ลาดกระบังชี้ 2 อาคารเรียนสุดเสี่ยง ยันเปิดใช้สุวรรณภูมิ 15 ก.ย. ผิดกฎการบิน โดย ผู้จัดการออนไลน์ 6 กันยายน 2549 17:54 น.
ลาดกระบัง ระบุ 2 อาคารเรียนสูงเกินมาตรฐานขัดกฎการบิน หากเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ ถือว่าผิดกฎหมายทันที ขู่เคลื่อนไหวครั้งใหญ่ 15 ก.ย.นี้ หาก ทอท.ยังนิ่งเฉยไม่อนุมัติงบฯ ปรับปรุงอาคาร เผยนักศึกษาเคยจะเดินขบวนประท้วงแต่สถาบันได้ขอไว้ จากนี้แม้ สจล.จะไม่อนุญาต นศ.และประชาชนใกล้เคียงรวมพลแน่
วันนี้ (6 ก.ย.) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดแถลงข่าวเรื่องการแก้ไขปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากสนามบินสุวรรณภูมิ ที่มีต่อสถาบันฯ ซึ่งดำเนินการเรียกร้องมากว่า 10 ปี ยังไม่มีคำตอบจากผู้รับผิดชอบของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
รศ.ศิริวัฒน์ โพธิเวชกุล ประธานคณะกรรมการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมของ สจล. กล่าวว่า ผลกระทบที่เกิดจากการก่อสร้างและเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งในเรื่องนี้ทางสถาบันฯได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการแก้ปัญหาผลกระทบทั้งในส่วนของสถาบันฯ และชุมชนใกล้เคียง ผลกระทบที่เกิดขึ้นอันดับแรก คือ เรื่องมลภาวะทางเสียง ที่มีความดังมากกว่า NEF35 ความสั่นสะเทือนที่มีต่ออาคารเรียน ปริมาณการจราจร อุทกวิทยา คุณภาพน้ำในแม่น้ำลำคลองสาธารณะ คุณภาพอากาศ ซึ่งที่ผ่านมา สจล.ได้ดำเนินการอย่างสันติวิธีมาโดยตลอด ทั้งการนำเรื่องเข้าพบนายกรัฐมนตรี หรือทุกฝ่ายที่มีความเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าว และมีการประชุมร่วมกับผู้ว่าการการท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการจนถึงปัจจุบันกินเวลากว่า 10 ปี ผ่านรัฐบาลมาหลายชุด
“ผลการดำเนินการที่ผ่านมา พบว่า ไม่ได้มีผลในทางปฏิบัติอย่างจริงจัง กระทั่งสนามบินจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในวันที่ 15 กันยายนนี้ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ มีมติให้ดูแลผลกระทบก่อนที่จะมีการเปิดใช้สนามบิน ซึ่งสถาบันฯ ได้ออกแบบและนำเสนองบประมาณเบื้องต้นทั้งหมดเพื่อนำมาปรับปรุงอาคารเรียน ซึ่งมีอยู่สองอาคารที่ถือว่าเป็นอาคารสูงกีดขวางการบิน ต้องติดไฟกะพริบและทาสีใหม่ ในส่วนของอาคารหลังอื่นก็ต้องมีการปรับปรุงเช่นกัน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เป็นคนสั่งการให้ ทอท.แก้ไขปัญหามานานนี้มานานแล้ว โดยในขั้นต้นให้อนุมัติงบประมาณเป็นเงิน 214 ล้านบาท แต่กระทั่งปัจจุบันล่วงเลยมาเป็นเวลากว่าครึ่งปีทาง ทอท.ก็ยังไม่ได้ดำเนินการแต่อย่างใด”
รศ.ศิริวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า สจล.ขอเรียกร้องให้ ทอท.ดำเนินการในการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนที่สุดดังนี้ 1.เรียกร้องให้อนุมัติงบประมาณเร่งด่วน ในการป้องกันเสียงสำหรับอาคารเรียนที่อยู่ในแนวเส้นเสียงตั้งแต่ 30-35NFE ซึ่งมีอาคารที่ต้องปรับปรุงเบื้องต้น 22 อาคาร ในวงเงิน 214 ล้านบาท 2.งบประมาณในการติดตั้งไฟสว่างของอาคารเรียนรวม 12 ชั้น ซึ่งเป็นอาคารที่มีความสูงเกินมาตรฐาน ในเขตปลอดภัยทางเดินอากาศ จำนวน 4 ล้านบาท 3.ทอท.จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดตั้งงบประมาณผูกพันในส่วนที่เหลือรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,021.7 ล้านบาท ให้กับ สจล.และ ทอท.จะต้องติดตามผลกระทบที่ สจล.จะได้รับ โดยเฉพาะเรื่องเสียงให้ศึกษาแนวเส้นเสียง NEF ใหม่ และให้ใช้แผนการบินในสถานการณ์ที่ ทอท.ใช้ตลอด 1 ปี มาคำนวณ
