ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 06:45
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  อีกมุมนึงครับ น่าสนใจ - ถอดรหัสทีมสังหาร พันเอก"ส"-พันโท"ม" พลตรี"พ"หัวโจก 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
อีกมุมนึงครับ น่าสนใจ - ถอดรหัสทีมสังหาร พันเอก"ส"-พันโท"ม" พลตรี"พ"หัวโจก  (อ่าน 1266 ครั้ง)
jnaj1
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 170


« เมื่อ: 03-09-2006, 16:52 »

ถอดรหัสทีมสังหาร พันเอก"ส"-พันโท"ม" พลตรี"พ"หัวโจก


ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าคาร์บอมบ์ที่แยกบางพลัดเมื่อวันก่อน เป็นแผนลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจริงๆ

หรือเป็นเพียงคาร์บอมบ์จัดฉาก เรียกคะแนนสงสารจากพี่น้องประชาชนตามที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และพรรคประชาธิปัตย์ออกมาวิพากษ์วิจารณ์

แต่ที่แน่ๆ การจับคาร์บอมบ์ครั้งนี้มีตัวผู้ต้องหา เป็นนายทหารสังกัด กอ.รมน. คือ ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชะนะ โดนทีม รปภ. นายกรัฐมนตรีชาร์จจับคารถเก๋งแดวูซึ่งภายในรถซุกซ่อนระเบิดจำนวนมาก

หลังการจับกุมไม่ถึงชั่วโมง นายกฯ ทักษิณเซ็นคำสั่งปลดฟ้าผ่า พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี พ้นเก้าอี้ รอง ผอ.กอ.รมน. ทันที เพราะมีการเชื่อมโยงว่า ร.ท.ธวัชชัยผู้ต้องหาเป็นอดีตพลขับประจำตัวของ พล.อ.พัลลภนั่นเอง

นอกจากนี้ นายกฯ ทักษิณยังระบุชัดเจนว่า ทราบแผนลอบสังหารนี้เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน เจ้าหน้าที่ระแวดระวังตรวจสอบอย่างละเอียดกระทั่งมาจับได้คาหนังคาเขา

"มีชื่อผู้ร่วมขบวนการ และก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่รายงานว่ามีชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง 3-4 คน เป็นทหารทั้งหมด เป็นทหารในราชการเกือบทุกคน มีนอกราชการอยู่บ้าง"

ขณะที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ระบุว่าที่โดนปลดเพราะนายกฯ ไม่พอใจที่ตนส่งเจ้าหน้าที่ไปอารักขา พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ และการจับกุมคาร์บอมบ์เป็นการสร้างสถานการณ์ของฝ่ายรัฐบาล พยายามโยงให้ถึง จปร.7 รวมทั้งยังตั้งข้อสังเกตและข้อพิรุธหลายประการที่ทำให้ไม่น่าเชื่อว่าเป็นคาร์บอมบ์ของจริง



จะของจริงหรือจัดฉากก็ต้องรอผลพิสูจน์ และตำรวจเองก็เดินหน้าสืบสวนสอบสวนขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด โดยเริ่มจากตัวผู้ต้องหาก็คือ ร.ท.ธวัชชัย

จากบันทึกคำสารภาพของ ร.ท.ธวัชชัยที่พนักงานสอบสวนถ่ายวิดีโอไว้เป็นหลักฐานนั้นแล้วนำมาเปิดเผยต่อหน้าสื่อมวลชน ซึ่งดูแล้วเกินหน้าที่ตำรวจไปหน่อย

ร.ท.ธวัชชัยยอมรับว่า "เรื่องที่มีวัตถุระเบิด...ที่ผมทำไปนี้ แล้วมารู้ว่าในรถนั้นมีระเบิดร้ายแรงก็เสียใจมาก...เป็นเพราะอำนาจของพระสยามเทวาธิราชที่ทำให้ไม่เกิดระเบิด ถ้าเกิดระเบิดตามที่เจ้าหน้าที่บอกว่าร้ายแรงจริง ถ้าระเบิดขึ้นมาจะทำให้มีผู้เดือดร้อนมากมายมหาศาล จะเกิดตราบาปกับชีวิตตลอดไป เกิดความเสียใจร...เหตุที่เกิดขึ้นอยากขอโทษประชาชน และนากยกฯ ที่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์นี้ ขอโทษและยอมรับผิด"

