ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-04-2024, 22:14
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สโมสรริมน้ำ  |  อักษรงาม ข้อความดีดี ใครมีก็เอามาลง แบ่งปันกันอ่าน นะคร้าฟฟฟฟฟฟ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] 2 3
อักษรงาม ข้อความดีดี ใครมีก็เอามาลง แบ่งปันกันอ่าน นะคร้าฟฟฟฟฟฟ  (อ่าน 12831 ครั้ง)
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« เมื่อ: 04-09-2006, 10:57 »



ฝันแรก
..............
สงัดค่ำนิทรายาม
สุบินไปในความฝัน
ปรารถนาเข้าใจทุกสิ่งสรรพ
ใดก่อกำเนิดภพ
ใดประกอบจักรวาล

ทว่าข้ามิอาจ
มิสามารถเข้าใจได้
จับจักรวาลแยกเป็นส่วนก็มิได้
แม้นจะเข้าใจเอกภวก็มิอาจ

ผิดหวังสิ้นดี
อรุณปลุกข้าตื่น
เทพดาไม่เป็นใจ
แสงตะวันหยามข้า
สู่อมตะแห่งซากนิรันดร์

The First dream of Sor Juana

สมพร พึ่งอุดม แปล
๒๓ มกราคม ๒๕๔๖
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #1 เมื่อ: 04-09-2006, 11:07 »




มนตราของเผ่าซู

พ่อ และ ท้องฟ้า
สดับฟังข้า
ข้าจึงแกร่ง

แม่ และ แผ่นดิน
สดับฟังข้า
ข้าจึงมั่นคง

ดวงวิญญาณจากทิศตะวันออก
นำปัญญามาสู่ข้า

ดวงวิญญาณจากทิศใต้
ถางทางให้ข้าย่ำ

ดวงวิญญาณจากทิศเหนือ
ชำระข้าด้วยสายลมบริสุทธิ์

ดวงวิญญาณจากทิศตะวันตก
ปลุกข้าให้ตื่นพร้อม

หนทางยังอีกยาวไกล
..............
มนตราของอินเดียนเผ่าซู
สมพร พึ่งอุดม แปล
ธ.ค. ๒๕๔๕
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #2 เมื่อ: 04-09-2006, 11:10 »



The Alchemy of Love
by Rumi

ท่านโคจรมาจากต่างภพ
จากโพ้นทะเลดาว
จากเวิ้งอวกาศ
พ้นบริสุทธิ์
งามเหนือจินตนาการ
ผู้นำเนื้อแท้แห่งรักมาสู่

ผู้ใดสัมผัสท่าน ย่อมสัมผัสความแปรเปลี่ยน
โลกียวิสัย แลทุกข์โศก
อันตรธานสิ้นเมื่อท่านปรากฏ

สันติและเบิกบานกันถ้วนทั่ว
ตลอดชาวนาแลราชา
ไพร่ฟ้าแลผู้ปกครอง

ความเมตตาอันน่าพิศวงของท่าน
แปรอกุศลเป็นกุศล
แปรบาปเป็นบุญ

ท่านคือนายแห่งเวทย์
ผู้จุดไฟเมตตา
บทพื้นพิภพ แลนภากาศ
ในมนัส แลวิญญาณ
ตลอดสรรพชีวิต

ด้วยรักแห่งท่าน
สิ่งคู่รวมเป็นหนึ่ง
สิ่งแยกรวมเป็นหนึ่ง
โลกียกรรมพลันศักดิ์สิทธิ์

By Jalal ad-Din Mohammad Balkhi (Rumi)
edited by Deepak Chopra
แปลไทยโดย สมพร พึ่งอุดม
๓๑ สิงหาคม ๔๖
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #3 เมื่อ: 04-09-2006, 11:15 »



ทุกครั้งที่อาตมาสัมผัสดอกไม้
อาตมาก็ได้สัมผัสดวงอาทิตย์
โดยมืออาตมาไม่ไหม้เกรียม

เมื่อสัมผัสดอกไม้
อาตมาก็ได้สัมผัสเมฆ
โดยไม่ต้องบินไปบนท้องฟ้า

เมื่อสัมผัสดอกไม้
อาตมาก็ได้สัมผัสกับจิตสำนึกของอาตมาเอง
สัมผัสกับจิตสำนึกของเธอและได้สัมผัสโลก
ซึ่งคือดาวพระเคราะห์ดวงนี้ไปพร้อมๆ กัน
นี่คืออาณาจักรแห่งอวตัมสกะ

สิ่งอัศจรรย์เกิดขึ้นได้
เพราะการประจักษ์แจ้งถึงธรรมชาติของการอิงอาศัยกัน

...........................................................

จาก หนังสือ ปลูกรัก ของ ท่าน ติช นัท ฮันห์
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #4 เมื่อ: 04-09-2006, 11:18 »



ดังมีเรื่องเล่าจากธิเบตของพ่อค้าชาวธิเบตคนหนึ่งชื่อว่า นอร์มู ซางโป ที่ประสบความล้มเหลวในธุรกิจของเขาจนสิ้นเนื้อประดาตัว เขารู้สึกหดหู่และสิ้นหวัง อย่างมาก ถึงกลับล้มตัวนอนหมด เรี่ยวแรงอยู่บนพื้น ขณะนั้นเองเขาสังเกตุเห็นมดตัวหนึ่งมันกำลังพยายามปีนขึ้นไปบนยอดหญ้า พอมันปีนขึ้นไปได้ถึงครึ่งหนึ่งมันก็ ตกลงมา แต่มัน ก็ยังคงเพียรพยายามครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งเขานับได้ถึงครั้งที่ 80 ที่มันปีนขึ้นไปบนยอดหญ้าได้สำเร็จ นอร์มู ซางโป จึงได้ตระหนัก ว่าคงมีแต่การเพียรพยายามที่ต่อเนื่องอย่างหนักเท่านั้นที่จะนำไปสู่ความสำเร็จได้ ในที่สุดเขาก็กลายเป็นนักธุรกิจ ที่มีชื่อเสียงและร่ำรวย คนหนึ่งของธิเบต ด้วยแรงบันดาลใจจากมดเล็ก ๆ ตัวหนึ่งเท่านั้นเอง

- จากหนังสือ ในอ้อมโอบหิมาลัย อุ่นไอธรรม ของ อรอุมา แววศรี
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #5 เมื่อ: 04-09-2006, 11:21 »



" ดุจดังผืนแผ่นดินที่เต็มไปด้วยกรวดหิน และขวากหนามยากยิ่งจะ
ก้าวเดินไป แต่เราจะไปหนังสัตว์จำนวนมากให้เพียงพอได้อย่างไร เพื่อห่อหุ้มผิวโลกทั้งมวล แต่การ
ใส่รองเท้าพื้นทำด้วยหนัง ก็มีผลเท่ากับห่อหุ้มผิวโลกทั้งมวลด้วยหนังเช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้
ที่เราจะไปห้ามเหตุการณ์ภายนอกของสรรพสิ่งทั้งปวง แต่หากเราสามารถห้ามจิตของเราเองได้แล้ว
เราจะต้องไปห้ามเหตุภายนอกทำไม "


จาก โพธิสัตตวจรรยาวตาร โดย อาจารย์ ศานติเทวะ
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #6 เมื่อ: 04-09-2006, 12:04 »




ซานโช่ฅนดี เจ้าจงขึ้นหลังฬาเถิด แลขี่ฬาตามข้ามา
ด้วยว่าพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสร้างสรรพสิ่งย่อมไม่ทรงทอดทิ้งเราดอก
ยิ่งจำเพาะเมื่อเราถวายตัวเป็นข้ารับใช้พระองค์
 พระองค์ยังมิเคยทอดทิ้งแม้แมลงวันในอากาศ หนอนในพื้นดิน
 ลูกอ๊อดในธารน้ำ ด้วยทรงเปี่ยมพระเมตตาธิคุณหาที่สุดมิได้
 ทรงประทานแสงแดดแก่มนุษย์ทุกผู้ ทั้งดีทั้งเลวเสมอหน้า
 ทรงบันดาลน้ำฝนชุ่มฉ่ำเย็นแก่ผู้ทรงธรรมแลผู้เลวทรามดุจเดียวกัน

จาก ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า ขุนนางต่ำศักดิ์นักฝัน
http://faylicity.com/book/book1/quixote.html

บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #7 เมื่อ: 04-09-2006, 12:11 »



สิ่งต่างๆอุบัติขึ้นด้วยการเปรียบเทียบ

เมื่อคนในโลกรู้จักความสวยว่าสวย
ความน่าเกลียดก็อุบัติขึ้น
เมื่อคนในโลกรู้จักความดีว่าดี
ความชั่วก็อุบัติขึ้น

มีกับไม่มีเกิดขึ้นด้วยการรับรู้
ยากกับง่ายเกิดขึ้นด้วยความรู้สึก
ยาวกับสั้นเกิดขึ้นด้วยการเปรียบเทียบ
สูงกับต่ำเกิดขึ้นด้วยการเทียบเคียง
เสียงดนตรีกับเสียงสามัญเกิดขึ้นด้วยการรับฟัง
หน้ากับหลังเกิดขึ้นด้วยการนึกคิด

ดังนั้นปราชญ์ย่อม
กระทำด้วยการไม่กระทำ
เทศนาด้วยการไม่เอ่ยวาจา
การงานทั้งหลายก็สำเร็จลุล่วงลง

ท่านให้ชีวิตแก่สรรพสิ่ง
แต่มิได้ถือตัวว่าเป็นเจ้าของ
ประกอบกิจยิ่งใหญ่
แค่มิได้ประกาศให้โลกรู้
เหตุที่ท่านไม่ปรารถนาในเกียรติคุณ
เกียรติคุณของท่านจึงดำรงอยู่ไม่สูญสลาย

วิถีแห่งเต๋า พจนา จันทรสันติ

http://www.thummada.com/cgi-bin/iB3/ikonboard.cgi?s=44f718a42a70ffff;act=ST;f=4;t=178
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #8 เมื่อ: 04-09-2006, 12:18 »




เมื่อมีความงาม ความน่าเกลียดย่อมตามมา
เมื่อมีความถูกต้อง ความผิดพลาดย่อมเกิดมี
ความรู้แจ้งกับความไม่รู้เป็นของคู่กัน
มายากับการรู้เท่าทันมายาไม่อาจแยกออกจากกัน
นี่คือสัจธรรมที่มีมานาน
จงอย่าได้คิดว่าสัจธรรมนี้เพิ่งมีคนค้นพบ

"ฉันต้องการสิ่งนี้ ฉันอยากได้สิ่งนั้น"

การกล่าวเช่นนี้หาใช่อะไรไม่
หากแต่คือความโง่เขลา
ฉันจะบอกความลับอย่างหนึ่งให้

"สรรพสิ่งล้วนไม่เที่ยงแท้แน่นอน"

- เรียวกัน พระเซน -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #9 เมื่อ: 04-09-2006, 12:43 »




คัมภีร์ไร้อักษร
ช่างบริสุทธิ์และสดชื่น
ดอกไม้ประดับด้วยหยาดน้ำค้าง
ช่างไพเราะเสนาะใส
บทเพลงของหมู่วิหก
เมฆขาวสงบ
ธารน้ำส่องประกายสีคราม
ใครเลยที่อาจขีดเขียน
ด้วยถ้อยคำที่แท้ อันปราศจากอักษร
ขุนเขาสูงพระหง่าน แมกไม้เขียวขจี
หุบเหวล้ำลึก ลำน้ำสะอาดใส
สายลมบางเบา ดวงจันทร์สวยล้ำ
อย่างสงบงัน ข้าพเข้าอ่าน
ถ้ อ ย คำที่แท้ซึ่งไร้อักษร

- เซนไค ชิบายามะ (หนังสือ ดอกไม้ไม่จำนรรจ์) -
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2006, 12:45 โดย โอสถ » บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
ประกายดาว
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,266


" ดาว " ดวงน้อยประกาย นั่นยังพร่างพราย.....


« ตอบ #10 เมื่อ: 04-09-2006, 12:45 »

" พุทธศาสนา เป็นส่วนผสม ที่พอดีของวิทยาศาสตร์ และ ปรัชญา
เพราะพุทธศาสนาได้กล่าวถึงแง่มุมของวิธีการทางวิทยาศาสตร์
และพัฒนาไปสู่ความเข้าใจของความเป็นเหตุและเป็นผล พุทธศาสนาได้
ก้าวล่วงไปสู่ดินแดนของจิตวิญญาณ ซึ่งทางวิทยาศาสตร์ยังไปไม่ถึง
เพราะ ยังไม่สามารถหาเครื่องมือ ที่จะไปถึง จุดหมายนั้นได้ "



จาก Bertrand Russelle นักปรัชญาชาวอังกฤษ
บันทึกการเข้า



วันที่ดาว ทวงฟ้า นภากระจ่าง
ดาวล้านดวง ทวงทาง ระหว่างฝัน
ผุดขึ้นมา  คราเดียว พร้อมพร้อมกัน
ประกาศมั่น.... วันนี้... เสรีไทย



http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=twinkling-stars&group=1
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #11 เมื่อ: 04-09-2006, 12:47 »




ถั่วงอกฝันอยากจะเป็นดอกบัว

เจียมตัวว่ายังเป็นถั่ว

แต่ก็หน้าบางพอที่จะไม่รอให้ความพิสุทธิ์แท้มาเคาะประตูเพรียกหา

อยากจะเป็นถั่วพ้นเปลือก

โดยไม่ลืมดิน น้ำ แสงแดด และก้อนเมฆ ที่เกื้อกูลต่อการงอกนั้น

บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #12 เมื่อ: 04-09-2006, 12:55 »




ณ บัดนี้
จงขุดดินที่หอมกรุ่นขึ้นมาสักกำมือหนึ่งเถิด
ท่านอาจจะพบเมล็ดพืชเมล็ดหนึ่ง
หรือแมลงตัวเล็ก ๆ
สักตัวหนึ่งในดินกำนั้น
ถ้าหากมือของท่านใหญ่พอ
อีกทั้งมีความอดทนมากพอ
เมล็ดพืชก็จะกลายเป็นป่าที่เขียวขจี
แมลงตัวเล็ก ๆ
ก็จะกลายเป็นทูตสวรรค์ฝูงหนึ่ง
อย่าลืมก็แล้วกันว่า
กาลเวลานั่นเองที่ทำให้
เมล็ดพืชกลายเป็นป่า
กาลเวลานั่นเองที่ทำให้
แมลงตัวเล็ก ๆ กลายเป็นทูตสวรรค์
ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากเดี๋ยวนี้
ไม่ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน
เดี๋ยวนี้ ก็ยังคงสำคัญที่สุด


- คาลิล ยิบราน -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #13 เมื่อ: 04-09-2006, 12:57 »



คนที่กำลังล้มแล้วถูกคนซ้ำเติม ถ้าคนนั้นไม่แข็งแรงพอ มันก็จะลุกยาก แต่ถ้าเผื่อว่า คนที่ล้มแล้วได้มือของ คนที่ยื่นออก ไปเพื่อช่วยยืนขึ้น ถึงแม้แรงมันจะอ่อน แต่ว่ามันมีการฉุดขึ้น มันทำให้เกิด การพยุงตัว แล้วมีกำลังพอที่จะก้าว ก้าวแรกอาจจะกะโผลก กะเผลก แต่ต่อไป จะก้าวได้ มั่นคงขึ้น

- “แม่ชี ศันสนีย์ เสถียรสุต” -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #14 เมื่อ: 04-09-2006, 13:01 »



ปัทมปาณี

ดอกไม้ในห้วงฟ้า
ดอกไม้ในหล้าโลก
บัวบานดังกลีบเนตรพระพุทธองค์
บัวบานในใจคน
ด้วยพระหัตถ์ทรงปัทมะงามชดช้อย
พระโพธิสัตว์ยังกำเนิดแก่จักรวาลศิลป์
ดวงดาวพราวสะพรั่งกลางทุ่งฟ้า
จันทรายิ้มชื่นรื่นลอย
ลำหยกแห่งต้นมะพร้าว
ทอดยาวพาดฟ้าเพลาดึก


จิตของฉันอันท่องไปในความว่างล้ำลึก
พบความเป็นเช่นนั้นระหว่างทางคืนสู่เหย้า


ฉันเขียนบทกวีนี้หลังจากไปชมถ้ำอชันตาในอินเดียเมื่อปี ๒๕๑๙

- เรียกฉันด้วยนามอันแท้จริง รวมบทกวีของ ติช นัท ฮันห์ -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #15 เมื่อ: 04-09-2006, 13:05 »



ไฮกุ

อยากร้องไห้
ปีติ
ประพริมประพรายน้อยๆ ในตัว


บางช่วงมาเว็บ เงียบๆ ไม่อยาก เขียน อะไรบางอย่างในตัว มันไม่ผุด มันไม่ไหล
เลยคิดว่า  อย่ากระนั้นเลย เอาข้อความ ดี กับภาพสวยๆ
มาให้ ดีกว่า ดี กว่า มาเฉยๆ อ่าน ไป เถิด เพื่อนเอย

ลงไป อ่านทวนไป ภาพเดียวกัน ข้อ ความเดียว แต่ การผุด การคลี่ขจาย ของ มโนทัศน์
อารมณ์ในแต่และช่วง ประกาย ประพริมประพราย น้อยๆ ที่ผุด
 มันแต่กต่างกัน สิบครั้งก็สิบแบบ ร้อยครั้งก็ร้อยแบบ

เหมือนหยดน้ำหนึ่งหยดในแต่ละขณะ ในห้วง สมุทรใหญ่
ที่ไม่มีหยดใดเหมือน ต่างหยดต่างมีเอกลักษณ์ การแผ่ ขจาย ของรัศมีฟองคลื่นที่ต่างกัน
แม้เพียงอณูรัศมีเล็กๆ ของหนึ่งหยด ในขณะใดใดๆ จะหาหมื่นแสนหยดใด ซ้ำไม่ นี่คือธรรมชาติ

 ว่าแล้วก็ ลงต่อ ลงเงียบๆ สบายใจ ใครจะช่วย ลง อยากลงเชิญ ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2006, 17:43 โดย โอสถ » บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #16 เมื่อ: 04-09-2006, 13:23 »



ราตรีอยู่ที่นี่แล้ว
ลมฝนแว่วบอกข่าว
ว่าย่างเข้าฤดูใบไม้ผลิ
แต่ข้านอนเดียวดาย
ความฝันมากมายยังไม่เป็นจริง
กลีบดอกไม้ปลิวค้าง
คล้ายดั่งเข้าใจความฝันและความหวังของข้า
กลีบบางปล่อยตัวช้า ๆ สู่พื้นหญ้า
อย่างเงียบงัน

เบิกทางให้กว้างขึ้น

ผมสีไม้เลอค่า
บัดนี้ถวายแทนธูปหอมบูชา
ความงามได้กลายเป็นนิรันดร์
การประจักษ์ความไม่เที่ยงช่างวิเศษยิ่งนัก !

เพราะสรรพสิ่งเหมือนดังฝัน
จิตแท้จึงถูกกำหนดให้นำทาง
หลังสดับเสียงกระแสน้ำขึ้น
สองเท้าจึงก้าวมุ่งสู่อสังขตธรรม

เมื่อเช้า สายลมร่ำเพลงสวดบนไหล่เขาคิชฌกูฏ
จิตไม่ติดข้องอันใดอีกต่อไป
บัดนี้บทเพลงกล่าวถึงอนุศาสน์อันเปี่ยมรัก
กลิ่นหอมของคำสอนนั้นคือแก่นแห่งสัจธรรม

ในอดีตที่ล่วงเลย เธอเคยใช้น้ำ โบเก็ต
ชำระล้างผม
แล้วปล่อยให้แห้งในลมรำเพยหอมของยามบ่าย
ทว่าเช้านี้ สิ่งที่เธอรับใส่เกล้าคือน้ำหวานแห่งโพธิ
เพื่อจิตที่รู้แจ้งจักปรากฏขึ้นทั่วหน้า

ยี่สิบห้าปี
ที่สองมือเธอ
เอื้อเฟื้อเผื่อรักไม่เว้นวัน
การุณยธรรมไม่เคยหยุดงอกงามในหัวใจเธอ

เช้านี้ เธอปลงผมแล้ว
มรรควิถีพลันเปิดกว้าง
ความทุกข์และมายา แม้เหลือประมาณ
ล้วนสิ้นสุด

หัวใจสามารถสัมผัสทั่วทั้งสิบทิศ


- เรียกฉันด้วยนามอันแท้จริง รวมบทกวีของ ติช นัท ฮันห์ -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #17 เมื่อ: 04-09-2006, 13:29 »



มรดกแท้แห่งเรา

จักรวาลดารดาษด้วยยอดมณี
เช้านี้ ฉันอยากกอบมากำนัลเธอสักฟายมือหนึ่ง
ชีวิตเธอทุกขณะคืออัญมณี
จำรัสรัศมี รวมไว้ซึ่งผืนฟ้าผืนดิน
น้ำ และเมฆ

อยากให้เธอหายใจอย่างอ่อนโยน
เพื่อปาฏิหารย์จักปรากฏ
ฉับพลันเธอจะยินเสียงนกร้อง
ทิวสนพร้องเพลงสวด
เธอจะเห็นดอกไม้บาน
ครามฟ้า
เมฆขาว
เห็นยิ้มและปิยลักษณ์
ของผู้เป็นที่รักแห่งเธอ

เธอผู้มั่งคั่งที่สุดในโลก
ผู้เที่ยววุ่นวายขอเพื่อยังชีพ
หยุดเป้นเด็กอดอยากเสียที
จงกลับมารับมรดกของเธอ
เราควรยินดีในสุขของเรา
และกำนัลสุขนั้นแด่ทุกผู้คน
บริจาคชั่วขณะนี้
ปล่อยกระแสความหม่นทุกข์ให้ผ่านไป
โอบชีวิตไว้ให้เต็มกอด


นี่คือคำร้องของเพลงที่เขียนขึ้นระหว่างพักสงบใจในหมู่บ้านพลัมประจำ ฤดูหนาว
ปี ๒๕๓๓ โดยได้แรงบันดาลใจจากนิทานอุปมาเรื่อง ลูกชายผู้อดอยาก ใน สัทธรรม-
-ปุณฑริกสูตร รวมทั้งแนวคิดเรื่องความเอื้ออารีมีใจกว้างใน วัชรสูตร

- จาก เรียกฉันด้วยนามอันแท้จริง รวมบทกวีของ ติช นัท ฮันห์ -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #18 เมื่อ: 04-09-2006, 13:34 »



ในป่า

ชุมชนต้นไม้
นับพันพัน
มีมนุษย์หนึ่งเดียวอยู่ท่ามกลาง
กิ่งใบกำลังไกวแกว่ง
แล้วลำธารน้อยก็กู่เรียก
และดวงตาเปิดสู่ฟากฟ้าแห่งมหาจิต
รอยยิ้มแลเห็นได้
บนทุกทุกใบ

ป่าอยู่ที่นี่
เพราะเมืองอยู่ข้างล่าง
แต่จิตได้ไปกับมวลแมกไม้
และสวมชุดใหม่สีเขียวแล้ว

สายแดดคือใบไม้
ใบไม้คิอสายแดด
สายแดดไม่แผกผิดใบไม้
ใบไม้ไม่ต่างจากสายแดด
รูปและเสียงอื่นอื่นทั้งหมด
ก็ล้วนธรรมชาติเดียวกัน


- จาก เรียกฉันด้วยนามอันแท้จริง รวมบทกวีของ ติช นัท ฮันห์ -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #19 เมื่อ: 04-09-2006, 13:39 »



จันทร์ในใจ

ฟ้าฉลองยามตะวันลับอย่างตื่นเต้น
เจ้านกที่มีสีเวิ้งฟ้าวาวสะท้อนในแววตา
โดดไปตามกิ่งไม้
และใบอันสรรค์จากแก้วผลึก
เมื่อตื่นขึ้นจากนิทรารมณ์ยาวนาน
ฉันพบอรุณเรืองอยู่ภายใน
จันทร์สงบสะท้อนดวงอยู่ในห้วงบึงแห่งใจ
ผีเสื้อโบยบินจากบ้านเกิด
ใบเทียโถสีม่วง
ประกาศความสุกงอมของฤดูใบไม้ร่วง
ฝูงนกขับขานตามแมกไม้
เมฆานภากาศสงบเย็น
เช้านี้เปี่ยมสันติ
พิราบสยายปีก
ต้อนรับด้วยใจจริง
ฝูงนกต้อนรับหยาดแสงแห่งยามเช้า
สนามหญ้าอาบเรืองด้วยสีทอง

สิบปีแล้วสินะ
ที่เจ้าผีเสื้อเร่ร่อนจากบ้านเกิด


- เรียกฉันด้วยนามอันแท้จริง รวมบทกวีของ ติช นัท ฮันห์ -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #20 เมื่อ: 04-09-2006, 13:43 »



คนดี

ป่าสนหับบานประตูคู่

ศรสกาววาววับแล่นจากคันธนู
พุ่งขึ้นผ่าฟ้า
ระเบิดดวงอาทิตย์

ดอกส้มล่วงหล่น
พรมจนทั่วลาน

เงาสะท้อนวาบไหว


เขียนที่ ปารีส ๒๕๑o

- เรียกฉันด้วยนามอันแท้จริง รวมบทกวีของ ติช นัท ฮันห์ -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #21 เมื่อ: 04-09-2006, 13:54 »




๑๑๑๑เพิร์ลสตรีท ( บทกวีนอกรีต )

ในบรรยากาศอันสดกระจ่าง
มีจุดแต้มปรากฏขึ้น
กิเลสย้อมจุดแต้มนั้นจนเป็นสีแดงสด
ไล่เฉดสีลงมาเป็นชมพูหน่วงหนัก
ช่างงดงามยิ่งที่ได้อยู่ในอรูปภพ
เมื่อคุณสูญสลายไป จุดแต้มก็มลายไปด้วย
เมื่อคุณเปิดออก ความเว้นว่างอันแจ่มกระจ่างก็เปิดขึ้น
ขอเราจงหลอมละลายไปในกามภพ
อันเป็นที่หวั่นเกรงของเหล่านักเทววิทยาและผู้ร่างกฏ
เด็ด เด็ด เด็ดดอมดอกไม้ป่า
มันหาใช่ความกระสันรัญจวนไม่
หากเป็นเพียงท่วงท่าอันเรียบง่าย
เพื่อที่จะตระหนักถึงสายลมภูเขาอันสดชื่น
ซึ่งรวยรินเอาความไร้เดียงสาของดอกไม้ป่า
มาเถิด มา เหล่าผู้เคร่งศีลธรรม เชิญมาร่วมกับเรา
ความสดชื่นนั้นหาใช่ภาระหรือสิ่งคุกคามไม่
หากเป็นอาการแห่งความรักอันดูดดื่ม
ซึ่งเมืองทั้งเมืองอาจหอมละลาย
ไปในความรักของดอกไม้ป่า
ปราศจากภาระหน้าที่ ไม่มีการอุทิศหรือกับดัก
โลกเปี่ยมไปด้วยความไว้วางใจและความเปิดกว้าง
ขอเราจงได้เฉลิมฉลองในความปีติเย็นฉ่ำ
ในสีฟ้าเทอร์คอยส์
ในหยาดน้ำค้างยามเช้า
และเสียงหัวร่ออันอบอุ่น
บ้านอันฉ่ำชื่นนั้น
ภาพแห่งความรักช่างดีงามและแจ่มกระจ่าง



- มหาบูรพาสูรย์ ปรีชาญาณชัมบาลา บท จุดแต้มในฟ้ากว้าง โดย เชอเกียม ตรุงปะ -
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2006, 17:41 โดย โอสถ » บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #22 เมื่อ: 04-09-2006, 13:58 »




ชีวิตที่หมักกล่อม

เด็กๆ วิ่งเล่นเท้าเปล่า
ผู้เฒ่าถือไม้เท้าสูดดมอากาศสดชื่น
ฤดูใบไม้ผลิแสนดี - พวกเราล้วนเบ่งบาน

กาลเวลาของร่มกันฝน
โคลนเลนในหนทางให้ม้าย่ำ
ดอกเบญจมาศและดอกพีอานีสสดสวยงดงาม
ฤดูร้อนคืองานฉลองอันเกริกไกร

ตกจากเบื้องบนลงมาบนศรีษะข้า
นั่นเป็นเพียงผลแอปเปิล
ช่วงเวลาอันอุดมสมบูรณ์
เราถูกจู่โจมด้วยพายุแห่งธัญญาหาร

บ้านเรือนเป็นสิ่งล้ำค่า
โลกสีขาวหนาวเหน็บ
เสียงจากเกล็ดน้ำแข็งประสานท่วงทำนอง
จักรพรรดิหวนกลับคืนสู่ราชฐาน


- มหาบูรพาสูรย์ ปรีชาญาณชัมบาลา บท ราชันแห่งฤดูกาลทั้งสี่ โดย เชอเกียม ตรุงปะ -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #23 เมื่อ: 04-09-2006, 14:04 »




หะแรกก็ผลุดพลั่งและไหลหลั่งซอกซอนไป
นี้ใช่สายธารหรือไม่ ?
มันผุดขึ้นทางตะวันออกและลับหายทางตะวันตก
นี้ใช่ดวงจันทร์หรือไม่ ?


ไม่เคยอัสดง
นี้ใช่มหาบูรพสูรย์หรือไฉน ?
ไม่ว่ามันจะเคยมีอยู่หรือไม่
นี่คืออาณาจักรชัมบาลา

๓.
รักที่เป็นอิสระจากความลังเลสงสัย
และความปรารถนาที่เป็นอิสระจากความเกียจคร้าน
อาจบรรสานตะวันออกกับตะวันตกเข้าด้วยกัน
เมื่อนั้น เหนือและใต้ย่อมอุบัติขึ้น
ท่านผุดขึ้นมาดุจดังราชันแห่งหล้าโลก
ท่านอาจบรรสานฟ้าดินเข้าด้วยกัน


เมื่อปราศจากความกลัว ท่านย่อมก่อกำเนิดความกลัวขึ้น
เมื่อยอมรับความกลัว ย่อมไม่กลัวสิ่งใดอีก
เมื่อท่านพิจารณาตนเองยามที่ตกอยู่ในความกลัว
ท่านก็ได้บทขยี้เชื้อพันธุ์แห่งความกลัว


* บทกวีไม่มีชื่อสี่บทนี้เขียนขึ้นในวันเดียวกับที่ท่านได้บรรยายเรื่อง "การไร้ข้อตำหนิ"

- มหาบูรพาสูรย์ ปรีชาญาณชัมบาลา บท การไร้ข้อตำหนิ โดย เชอเกียม ตรุงปะ -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #24 เมื่อ: 04-09-2006, 14:13 »



บทกวี ชื่อ ทำนองสิงเซียงจื่อ

เรือน้อยเรียวเบาราวใบไม้
พายคู่ดูดั่งห่านฟ้าผวาปีก
ฟ้าน้ำสดใส
ฉายเงาบนผิวเรียบสงบ
ปลาแหวกพริ้วพร่าภาพเงา
กระยางจับเจ่าบนฝั่งหมอกคลุม
เรือลิ่วละล่องผ่านท้องธารทราย
ธารเหมยขาบพรายหนาวเย็น
ธารเดือนเพ็ญกระจ่างพร่างพราย
ซ้อนซับซับซ้อนดั่งภาพเขียน
เลี้ยวลดลดเลี้ยวดั่งฉากกั้น
ยามฉะนี้หนอ
ดอยเหยียนหลิงโบราณอยู่กับความว่าง
ราชะอมาตย์ทั้งหลายล้วนล่วงไปดุจความฝัน
เหลือเพียงนามเปล่าดาย
คงทนอยู่คือเทือกภูผา
หมู่เมฆาประดับเขา
แลอาทิตย์อาบดอย

-ซูตงเปอ -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #25 เมื่อ: 04-09-2006, 14:18 »



เรื่องน่ารักๆ ของแม่


.. เกิดลืมตา มาในบ้าน ก็เต็มไปด้วย ขนหมา
ขนแมวแล้วค่ะ แม่กับพ่อ ของแม่บ้าน
ท่าน รักสัตว์ มากเลย
ชอบเก็บ แมว และ หมามาเลี้ยง

แม่นั้น รักสัตว์ หลายชนิดมาก นับไม่ถ้วนเลย
แม้แต่ จิ้งจกในบ้าน แม่ก้อ ตั้งชื่อเล่น ให้ด้วยค่ะ
ชื่อ จุ๋มจิ๋ม

น้องหมา จรจัด ที่ไหน ขนที่ว่าด่างๆ เรื้อนลง
เนื้อตัว แห้งๆ แล้ว
ถ้าได้มา รู้จัก กับแม่ของ แม่บ้าน ล่ะก้อ ต่อมา
ก้อจะ เป็นแบบ Before - After .. จำแทบไม่ได้ เลยค่ะ
ไปดูอีกที ขนนี้เป็น มันแพล็บ สวยงาม ราศีจับ


เวลาที่แม่ เดินไปไหน ก้อจะมีน้องหมา
ต่างๆ วิ่งเข้ามา หาแม่เสมอ ค่ะ
แม่ ของแม่บ้าน ชอบพูดคุย กับพวกเขา
เสมอ คำถาม ที่ถาม บ่อยๆ กับน้องหมา
ก้อ .. ชื่ออะไร ? หิวหรือยังลูก ?

ฮ่าๆๆ แม่น่าร้ากกกกก

เมื่อปีที่แล้ว ตอนไปเมืองไทย แม่ชวน แม่บ้าน
ให้ช่วยกัน คลุกข้าว
เอาไปเลี้ยง สุนัขจรจัด หลังสวน ประมาณ 30 ตัว
แม่บ้าน คลุกไม่อร่อย ค่ะ ต้องแม่

.. ตอนขับรถ ขนข้าว ไปให้ พวกเขา
ได้เห็น พวกเขา วิ่งกรี๊ดกร๊าด เข้ามา หา
กิน ด้วยความดีใจ มากันแบบสามัคคี ผลัดกันกิน
คนละ คำสอง คำ ไม่แย่งกันนะคะ

หวลนึก เรื่องนี้ ทีไรก้อยังสุขใจ ตลอด


-ส่วนตัว ข้อเขียนพี่แม่บ้าน อัน แสน จะอบอุ่น ที่ผมรัก แอบ เก็บไว้อ่าน -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #26 เมื่อ: 04-09-2006, 14:20 »




ย่าบอกว่า ถ้าเราใช้จิตใจไปในทางโลภโมโหโทสันหรือเลวทราม
ถ้าเราชอบทำร้ายผู้อื่นอยู่เสมอ และมัวแต่คิดหาผลประโยชน์ทางวัตถุ
... จิตวิญญาณของเราจะหดเล็กลงเหลือขนาดเท่า ฮิคกอรี่นัท

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

ย่าบอกว่า เรารู้ได้ไม่ยากว่าใครเป็นคนตาย
... เมื่อเขามองผู้หญิง เขาไม่เห็นอะไรนอกจากคิดสกปรก
... เมื่อมองต้นไม้ เขาไม่เห็นอะไรนอกจากไม้ซุงและผลกำไร มิใช่ความงาม
ย่าบอกว่าพวกนี้แหละคือคนตายที่ยังเดินอยู่ทั่วๆ ไป

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

ย่าว่าจิตวิญญาณเปรียบเหมือนกล้ามเนื้อ
... ถ้าเรายิ่งใช้มัน มันก็จะใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้น
ย่าบอกว่าทางเดียวที่จะเป็นอย่างนี้ได้
ก็โดยใช้จิตวิญญาณในการทำความเข้าใจ

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

ย่าว่าโดยธรรมชาติแล้ว ความเข้าใจกับความรักเป็นสิ่งเดียวกัน
.. ผมจึงเข้าใจว่า ผมจะต้องเริ่มพยายามเข้าใจทุกคนอย่างจริงจัง
เพราะแน่นอนว่าผมไม่อยากให้จิตวิญญาณเหลือเท่าลูกฮิคกอรี่นัท

ลิตเติ้ลทรี - วรรณกรรมเยาวชนเผ่าเชโรกี
http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=4514
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #27 เมื่อ: 04-09-2006, 14:25 »



ถึงแม้ความตายจะถาโถมใส่เจ้าในวันนี้ ดุจดั่งสายฟ้าฟาด
แต่เจ้าก็ต้องพร้อมที่จะตายโดยไม่เศร้าเสียใจ
ไม่ยึดมั่นในสิ่งที่ถูกทิ้งอยู่เบื้องหลังแม้แต่น้อย
จงจดจำทรรศนะที่แท้จริงไว้
เจ้าควรจะจากชีวิตนี้ไป เฉกเช่นอินทรีที่เหินสู่ท้องฟ้าสีคราม


- ดิลโก เคียลเซ รินโปเช -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #28 เมื่อ: 04-09-2006, 14:28 »



ไฮกุ

หนทางอันคับแคบมุ่งสู่สุสาน
เจ้าอาวาสรุ่นแล้วรุ่นเล่า
ดอกชาร่วงหล่น

- มิซู ซูซูคิ -

บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #29 เมื่อ: 04-09-2006, 14:31 »



" ชีวิตเปรียบเหมือนฟองคลื่น
เกิดขึ้นแล้วดับไป
ก็คลื่นลูกเก่าไซร้
ดับไปแล้วกลับมา "


พุทธะอิสระ

จาก
http://www.dhamma-isara.org/think_index.html
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #30 เมื่อ: 04-09-2006, 14:40 »



  ทะเลชีวิต


ร่างกายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต จิตใจก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
ถ้าหากว่าให้กายและจิตรวมกันเป็นหนึ่งล่ะ? ก็ไม่ใช่ทั้งหมด
ของชีวิต กายและจิตเป็นเพียงแค่ปรากฏการณ์ที่ปรากฏขึ้นมา
ในชีวิต  แต่ก็หาใช่เนื้อแท้ที่แท้จริงไม่

มีศิษย์และอาจารย์เดินอยู่ที่ชายหาดแห่งหนึ่ง อาจารย์ถามศิษย์ว่า
“เจ้าเห็นอะไร?”
“เห็นคลื่นทะเล” ลูกศิษย์ตอบ
“เห็นทะเลหรือเห็นคลื่น?”
“น่าจะเป็นคลื่น ศิษย์เห็นเป็นคลื่นเล็กๆ สักครู่ก็เห็นเป็นคลื่นระลอกใหญ่
เห็นเกลียวคลื่นม้วนตัวขึ้นมา สักครู่ก็คลายเกลียวออก ดังนั้นเห็นเป็นคลื่นแน่นอน”

ผ่านไปสักครู่อาจารย์จึงพูดว่า “เจ้าเห็นแต่คลื่น แต่ไม่เห็นทะเล เจ้าเห็นแต่
คลื่นที่เคลื่อนตัวไปมาไม่หยุดนิ่ง ได้ยินเสียงที่โหมซัดกระหน่ำของคลื่น
แต่ไม่รู้สึกถึงความเงียบสงบของทะเล และไม่เห็น โฉมหน้าทั้งหมดของทะเล
จึงไม่แปลกที่เจ้าจะไม่เข้าใจถึงสัจธรรมที่แท้จริง

เรามักจะรู้สึกถึงกายและจิตของเราถูกพันธนาการจากสิ่งต่างๆ
เช่นความเจ็บปวดทางกาย ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในจิต
ในกายมี เกิด แก่ เจ็บ ตาย
ในจิตมี ดีใจ เสียใจ โกรธ ความสุข ความทุกข์
เราโดนสิ่งเปลี่ยนแปลงเหล่านี้บีบคั้น รบกวนอยู่ตลอดเวลา

กายและจิตที่เปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็เหมือนกับคลื่นทะเล
เดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็ร้าย เดี๋ยวก็มีความสุขจนแปลกประหลาด
บางทีก็เจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่
แต่ถึงอย่างไรก็ไม่พบเนื้อแท้ที่แท้จริงของชีวิต เหมือนกับดังเช่นไม่เห็นทะเล
ไม่เคยได้ไตร่ตรองถึงความสะอาดสงบของชีวิต เช่นดังกับไม่เคยได้สัมผัสถึง
ความเงียบสงบของทะเล

น่าจะถึงเวลาแล้วที่จะให้กายและจิตเงียบสงบลงได้แล้ว อย่าได้มัวแต่จดจ้อง
อยู่กับสิ่งที่คอยแต่จะรบกวน  ชื่อเสียงและผลประโยชน์ความสัมพันธ์ระหว่าง
กันและกัน เป็นเพียงแค่ชั่วคราว เป็นอนิจจัง มีมาแล้วก็มีไป มีได้แล้วก็มีเสีย
ไม่ใช่ความจริง เจ็บปวดนะ!

โปรดได้ไตร่ตรองให้ดี อะไรคือชีวิต แล้วเราจะได้สัมผัสถึงความสุข
ความเป็นธรรมชาติของความสะอาดและสงบ


จาก แสงดาว น้องคุณประกายดาว

http://www.thummada.com/cgi-bin/iB3/ikonboard.cgi?s=44fc7e814e6fffff;act=ST;f=4;t=1843;st=160
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #31 เมื่อ: 04-09-2006, 14:49 »



"ความมืดคือประทีป" : รูมี่

สิ่งใดทำร้ายเจ้า
สิ่งนั้นนำพรมาสู่เจ้า
ความมืด คือ ประทีป
กรอบเขตแดน คือ การแสวงหา
ข้ากล่าวเช่นนี้
อาจทำให้ดวงแก้วในใจเจ้าแตกสลาย
และมิอาจประสานกลับ

...................................................
บทกวีซูฟี ของ รูมี่
สมพร พึ่งอุดม แปล




**ตีความ

..อะไรก็ตามทำร้ายเรา ย่อมนำพรมาให้เราด้วย..
นั่นคือถ้าเราสามารถเห็นทุกข์ ก็ย่อมเกิดปัญญา ศัตรูคือมิตรแท้

..ความมืด คือแสงเทียน..
อุปมาเหมือนการหลับตานอก ตาในกลับเห็นได้ชัด
หรืออาจตีความขยายท่อนบนคือ ใช้ความมืด (ทุกข์ ความไม่รู้ ความไม่พึงพอใจทั้งหลาย ฯลฯ )
เป็นเครื่องมือช่วยให้เกิดการเรียนรู้ สู่ความเข้าใจแจ้ง สู่ภูมิแห่งแสงสว่าง
ดั่งประทีปที่ถูกความมืดจุดขึ้นแล้ว

...กรอบและเขตแดน คือการแสวงหา..
คนเรามักมีอาณาจักรที่ครอบครอง และกรอบที่ยึดติดไว้อย่างเหนียวแน่น
หากไม่คลายการติดยึด ให้เป็นอาณาจักรแห่งการแสวงหาและเรียนรู้
กรอบเขตแดนนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับกรงขังตัวเอง

..รูมี่บอกว่า สิ่งที่พูดมาทั้งหมดนี้ อาจทำให้ดวงแก้วในใจเจ้าแตกสลาย..
ดวงแก้ว คือกรอบความคิดที่ติดยึด

..หากดวงแก้วนี้ของใครแตกสลายแล้วก็ยากที่จะประสานกลับดังเดิม..
เมื่อความคิดได้เปิดสู่ความเข้าใจใหม่อีกชุดหนึ่งแล้ว ก็ยากที่จะกลับไปเชื่อในความคิดชุดเก่าได้

... แนวคิดของซูฟี คือ การเปิดหัวใจสู่ความรัก สู่สันติ สู่การไม่แบ่งแยก
ไม่ว่าจะเรื่องนับถือศาสนา พระนามต่าง ๆ ของพระผู้เป็นเจ้า
ความเป็นหญิงเป็นชาย ทารกหรือคนชรา
ตลอดจนการดำเนินชีวิต
การเข้าถึงพระผู้เป็นเจ้าคือการทำสิ่งง่าย ๆ ในชีวิตประจำวันให้ดี

ดังบทกวีชื่อ becoming human ของฮาฟิซ ที่กล่าวว่า
การเข้าถึงพระผู้เป็นเจ้านั้น เราสามารถเข้าถึงได้
ด้วยการดูแล เกื้อกูล และเมตตาสรรพชีวิตรอบตัวเรา
ไม่เว้นแม้สัตว์ และพืชพันธุ์ไม้ทุกชนิด
และสามารถเข้าถึงได้ด้วยการภาวนาไปพร้อมกับลมหายใจ

แนวคิดของซูฟี เกี่ยวข้องใกล้ชิดกับศาสนาอิสลามมาเก่าแก่
ทุกวันนี้หากคนต่างศาสนาจะหันมาทำความเข้าใจรากเหง้าของศาสนาอื่นบ้าง
บางทีความเข้าใจ ความเห็นอกเห็นใจ และสันติสุข
อาจจะเกิดขึ้นในใจเราได้อย่างเรียบง่าย
เราอาจจะฟังเสียงประโคมจากสื่อภายนอกด้วยใจเป็นธรรม เป็นกลาง และเปิดกว้างมากขึ้น
เราอาจจะไม่รีบด่วนสรุปหรือตัดสินเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยอคติที่ไม่รู้ตัว
ที่สุดหากการศึกษาทางโลก
เหลียวหางตามาให้ความสำคัญกับการศึกษาทางธรรม(แก่นและราก)บ้าง
โลกอาจมิต้องเยียวยากันด้วยอาวุธ น้ำมัน และตราสารหุ้น
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
ประกายดาว
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,266


" ดาว " ดวงน้อยประกาย นั่นยังพร่างพราย.....


« ตอบ #32 เมื่อ: 04-09-2006, 15:06 »

 Very Happy

เฮ้ ....วันนี้ ว่างเหรอคะ  Question
ขอบพระคุณมากๆ

บันทึกการเข้า



วันที่ดาว ทวงฟ้า นภากระจ่าง
ดาวล้านดวง ทวงทาง ระหว่างฝัน
ผุดขึ้นมา  คราเดียว พร้อมพร้อมกัน
ประกาศมั่น.... วันนี้... เสรีไทย



http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=twinkling-stars&group=1
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #33 เมื่อ: 04-09-2006, 15:10 »



เราจะต้องรักดุจดังที่พระองค์รัก
จะต้องเกื้อกูลดุจดังที่พระองค์ทรงเกื้อกูล
ให้ดุจดังที่พระองค์ให้
รับใช้ดุจดังที่พระองค์ทรงรับใช้
ช่วยเหลือดุจดังที่พระองค์ทรงช่วยเหลือ
อยู่ร่วมกับพระองค์ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
สัมผัสกับพระองค์ผ่านผู้ตกทุกข์ได้ยาก .

- แม่ชี เทเรซ่า -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #34 เมื่อ: 04-09-2006, 15:13 »

Very Happy

เฮ้ ....วันนี้ ว่างเหรอคะ  Question
ขอบพระคุณมากๆ



ครับ
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #35 เมื่อ: 04-09-2006, 15:18 »



ใครผู้ครอบครองความเบิกบานไว้
ย่อมทำให้ปีกแห่งชีวิตแหว่งวิ่น
ทว่า ใครจุมพิตความเบิกบานขณะที่มันโบยบิน
ย่อมมีชีวิตอยู่ในอรุโณทัยแห่งนิรันดรภาพ .

- วิลเลียม เบลค -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #36 เมื่อ: 04-09-2006, 15:20 »

อ่า...ไม่ทราบจะตรงวัตถุประสงค์ ผู้ตั้งกระทู้รึเป่า
คือ มีพวก ประโยคสั้น ๆ ที่พอจะจำได้ จากหนังสือนั้นหนังสือนี้

เป็นประโยคที่ ชอบเป็นส่วนตัว และ(บาง)คนอื่น ก็น่าจะชอบด้วย เลยอยากเอามา แจม บ้าง

ถ้า...มันไปกันไม่ได้กับกระทู้ยังไง ก็แจ้งมานะครับ


ผู้ชาย แข็งเหมือนแก้ว เปราะและแตกง่าย - เสนีย์ เสาวพงศ์ จากนิยาย "ความรักของวัลยา"

ในโลกนี้มีอยู่สองสิ่งที่ปิดบังไม่ได้ คือ ความจน กับ ความรัก - รงค์ วงษ์สวรรค์ จากนิยาย "สนิมสร้อย"

ฉันทลักษณ์ไม่ได้คลอดออกจากมดลูกใคร - อังคาร กัลยาณพงศ์
(อิ อิ อันนี้ ชอบเป็นการส่วนตัว เพราะตัวเองชอบ (ทะลึ่ง) แต่งกลอนเกิน กลอนขาด
ทำเสียงตก เสียงตายอยู่เป็นประจำโดยเฉพาะ "กลอนสิบสอง" ที่นักกลอนเขาประณามหยามหมิ่นว่าเป็นกลอนวิบัตินี่ชอบนัก)


ศาสนา คือ ยาเสพติด - คาร์ล มาร์กซ์
(ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า คิดได้ไง)

มนุษย์เกิดมาอย่างมีอิสรภาพ แต่เติบโตขึ้นอย่างมีพันธนาการติดตัวไปจนวันตาย - รุสโซ จากหนังสือ สัญญาประชาคม
(อันนี้ขออนุญาตไม่อธิบาย เพราะแรงมาก คนที่สนใจประวัติศาสตร์การเมืองยุคปฏิวัติฝรั่งเศส น่าจะพอรู้ความหมาย)

รสนิยมของคนหมู่มาก นำมาวัดคุณค่าทางศิลปะไม่ได้ - เฟรเดอริค นิทเช
(นิทเชบอกว่า หนัง ละคร เพลง หนังสือ อะไรที่ "ชาวบ้าน" ชอบมาก ก็ยิ่งแสดงว่ามัน "ห่วยมาก"
แต่จริง ๆ นิทเช ต้องการจะโจมตี "ระบอบประชาธิปไตย" มากกว่า ว่าเป็นระบอบที่ใช้เสียงหมู่มาก ของ "ชาวบ้าน" เป็นตัวตัดสิน)


ถ้าใช้ชีวิตต่างจากชาวบ้านไม่ได้ ก็อย่าไปคิดต่างจากชาวบ้าน - เสกสรรค์ ประเสริฐกุล
(อันนี้แสบมาก เสกสรรค์ ใช้มุมมองแบบ passive "ด่า" พวกคิดดี ทำดี มีจิตใจใฝ่อุดมการณ์
แต่ชีวิตจริงกลับ "ไม่ต่าง" จากชาวบ้าน เช่น (ยกตัวอย่าง) เลิกซื้อหวย เลิกดูละครน้ำเน่า เลิกดูอะคาเดมีแฟนตาเชีย ให้ได้ก่อนเถอะ ถึงค่อยมาคิดให้ "สูง" ไปกว่าที่ชาวบ้านคิด)


วันนี้สินะ ที่แม่ตาย หรือเมื่อวานนี้... - อัลแบร์ต กามูส์ จากนิยาย "คนนอก"
ประโยคเดียว สามารถครอบคลุมนิยามของทฤษฎี เอ็กซิสตองเชียลิสม์ ได้ทั้งหมด เยี่ยมมาก

เจ้านาย ท่านเขียนหนังสือทำไม โลกนี้มีหนังสือเยอะแล้ว - จากนิยาย Zobra the Greek ใครแต่งจำไม่ได้
(เวลาที่เกิดความรู้สึก นิ่งดูดาย ช่างหัวมันเถอะ สังคมไม่ใช่ของเราคนเดียว นึกถึงประโยคนี้แล้วพอทำให้ ฮึด ขึ้นมาได้)

นึกขึ้นมาได้เท่านี้ เอาเท่านี้ก่อน
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #37 เมื่อ: 04-09-2006, 15:26 »




" เพียงแค่พระอาทิตย์ขึ้น
ก็มีเหตุผลมากพอที่จะกล่าวคำขอบคุณแล้ว
ขอให้พวกเราได้มองดูความงามภายในตนเองและผู้อื่น
เมื่อเราพบกัน
ขอให้มองในดวงตาของกันและกัน
พูดถึงแต่เรื่องที่ดีที่สุดของตนเองและผู้อื่น
จงรู้ไว้ว่าเราล้วนอยู่ในครรลองของชีวิตเช่นเดียวกัน "


- เสียงเพรียกจากบรรพชน ปัญญาญาณแห่งชนเผ่าเชโรกี -



บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #38 เมื่อ: 04-09-2006, 15:28 »


เอาเลยครับ อาววววววว มาลง เยอะๆ ดี ชอบ อ่าน
ผมลง จะหมด แม๊กแล้ววววววว อยากอ่านของคนอื่นบ้าง

ภาพปลากรอบ ด้วยยิ่งดี ครับ ผม ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #39 เมื่อ: 04-09-2006, 15:34 »



ภาพพจน์ของโลกในฐานะองคาพยพที่มีชีวิต และเป็น
มารดาแห่งสรรพสิ่ง ถูกใช้ในฐานะเป็นข้อห้ามทาง
วัฒนธรรมที่จำกัดการกระทำของมนุษย์ เราไม่สามารถ
เข่นฆ่ามารดาด้วยการขุดเอาไส้พุงของท่านเพื่อเสาะหา
ทองคำ หรือทำให้ร่างกายของท่านต้องพิการ ...
ตราบเท่าที่โลกได้รับการพิจารณาในฐานะเป็นสิ่งมีชีวิต
มีความรู้สึก การกระทำในทางทำลายล้าง และเป็นปฏิปักษ์
ต่อโลกย่อมถือได้ว่า เป็นพฤติกรรมที่ฝืนหลักเกณฑ์ทาง
จริยธรรม


- คาโรลิน เมอร์ช้านท์ นักนิเวศวิทยา-

บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #40 เมื่อ: 04-09-2006, 15:41 »



ท่านต้องสอนให้ลูกหลานของท่านรู้ว่า แผ่นดินที่เขาเหยียบอยู่ คือเถ้าถ่านของ
บรรพบุรุษของเรา เพื่อที่เขาจะได้เคารพแผ่นดินนี้ บอกลูกหลานของท่านว่าโลกนี้
อุดมสมบูรณ์ไปด้วยชีวิต อันเป็นญาติพี่น้องของพวกเรา สั่งสอนลูกหลานของท่าน
เช่นเดียวกับที่เราสอนลูกหลานของเราเสมอมาว่าโลกนี้คือแม่ของเรา ความวิบัติใด ๆ
ที่เกิดขึ้นกับโลกก็จะเกิดขึ้นกับเราด้วย หากมนุษย์ถ่มน้ำลายรดแผ่นดิน ก็เท่ากับ
มนุษย์ถ่มน้ำลายรดตัวเอง เรารู้สึกดีว่าโลกนี้ไม่ได้เป็นของมนุษย์ แต่มนุษย์เป็น
ส่วนหนึ่งของโลกนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างมีส่วนผูกพันต่อกัน ความวิบัติที่เกิดขึ้นกับโลกนี้
จะเกิดขึ้นกับมนุษย์เช่นกัน มนุษย์มิได้เป็นผู้สร้างเส้นใยแห่งมวลชีวิต แต่มนุษย์เป็น
เพียงเส้นใยเส้นหนึ่งเท่านั้นหากเขาทำลายสายใยเหล่านี้ เขาก็ทำลายตัวเอง


- Bonds Between Man and and Earth สุนทรพจน์ ของหัวหน้าอินเดียนแดง
ในมลรัฐวอชิงตัน กล่าวเมื่อปี ค.ศ. 1845 เป็นการตอบข้อเรียกร้องจากประธานา
ธิบดีสหรัฐ ที่ได้ขอซื้อดินแดนจากเผ่าอินเดียนแดง(ถอดความโดย พิสิษฐ์ ณ พัทลุง) -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #41 เมื่อ: 04-09-2006, 15:49 »





ข้าอยู่ที่นี่ด้วยความประสงค์ของดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ และโดยความปรารถนาของ
ดวงวิญญาณ ข้าคือหัวหน้าคนหนึ่ง หัวใจของข้าอ่อนหวาน ข้าก็รู้ว่ามันอ่อนหวาน
เพราะไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่ผ่านมาไกล้ข้ามันจะแลบลิ้นมาที่ข้าเสมอ และแล้วพวกท่าน
ก็ได้มาที่นี่เพื่อพูดกับเรา และท่านกล่าวว่า ท่านไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร ข้าต้องการบอกท่าน
ว่า ถ้าดวงวิญญาณอันยิ่งใหญ่เลือกใครก็ตามให้เป็นหัวหน้าแห่งดินแดนนี้ มันผู้นั้น
คือตัวข้าเอง


- ซิตติ้งบลู ผู้ยิ่งใหญ่ อินเดียนแดงเผ่าซูส์ -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #42 เมื่อ: 04-09-2006, 15:56 »



ข้าเบื่อการต่อสู้แล้ว หัวหน้าหลายคนของเผ่าเราถูกฆ่า ข้าเองก็ต้องการมีเวลาดูแลลูก ๆ
ข้าและตามหาพวกเขาเท่าที่จะหาพบได้ หรือบางทีอาจพบพวกลูก ๆ ท่ามกลางซากศพ
จงฟังข้าท่านหัวหน้าคนขาว ข้าเหนื่อยล้าแล้ว หัวใจข้าเจ็บปวดและโศกเศร้า นับแต่นี้ที่
ดวงตะวันฉายแสงอยู่ ข้าจะไม่สู้อีกต่อไป ........

เราทุกคนเกิดมาจากท้องของผู้หญิง แม้ว่าเราจะไม่เหมือนกันหลายอย่างแต่เราไม่สามารถ
ถูกสร้างขึ้นใหม่อีก ท่านเป็นดังที่ถูกสร้างมา เราเองก็เป็นอย่างที่ดวงวิญญาณอันยิ่งใหญ่
สร้างมาและท่านไม่สามารถเปลี่ยนเราได้ แล้วทำไมลูก ๆ ของพ่อแม่คนหนึ่งจึงต้องทะเลาะ
กันด้วย ทำไมลูกคนหนึ่งต้องโกงอีกคนหนึ่ง ข้าไม่เชื่อดวงวิญญาณอันยิ่งใหญ่จะมอบสิทธิ์
ให้คนประเภทหนึ่งบอกกับคนอีกประเภทหนึ่งว่าต้องทำอะไร ......


- โจเซฟ วีรบุรุษนักโทษสงคราม ชนเผ่า เนส์ แปร์เซส์ -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #43 เมื่อ: 04-09-2006, 16:03 »



เพื่อเข้าใจความลี้ลับ
จงสังเกตุจิตใจ
ระงับความกลัว จิตจะใสกระจ่าง
จงขับขานบทเพลงแห่งอุเบกขา
ตื่นขึ้นในความสงบเย็น
ยืนยันเสียงและสิ่งที่เธอเลือก
ดึงดูดความฝันที่ทรงพลัง
โลกสว่างไสว
สันติภาพเรืองรอง


- เสียงเพรียกแห่งบรรพชน ปัญญาญาณแห่งชนเผ่าเชโรกี -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #44 เมื่อ: 04-09-2006, 16:10 »



โอ น้ำอันศักดิ์สิทธิ์ ข้ามายังฝั่งของท่านอีกครั้งหนึ่ง
ข้าเห็นสายธารแห่งปัญญาเลื่อนไหลไม่สิ้นสุด
โอ น้ำอันศักดิ์สิทธิ์ ข้าเข้าสู่ท่าน โปรดชำระล้างให้ข้า
ชำระความคิดอันหนักอึ้งที่ถ่วงข้าให้ไกลจากทะเลแห่งความสงบเย็น

โอ ผู้สร้าง ตาของเราเริ่มแจ่มใส
แสงอันศักดิ์สิทธิ์แห่งปัญญาฉายโชนในหัวใจเรา
ขอให้เราได้แลเห็น ขอให้เราได้เป็น
สิ่งซึ่งเราเป็นอยู่
ขอให้ชีวะทั้งหลายจงตระหนักถึงความปรองดองและเอกภาพ


- เสียงเพรียกแห่งบรรพชน ปัญญาญาณแห่งชนเผ่าเชโรกี -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #45 เมื่อ: 04-09-2006, 16:17 »




ลำนำเผ่าโมฮ็อค

ข้าแต่เทพผู้สร้าง        สิ่งสรรพต่างพันธุ์พืชผล
มวลมนุษย์กำเนิดชน      บันดาลดลด้วยเมตตา

ประสบแต่สุขี             เพื่อนำชี้ลูกหลานข้า
ครรลองครองชีวา        สู่ชราปัจฉิมวัย

ผองข้าประชามิตร       ให้มีจิตพิสุทธิ์ใส
รู้รักและห่วงใย            ขอเทพไซร้ได้การุณ

ให้หญ้าเขียวขจี         หอมมาลีกำจายกรุ่น
ไม้ผลิแดดละมุน        เช่นเคยคุ้นฤดูกาล

เพื่อเหล่าคนประจักษ์     ร่วมสมัครรวมประสาน
เทพผู้อภิบาล          โปรดประทานผองข้าเทอญ

- กวีนิรนาม -


บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #46 เมื่อ: 04-09-2006, 16:24 »



ควอทซ์คริสตัล ส่งเสียงใสกระจ่าง
ทุกมิติมาบรรจบ แกนหมุนไปโดยรอบ
สิ่งมีชีวิต ความคิดอันกอปรด้วยสติ
ขับขานบทเพลงคริสตัล
เร็วกว่าความเร็วแสง
ของเหลวไหลเคลื่อนไป ปรากฏดุจดั่งความนิ่ง
ซิลิกาไดออกไซด์ รวมอยู่ในรูปลักษณ์ทุกแบบแผน
คริสตัลขยายเพิ่มพูน
บทเพลงแห่งความเป็นเช่นนั้น

คริสตัลเป็นสิ่งมีชีวิต
เป็นมิตรในวัฏฏะแห่งชีวิต
ที่ขับขานเพลงอันศักดิ์สิทธิ์เสมอ
ให้เธอเห็นวิถีทางในการเปลี่ยนแปลงตนเอง

แสงเดือนเต็มดวง แสงจันทร์ข้างขึ้น
เวลาแห่งการอุทิศตน
เกลียวแสงเต้นระยิบ
แสงจันทร์ข้างขึ้น แสงเดือนเต็มดวง
อุทิศหินและเพลงอันศักดิ์สิทธิ์ให้
อุทิศเป้าหมายในชีวิตให้
เพื่อจิตใจจะได้สะอาดบริสุทธิ์

ได้ยินใหม
เสียงชีพจรของโลก ?
หายใจเข้า หายใจออก
ฝันถึงสันติสุข

ฮา ฮา ฮา
โฮ โฮ โฮ
(ซ้ำสี่ครั้ง)

เต้น เต้น เต้น
คริสตัลขับขานบทเพลง
ยามค่ำคืนนี้

จงขอบคุณ ขอบคุณ
สำหรับของขวัญแห่งชีวิต

ฮา ฮา ฮา
โฮ โฮ โฮ
(ซ้ำสามครั้ง)

เต้น เต้นเป็นเกลียวอันศักดิ์สิทธิ์
ร้องเพลงอันศักดิ์สิทธิ์ในค่ำคืนนี้
พลังเคลื่อนมาจากทิศเหนือ
สะท้อนให้เห็นปัญญาอันกระจ่างที่อยู่ภายใน
หน้าด้านยาวของผลึกคริสตัล
อยู่ในแนวเดียวกันกับทิศเหนือ
ณ ที่นั้นย่อมเห็นโฉมหน้าของเธอ
ก่อนนี้ ก่อนนี้ และตลอดไป
โฮ !


- เสียงเพรียกจากบรรพชน ปัญญาญาณชนเผ่าเชโรกี -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #47 เมื่อ: 04-09-2006, 16:27 »



มาเถิดมา มาสู่อีกฟากฝั่งหนึ่ง
ไร้ซึ่งมายา ค่อย ๆ เคลื่อนเรือแคนูแห่งแสงออกไป
เข้าสู่กระแสแห่งดวงจิตบริสุทธิ์ยิ่ง
ก้าวขึ้นสู่ฝั่งน้ำอย่างคล่องแคล่ว
ก้าวเคียงคู่ไปกับฝูงปลาที่แหวกว่าย
ขณะที่แสงแห่งวันอันสดใส
เต้นระริกบนผิวน้ำ

เรือเกยหาด
เธอก้าวอย่างมั่นคงลงสู่กระแสธาร
ธารน้ำไหลสู่มหาสมุทร
ลึกลงไปในห้องแห่งความรู้ของเธอ
เดินทางไปในธารน้ำนั้น
ขณะที่มันคลอเคลียรอบเท้าเธอ
ให้มองภาพสะท้อนของวัน
ดูสิ่งซึ่งเธอทำได้ดีที่สุด
ขอให้เรายืนยันในสิ่งซึ่งเราพินิจ
ว่าจะกระทำความดียิ่ง ๆ ขึ้น

แนวฝั่งค่อย ๆ คลี่คลาย
ขยายออกเป็นท้องทะเลแห่งห่วงหุบ
ห้วงหุบที่หนึ่ง
บรรจุสมบัติคือเจตนาดีอันบรรลุผล
อะไรเล่าคือโฉมหน้าของเธอ
ก่อนที่เธอจะมาเกิด ?
แลให้เห็นความลี้ลับที่อยู่เบื้องหลังรูป
แสวงหารัตนะแห่งเหตุดี
ความคิดที่จะปฏิบัติชอบ
ดำดิ่งลงในกระแสจิตอันโอภาส
หินสีเหลืองปลดปล่อยแสง
เรียกร้องให้เธอหยั่งรู้ถึงสิ่งถูก
เก็บเอาโทปาซศักดิ์สิทธิ์
อันเป็นพลังเกื้อหนุนให้จิตบริสุทธิ์

การหาสมบัติยังคงล่วงลึกไปอีก
เธอถูกชักจูงไปสู่ห้วงหุบที่สอง
ชุ่มสบายในน้ำ
เคลื่อนไปเหมือนแสงสว่างบนลำแสง
รำลึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาอย่างเบิกบาน
ถึงสถานที่ที่เธอถักทอความฝัน
แสงเรืองรองแห่งปัญญาเรียกหาเธอ
มายังคูหาอันกระจ่างด้วยแสงสีกุหลาบ
เก็บทับทิมอันมีค่า เป็นมณีแห่งปัญญา
ความเมตตาไหลหลั่งท่วมท้น
ติดตามแสงอันลี้ลับ
ที่เรียกเธอไปยังใจกลางกระแสธาร

ห้วงหุบที่สาม ความเรืองรองมหัศจรรย์ของเจตจำนง
ส่องประกายสุกสว่างแห่งจิตพิสุทธิ์ออกมา
เจตนาชอบไหลหลั่งมาเป็นการกระทำที่บรรลุผล
กลมกลืนเสมอ ทำให้เกิดแสงสว่าง
เก็บรับเอาความสว่างไสวของเพชร

รัตนทั้งสามที่ควรนำติดตัวไป
ควรกล่าวถึงและควรอุทิศให้
ได้แก่ สัจจะ ประชาคม และธรรมะ
ย้ำว่าเธออยู่บนมรรคาอันงดงาม

มาเถิดมา มาสู่อีกฟากฝั่งหนึ่ง
มายาถูกขจัดออกไป
สิ่งมีค่าคือแสงเรืองรอง
มาเถิด มารวมกันที่ริมฝั่ง
ลงเรือแห่งแสงสว่าง
เพื่อฝ่าข้ามท้องทะเลแห่งความสับสน


- เสียงเพรียกจากบรรพชน ปัญญาญาณชนเผ่าเชโรกี -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #48 เมื่อ: 04-09-2006, 16:29 »



บทเพลง ผู้ฝันหมี

เฮ อีเย คี ยา มานี โย
เฮ อีเย คี ยา มานี โย
เฮ อีเย คี ยา มานี โย
เฮ เฮ ยา เพ โล
เฮ เฮ โย

จงตระหนักในทุกสิ่งขณะที่ก้าวเดินไป
จงตระหนักในทุกสิ่งขณะที่ก้าวเดินไป
จงตระหนักในทุกสิ่งขณะที่ก้าวเดินไป
นี่คือคำกล่าวของเรา

มาคี ซีโทมนี ยัน
วัน นี ยันคีอัน อู เฮ อีเย
คี ยา มานี โย
เฮ เฮ ยา เพ โล
เฮ เฮ โย

ทั่งทั้งโลก
ต่างพากันมาหาเจ้า
จงตระหนักในทุกสิ่งขณะที่ก้าวเดินไป
นี่คือคำกล่าวของเรา

- อินเดียนแดงเผ่าซู(เผ่าลาโกต้า) -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
โอสถ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 273



« ตอบ #49 เมื่อ: 04-09-2006, 16:31 »



บทเพลงผู้ฝันจิ้งจอก

โท เค ยา อีนาพา นัน เว
โท เค ยา อีนาพา นัน เว
ซุงเก ลา วัสเต โทเค ยา อีนาพา นัน เว

ผู้ที่ออกไปเป็นอันดับแรก
ผู้ที่ออกไปเป็นอันดับแรก
จิ้งจอกผู้งดงามออกไปเป็นอันดับแรก

เฮ วาคัน ยัน อีนาพา นัน เว
เฮ วาคัน ยัน อีนาพา นัน เว
โคลา เฮ ยา ซี อี - อี -อี โย

ผู้ออกไปอย่างศักดิ์สิทธิ์
ผู้ออกไปอย่างศักดิ์สิทธิ์
มิตรสหายต่างบอกท่านว่าท่านเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์

- อินเดียนแดงเผ่าซู(เผ่าลาโกต้า) -
บันทึกการเข้า


เจ้าขอทาน
ฟ้าและดิน 
คืออาภรณ์ในฤดูร้อนของเขา


ทดสอบ ลิ้ง คุณภาพ
http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
หน้า: [1] 2 3
    กระโดดไป: