ผมยังจำภาพที่ผมนั่งอยู่ในห้องประชุม ของอาคารวิศิษณ์ ประจวบเหมาะ ภายในจุฬาลงกรณ์ฯ ในหน้าร้อนของปี 2531 ได้ดี
มีผู้ชาย 2 คน นั่งอยู่ด้านหน้าของห้องประชุม หันหน้าเข้าหาพวกเรา คนหนึ่ง หน้าตาคล้ายฝรั่ง พูดติดสำเนียงฝรั่งด้วย อีกคน รูปร่างอ้วนท้วมขาว ท่าทางฉลาด ดูสะอาดสะอ้านน่าใว้ใจ ทราบภายหลังว่า คนที่เหมือนฝรั่งคืออาจารย์ จอน อึ๊งภากรณ์ อีกคนชื่อ ภูมิธรรม เวชยชัย เป็นผู้ประสานงาน ของ มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม และรุ่นที่ผมเข้าร่วมการคัดเลือกคือรุ่นที่ 10
วันนี้เป็นวัน ปฐมนิเทศน์ อาสาสมัคร ก่อนเริ่มเข้ากระบวนการคัดเลือก....
คำพูดหนึ่งที่ผมจำได้แม่นยำ คือ พี่อ้วน ภูมิธรรม พูดได้ประทับใจมาก ว่า "การเป็นอาสาสมัครของ มอส. เราอาจจะได้ค่าตอบแทนเพียงเพื่อการเลี้ยงชีพ ไม่สูงอย่างที่หลายคนต้องการ แต่ควรคิดว่า เราคือ สุนัขรับใช้ของประชาชน เราควรกินแต่พออิ่ม ใช้จ่ายแต่เพียงพอกับความต้องการที่จำเป็น เงินที่เราได้มาถึงแม้ จะไม่ใช่เงินจากประชาชนโดยตรง แต่เราก็ควรจะทำให้มันเกิดประโยชน์ที่สุด"
ถึงแม้ผมจะไม่ได้รับการคัดเลือกเพื่อเป็นอาสาสมัคร ในรุ่นที่ 10 แต่ได้ไปทำงานกับ อพช.อื่นที่ไม่ได้เข้าร่วม กระบวนการ มอส.
แต่ผมก็ยังจำคำพูดนั้นได้เสมอ และจะเข้าทักทายทุกครั้งที่ผมเจอพี่อ้วนในการสัมมนาหรือประชุมเพื่อคนยากจนในสังคมหลังจากนั้น บอกว่า ถึงแม้ผมไม่ผ่านการคัดเลือกรอบสุดท้ายของ มอส.แต่ผมภูมิใจมากที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรกๆ และถือว่าเคยเป็นส่วนหนึ่งของ มอส.
และได้ทำงาน อพช.ที่ผมรักและเติมเต็มความฝันของตัวเอง จนกระทั่งผมห่างหายจากวงการ อพช.
ผ่านไป เกือบ 20 ปี ผมเห็นชื่อ พี่อ้วน ภูมิธรรม ได้มีบทบาทในแวดวงการเมือง ผมก็ชื่นชมยินดี ว่า คนจนกำลังจะมีที่พึ่ง คนที่เข้าใจคนจนที่สุดคนหนึ่งกำลังจะมีบทบาทได้เปลี่ยนแปลงทางนโยบาย ข้อสำคัญที่สุด ประชาชนกำลังจะมีสุนัขรับใช้ ตัวที่ดีที่สุดตัวหนึ่ง
แต่วันนี้ ผมพึ่งสำนึกว่า นอกจากประชาชนจะไม่ได้สุนัขรับใช้ ตัวที่ดีที่สุดแล้ว สุนัขตัวนี้กลับทำหน้าที่บอกช่องทางให้นายเงิน ได้เอารัดเอาเปรียบคดโกงฉ้อฉล ประชาชนของเขาอย่างน่าเกลียดและเจ็บแสบที่สุด
ภูมิธรรม......คุณไม่ได้เป็น สุนัขรับใช้ ของประชาชนที่มีเกียรติและศักดิ์ศรี ของการได้รับใช้คนยากจนอีกต่อไปแล้ว
คุณเป็นได้เพียง สุนัขขี้เรื้อนที่สายตาฝ้าฟางเพราะเศษเนื้อและพังผืดที่คุณคิดว่าเป็นอาหาร ที่นายเงินค่อยๆโยนให้คุณได้และเล็ม ไร้ซึ่งศักดิ์ศรีและเกียรติใดๆเหลืออยู่
ผมภูมิใจ ที่เป็นผู้ที่เคยได้รับเกียรติจาก อาจารย์จอน อึ๊งภากรณ์ แม้จะเป็นได้เพียง ผู้ผ่านการคัดเลือกแค่ 2 ขั้นตอนแรกก็ตาม และยังคงภูมิใจทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้
แต่ผมนึกละอายใจทุกครั้ง ที่ผมเคยชื่นชม ภูมิธรรม
คัดลอกมาจากนี่ครับ
http://www.thaivolunteer.org/webboard/view.php?id=2