เปลวสีเงิน ไทยโพสต์ท่องเว็บไซต์ไปกับ ๓ จว.ใต้http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=5/Sep/2549&news_id=129620&cat_id=2005 กันยายน 2549 กองบรรณาธิการ
เดี๋ยวนี้ผมใช้อินเทอร์เน็ต (พอ) เป็นแล้วนะครับ เมื่อวานเปิดดูเว็บไซต์ข่าวของสำนักต่างๆ ก็ต้องบอกว่าติดอก-ติดใจมาก โดยเฉพาะเว็บผู้จัดการ และเว็บของกรุงเทพธุรกิจ
ส่วนเว็บของไทยโพสต์นั้น...อยู่แล้ว ไม่ต้องบอก!
จากเว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ ผมก็ทราบจากที่ "พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน" ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ในการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ ๓ จังหวัดใต้ว่า
ขณะนี้ "สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงแปรพระราชฐาน เสด็จฯ ไปประทับอยู่ ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ นราธิวาส
เมื่อผมทราบเช่นนั้น ความรู้สึกอบอุ่นใต้เบื้องพระบารมีแล่นขึ้นมาเอิบอาบโดยอัตโนมัติทันที
ดีใจ ปลื้มใจแทนพี่น้อง ๓ จังหวัดใต้ทุกคนจริงๆ
นอกจากนี้แล้ว ก็ยังทราบโดยตรงจากปาก พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รมว.มหาดไทยด้วยว่า
ตอนนี้นายกฯ มอบอำนาจบัญชาการ ๓ จังหวัดใต้ให้พลเอกสนธิไปเรียบร้อยแล้ว
ครับ..เมื่อจัดสรรคนกับอำนาจให้เข้าร่องเข้ารอยกันอย่างนี้ ผมว่า "อีกไม่ช้า" ปัญหา ๓ จังหวัดใต้จะค่อยๆ คลายความร้อนแรงลงสู่ระดับปกติ เพราะเท่าที่ฟังแผนคร่าวๆ ตามที่พลเอกสนธิบอกกับนักข่าว
ผมว่า..ใช่เลย!การเอาผู้ก่อกวนที่กลับใจ อันเป็นพี่น้องของเราเองในพื้นที่ ๓ จังหวัดนั่นแหละมาฝึก-อบรมเป็นแนวร่วม ออกปฏิบัติในภาคสนามจริงๆ จังๆ อย่างนี้แหละที่เรียกว่า "หนามบ่งหนาม"
เท่าที่สังเกต นับแต่ ๔ มกรา.๔๕ ที่ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบุกกองพันทหารพัฒนา "ฆ่าชิงปืน" ทหารไป จะเห็นว่า กำลังปฏิบัติการนั้นล้วนเป็น "คนรุ่นใหม่"
"คนรุ่นใหม่" ก็คือ "กองกำลังวัยรุ่น" ที่ปฏิบัติการอยู่ขณะนี้นั่นเอง
ตรงนี้ก็ชัดเจนว่า งานแบ่งแยกดินแดนที่ปลุกปั่นต่อเนื่องกันมาจนกลายเป็นอาชีพไปแล้วนั้น เวลานี้พวกเก่าๆ ก็เริ่มสู่วัยชรา จึงเปลี่ยนถ่ายรุ่นให้ "หน่อใหม่" ออกปฏิบัติการแทน ส่วน "หน่อเก่า" ถอยไปอยู่ในฐานะ "ผู้กำกับบท" คือคอยชักใยอยู่ข้างหลัง
ด้วยการสั่งสมความผิดพลาดทางการปกครอง ทางระบบการศึกษา ก็เป็นความจริงที่เห็นอยู่ว่า พี่น้องไทยมุสลิม ๓ จังหวัดใต้ของเราที่เติบโตขึ้นมาจากวัยเด็กสู่วัยรุ่น จากวัยรุ่นสู่วัยหนุ่มส่วนหนึ่ง นั้น
ไม่สามารถเข้าสู่สังคมตลาดงาน ตลาดอาชีพได้เหมือนวัยรุ่น-วัยหนุ่มทั่วๆ ไป
ช่องว่างตรงนี้แหละ ระบบบริหารราชการไทย "ถ่างให้กว้างทิ้งไว้" เมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าผมเป็นวัยรุ่นใน ๓ จังหวัดใต้ จะให้ผมไปสังคมในโลกกว้างได้ที่ไหน ไปทำมาหากินอะไร? ถ้าใครมาชวนผม แค่สะกิด..ก็ตามไปแล้ว
ดีกว่าอยู่เปล่าๆ ส่วน "ผิด-ถูก" ไปว่ากันข้างหน้า!ฉะนั้น ไม่แปลกเลย ถ้าขบวนการแบ่งแยกดินแดน หรือขบวนการมิจฉาชีพใดๆ จะอาศัยช่องว่างนี้เข้ามาเชื่อมต่อ สร้างทางเดินให้กับวัยรุ่นในพื้นที่
เหตุนี้ เมื่อผมฟังแว่วๆ ว่าพลเอกสนธิมองเห็นช่องว่างตรงนี้ และมองเห็นคุณค่าทรัพยากรบุคคลในพื้นที่ จึงพุ่งเป้าดึงวัยรุ่น-วัยหนุ่มเข้าสู่แนวทางที่ควรจะเป็น-ควรจะทำ
ผมจึงว่า อีกไม่นานช้า ๓ จังหวัดใต้จะกลายเป็นแดนสวรรค์!น่าอยู่ยิ่งกว่า "พาราไดส์-ไทยแลนด์" อันเป็นโครงการบ้านจัดสรรที่คนมาเลย์ไปสร้างไว้ที่ปีนัง แล้วโฆษณาขายคนไทยจาก ๓ จังหวัดใต้ให้หนีตายไปซื้อบ้านอยู่ที่โน่นแทนซะอีก
พูดง่ายๆ ที่ผ่านมา เราทิ้งเขา..ทิ้ง "คนรุ่นใหม่" ใน ๓ จังหวัดใต้
เขาจึงไปตามทางของเขา ซึ่งสุดแต่ว่าใครจะมาชี้ทางให้ไป
เมื่อ ผบ.ทบ.ไม่ทิ้งคนรุ่นใหม่ ดึงมากอดไหล่ เดินร่วมเส้นทาง "เป็น-ตาย" ไปด้วยกันเช่นนี้
หน่อใหม่ ก็จะแตกลำโตใหญ่ เป็นไผ่ลำตรง!
เสร็จจากท่องเว็บกรุงเทพธุรกิจ ผมก็แวะไปที่เว็บผู้จัดการ เห็นเขาโปรยหัวข่าวไว้ว่า สนธิ "ฟันธง" ตุลานี้ทักษิณไปแน่ ผมก็ร้องในใจว่า.. นั่นแน่.."นักสู้สัญจร" มาแย่งอาชีพ "หมอเดาแม่นๆ" ผมซะแหล่ว!
"สนธิ" หลังนี้ คนละคนกับ "สนธิ" แรกนะครับ
สนธิ "ฟันธง" ก็คือ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ที่เล่นบทหนุมานอาสาอยู่เวลานี้ นี่ได้ข่าวว่าจะยกเวทีสัญจรไปที่เชียงใหม่ แบบนี้ละก็ ท่านนายกฯ ทักษิณของผมคงจะม่วนอ้ก-ม่วนใจ๋หลายเด้อ!
ส่วนเว็บไซต์ "ไทยโพสต์" นั้น ไม่ต้องพูดถึงนะครับ เป็นเว็บขวัญใจคนไทยอินเตอร์มานานแล้ว วันไหนเว็บมีปัญหา ผมไม่ต้องดู-ไม่ต้องถามคนจัดทำเว็บ แต่ผมก็จะรู้ปุ๊บทันที
เพราะแฟนๆ ที่อยู่ต่างประเทศ เรียกว่า "ทั่วโลก" ไม่รายใดก็รายหนึ่ง จะโวยวายรายงานเข้ามาทันทีว่า..ทำไมวันนี้ ไทยโพสต์-เว็บไซต์จึงเงียบฉี่ไปล่ะ?
พูดถึงแฟนไทยโพสต์ผ่านเว็บไซด์ในต่างประเทศ ก็ขอถือโอกาส "ตอบรับ" เงินทอดผ้าป่าวัดช้างให้ซะด้วยเลย ครับ..ถึงแม้ปิดรับแล้ว เพราะได้มากพอสมควรแก่เหตุแล้ว
แต่วันท้ายๆ ท่านส่งมาชนิดทะลักทลาย รวมแล้วกว่า ๕๐๐,๐๐๐ บาท! บางท่าน-อย่าเพิ่งค้อนดักหน้าผมนะครับ คือผมขอบอกว่า คงต้องขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้ทยอยตอบรับด้วยจำนวนรายนามที่ "มาก" เอาการอยู่ แต่จะค่อยๆ ทยอยไปวันละพอสมควรน่ะครับ ยังไงๆ ผมก็ยืนยันจะใช้เนื้อที่ตรงนี้ เพราะตอนขอเงินเขา ผมก็ขอตรงนี้ ครั้นได้เงินแล้ว จะเสือกไสไล่ชื่อไปล้อมกรอบไว้ตรงโน้น-ตรงนี้
ผมทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกครับ!
"คุณหนูสุธีรา" (ฤทธิ์) โอนเงินจากอังกฤษ ๑๐๐ ปอนด์ เมลมาถามผมหลายสัปดาห์แล้วว่าได้รับหรือยัง ให้ช่วยตรวจสอบที่แบงก์ด้วย?
ก็ต้องขออภัยคุณหนูสุธีราที่ตอบช้า เงิน ๑๐๐ ปอนด์ที่หนูระบุการแลกเปลี่ยนเป็นเงินไทยมาด้วยว่า ๗,๗๐๘.๘ บาทนั้น ได้รับเรียบร้อยแล้วครับ
ก่อนหน้านี้ผมประกาศเงินที่ได้รับ ๗,๐๐๘.๘๐ บาทไปแล้ว โดยระบุว่า "ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม" เพราะเข้าใจว่าเป็นคนละรายกัน
แต่เมื่อไปตรวจสอบที่แบงก์แล้ว เงินจำนวนนี้คือเงินที่คุณหนูสุธีราส่งไป แต่แบงก์หักค่าธรรมเนียมไป ๗๐๐ บาท จึงเหลือร่วมทอดผ้าป่าวัดช้างให้ ๗,๐๐๘.๘๐ บาทครับ
วันนี้ขอประกาศนามย้อนหลังต่อไปเลยนะครับ คือเงินท่านโอนมาก่อน แล้วส่งใบโอนมาทีหลัง ส่วนผมทำขมีขมัน รับเงินปุ๊บก็ประกาศปั๊บ โดยไม่รอชื่อเจ้าของก่อน ตอนนี้ก็ได้นามท่านมาแล้วครับ ดังนี้
บ้านเลขที่ ๓๘ ซอยอินทามระ ๒๒ และคุณวิไล คุณนงลักษณ์ แซ่เล่า คุณหลิงหลิง แซ่โหล่ว หาดใหญ่ ๑,๕๐๐ บาท คุณจุไรรัตน์ พาชีรัตน์ ๑,๐๐๐ บาท คุณไพฑูรย์ ก่ำบำรุง ๑,๐๐๐ บาท คุณฉอ้อน โต-รน ๑,๐๐๐ บาท คุณวิลักษณ์ เศรษฐานุภาพ ๑,๐๐๐ บาท ทำบุญอุทิศให้ "คุณแม่บุญยืน บรรทม" ๕๐๐ บาท
คุณพ่อบุญส่ง-คุณแม่แฉล้ม ชัยนิยม ๕๐๐ บาท คุณพ่อเจียะคุน-คุณแม่จินดา ศรีสกุลสมบัติ ๕๐๐ บาท นางศิริรัตน์-ด.ช.นพพร ศรีสกุลสมบัติ ๕๐๐ บาท นายฌานนท์-นางเบญจพร-นายธีรนันทน์ ศรีสกุลสมบัติ ๕๐๐ บาท นางนวพร-น.ส.ฉัตรวลัย-น.ส.ไศลทิพย์ ๒,๐๐๐ บาท (ถ้าสะกดผิดพลาดขออภัยด้วยครับ เพราะแฟกซ์จางมาก)
ต่อไปนี้เป็นการ "ตอบรับเงิน" นับจากวันที่ ๒๖ สิงหา.ดังนี้ คุณวสุ กิจวัฒนชัย ๒,๐๐๐ บาท ไม่ประกาศนามให้ทราบ ๒,๕๐๐ บาท และ ๒,๐๐๐ บาท รวมรับวันที่ ๒๖ ส.ค. ๖,๕๐๐ บาท
วันที่ ๒๗ สิงหา. มีดังนี้ คุณวัชรี วัฒนลิขิต ๑,๐๐๐ บาท คุณวรนุช ลิขิตกิจไพศาล ๑,๐๐๐ บาท คุณพิชัย ลิขิตกิจไพศาล และครอบครัว ๒,๐๐๐ บาท คุณสุชัย ลิขิตกิจไพศาล ๕๐๐ บาท คุณดารารัตน์ ลีลานันทกิจ ๕๐๐ บาท คุณพรรณี-จ่อย มีพลัง ๑,๐๐๐ บาท ผู้ไม่ประกาศนาม ๕๐๐ บาท รวมในบัญชีเดียวกัน ๖,๕๐๐ บาท
คุณณัฐ มโนมัยอุดม และครอบครัว ๕๐๐ บาท คุณยุพดี จักรศรีพร บอกว่าฟังคุณอัญชลี ไพรีรัก ประกาศทางวิทยุจึงร่วมทำบุญ ๑๐,๓๐๐ บาท ไม่ประกาศนาม ๒,๐๐๐ บาท และ ๑,๐๐๐ บาท
รวมรับวันที่ ๒๗ ส.ค. เป็นเงิน ๒๐,๓๐๐ บาท
ครับ..เอาเท่านี้ก่อนนะครับ เพราะวันต่อจากนี้รายชื่อปึกเบ้อเร่อ ผมสรุปยอดเงินสุทธิถึงวันที่ ๓๐ สิงหาคม เป็นเงินที่ผู้อ่านมอบให้ผมเป็นตัวแทนไปทอดผ้าป่าวัดช้างให้ ปัตตานี โดยน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี
จำนวน ๑,๕๐๐,๒๕๓.๔๐ บาท
ครับ..ก็ยังมีทยอยร่วมทำบุญมาเรื่อยๆ แต่ไม่มากนัก เรียกว่ายอดเงินทำบุญยังไม่นิ่ง ผมจะไปทอดวันเสาร์ที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๔๙ เงินทั้งหมดจะซื้อเป็นดราฟต์ไป ก็อยากให้ไปด้วยกัน แต่ผมไม่ชวนนะครับ.