4.ทอท.ต้องมีความชัดเจนของผู้ที่จะรับผิดชอบในการติดตามตรวจสอบและเฝ้าระวังระดับเสียงและความสั่นสะเทือน เพื่อไม่ให้เกินมาตรฐาน 5.ทอท.ต้องติดตั้งสถานีตรวจวัดสภาวะแวดล้อมแบบอัตโนมัติ เพื่อเฝ้าระวังผลกระทบคุณภาพอากาศในระยะยาว 6.ขอให้ผู้เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาการจราจรทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทั้ง สจล.และชุมชนเป็นอย่างมาก 7.เรียกร้องให้ ทอท.แก้ไขผลกระทบเมื่อสนามบินสุวรรณภูมิเปิดให้บริการ โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีแรก ควรมีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การแก้ปัญหาให้แก่บุคลากร สจล และชุมชนใกล้เคียงได้รับทราบเป็นระยะๆ อย่างทั่วถึง
8.ข้อเรียกร้องทั้งหมดนี้เป็นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (กทภ.) รมว.กระทรวงคมนาคม รมว.กระทรวงศึกษาธิการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ทอท. คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ได้ดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องนี้โดยด่วน
“ ปัจจุบันสนามบินใช้เครื่องบิน F16 เพื่อไล่นกทุกวัน ซึ่งพอมีปัญหาเรื่องรันเวย์อย่างนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการแก้ไข อยากสร้างก็สร้าง หาก ทอท.ยังยืนยันจะเปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ในวันที่ 15 กันยายนนี้ ก็แสดงว่าฝ่าฝืนและผิดกฎหมาย เพราะมีตึกของ สจล.2 ตึกที่สูงกว่ามาตรฐานถือว่ากีดขวางการบิน ซึ่งจะส่งผลกระทบทั้งนักบินและผู้ที่อาศัยอยู่ในตัวอาคาร
อีกทั้ง ICAO ซึ่งเป็นองค์กรการบินระหว่างประเทศ ยังไม่ได้รับรองให้มีการเปิดใช้สนามบิน เพื่อการบิน และการปรับปรุงอาคารในเบื้องต้นด้วยการติดไฟกะพริบที่ตัวตึกนั้น ก็เหมือนเป็นการเตือนนักบินและต้องเปิดทั้งวัน ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเกิดเหตุการณ์เหมือน 11 กันยายน ที่สหรัฐอเมริกา” ประธานคณะกรรมการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม สจล.กล่าวอีกว่าหลังจากนี้ หาก ทอท.ยังไม่แก้ปัญหาตามข้อเรียกร้องของ สจล.ในวันที่ 15 กันยายน นี้ สจล.จะมีการเคลื่อนไหวอีกครั้งหนึ่ง แต่จะเป็นในรูปแบบใดนั้นต้องคอยติดตามกันต่อไป เพราะ สจล.เข้าใจมาเสมอว่าการเรียกร้องด้วยการดำเนินการอย่างสันติวิธีในเชิงวิชาการนั้น เป็นสิ่งที่ถูกแต่เมื่อวิธีดังกล่าวใช้ไม่ได้ผล คงต้องมีการดำเนินการด้วยวิธีอื่น ซึ่งในส่วนของนักศึกษานั้นได้เคยมาปรึกษาว่าจะมีการเดินขบวนประท้วงแต่สถาบันฯได้ห้ามไว้ แต่หลังจากนี้ ทาง สจล.ไม่ได้อนุญาต แต่เชื่อว่า นักศึกษาเองคงจะมีการออกมาเคลื่อนไหวแน่นอน รวมไปถึงส่วนของชุมชนที่ได้รับผลกระทบไม่น้อยกว่ากันด้วย
ที่มา
http://www.manager.co.th/lite/ViewNews.aspx?NewsID=9490000113201งานนี้รีบกันจนลืมเรื่องรายละเอียดปลีกย่อยกันไปเลยแฮะ สงสัยกลัวว่าจะไม่ได้ค่าคอมมิชชั่นงวดสุดท้ายกัน