ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 22:55
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  .............. กุหลาบแก้ว.................. 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
.............. กุหลาบแก้ว..................  (อ่าน 757 ครั้ง)
boonterm
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 265


โย่ว......


« เมื่อ: 02-09-2006, 09:54 »

มีกฎหมายต้องบังคับใช้
 
แม้คนในครอบครัวของนายกรัฐมนตรี จะได้ขายหุ้นในบริษัทชินคอร์ป ให้แก่ บริษัทเทมาเส็กของสิงคโปร์ไปแล้ว ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2549 เป็นเงิน 73,300 ล้านบาท แต่ก็ยังมีปัญหาคาราคาซังอยู่ ขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์กำลังตรวจสอบว่า บริษัทกุหลาบแก้ว ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติไทย และเป็นผู้ซื้อหุ้นชินคอร์ปรายใหญ่ เป็นบริษัทไทยจริง หรือเป็นเพียงผู้ถือหุ้นแทนบริษัทต่างประเทศ

อันที่จริง กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้สอบสวนแล้ว และสรุปว่า บริษัทกุหลาบ แก้วเป็นผู้ถือหุ้นแทนต่างชาติ หรือเป็นเพียงนอมินี และเสนอให้ดำเนินการตามกฎหมาย เพราะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 แต่กระทรวงพาณิชย์ กลับตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นมา เพื่อสอบสวนอีก จึงมีเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการเตะถ่วง เพื่อช่วยเหลือผู้ทำผิดกฎหมายหรือไม่?

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์กำลังมะงุมมะงาหรา ทำการสอบสวนเรื่องนี้เป็นรอบที่สอง บรรดาผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ ต่างฟันธงแล้วว่าบริษัทกุหลาบแก้วเป็นนอมินีของต่างชาติ และถ้าเป็นจริงก็จะมีผลกระทบในวงกว้าง เพราะจะทำให้บริษัทชินคอร์ปมีฐานะเป็นบริษัทต่างชาติไปด้วย บริษัทในเครือจึงอาจถูกยกเลิกสัมปทานต่างๆที่ได้รับจากรัฐบาลไทย เช่น กิจการโทรคมนาคมและดาวเทียม

พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคน ต่างด้าว ห้ามคนต่างด้าวถือหุ้นในกิจการหลายอย่างเกิน 49% เช่น กิจการโทรคมนาคม การเดิน อากาศ ดาวเทียม เป็นต้น ส่วนกิจการโทรทัศน์ คือไอทีวี ก็อาจได้รับผลกระทบด้วย เพราะรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 39 ระบุว่า “เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อ มวลชนอื่น ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย” ห้ามเป็นของต่างชาติ

ผลการวิจัยของนักวิจัย จากสถาบันเพื่อการพัฒนาประเทศไทย พบว่า ขณะนี้ ประเทศอื่นๆได้เปิดธุรกิจบริการทุกอย่างให้ต่างชาติหมดแล้ว เหลืออยู่แต่เพียงประเทศไทยที่ยังปิดกั้นอยู่ แต่เป็นการปิดกั้นแบบปากว่าตาขยิบ กล่าวคือมีกฎหมายปิดกั้นจริง แต่ไม่ได้บังคับใช้โดยเคร่งครัด ตัวอย่างเช่นกิจการโทรคมนาคม ห้ามต่างชาติถือหุ้นเกิน 49% แต่ในความเป็นจริง ต่างชาติถือหุ้นถึง 65.07%

ปัญหาขณะนี้ก็คือ จะต้องตรวจ สอบเรื่องนี้อย่างโปร่งใส และตรงไปตรงมา ไม่ให้ ถูกกล่าวหาว่าพยายามเตะถ่วง หรือช่วยเหลือผู้ทำผิดกฎหมาย และตราบใดที่ยังมีกฎหมายอยู่ ก็จะต้องใช้บังคับโดยเคร่งครัด แต่ถ้าเห็นว่ากฎหมายล้าสมัย ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง เป็นอุปสรรคต่อการลงทุนของต่างประเทศ และการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ก็จะต้องแก้ไขกฎหมายเสียใหม่

จงอย่าได้พยายามใช้การเลือกตั้งเป็นเครื่องมือ ในการแก้ไขหรือตัดสินปัญหาทุกอย่าง การเลือกตั้งอาจจะเป็นเครื่องตัดสินว่า ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย กับนโยบายของรัฐบาลหรือของพรรคต่างๆ แต่ถ้ามีการกล่าวหาว่าทำผิดกฎหมาย จะใช้การเลือกตั้งตัดสินไม่ได้ แม้จะด้วยคะแนนเสียงกี่สิบล้านเสียงก็ตาม การกล่าวหาว่าทำผิดกฎหมาย จะต้องตัดสินด้วยกระบวนการยุติธรรม.
-------------------------------

 http://www.thairath.co.th/news.php?section=politics01&content=18197

--------------------------------

ผมคัดบทบรรณาธิการ ไทยรัฐมาให้อ่านกัน  เพียงอยากจะช่วยกันจับตามองครับ
บันทึกการเข้า

............................................................

พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #1 เมื่อ: 02-09-2006, 10:02 »

ในเรื่องของกุหลาบแก้วนั้น ไม่ว่าจะตะแบงไปอย่างไรก็คงไม่พ้นความผิดไปได้ค่ะ และที่ซวยแหงแซะก็คือท่านประธานของสปอร์ตคลับ เจ้าของน้ำดำยี่ห้อดังโค้กซ่า  ที่ไม่รู้นึกอย่างไรมาซวยกับคนคราวลูกคราวหลาน ทั้งๆที่มีเงินมากมายมหาศาลและอายุก็ปูนนั้นแล้ว ปัญหาสำคัญที่คนนี้แหละค่ะ จะช่วยกันอย่างไรดี ป่านนี้พี่น้องลูกหลานคงปวดขมับไปแล้ว

เรื่องสัมปทานนั้น คงไม่ถูกยึดหรอกค่ะ น่าจะออกลักษณะเดียวกับสายการบินที่พึ่งถูกสั่งให้ปรับสัดส่วนผู้ถือหุ้นใหม่ เพราะหากมีคนไทยถือหุ้นไม่ถึงที่กำหนด ก็ใช้สัมปทานเส้นทางการบินไม่ได้  แล้วเขาก็ตั้งบริษัทนอมินี ที่ไม่มีสัดส่วนการปันผลและออกเสียงแบบโง่ๆเหมือนกุหลาบแก้ว มาปรับสัดส่วนเองค่ะ เรื่องกุหลาบแก้วนั้น คนคิดโครงสร้างบริษัทมันโง่ไปหน่อยค่ะ  ใครหนอว่าเจ๊กสิงคโปร์ฉลาด
บันทึกการเข้า
boonterm
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 265


โย่ว......


« ตอบ #2 เมื่อ: 02-09-2006, 10:15 »

"คนคิดโครงสร้างบริษัทมันโง่ไปหน่อยค่ะ  ใครหนอว่าเจ๊กสิงคโปร์ฉลาด"


ผมว่าออกลูก  ประมาท  มากกว่า

อันนี้เพิ่มเติม คนในเน็ตกลุ่มหนึ่งเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้
http://www.thannews.th.com/poll/phpViewPoll.php?sID=138&Flag=1
บันทึกการเข้า

............................................................

สนธิเหยียบหน้าเหลี่ยม
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 102


« ตอบ #3 เมื่อ: 02-09-2006, 19:10 »

มีชัยฤชุพัน บอกว่า ในเมื่อทำผิดแล้ว กลับมาทำให้ถุก มันก้ผิดอยู่ดี
ผมขอยกตัวอย่าง เช่น ผมต่อยหน้านาย ก  ต่อไปผมไปขอโทษ ผมจะผิดฐานทำร้ายร่างกายไหม นี่เป็นตัวอย่างง่ายๆครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: