าพูด เพราะโบราณว่าไว้ "สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ล้างความชั่วร้ายในเสรีไทย ด้วยการไล่ลิ่วล้อไอ้ ค.ป.ค. ออกไป!!!!!
|
|
|
ดอกฟ้ากับหมาวัด
|
 |
« ตอบ #8 เมื่อ: 08-09-2006, 21:53 » |
|
สมองกลวงคงแปลว่า ไม่มีสมอง
แต่จิตใจกลวงไม่รู้ผิดชอบชั่วดี น่ากลัวกว่านะคะ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ
น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
|
|
|
somebody
|
 |
« ตอบ #9 เมื่อ: 08-09-2006, 21:54 » |
|
ตรงนี้ควรเอาไปคิดต่อ การที่จะทำให้ไทยมีตลาดดีขึ้น ยังต้องเน้นสร้างสัมพันธ์พิเศษกับชาติต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้มูลค่าการค้าเพิ่มมากกว่าการทำ FTA ก็เป็นได้
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2006, 21:55 โดย somebody »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชอบแถ
|
 |
« ตอบ #10 เมื่อ: 08-09-2006, 21:58 » |
|
สมองกลวงคงแปลว่า ไม่มีสมอง
แต่จิตใจกลวงไม่รู้ผิดชอบชั่วดี น่ากลัวกว่านะคะ  พวกที่คิดว่ารู้ผิดชอบชั่วดี แต่วิธีคิดในสมองดันมีบั๊ก มันก็เลยเพี้ยนๆอย่างนี้ เที่ยวเห็นคนอื่นจิตใจกลวงทั้งที่มาตรฐานผิดชอบชั่วดี ตัวเองก็ตอบไม่ถูก วันนี้ยังดีหน่อยมีผู้กล้า post เรื่อง เข้าท่าให้อ่านบ้าง มีแต่ข่าวไร้สาระมาเป็น อาทิตย์แล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ดอกฟ้ากับหมาวัด
|
 |
« ตอบ #12 เมื่อ: 08-09-2006, 22:09 » |
|
สมองกลวงคงแปลว่า ไม่มีสมอง
แต่จิตใจกลวงไม่รู้ผิดชอบชั่วดี น่ากลัวกว่านะคะ  พวกที่คิดว่ารู้ผิดชอบชั่วดี แต่วิธีคิดในสมองดันมีบั๊ก มันก็เลยเพี้ยนๆอย่างนี้ เที่ยวเห็นคนอื่นจิตใจกลวงทั้งที่มาตรฐานผิดชอบชั่วดี ตัวเองก็ตอบไม่ถูก วันนี้ยังดีหน่อยมีผู้กล้า post เรื่อง เข้าท่าให้อ่านบ้าง มีแต่ข่าวไร้สาระมาเป็น อาทิตย์แล้ว งั้นเรามีเครื่องวัดตรวจสอบมาตราฐานดีๆ แบบเครื่อง CTX บ้างมั๊ยคะ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ
น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
|
|
|
somebody
|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: 08-09-2006, 22:11 » |
|
สมองกลวงคงแปลว่า ไม่มีสมอง
แต่จิตใจกลวงไม่รู้ผิดชอบชั่วดี น่ากลัวกว่านะคะ  พวกที่คิดว่ารู้ผิดชอบชั่วดี แต่วิธีคิดในสมองดันมีบั๊ก มันก็เลยเพี้ยนๆอย่างนี้ เที่ยวเห็นคนอื่นจิตใจกลวงทั้งที่มาตรฐานผิดชอบชั่วดี ตัวเองก็ตอบไม่ถูก วันนี้ยังดีหน่อยมีผู้กล้า post เรื่อง เข้าท่าให้อ่านบ้าง มีแต่ข่าวไร้สาระมาเป็น อาทิตย์แล้ว หากแก้ปัญหาคอร์รัปชัน ระดับยอดปิรามิดไม่ได้ ก็ยากที่จะทำอะไรต่อไปได้ เหตุเพราะอำนาจกระจุกตัวที่คน2-3คนรอบตัวทักษิณ ทักและภรรยานะแหละ..มันไม่กระจายอำนาจตรงส่วนบน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
-3-
|
 |
« ตอบ #14 เมื่อ: 08-09-2006, 22:15 » |
|
(ย้ายข้างชั่วคราวเฟ้ยเด๋วไม่ได้ตัง) http://221.128.125.135/register/omae.html <<-ใช่คนนี้ป่าว? แล้วไปอ้างอิงมาจากเวบไหนอะพี่เลอะ ขอเวบ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
 ประชาธิปไตยตัดสินความต้องการได้ แต่ตัดสินความถูกต้องไม่ได้!!
|
|
|
RiDKuN
|
 |
« ตอบ #15 เมื่อ: 08-09-2006, 22:19 » |
|
โอมาเอะอาจจะเก่งจริง แต่ที่ขาดไป อาจจะเป็นการมองเห็นถึงตัวตนข้างในของทักษิณ ชินวัตร และอาจจะมองแต่รูปแบบการใช้นโยบาย ความจริงการกระจายแบบรัฐภูมิภาคอะไรนั่น ก็คือการกระจายการปกครอง แต่ว่าโอมาเอะอาจจะลืมมอง หรือไม่รู้ว่าผู้ว่าราชการจังหวัดของไทย แต่งตั้งโดยกระทรวงมหาดไทย ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง การปกครองของญี่ปุ่น เขามีสิทธิเลือกผู้ว่าฯ เอง แต่ของไทยไม่ใช่ ดังนั้นการกระจายอำนาจอะไรนั่นจึงเป็นเรื่องขี้ฮกทั้งเพ เพราะการทำงานของผู้ว่า ceo ก็ยังยึดโยงอยู่กับศูนย์กลางอำนาจที่กระทรวงมหาดไทย และการให้งบ ceo ไม่ต่างกับการแบ่งปันผลประโยชน์ เมื่อก่อนผลประโยชน์อยู่ที่ศูนย์กลาง ก็กระจายไปที่จวนผู้ว่าฯ เยอะหน่อย แต่ไอ้ที่กระจายไปน่ะไม่ใช่ผลประโยชน์ของประชาชนหรอกนะ เป็นผลประโยชน์ของพวกที่หากินบนหลังประชาชนต่างหาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
|
|
|
GN-001 Exia
|
 |
« ตอบ #16 เมื่อ: 08-09-2006, 22:23 » |
|
สมแล้วที่เป็น จอมคน จอมพล จอมอัจฉริยะ ปฏิมากรรมชิ้นที่เยี่ยมที่สุดที่พืนแผ่นดินสยามเคยมีมา...
สุดยอดแห่งรัฐบุรุษ อัจฉริยะสามารถเก่งกาจทุกเรื่อง ในรอบหนึ่งหมื่นสองพันปีนี้ไม่มีบุรุษใดจะยิ่งใหญ่ได้อย่างนี้อีกแล้ว...
นับเป็นบุญวาสนาที่พระผู้เป็นเจ้าแห่งสามโลกได้ร่วมกันสร้างสรรค์ปั้นแต่งมหาเทพบุรุษผู้นี้มาจุติลงที่ผืนแผ่นดินไทย...
จะเป็นบุญเหลือเกินที่ท่านจะอยู่ปกครองในฐาณะพระเจ้าแห่งโลกใหม่ โลกแห่งประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ ประเทศนี้จะเจริญสมบูรณ์...
ไม่เลียให้ได้อย่างนี้เลยล่ะ...เอาทั้งทีสุดตัวหน่อยดี้!!!!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
 พวกที่เอาคำว่า "เสรีภาพ" มาบังหน้าเพื่อเบียดเบียนคนอื่นนี่มันเลวที่สุด
|
|
|
|
ภัทร
|
 |
« ตอบ #18 เมื่อ: 08-09-2006, 22:40 » |
|
จาก manager นะครับ รัฐบาลประเทศลาว......นำนโยบายรัฐบาลพรรค ทรท ไปพัฒนาประเทศ....ไม่นานประเทศลาวจะเจริญยิ่งกว่าประเทศไทย รัฐบาลประเทศลาว......นำนโยบายรัฐบาลพรรค ทรท ไปพัฒนาประเทศ....ไม่นานประเทศลาวจะเจริญยิ่งกว่าประเทศไทย....เพราะประเทศไทย....(รู้กันเองด้วย...ปัญญาก็แล้วกัน....เศร้า....) กรุงเทพฯ- รัฐมนตรีลาวได้ประกาศใช้นโยบายแปลงสินทรัพย์เป็นทุนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและนักลงทุนรายย่อยในแขนงต่างๆ ซึ่งเป็นกรณีล่าสุดหลังจากได้ประกาศตั้ง "กองทุนหลุดผ่อนความยากจน" ที่คล้ายคลึงกับกองทุนหมู่บ้านของไทย นอกจากนั้นยังประกาศเดินหน้านโยบาย "1 เมือง 1 ผลิตภัณฑ์" ส่งเสริมการผลิตในท้องถิ่นอีกด้วยอีกด้วย นโยบายล่าสุดนี้รัฐบาลมีความประสงค์ที่จะให้ประชาชนสามารถใช้สินทรัพย์แปลงเป็นทุนเพื่อขอกู้จากสถาบันการเงินได้ เพื่อให้ประชาชนในระดับรากหญ้าสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ สำนักข่าวสารปะเทดลาวรายงานเรื่องนี้ในวันอังคาร (8 ส.ค.) โดยอ้างคำกล่าวของนายนาม วิยะเกด รมว.กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า รัฐบาลได้วางทิศทางหน้าที่ในการส่งเสริมการเปลี่ยนโครงสร้างการผลิต ส่งเสริมการผลิตสินค้า-ตลาดชนบท ส่งเสริม "การผลิตสินค้าหนึ่งเขต" หรือ "1 ตัวเมือง 1 ผลิตภัณฑ์" เพื่อทำให้แขนงอุตสาหกรรม-การค้า กลายเป็นหัวใจการพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่น เพื่อเปลี่ยนจากระบบกสิกรรมเป็นอุตสาหกรรม รัฐมนตรีลาวยังได้กล่าวถึงแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมแขนงที่ได้เลือกสรรแล้วเพื่อการส่งออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรและป่าไม้ ที่มีความได้เปรียบในการแข่งขัน อุตสาหกรรมผลิตวัสดุก่อสร้าง ปูนซีเมนต์ เหล็ก ทองแดง แร่ธาตุ อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วน อุตสาหกรรมขนาดเล็ก ขนาดกลาง และหัตถกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมอื่น ๆ นอกจากนั้นรัฐกำลังจะเร่งระดมการลงทุนจากทุกภาคส่วนเศรษฐกิจในสังคม และดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่แขนงอุตสาหกรรมและการค้า ให้เพิ่มมากขึ้น รัฐบาลลาวได้เริ่มดำเนินโครงการกองทุนหลุดผ่อนความยากจนมาตั้งแต่ต้นปี 2546 โดยความช่วยเหลือจากธนาคารโลก โดยมีเป้าหมายกระตุ้นการผลิตเศรษฐกิจในระดับรากหญ้า ทั้งนี้เพื่อร่วมส่วนทำให้ประเทศได้หลุดพ้นจากความล้าหลังให้ได้ภายในปี 2563 ตามนโยบายของพรรคประชาชนปฏิวัติลาว อย่างไรก็ตาม โครงการ "กองทุนหมู่บ้าน" ในประเทศไทยนั้น รัฐบาลจัดสรรเงินงบประมาณให้หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท แต่โครงการกองทุนหลุดผ่อนความทุกข์ยาก (ทลย.) ของลาวนั้นมิได้จำกัดจำนวนเงินอย่างตายตัว หากแต่กระจายออกไปตามความจำเป็นของแต่ละท้องถิ่นโดยการจำแนกตามเป้าหมายการพัฒนา เพื่อช่วยเหลือประชาชนในชุมชนต่างๆ อย่างถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง มีการควบคุมอย่างใกล้ชิด กองทุนหลุดผ่อนความทุกข์ยากของลาวเป็นโครงการ 5 ปี (2546-2551) ดำเนินการในพื้นที่ 24 เมือง (อำเภอ) ใน 5 แขวง รวม 2,700 หมู่บ้านที่ประชาชนมีรายได้น้อยที่สุด ปัจจุบันกำลังดำเนินการใน 14 เมือง ใน 3 แขวงคือ แขวงหัวพันในภาคเหนือ แขวงสะหวันนะเขตและจำปาสักในภาคใต้ รวมหมู่บ้านในโครงการ 1,914 หมู่บ้าน สื่อของทางการลาวรายงานก่อนหน้านี้ว่า ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นไปกองทุนหลุดผ่อนฯ จะขยายการดำเนินงานไปยังอีก 2 แขวง คือ แขวงเชียงขวางทางภาคเหนือกับแขวงสาละวันทางภาคใต้ พร้อมๆ กับขยายการปฏิบัติการใน 3 แขวงปัจจุบันออกไปอีก หลักการสำคัญในการดำเนินประกอบด้วย การให้ชาวบ้านเลือกโครงงานพัฒนาเพื่อขอการสนับสนุนเงินทุน และตัดสินใจเองทั้งหมด มีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน เป็นเจ้างาน เป็นเจ้าของทรัพย์สินทั้งหมด โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นการลงทุนพัฒนาอย่างยั่งยืน. รัฐบาลลาวได้เริ่มดำเนินโครงการกองทุนหลุดผ่อนความยากจนมาตั้งแต่ต้นปี 2546 โดยความช่วยเหลือจากธนาคารโลก โดยมีเป้าหมายกระตุ้นการผลิตเศรษฐกิจในระดับรากหญ้า ทั้งนี้เพื่อร่วมส่วนทำให้ประเทศได้หลุดพ้นจากความล้าหลังให้ได้ภายในปี 2563 ตามนโยบายของพรรคประชาชนปฏิวัติลาว ประเทศเขาคงได้เห็นประโยชน์ของนโยบายและมีความมุ่งหวังดีต่อประเทศของเขา ต่อประชาชนของเขา ขอชื่มชมกับรัฐบาลประเทศลาว....ที่มุ่งปรารถนาพัฒนาประเทศ...หวงแหนประเทศ....รักประเทศ http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9490000101096 จากคุณ : chaiyawat2549 ******************************** นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะครับที่มีประเทศอื่นๆพยายามนำหลักการพัฒนาของ ทรทไปใช้ คราวก่อนประเทศฟิลิปปินส์ก็นำแนวทางของทรท ไปเช่นเดียวกัน อย่าปล่อยให้สูญเสียสิ่งนั้นไป ก่อนที่จะเห็นคุณค่าเลยครับ มันอาจจะสายเกินไป
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2006, 22:45 โดย ภัทร »
|
บันทึกการเข้า
|
พวกเราต้องได้รู้ความจริงความเป็นไปทั้ง 2 ด้าน ไม่ใช่แค่จากสื่อเพียงด้านเดียวเท่านั้น http://www.geocities.com/morrowind2545/Politics/Map.pdfแค่ขอให้ลองอ่านดู แต่อย่าพึ่งเชื่อ ให้พิจารณาด้วยตนเองก่อน แล้ววิเคราะห์ตามไปด้วย จากนั้นถ้ารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ก็ช่วยๆกันน้ำไฟล์ map.pdf นี้ เผยแพร่ไปเรื่อยๆเพื่อให้เพื่อนๆทุกท่านได้อ่านกันอย่างทั่วถึง ขอบคุณครับ
|
|
|
RiDKuN
|
 |
« ตอบ #19 เมื่อ: 08-09-2006, 22:42 » |
|
คุณภัทรพาดหัว ทำให้คนอ่านเข้าใจผิด แทรกความเห็นตัวเองลงในข่าวของคนอื่น ไม่ละอายใจหรือครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
|
|
|
|
พระพาย
|
 |
« ตอบ #21 เมื่อ: 08-09-2006, 22:49 » |
|
คุณคิล... ไปเอาข่าวมาจากไหนครับ?... อยากอ่านเต็มๆ ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
RiDKuN
|
 |
« ตอบ #23 เมื่อ: 08-09-2006, 22:55 » |
|
โอ้ เล่นง่ายนี่ครับ copy ความเห็นแบบไม่มีจรรยาบรรณมาลง แถมไม่อ้างอิงที่มาอีก แบบนี้ไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่นะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
|
|
|
somebody
|
 |
« ตอบ #24 เมื่อ: 08-09-2006, 23:03 » |
|
จะแก้ปัญหาความยากจน อย่าดูค่าเฉลี่ย ให้ดูการกระจายรายได้และการกระจายหนี้ภาคครัวเรือนว่าสมดุลกันหรือเปล่า? ตรงนี้ภายใต้ระบอบทักษิณที่ผ่านมาถือว่าบริหารแบบเอาเปรียบหลอกลวงรากหญ้าด้วยซ้าไป เพราะรากหญ้าส่วนน้อยที่มีฐานะดีขึ้น สังเกตได้จากหนีภาคครัวเรือนที่สูงขึ้น ดูที่อาจสามารถเป็นตัวอย่างก็ได้ ว่าโฆษณาแล้วได้ผลอะไรบ้าง? 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
so what?
|
 |
« ตอบ #26 เมื่อ: 08-09-2006, 23:04 » |
|
จาก manager นะครับ รัฐบาลประเทศลาว......นำนโยบายรัฐบาลพรรค ทรท ไปพัฒนาประเทศ....ไม่นานประเทศลาวจะเจริญยิ่งกว่าประเทศไทย รัฐบาลประเทศลาว......นำนโยบายรัฐบาลพรรค ทรท ไปพัฒนาประเทศ....ไม่นานประเทศลาวจะเจริญยิ่งกว่าประเทศไทย....เพราะประเทศไทย ******************************** นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะครับที่มีประเทศอื่นๆพยายามนำหลักการพัฒนาของ ทรทไปใช้ คราวก่อนประเทศฟิลิปปินส์ก็นำแนวทางของทรท ไปเช่นเดียวกัน อย่าปล่อยให้สูญเสียสิ่งนั้นไป ก่อนที่จะเห็นคุณค่าเลยครับ มันอาจจะสายเกินไปลาวเหรอครับ เอานโยบายไอ้เหลี่ยมไปใช้ งั้นซักสิบปีแซงเขมรได้แล้วค่อยมาคุยกันครับ แต่ผมฟันธงล่วงหน้าว่าโนเวย์  ส่วนฟิลิปปีนส์ที่อาโรโย่เคยออกมาแสดงท่าทีชื่นชมไอ้เหลี่ยม แต่นโยบายเอาไปใช้แค่ไหนก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนี้เธอก็กำลังประสบชะตากรรมโดนไล่อยู่เหมือนไอ้เหลี่ยมเดี๊ยะเลย  อยากจะบอกคุณอีกอย่างว่าเศรษฐกิจของฟิลิปปีนส์ขับเคลื่อนไปได้ด้วยเงินที่ไหลเข้าประเทศผ่านแรงงานที่ออกไปทำงานต่างแดนครับ ลำพังเศรษฐกิจในประเทศน่ะ มันพังพินาศเน่าเฟะไปตั้งแต่สมัยมาร์กอสจนป่านนี้ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้นเท่าไหร่หรอก อย่าไปหลงเชื่อโฆษณาแหกตาของไอ้เหลี่ยมกับสมุนเลยครับ 
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2006, 23:27 โดย so what? »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ภัทร
|
 |
« ตอบ #27 เมื่อ: 08-09-2006, 23:04 » |
|
โอ้ เล่นง่ายนี่ครับ copy ความเห็นแบบไม่มีจรรยาบรรณมาลง แถมไม่อ้างอิงที่มาอีก แบบนี้ไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่นะครับ เอ้อ กลายเป็นงั้นไป ทั้งๆที่เขียนชื่อผู้เขียนข้อความไว้ตอนท้ายแล้วนะ ไม่เห็นหรือครับ " จากคุณ : chaiyawat2549" และลิงค์ที่มาตอนท้ายถึงแหล่งที่มา ไม่ได้ขาดบกพร่องตรงไหน อ่านไม่เห็นหรือครับ ??  และใครๆก็รู้ว่าความเห็นต่างๆที่ผมยกมา ส่วนใหญ่มาจาก pantip อยากจะดูอะไรก็ไปหาที่นั้นได้
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2006, 23:07 โดย ภัทร »
|
บันทึกการเข้า
|
พวกเราต้องได้รู้ความจริงความเป็นไปทั้ง 2 ด้าน ไม่ใช่แค่จากสื่อเพียงด้านเดียวเท่านั้น http://www.geocities.com/morrowind2545/Politics/Map.pdfแค่ขอให้ลองอ่านดู แต่อย่าพึ่งเชื่อ ให้พิจารณาด้วยตนเองก่อน แล้ววิเคราะห์ตามไปด้วย จากนั้นถ้ารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ก็ช่วยๆกันน้ำไฟล์ map.pdf นี้ เผยแพร่ไปเรื่อยๆเพื่อให้เพื่อนๆทุกท่านได้อ่านกันอย่างทั่วถึง ขอบคุณครับ
|
|
|
Killer
|
 |
« ตอบ #28 เมื่อ: 08-09-2006, 23:18 » |
|
จะแก้ปัญหาความยากจน อย่าดูค่าเฉลี่ย ให้ดูการกระจายรายได้และการกระจายหนี้ภาคครัวเรือนว่าสมดุลกันหรือเปล่า? ตรงนี้ภายใต้ระบอบทักษิณที่ผ่านมาถือว่าบริหารแบบเอาเปรียบหลอกลวงรากหญ้าด้วยซ้าไป เพราะรากหญ้าส่วนน้อยที่มีฐานะดีขึ้น สังเกตได้จากหนีภาคครัวเรือนที่สูงขึ้น ดูที่อาจสามารถเป็นตัวอย่างก็ได้ ว่าโฆษณาแล้วได้ผลอะไรบ้าง?  อย่าใช้ความรู้สึก... เป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้ว คุณไม่สามารถทำให้ทุกคนมีฐานะเท่าเทียมกันได้หรอก มันฝืนธรรมชาติ และเป็นไปไม่ได้ คอมมิวนิสท์ยังล้มเหลวเลย ส่วนเรื่องหนี้สินภาคครัวเรือนสูงขึ้น เคยถกเถียงกันมาหลายรอบแล้ว มันแล้วแ่ตมุมมอง และการเลือกหยิบตัวเลข ขึ้นมาเพื่อดิสเครดิตกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ริวเซย์
|
 |
« ตอบ #29 เมื่อ: 08-09-2006, 23:22 » |
|
ชื่นชมการดูแลภาคใต้ด้วยรึเปล่าครับ
ชื่นชมเรื่องนายกกลัวตาย
ชื่นชมเรื่องนายกไปที่ไหนไม่ได้เลยเพราะกลัวโดนไล่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^  
|
|
|
แอ่นแอ๊น
|
 |
« ตอบ #30 เมื่อ: 08-09-2006, 23:29 » |
|
โอมาเอะ เป็นนักกลยุทธ์การตลาดที่เก่งมากๆ คนนึ่ง แต่คนไทยที่เก่งกว่า โอมาเอะ โดยคุณ ธัญยวัฒน์ ได้ยกย่องไว้ คือ คุณ เทียม โชควัฒนา
อยากทราบมั้ยว่า คุณเทียม มีความเห็นเกี่ยวกับอาชีพใดบ้าง ที่คิดว่า คนทำธุรกิจที่ดี (สอนลูกชายไว้ ดูได้จากเทป The Icon) ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับอาชีพสองอย่าง
นั่นคือ นักการเมือง และ ธนาคาร หมายถึง สอนให้ลูกชายอย่างได้ไปทำอาชีพทั้งสองอย่างนี้ อย่างแรก คงไม่ต้องอธิบาย อย่างที่สองคือ อย่าเอาเงินชาวบ้านมาหากิน
ถ้าจะเจ๊ง ก็เจ๊งเพราะตัวเอง คนอื่นจะได้ไม่เดือดร้อน
ถ้าสนใจความคิดของคุณเทียม ลองหาหนังสือเล่มเล็กๆ ที่รวบรวมคำคม เห็นว่า มีขายทั่วไป เล่มละ 30 บาทเท่านั้น (ยังไม่ได้ไปเดินดูเหมือนกัน) ส่วนอีกชุด ถ้ายังพอหาได้ (หนังสือพิมพ์นานมากแล้ว 10 กว่าปี) คือ บันทึกความทรงจำของเทียม โชควัฒนา เคยเจอในงานหนังสือเหมือนกัน ลองไปเดินดูนะคะ คิดว่า ประมาณเดือนตุลาฯ นี้ น่าจะมีงานมหกรรมหนังสือแหละค่ะ ตอนต้นปีงานสัปดาห์ฯ ไปเดินก็ยังเห็นมีหลงๆ มาก ราคาไม่แพงด้วย
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2006, 23:45 โดย แอ่นแอ๊น »
|
บันทึกการเข้า
|
"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
|
|
|
ตลก
|
 |
« ตอบ #31 เมื่อ: 08-09-2006, 23:34 » |
|
นักคิด ส่วนมากก็จะคิดให้มันแหวกเข้า คิดได้ ก็ใช่ว่าคนคิดเค้าจะมองเห็นปัญหาที่เป็นอยู่ของทักสินตอนนี้เสมอไป ถ้าให้คิดผมก็คิดได้นะ หลายๆคนในบอร์ดนี้ก็คิดได้ แต่ความคิดมีหลายทาง อย่างผมคิด อ่ะ ทักสินเป็นผู้นำประเทศ รายได้เฉลี่ยของประชากรเพิ่มขึ้น น่าจะใช่ เพราะว่านี่มันก็เข้าข้ายทุนนิยม เจ้าของกิจการใหญ่ๆ รายได้เพิ่มขึ้น ตัวเลขสูงขึ้น แต่ในทางกลับกัน คนที่จน รายได้น้อย ก็จนลงๆๆ รายได้ลดลง สาเหตุเพราะว่า ข้าวของแพงขึ้น ผู้ประกอบการรายได้ดี แต่ผู้บริโภคต้องจ่ายในอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้น รายได้เพิ่มแน่ๆ ประชากรรวยขึ้นแน่ แต่ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ เพราะว่านี่คือจุดเด่นของทุนนิยม ปลาใหญ่กินปลาเล็ก แต่ตัวเลขที่นำเสนอส่วนมากเป็นตัวเลขรายรับทั้งนั้น นักคิดที่ จขกท ยกตัวอย่างมา เค้าได้ศึกษาอะไรในประเทศไทยลึกซึ้งหรือเปล่า หรือว่าค่ศึกษาลักษณะการทำงานของทักสิณแล้วพิจารณารายได้ต่อหัวแค่นั้น จะบอกให้ว่าผมไม่ได้รู้เรื่องหุ้น อะไรที่นักคิดคนนั้นรู้หรอกนะครับ แต่ว่าผมรู้ว่าคนที่ไม่ได้มาสัมผัสใกล้ชิดหรือศึกษาอย่างลึกซึ้ง อย่าได้มาพูดให้เป็นข่าวใหญ่โตเลย มันน่าเกลียด เพราะว่านายคนนั้นเค้าก็ไม่ได้มาใช้ชีวิตทุกระดับ แล้วการที่ตัดสินว่าการบริหารงานของทักสินจะทำให้ประชากรมีรายได้เพิ่มขึ้น เป็นการแสดงตรรกะที่ไม่มีความฉลาด เก่งแต่คิด แต่ไม่มีการวิเคราะห์
อ้อ แล้วคุณพรรณชมพู การใช้เหตุผลถกกัน ไม่ว่าผิดหรือถูก ย่อมดีกว่าแสดงความหยาบคายออกมานะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ผ่านฟ้าแล้วเลยไปนรกเลยรึเปล่าครับ......... กิ๊กบนเรือ บนเครื่องบิน กิ๊กบนรถ ทุกอาชีพกิ๊กกันหมดอนาคตจะเป็นไง?
|
|
|
ขุนพลน้อย
|
 |
« ตอบ #32 เมื่อ: 08-09-2006, 23:37 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
THX
|
 |
« ตอบ #33 เมื่อ: 08-09-2006, 23:41 » |
|
กูรูหรือกุลี ขี้ข้า สาวก ที่ชื่นชม ไหนว่าเกลียดพวกนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญไม่ใช่เหรอ ทำไมพอเค้ายอเข้าหน่อยรีบกระดิกหางรับเลยหล่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
somebody
|
 |
« ตอบ #34 เมื่อ: 08-09-2006, 23:48 » |
|
จะแก้ปัญหาความยากจน อย่าดูค่าเฉลี่ย ให้ดูการกระจายรายได้และการกระจายหนี้ภาคครัวเรือนว่าสมดุลกันหรือเปล่า? ตรงนี้ภายใต้ระบอบทักษิณที่ผ่านมาถือว่าบริหารแบบเอาเปรียบหลอกลวงรากหญ้าด้วยซ้าไป เพราะรากหญ้าส่วนน้อยที่มีฐานะดีขึ้น สังเกตได้จากหนีภาคครัวเรือนที่สูงขึ้น ดูที่อาจสามารถเป็นตัวอย่างก็ได้ ว่าโฆษณาแล้วได้ผลอะไรบ้าง?  อย่าใช้ความรู้สึก... เป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้ว คุณไม่สามารถทำให้ทุกคนมีฐานะเท่าเทียมกันได้หรอก มันฝืนธรรมชาติ และเป็นไปไม่ได้ คอมมิวนิสท์ยังล้มเหลวเลย ส่วนเรื่องหนี้สินภาคครัวเรือนสูงขึ้น เคยถกเถียงกันมาหลายรอบแล้ว มันแล้วแ่ตมุมมอง และการเลือกหยิบตัวเลข ขึ้นมาเพื่อดิสเครดิตกันหนี้สินภาคครัวเรือนเป็นตัวเลข ไม่ต่างจากจีดีพี ที่สำคัญ ไม่ใช่เกี่ยวกับมุมมอง ถึงให้กลับไปดูตรงๆที่อาจสามารถไง เข้าใจง่ายที่สุดแล้ว ..ไปดูก่อนแล้วค่อยมาคุย ว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง??
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Killer
|
 |
« ตอบ #35 เมื่อ: 08-09-2006, 23:50 » |
|
ุคุณตลก
ผมว่า ก่อนที่เขาจะมาทำการบรรยาย ก็คงต้องเตรียมทำการบ้านมาพอสมควรแล้ว
และผมก็เชื่อในเครดิตเขา คงไม่เอามาทิ้งไว้ที่เมืองไทยหรอกครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ตลก
|
 |
« ตอบ #36 เมื่อ: 09-09-2006, 00:01 » |
|
ถ้าการบ้านของเขาคือการศึกษาจากหนังสือหรือจากอะไรก็ตาม โดยที่ไม่ได้ลงพื้นที่ล่ะก็ ผมไม่คิดว่าความคิดของเขาจะใช้ได้ครอบคลุมกับเหตุกาณ์จริงๆนะครับ เชื่อผมสิ ผมเป็น น.ศ. ที่ต้องเดินทางตลอดนะครับ ผมทำงานด้วย เพื่อนผมที่ทำงานก็มี ที่เรียนก็มี พาร์ทไทม์บ้าง อะไรบ้าง หรือเพื่อนๆที่ทำงานบ้าง บางคนอายุไม่ใช่น้อยๆ ค่าแรงขั้นต่ำของเขา หักลบค่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าข้าว แล้วมันแทบจะไม่เหลือสักบาท แค่การที่เขาของออกมาบอกว่า ประชากรไทยรายได้เพิ่มขึ้น มันก็เป็นการดิสเครดิตตัวเองในตัวอยู่แล้ว เพราะว่า ทั้งที่จริงแล้ว ส่วนใหญ่มันไม่ใช่เลย ผมไม่เถียงว่าเพื่อนผม รายได้เพิ่มขึ้น มันเป็นอย่างนั้นจริงๆตามกฎค่าแรงขั้นต่ำ แต่ว่ารายจ่ายมันก็ตามมาเป็นหนักๆด้วยเหมือนกัน วึ่งแทบจะหักล้างกันไม่ได้เลย เมือปีที่แล้ว เดือนนี้แหล่ะ ผมนั่ง รถยูโรจากลาดพร้าวไปเวิรดเทรด ด้วยราคา13บาท แต่ว่าปีนี้เดือนนี้ผมนั่งรถแบบเดิมราคา 18 บาท ไหนจะขากลับอีก ค่าแรงเพิม่ขึ้นไม่ได้หมายความว่าผู้นำบริหารประเทศดีหรอกนะครับ แค่หัวเรื่องของนายนักคิดคนนี้ ก็บอกได้แล้วว่า เขาพลาดไปแล้วอย่างแรง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ผ่านฟ้าแล้วเลยไปนรกเลยรึเปล่าครับ......... กิ๊กบนเรือ บนเครื่องบิน กิ๊กบนรถ ทุกอาชีพกิ๊กกันหมดอนาคตจะเป็นไง?
|
|
|
Killer
|
 |
« ตอบ #37 เมื่อ: 09-09-2006, 00:10 » |
|
เขาอรรถาธิบายว่า "ถ้า" ดำเนินไปตามยุทธศาสตร์ จะนำไปสู่ ความสำเร็จดังว่ามา
ไม่ได้แปลว่าในปัจจุบันนี้มันบรรลุเป้าหมายไปแล้ว รัฐบาลเองก็ยังไม่ได้ดำเนินการอะไรครบถ้วนตาม กระบวนการแก้ไขปัญหาความยากจนเลย อุปสรรคมันเยอะ ขยับจะทำอะไรก็โดนกล่าวหาใส่รา้ยป้ายสี
ยิ่งประเด็นการบริหารทรัพยากรประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก็โดนโจมตีเสียแล้ว ด้วยข้อหา "ขายชาติ"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ตลก
|
 |
« ตอบ #38 เมื่อ: 09-09-2006, 00:14 » |
|
ผมเองก็เดินทางไปทุกที พอจะมองออกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วกับประเทศที่หลอกตัวเองว่าพัฒนาเรียบร้อยแล้วเป็นอย่างไร พอจะรู้มาบ้างว่า ค่าแรงเท่าไหร่ ค่าครองชีพเท่าไหร่มันถึงจะสมดุลกัน ผมบอกได้เลยว่า นายคนนี้พลาดแล้วล่ะ ที่แสดงความคิดออกมาแบบนี้ ประชากร ไม่ถึง60เปอรืเซ็นต์ล่ะมั้งของประเทศนี้ที่มีอันกินชนิดที่ว่าค่าของอะไรขึ้นก้ไม่สะเทือนเลย ซึงคนกลุ่มนี้ เอามาวัดกับคำว่าประชากร ไม่ได้หรอกครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ผ่านฟ้าแล้วเลยไปนรกเลยรึเปล่าครับ......... กิ๊กบนเรือ บนเครื่องบิน กิ๊กบนรถ ทุกอาชีพกิ๊กกันหมดอนาคตจะเป็นไง?
|
|
|
ภัทร
|
 |
« ตอบ #39 เมื่อ: 09-09-2006, 00:16 » |
|
ถ้าการบ้านของเขาคือการศึกษาจากหนังสือหรือจากอะไรก็ตาม โดยที่ไม่ได้ลงพื้นที่ล่ะก็ ผมไม่คิดว่าความคิดของเขาจะใช้ได้ครอบคลุมกับเหตุกาณ์จริงๆนะครับ เชื่อผมสิ ผมเป็น น.ศ. ที่ต้องเดินทางตลอดนะครับ ผมทำงานด้วย เพื่อนผมที่ทำงานก็มี ที่เรียนก็มี พาร์ทไทม์บ้าง อะไรบ้าง หรือเพื่อนๆที่ทำงานบ้าง บางคนอายุไม่ใช่น้อยๆ ค่าแรงขั้นต่ำของเขา หักลบค่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าข้าว แล้วมันแทบจะไม่เหลือสักบาท แค่การที่เขาของออกมาบอกว่า ประชากรไทยรายได้เพิ่มขึ้น มันก็เป็นการดิสเครดิตตัวเองในตัวอยู่แล้ว เพราะว่า ทั้งที่จริงแล้ว ส่วนใหญ่มันไม่ใช่เลย ผมไม่เถียงว่าเพื่อนผม รายได้เพิ่มขึ้น มันเป็นอย่างนั้นจริงๆตามกฎค่าแรงขั้นต่ำ แต่ว่ารายจ่ายมันก็ตามมาเป็นหนักๆด้วยเหมือนกัน วึ่งแทบจะหักล้างกันไม่ได้เลย เมือปีที่แล้ว เดือนนี้แหล่ะ ผมนั่ง รถยูโรจากลาดพร้าวไปเวิรดเทรด ด้วยราคา13บาท แต่ว่าปีนี้เดือนนี้ผมนั่งรถแบบเดิมราคา 18 บาท ไหนจะขากลับอีก ค่าแรงเพิม่ขึ้นไม่ได้หมายความว่าผู้นำบริหารประเทศดีหรอกนะครับ แค่หัวเรื่องของนายนักคิดคนนี้ ก็บอกได้แล้วว่า เขาพลาดไปแล้วอย่างแรง
ถ้าสุ่มเป็นรายบุคคลเพื่อหาการเพิ่มขึ้นของรายได้ มันก็ยากที่จะตัดสินนะครับ เพราะว่าการจะบอกว่าในที่สุดแล้ว แต่ละเดือนมีเงินเหลือเท่าไหร่ พอหรือไม่ มันก็ต้องมองไปที่ lifestyle การดำรงชีพของคนคนนั้นด้วย เพราะถ้ามีความต้องการอะไนที่มากขึ้นกว่าแต่ก่อน แน่นอนว่ารายได้ก็จะไม่พอกับรายจ่าย เป็นธรรมดา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
พวกเราต้องได้รู้ความจริงความเป็นไปทั้ง 2 ด้าน ไม่ใช่แค่จากสื่อเพียงด้านเดียวเท่านั้น http://www.geocities.com/morrowind2545/Politics/Map.pdfแค่ขอให้ลองอ่านดู แต่อย่าพึ่งเชื่อ ให้พิจารณาด้วยตนเองก่อน แล้ววิเคราะห์ตามไปด้วย จากนั้นถ้ารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ก็ช่วยๆกันน้ำไฟล์ map.pdf นี้ เผยแพร่ไปเรื่อยๆเพื่อให้เพื่อนๆทุกท่านได้อ่านกันอย่างทั่วถึง ขอบคุณครับ
|
|
|
คาคาชิ
|
 |
« ตอบ #40 เมื่อ: 09-09-2006, 00:16 » |
|
โอ้ว เย่
นักวิชาการ โดนชื่นชม แล้วครับ แต่เป็นนักวิชาการ ญี่ปุ่นครับ
คนไทย ยังต้องรออีกหน่อย
ลองเลียดูสิครับ จะได้รับคำชื่นชมอย่างแน่นอน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ภัทร
|
 |
« ตอบ #41 เมื่อ: 09-09-2006, 00:20 » |
|
และการพัฒนา ไม่ใช่ว่าอยุ่ดีดีแค่ 5-6 ปี เราจะก้าวไปเป็นประเทศพัฒนาแล้วได้ทันทีมีรายได้ต่อหัวเกิน 26,000 dolllars ต่อปีได้ปั๊ป มันต้องไปตาม step ของมันครับ ต้องใช้เวลาในการสร้าง ในการพัฒนา เพื่อแพร่กระจาย ผมว่าเรื่องนี้เราน่าจะทราบกันได้นะว่ามันต้องใช้เวลา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
พวกเราต้องได้รู้ความจริงความเป็นไปทั้ง 2 ด้าน ไม่ใช่แค่จากสื่อเพียงด้านเดียวเท่านั้น http://www.geocities.com/morrowind2545/Politics/Map.pdfแค่ขอให้ลองอ่านดู แต่อย่าพึ่งเชื่อ ให้พิจารณาด้วยตนเองก่อน แล้ววิเคราะห์ตามไปด้วย จากนั้นถ้ารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ก็ช่วยๆกันน้ำไฟล์ map.pdf นี้ เผยแพร่ไปเรื่อยๆเพื่อให้เพื่อนๆทุกท่านได้อ่านกันอย่างทั่วถึง ขอบคุณครับ
|
|
|
z e a z
|
 |
« ตอบ #42 เมื่อ: 09-09-2006, 00:34 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ตาย่าน
|
 |
« ตอบ #43 เมื่อ: 09-09-2006, 00:39 » |
|
นอกจากนายเคนอิชิ โอมาเอะแล้ว สุดยอดปรมาจารย์กูรูนายโนะฮาร่า ชินโนะซึเกะ ร่วมด้วยนายโนบิ โนบิตะ ก็ยังชื่นชมวิธีการบริหารของอ้ายเหลี่ยมด้วย ข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจทั้งหมดที่ใช้ตัดสินได้รับมาจากรัฐบาลทรราชย์แห่งประเทศไทย มิได้ใช้ความรู้สึกสมเพชมาตัดสินความริยำใดๆทั้งสิ้น ถุยส์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไม่อยากสมานฉันท์กับคนชั่ว
|
 |
« ตอบ #44 เมื่อ: 09-09-2006, 00:44 » |
|
 อ้ะ ถ้างั้นนโยบายอันหรูเลิศอภิมหาอลังการทั้งหลายของทักษิณ ใครมาเป็นรัฐบาลก็ควรต่อยอดใช่มั้ย ถ้าต่อยอดแล้วบ้านเมืองเจริญ ก็ไม่ควรจะไปกระแนะกระแหนใครเขาว่าลอกโพยใช่มั้ย เพราะโลกนี้ไม่ได้มีทักษิณคิดเป็นคนเดียว ใครอยากจะชื่นชมเฉพาะความดีก็ตามใจ ผมเลือกปฏิเสธความเลว พฤติกรรมที่ส่อนิสัยไม่ดีหลายๆอย่างของทักษิณ ผมปฏิเสธไม่เอาอีกแล้ว ส่วนนโยบายดีๆ ก็ให้คนอื่นไปต่อยอดซิ สมคิดก็ได้อยู่ ไม่เห็นต้องไปยึดติดที่ตัวทักษิณเลย  ว่าแต่ว่า เป็นกูรูมาจากต่างถิ่น จะสัมผัสทักษิณได้รอบด้านเหมือนคนไทยรึป่าว?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
z e a z
|
 |
« ตอบ #45 เมื่อ: 09-09-2006, 00:45 » |
|
ไม่เห็นพูดถึง อัตราเงินเฟ้อ กับ อัตราดอกเบี้ยเลย ? ญี่ปุ่นไม่ใช่พ่อเฟ้ย ....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพนกวินน้อยนักอ่าน
|
 |
« ตอบ #46 เมื่อ: 09-09-2006, 01:09 » |
|
 พวกกลุ่มสนับสนุนการปล้นชาตินี่เอง นักคิดจากญี่ปุ่นทำไม ถึงมองว่าสิ่งที่ทักษิณทำเป็นการบริหารมาถูกทางแล้ว หลายคนได้เฉลียวใจหรือไม่ว่าการเพิ่มรายได้ประชากรต่อหัวนั้น ฟังดูเยอะ แต่ไทยมีการกระจายรายได้ที่เป็นธรรมไหมครับ คนจนมีเงินน้อยกว่าคนรวยกี่เท่าครับ การที่เดินตามทางทักษิณ คนรวยก็ยิ่งรวยขึ้น คนที่อยู่ต่ำกว่าคนรวยก็ต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อให้คนรวยสบายขึ้น คนจนก็มีพอให้ไม่ออกมาทักท้วง ถูกหล่อเลี้ยงด้วยเศษเงิน เป็นทุนนิยมโดยสมบูรณ์ ผมไม่เห็นโอเมาเอะ เขียนตรงไหน การันตีว่าคนจนจะหมดจากประเทศไทย มีแต่พวกบ้าทักษิณ ที่มันก็คงมีผลประโยชน์แอบแฝงกันนั่นล่ะ พยายามบอกว่า ทักษิณ ถูก เพราะพวกมันจะได้หากินง่ายๆ พวกสนับสนุนการปล้นชาติแบบนี้ เอาบทความไหนมาก็มีเจตนาแอบแฝงทั้งนั้น โอมาเอะ อยากให้ไทยเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ด้วยสายตาคนข้างนอก เพราะเห็นว่ามันถูกกับจริต นักการตลาดอย่างเขา แต่โอมาเอะ ไม่ได้สนใจว่าประเทศไทยจะรุ่งเรืองดีงามขนาดไหน และมีผลกระทบเลวร้ายจากการดำเนินการของทักษิณ แค่ไหน เพราะยังไง เขาก็เป็นคนญี่ปุ่น และเป็นนักการตลาดทุนนิยม ซึ่งต้องการแสวงหาตลาดใหม่ๆ ที่มีความน่าลงทุน เนื่องจากมองโลกทั้งโลกเป็นตลาด คำว่าประเทศไทย กับ คำว่าตลาดหนึ่งตลาด สำหรับเขาอาจจะไม่แตกต่างกันเลย นี่ยังไม่รวมว่า เขาไม่ได้พูดถึง good governance เลย ซึ่งทักษิณไม่มี ถ้าทำทุกอย่างที่โอมาเอะชอบ แต่ปล่อยให้มีการโกงแหลก มันจะเรียกว่าบริหารดีได้ยังไง 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ภัทร
|
 |
« ตอบ #47 เมื่อ: 09-09-2006, 01:10 » |
|
จะบอกให้อย่างว่า เศรษฐกิจไทยที่เป็นอยู่นี่ ถือว่าฝ่าฟันไปได้สวยมากกว่าที่พวกเราคิดไว้มากแล้วนะครับภายใต้รัฐบาลชุดนี้ ผมจะอธิบายความเห็นของผม เพราะว่าเศรษฐกิจโลกที่ต่างประเทศมากมายที่ประสบปัญหากันหนัก
1) ที่ยุโรป โดยเฉพาะยุโรปตะวันตก อัตราการว่างงานถีบตัวสูงขึ้นมากมาย บางประเทศขึ้นไปที่ 6-8% เมื่อเทียบกับประเทศไทยที่อัตราการว่างงานลดลงมาจนเหลือแค่ 1.4% ถือว่าต่ำเป็นอันดับต้นๆของโลก ในขณะที่การปั่นราคาน้ำมันจากบางประเทศเพื่อชะลอการเจริญเติบโตของประเทศจีน ส่งผลกระทบมามากมายถึงประเทศเรา
2) แต่ GDP ของไทยก็ยังไปได้ที่ 4% กว่า (ข้อมูลจาก CIA) ในขณะที่ GDP ของยุโรปคือ 1%
3) อัตราการส่งออกของไทย ที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่มีการตั้งประเทศขึ้นมา ผลพวกมาจากการสนับสนุนการส่งออกของรัฐบาลไทย ในเปิดตลาดใหม่ๆ ยกตัวอย่างเช่นที่แอฟริกา อย่างไนจีเรีย ที่เราแทบไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางการค้ามาก่อน แต่ทรท. ได้ส่งผู้แทนไปเจรจาได้จึงเปิดตลาดใหม่ เช่นการสนับสนุนการลงทุนด้านร้านอาหารไทย และนำเข้าวัตถุดิบจากไทย และด้านอุตสาหกรรมอัญมณีจนมีการค้าเกิดขึ้นมา และประเทศอื่นๆ และจะมีการเพิ่มเที่ยวบินเพื่อเปิดประตูการค้าโดยผ่านสุวรรณภูมิมากขึ้นไปอีก และยังเป็นเพราะผลพลอยได้จากโครงการ Otop ที่ช่วยกระตุ้นตรงส่วนนี้ได้เป็นอย่างมาก เป็นการหาเงินเข้าประเทศได้เป็นอย่างดี
4) อัตราการเจริญเติบโตทางอุตสาหกรรมที่ประมาณ 7.8% เป็นการขยายตัวในระดับต้นๆของโลก
5) ประเทศไทยมีอัตราเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่สูงขึ้นอย่างมากเป็นประวัติการณ์ มีใครเคยทราบตรงจุดนี้บ้าง !? ประเทศอังกฤษในตอนนี้ ยังมีเงินทุนสำรองน้อยกว่าประเทศไทยเสียอีก, ขนาดเจ้าของห้างแฮรอด์ยังต้องบริจาคช่วยรัฐบาลประเทศอังกฤษ ส่วนที่อิตาลีนั้นมีหนีสินสาธารณะในขั้นอันตรายจนถึงขนาดธนาการกลางยุโรปต้องประกาศให้ทางรัฐบาลประเทศอิตาลีแก้ไขเรื่องนี้โดยเร่งด่วน
6) เรื่องหนี้สินสาธารณะของประชาชน เป็นผลเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มากขึ้น และเป็นการหมุนเวียนในระบบ ถ้าอยากอ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมผมจะไปนำมาให้
*******************************
ทั้งหมดจะเห็นได้ว่า ที่ผ่านมาการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจของไทยถือว่าไปได้ดีมากๆแล้ว ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่แย่ขนาดนี้ การเปิดตัวของสนามบินแห่งใหม่จะช่วยขับดันเศรษฐกิจไปได้มากกว่านี้อีกพอสมควร เพราะหลายๆสายการบินได้เพิ่มเที่ยวบินมาลงที่ไทยเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าตัวทีเดียว และมีการเปิดเส้นทางบินใหม่ๆทั้งบินตรงและอื่นๆเพิ่มขึ้นอีกมาก
ถ้าเรามานั่งคิดกันตลอดว่า ทักษินเป็นคนโกงทุกๆอย่างจนหมด หรือว่าปล้นชาติ ขายสมบัติชาติแบบที่เค้าว่ากัน ป่านนี้เงินทุนสำรองมันหมดประเทศไปนานแล้วละครับ การขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในภาวะการปั่นน้ำมันแบบนี้ คงกลายเป็น 0% ไปเรียบร้อยแล้ว ผู้คนคงตกงานกันเกิน 10%. ขอฝากความเห็นไว้ความเห็นหนึ้งครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-09-2006, 01:18 โดย ภัทร »
|
บันทึกการเข้า
|
พวกเราต้องได้รู้ความจริงความเป็นไปทั้ง 2 ด้าน ไม่ใช่แค่จากสื่อเพียงด้านเดียวเท่านั้น http://www.geocities.com/morrowind2545/Politics/Map.pdfแค่ขอให้ลองอ่านดู แต่อย่าพึ่งเชื่อ ให้พิจารณาด้วยตนเองก่อน แล้ววิเคราะห์ตามไปด้วย จากนั้นถ้ารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ก็ช่วยๆกันน้ำไฟล์ map.pdf นี้ เผยแพร่ไปเรื่อยๆเพื่อให้เพื่อนๆทุกท่านได้อ่านกันอย่างทั่วถึง ขอบคุณครับ
|
|
|
AsianNeocon
|
 |
« ตอบ #48 เมื่อ: 09-09-2006, 01:20 » |
|
3) อัตราการส่งออกของไทย ที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่มีการตั้งประเทศขึ้นมา ผลพวกมาจากการสนับสนุนการส่งออกของรัฐบาลไทย ในเปิดตลาดใหม่ๆ ยกตัวอย่างเช่นที่แอฟริกา อย่างไนจีเรีย ที่เราแทบไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางการค้ามาก่อน แต่ทรท. ได้ส่งผู้แทนไปเจรจาได้เปิดตลาดใหม่เช่นการสนับสนุนการลงทุนด้านร้านอาหารไทย และนำเข้าวัตถุดิบจากไทย และด้านอุตสาหกรรมอัญมณีจนมีการค้าเกิดขึ้นมา และจะมีการเพิ่มเที่ยวบินเพื่อเปิดประตู่การค้าโดยผ่านสุวรรณภูมิมากขึ้นไปอีก
คุณภัทร คงจะเก่งแต่ในเว็บครับ ไปพูดกับผู้ส่งออกตัวจริง มีหวังได้หัวเราะตกเก้าอี้ ว่าไอ้จำอวดนี่มาจากหลุมไหน ทุกวันนี้ผู้ส่งออกทุกคนทำได้ขนาดนี้เพราะพึ่งตัวเองกันทั้งนั้น ขืนรอรัฐบาลโกงชาติแบบนี้มาช่วยคงเจ๊งระเนระนาดไปหมดแล้ว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอัญมณีนี่ กระทบเต็มๆจากบาทแข็งเพราะเงินร้อนไหลเข้า ตกลงราคาไว้ที่เท่านั้นเหรียญ ในค่าเงินบาทจำนวนเท่านั้น ดูแล้วมีกำไร ทำให้ประสบปัญหาได้เงินรับกลับมาถูกกฎเกณฑ์แลกกลับแล้วขาดทุนค่าเงินบาท แต่ต้นทางกลับเผชิญกับค่าวัตถุดิบพุ่งๆจาก hedge fund ที่หนีจากตลาดน้ำมันมาเก็งในโลหะ ราคาพุ่งพรวดๆ 20-30% ภายใน 2 เดือน เวลานี้ hedge fund ที่เข้ามาเก็งกำไรใน commodities ต่างๆทั่วโลก มีปริมาณจะใหญ่กว่าเศรษฐกิจจริงไปแล้ว มันเป็นเรื่องของฟองสบู่ตอนนี้
(เพิ่มทีหลัง) อ้อ ผมลืมเล่าไป ไม่ใช่เฉพาะอัญมณีหรอกนะ พวกผลิตกระเป๋าก็ใช่ บางคนที่มีลู่ทาง ก็หนีตายไปเมืองจีนกันหมดแล้ว แล้วถามว่าเมืองไทยมีอุตสาหกรรมอะไรที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้มากกว่า มาทดแทนได้ไหม ถ้าไม่พึ่งการลงทุนจากต่างชาติอย่างเดียวและยังเป็นเพราะผลพลอยได้จากโครงการ Otop ที่ช่วยกระตุ้นตรงส่วนนี้ได้เป็นอย่างมาก เป็นการหาเงินเข้าประเทศได้เป็นอย่างดี นี่ก็ตลกครับ ตัวเลข OTOP เวลานี้ที่คุยว่ามียอด 1 แสนล้านน่ะ เป็นการไปย้ายตัวเลขมาจากเจ้าที่ผลิตของเดิมเป็นมืออาชีพอยู่แล้ว นับรวมเป็น OTOP ด้วย ส่วน OTOP ตัวจริงที่เป็นชาวบ้านหมู่บ้านเดี้ยงไปนานแล้ว
ที่คณะของนายอดิศัย โพธารามิก เคยยกคณะใหญ่เบ้อเร่อไปอเมริกา ประชุม teleconference 8 เมืองทั่วอเมริกาเหนือนั่นน่ะ ผมเห็นเบื้องหลังกะตา แล้วไปร่วมประชุมกับมันด้วย อยากจะขำกลิ้ง ผลาญเงินไม่รู้เท่าไรคณะเดินทางนั่นน่ะ โครงการตลกครับ5) ประเทศไทยมีอัตราเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่สูงขึ้นอย่างมากเป็นประวัติการณ์ นี่ก็น่าหัวเราะอีกครับ คนที่พูดแบบนี้ได้แปลว่าไม่รู้ที่ไปที่มาของทุนสำรองระหว่างประเทศว่า ที่มาที่มาที่ไปมีอะไรบ้าง ทุนสำรองที่เยอะๆตอนนี้น่าดีใจจริงเหรอ คุณโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ พูดแล้วพูดอีก ไม่รู้กี่รอบแล้วว่า แค่เงินร้อนไหลเข้ามาเก็งกำไรในสินทรัพย์แค่นี้ก็ทำให้ทุนสำรองเพิ่มขึ้นได้แล้ว แกบอกว่า ถ้าทุนสำรองที่เพิ่มขึ้นเป็นการเพิ่มขึ้นที่แข็งแรงจริงๆ ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยจะต้องเกินดุลในปริมาณที่มากๆ ไม่ใช่ 2 เดือนขาดดุล อีก 2 เดือนเกินดุล แบบนี้แปลว่าไม่ใช่การเพิ่มขึ้นที่แข็งแรงแน่นอน
เวลานี้จีนมองดูทุนสำรองตัวเอง โตเอาๆ นายหูจิ่นเทากับเวินเจียเป่า ไม่เห็นออกมาคุยโตเลย มีแต่แสดงความเป็นห่วง แล้วปีนี้ที่เศรษฐกิจเขาโตแบบ 10% เขาแสดงความวิตก ไม่ได้ออกมาคุยโม้โอ้อวดแบบรัฐบาลโจรบ้านเรา
รัฐบาลโจร คงหลอกได้แต่คุณภัทร กับควายเท่านั้นครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-09-2006, 01:57 โดย ThaiTruth »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ภัทร
|
 |
« ตอบ #49 เมื่อ: 09-09-2006, 01:30 » |
|
ลองคิดดูครับ
ถ้าคุณบอกว่า ที่การส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์นั้น ทั้งหมดเป็นเพราะผู้ส่งออกพึ่งตนเองทั้งนั้น ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลเลย
ถ้างั้นผมขอถามคุณ 1 คำถามครับว่า แล้วที่ผ่านๆมาเมื่อก่อนหน้านี้เป็น 10-40 ปีก่อนหน้าทรท. ทำไมการส่งออกถึงไม่ได้โตเท่านี้ละ !? จะบอกว่าเป็นเพราะผู้ส่งออกพึ่งจะรู้จักการพึ่งตนเอง !?
ป.ล. ช่วยงดการ offend เรื่องส่วนตัวนะครับ ขอให้พูดคุยกันแต่หัวข้อสนทนาเท่านั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
พวกเราต้องได้รู้ความจริงความเป็นไปทั้ง 2 ด้าน ไม่ใช่แค่จากสื่อเพียงด้านเดียวเท่านั้น http://www.geocities.com/morrowind2545/Politics/Map.pdfแค่ขอให้ลองอ่านดู แต่อย่าพึ่งเชื่อ ให้พิจารณาด้วยตนเองก่อน แล้ววิเคราะห์ตามไปด้วย จากนั้นถ้ารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ก็ช่วยๆกันน้ำไฟล์ map.pdf นี้ เผยแพร่ไปเรื่อยๆเพื่อให้เพื่อนๆทุกท่านได้อ่านกันอย่างทั่วถึง ขอบคุณครับ
|
|
|
|