นอกจากนี้ ร.ท.ธวัชชัยยังระบุว่า "เรื่องที่ท่านอยากจะให้ซัดทอดใครนั้น ผมเป็นทหาร ผมมีสัจจะในตัวเอง จะให้พูดหรือบอกถึงใครนั้น ผมเป็นทหาร ผมมีสัจจะในตัวเอง จะให้พูดถึงใครนั้นยังไม่บอก"



แนวทางการสืบสวนสอบสวนของตำรวจเริ่มจากตัว ร.ท.ธวัชชัยเป็นหลัก เช็กประวัติอย่างละเอียดพบเมื่อตอนติดยศ จ.ส.อ. เคยเป็นทหารติดตาม พล.อ.พัลลภ เป็นพลขับประจำตัว จากนั้นก็ได้เลื่อนยศเป็น ร.ต. เข้าทำงานที่ กอ.รมน. มาตลอด

นอกจากนี้ ยังสืบสวนพบว่า ร.ท.ธวัชชัยมีการติดต่อเชื่อมโยงหลายคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนายทหาร

เริ่มจาก พล.ต. ชื่อย่อ "ส" เป็นอดีตนายทหารสังกัด กอ.รมน. เช่นกัน ซึ่งจุดนี้ตำรวจมีหลักฐานการใช้โทรศัพท์มือถือของ ร.ท.ธวัชชัยว่ามีการติดต่อกับ พล.ต. "ส" ในช่วงเย็นวันที่ 23 สิงหาคม ก่อนโดนจับ 1 วัน และในวันที่โดนตำรวจจับนั้นก็มีการติดต่อกันอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม หลังจับกุม 2-3 วัน พล.ต.สมาน เกษรอินทร์ อดีตที่ปรึกษา รมว.กลาโหม ซึ่งมีบ้านพักติดกับบ้านพักของ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ตำรวจตรวจสอบพบว่ามี พล.ต. ชื่อย่อ "ส" ว่า ก่อนเกิดเหตุวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ตนโทรศัพท์ไปหา ร.ท.ธวัชชัย ซึ่งเคยเป็นลูกน้องเพื่อให้นำผลไม้ไปฝากให้ พล.ต.ไพบูลย์ ไผ่นาค นายทหารสังกัด กอ.รมน. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของ ร.ท.ธวัชชัย ต่อมาเช้าวันที่ 24 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ ร.ท.ธวัชชัยก็โทรศัพท์มาหาและบอกว่าถูกล็อค ตนยังคิดว่ารถโดนตำรวจล็อคล้อ จึงขอสายพูดกับตำรวจ บอกว่า ร.ท.ธวัชชัยเป็นนายทหาร ขอให้อำนวยความสะดวกด้วย จากนั้นตนก็โทรศัพท์ไปหาอีกครั้งแต่ไม่มีคนรับสายแล้ว

"หลังจากนั้นตอน 10 โมงเช้า ผมเห็นข่าวในทีวีว่าตำรวจจับกุม ร.ท.ธวัชชัยพร้อมด้วยรถเก๋งบรรทุกระเบิดจำนวนมากก็ตกใจมาก เพราะตำรวจต้องตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ของ ร.ท.ธวัชชัยซึ่งมีการติดต่อกับตนในช่วงนั้นพอดี จึงรู้สึกไม่สบายใจมาก จำเป็นต้องออกมาชี้แจงว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย"

นายทหารอีกรายที่ตกเป็นเป้าของตำรวจก็คือ พันเอก "ส" เป็นนายทหารสังกัด กอ.รมน. เช่นกัน และมีความใกล้ชิดกับ พล.อ. คนดังด้วย โดยการสืบสวนของตำรวจพบว่าพันเอก "ส" อยู่ใน กอ.รมน. ตอนที่ ร.ท.ธวัชชัยจะขับเก๋งแดวูบรรทุกระเบิดออกจากสวนรื่นฤดีตอน 05.45 น. ของวันที่ 24 สิงหาคม ก่อนจะโดนจับกุมตอน 8 โมงเช้าวันเดียวกัน

และมีบทบาทเกี่ยวข้องกับเก๋งแดวูคันที่ซุกระเบิด

พันโท "ม" เป็นทหารอีกนายที่ตำรวจจับตาเป็นพิเศษ อยู่ในข่ายต้องสงสัยรวมขบวนการคาร์บอมบ์ด้วย พันโท "ม" เคยเป็นทหารในค่ายแห่งหนึ่งในภาคกลาง เชี่ยวชาญด้านระเบิด ก่อนจะย้ายไปอยู่ในสังกัด กอ.รมน.

ในอดีตพันโท "ม" เคยมีชื่อเข้าไปพัวพันกับคดีสังหารกำนันคนดังภาคตะวันออกเมื่อหลายปีก่อน มีประวัติอยู่ในแฟ้มของตำรวจ

พันโท "ม" นับว่าเคยโด่งดังในยุทธจักรนักเลงมือปืนและนักฆ่า เคยสนิทสนมกับเจ้าพ่อใหญ่ของประเทศ ต่อมาย้ายมาทำงานใกล้ชิดทหารใหญ่ใน กอ.รมน. ก็พบว่ามาพัวพันเรื่องทำนองนี้อีก

แต่คราวนี้ยกระดับเป็นงานฆ่าระดับชาติ

รายสุดท้ายเป็นพลตรีชื่อย่อ "พ" เป็นนายทหารที่เคยอยู่หน่วยรบ และใกล้ชิดกับนายทหารใหญ่ใน กอ.รมน.

ตามพยานหลักฐานของตำรวจพบว่าทั้งพลตรี "พ" พันเอก "ส" พันโท "ม" ไปปรากฏตัวใกล้กับจุดที่จอดคาร์บอมบ์ แต่อยู่นอกรัศมีระเบิด คาดว่าพลตรี "พ" พันเอก "ส" ไปสั่งการ ส่วนพันโท "ม" เป็นคนกดรีโมต



ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม คอมมานโดกองปราบฯ บุกเข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 13/07 ชั้น 13 อาคารชุดไพลินสแควร์ 3 สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมืองทองธานี ซึ่งเป็นห้องพักของ จ.ส.อ.ชาคริต จันทระ หรือจ่ายักษ์

แต่จ่ายักษ์ซึ่งช่วยราชการ กอ.รมน. หลบหนีออกไปก่อนอย่างหวุดหวิด

รายงานหน่วยข่าวกรองระบุว่า จ่ายักษ์อยู่ในชุดปฏิบัติการลอบสังหารนายกฯ เพราะเมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่นายกรัฐมนตรีเดินทางกลับจากราชการจาก จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเครื่องบินต้องมาลงที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 หรือ บน.6

หน่วยข่าวพบปิคอัพนิสสันของจ่ายักษ์จอดอยู่ในลานจอดหน้าอาคารที่ขบวนรถของนายกฯ จะต้องวิ่งผ่าน มีลักษณะคล้ายเป็นการมาร์กจุดไว้ เพื่อให้การตรวจสอบความปลอดภัยของเส้นทางเสร็จเรียบร้อยไม่พบสิ่งผิดปกติ เสร็จแล้ว จึงเลื่อนรถออก เพื่อรถยนต์แดวูที่ซุกซ่อนวัตถุระเบิดเอาไว้วิ่งเข้ามาจอดแทน แต่แผนดังกล่าวทำไม่สำเร็จ

นอกจากนี้ ตำรวจสอบสวนเจ้าของเต๊นท์รถมือสองระบุว่าเก๋งแดวูของกลางที่ใช้ซุกซ่อนวัตถุระเบิดนั้น มี จ.ส.อ.ชาคริตเป็นผู้มาจ่ายเงินค่ารถ โดยจ่ายักษ์เป็นคนขับรถของ พ.อ.สุรพล สุประดิษฐ์ หรือ เสธ.ตี๋ สังกัด กอ.รมน. ซึ่ง เสธ.ตี๋ถือเป็นคนสนิทคนหนึ่งของ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ด้วย

หากเป็นจริงตามที่ตำรวจสืบสวนก็เป็นเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวมาก เพราะถือว่าเป็นขบวนการใหญ่ มีเป้าสังหารเป็นผู้นำประเทศ

แต่ถ้าเป็นการจัดฉากสร้างสถานการณ์ ก็ต้องยอมรับว่าแนบเนียนมากจริงๆ




Source: http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php?srctag=MDQwNTAxMDk0OQ==&srcday=MjAwNi8wOS8wMQ==&search=no
บันทึกการเข้า
Scorpio6
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,210


Man on Mission *เสี่ยวฯ>สันติภาพ*


« ตอบ #1 เมื่อ: 03-09-2006, 23:41 »


แวะ...เข้ามาอ่าน..มาเยี่ยม..น่าสนใจ......ครับ Mr. Green
บันทึกการเข้า



คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อน
บล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง*
http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1
"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต
ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ
ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
Kna
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 119


Highly Flammable


« ตอบ #2 เมื่อ: 04-09-2006, 04:57 »

เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ท่านผู้นำเกี่ยวกับกลุ่มมือสังหาร.... ผมหามาเพิ่มให้อีก หนึ่ง  Mr. Green

บันทึกการเข้า
z e a z
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 564



« ตอบ #3 เมื่อ: 04-09-2006, 05:21 »

ถ้าหลักฐานมีน้ำหนักจริง ก็ออกหมายจับไปเลย ... รำคาญ
 Laughing Laughing Laughing
บันทึกการเข้า

<a href="http://www.stopglobalwarming.org/countmein.asp" target="blank"><img src="http://msglblwarm.vo.llnwd.net/o16/assets/banners/728x90/sgw_728_90.gif" alt="StopGlobalWarming.org" border="0"></img></a>
เพนกวินน้อยนักอ่าน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 866



« ตอบ #4 เมื่อ: 04-09-2006, 08:02 »

มันออกหมายจับบ่ได้

ได้แต่เชิญตัวมาน่ะสิครับ
สุดท้ายตำรวจจะชนทหารซะล่ะมั้ง

ผมว่าคดีนี้ไม่มีใครรู้หัวก้อย
บางทีอาจไม่ใช่การจัดฉาก
แต่คิดว่าใช่ว่ะ 555

ตำรวจทำงานไม่ถูกต้องตามหลัก
อยู่ดีดี ให้ข่าวว่าต่อไป จะทำงานในแบบตามหลักวิธีวิทยาศาสตร์
แสดงว่าที่แล้วมา ตอนเก็บของกลาง หาหลักฐานในที่เกิดเหตุ ไม่เป็นวิทยาศาสตร์หรือไง

คือมันควรเป็นวิธีทางนิติวิทยาศาสตร์ตั้งแต่ต้นแล้วน่ะ
แล้วค่อยๆหา หลักฐาน พยาน ก่อน
แรงจูงใจเดาไว้ได้
แต่ไม่ต้องพูดเพื่อ ให้นายกฯเอามาใช้งานการเมือง

ถ้าตอนแรกเปิดว่าพบระเบิด จอดตรงสะพานแล้วค่อยๆ ไล่หาตัวคนผิด
โดยไม่บอกเป็นเรื่องการเมือง พอหลักฐานแน่นแล้วค่อยประกาศตูมเดียว
ป่านนี้ถ้าคดีนี้เป็นเรื่องจริงไม่จัดฉาก จับตัวได้แล้ว

ตำรวจทำงานเอาหน้าเสียเคย
 Cool
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: