เปลวสีเงิน ไทยโพสต์http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=8/Sep/2549&news_id=129816&cat_id=200ก่อนปลายกันยา....จะมาเยือน 8 กันยายน 2549 กองบรรณาธิการ
ความเคลื่อนไหวของคนในสังคมไทยวันนี้ มีคนบอกว่า
"เหมือนมดได้กลิ่นฝน" พูดอย่างนี้ท่านคงนึกภาพออกนะครับ คือวันไหนถ้าเราเห็นมดคาบไข่แล้วชักแถวเรียงหนึ่งขึ้นที่สูงแล้วละก็
อีกไม่นาน..
น้ำลด-มดกินปลา, น้ำมา-ฟ้ากินมด! แต่คน-ไม่ใช่มด จะคาบอะไรหนีขึ้นที่สูงผมก็ไม่ทราบ ทราบแต่ว่าตอนนี้ไม่ว่าหันไปทางไหน ล้วนเขม็งเกร็งเกลียวกันไปซะทั้งนั้น
กระทั่งสื่อ ก็ยังมีการแยกชั้น-วรรณะไปถึงขั้น "สื่อแท้-สื่อเทียม" ถึงขนาด ๓ องค์กรสื่อต้องออกแถลงการณ์แจกแจงสายพันธุ์แต่ผมว่า "สื่อเทียม" ไม่น่ากลัวหรอก
"สื่อแท้-แต่อีแอบ" นี่ซี มันแสบยิ่งกว่าซีม่าโลชั่น!พูดถึง "สื่อ" ตอนนี้น่าสนใจนะครับ เพราะดวงดาวเข้าเขต "สงครามในสื่อ-สื่อในสงคราม" นี่ได้ข่าวว่านักข่าวสายทำเนียบรัฐบาล กับรัฐบาลกำลัง "ซดเกาเหลา" กัน
ก็ด้วยเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยนายกฯ นั่นแหละ นอกจากฝ่ายทำเนียบฯ จะนำด้ายแดงมาวงรอบเป็นสายสิญจน์กั้นอาณาเขตระหว่าง "นายกฯ-นักข่าว" แล้ว
การตรวจตรานักข่าว และรถนักข่าวที่จะเข้าไปทำข่าวในบริเวณทำเนียบฯ ยัง "เฮี้ยบ" ขนาดหนัก จนถึงขั้นนักข่าวต้องทำหนังสือไปถึงปลัดสำนักนายกฯ "พล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปรมภูติ" เพื่อปรับฐานทัศนวิสัยในการทำงานร่วมกันให้สมานฉันท์ขึ้นกว่าเดิมซักหน่อย
ถ้าเป็นผมนะครับ ไม่ทำหนังสือไปให้เมื่อยตุ้มหรอก ในเมื่อมันไม่อยากให้เข้าไปทำข่าว องค์กรสื่อก็ประชุมลงมติกันซีครับ
ตบเท้า "หยุดทำข่าว" ในทำเนียบฯ ทั้งหมด
และหยุดลงข่าวที่เกี่ยวกับ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ที่ฝ่ายรัฐบาลต้องการเผยแพร่ทั้งหมด
เสนอข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ เฉพาะในส่วนที่แต่ละสื่อไปติดตามข่าวมาเองเท่านั้น
จะได้สะใจ ๒ หนุ่มดอยเต่าเขา ผมกลัวแต่ว่า ลงท้ายก็จะต้องมาตะกายข้างฝาฟ้องชาวบ้านว่า
"เจ้าข้าเอ๊ย..นายกฯ ถูกสื่อรังแก เสนอแต่ข่าวด้านเดียว"
สมัยผมเป็นนักข่าวอยู่ "พิมพ์ไทย" ที่ตั้งอยู่สามเหลี่ยมดินแดง ในยุครัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจร ดูเหมือนว่าประธานาธิบดีนิกสันมาเยือนไทย ปรากฏว่าการรักษาความปลอดภัยของสหรัฐฯ ไม่เอื้อต่อการทำงานของสื่อเลย
ผมจำได้ว่าองค์กรสื่อหนังสือพิมพ์ของไทย ลงมติบอยคอตต์ ไม่นำเสนอข่าวการมาเยือนไทยของนิกสัน จนกว่าจะเดินทางกลับไปจากประเทศไทย
มันต้องเจออย่างนี้ซะมั่ง จะได้สำนึก!
แต่ผมอยากบอกเพื่อนๆ สื่อตอนนี้ว่า อย่าไปประสาทแดกกับวงล้อมสายสิญจน์แดงของไอ้ภูตผีปิศาจนั่นเลย ออมแรงไว้ดีกว่าเพราะมีแนวโน้มว่า
อีกไม่กี่วันคงต้องเหนื่อยแรงกับข่าวใหญ่ สายสิญจน์แดง..ไม่มีความหมายอะไรหรอก!
บรรยากาศบ้านเมืองอย่างนี้ ไม่มีอะไรดีกว่าทำใจว่าง แล้วเติมบุญ-เติมทานลงไป เชื่อผมเถอะ
****ขออนุญาต ตัดทอน ช่วงล่างต่อไปนี้เพราะมิใช่ประเด็นที่อยากสื่อนะคับ ***
เป็นเพียงรายชื่อผู้ร่วมทำบุญของผู้เขียนคอลัมน์คับ