เปิดเกม สื่อชนสื่อ - เกมนี้ใครมี..สื่อ คือ..อำนาจ รุกทุกทาง TV - Radio- Post - Online-Nethttp://www.manager.co.th/mgrWeekly/ViewNews.aspx?NewsID=9490000110815เดินเกม สื่อชนสื่อ ปกป้องระบอบทักษิณ โดย ผู้จัดการรายสัปดาห์ 1 กันยายน 2549 10:04 น.
เนวิน เดินเกมรุกด้านข่าวสารหวังปกป้อง ระบอบทักษิณ
เดินหน้าสร้างเครือข่ายสื่อสารมวลชนทุกรูปแบบ เพื่อให้ข้อมูลความเห็นสนับสนุนฝ่ายทักษิณ และตอบโต้ฝ่ายต่อต้านแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน
ส่วนคู่หูเชลียร์ ได้ที่สิงสถิตใหม่แล้ว หลังถูกอัปเปหิพ้นจากอสมท. และยูบีซี
แหล่งข่าวจากวงการสื่อสารมวลชนวิเคราะห์ สถานะภาพของภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ในช่วงนี้นับว่าอยู่ในภาวะตกต่ำมาก แม้แต่การเกิดข่าวจับรถขนระเบิดโดยตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคนระบุว่าเป็นแผนลอบสังหารผู้นำ แต่ผลการสำรวจความเห็นประชาชนโดยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ พบว่า สังคมกว่าครึ่งเชื่อว่าเป็นการ สร้างฉาก เพื่อกลบข่าวที่ตำรวจมีความลำเอียงในการจัดการกับกลุ่มคนที่ไปตะโกนขับไล่ทักษิณ และกลุ่มคนที่ไปเชียร์ทักษิณ จนถึงขั้นมีภาพข่าว เช่น จาก ASTV เป็นหลักฐานว่าตำรวจซึ่งอยู่ในเหตุการณ์เหมือนรู้เห็นเป็นใจกับอันธพาลที่เข้าไปทำร้ายคนชราและผู้หญิงเพื่อเอาใจนักการเมือง
การไม่สามารถคุมสื่อโดยเฉพาะสื่อหนังสือพิมพ์ ที่มีการสืบค้นและเปิดเผยประเด็นที่ผิดปกติและผิดจริยธรรมของแกนนำรัฐบาล นับเป็นจุดอ่อนที่บั่นทอนคะแนนนิยมในหมู่ชนชั้นกลางขึ้นไปซึ่งสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และเปิดรับข่าวสารจากสื่อสารมวลชนต่างๆ
แหล่งข่าวในวงการเมืองที่ใกล้ชิดแกนนำรัฐบาล เปิดเผยว่าในความเป็นจริงขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เผชิญกระแสกดดันจากปัญหาต่างๆ และกระแสข่าวที่รุกไล่อย่างหนักมาก จนพร้อมที่จะประกาศเว้นวรรคทางการเมือง หรือแม้แต่จะวางมือด้วยซ้ำไป
สิ่งที่คุณทักษิณทำตอนนี้จึงเป็นการวางแผนให้พรรคไทยรักไทยชนะเลือกตั้งให้ได้ แล้วค่อยประกาศตัดสินใจหากมีการเว้นวรรค เพื่อให้มั่นใจว่าได้วางกำลังทั้งด้านนักการเมือง และกำลังทหารตำรวจเพื่อเป็นเครื่องมือช่วยปกป้องความมั่นคงปลอดภัยของตัวเอง ครอบครัว และทรัพย์สมบัติ แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งแม้จะมีข่าวคราวที่คนเชื่อว่ามีช่องทางในการถ่ายเททรัพย์สมบัติไปเก็บในที่ปลอดภัย แต่ก็คงอยากมีชีวิตอยู่ในสังคมได้ หลังจากลงจากอำนาจ
แกนนำคนใกล้ชิดทักษิณ จึงเห็นความสำคัญของบทบาทสื่อสารมวลชนในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร และความเห็นซึ่งปัจจุบันสื่อมืออาชีพส่วนใหญ่ถูกฝ่ายรัฐบาลมองว่า ไม่เป็นมิตร ถึงขนาดรำพันทำนองว่าถูกสื่อมวลชนไม่ให้ความเป็นธรรม แม้แต่สื่อของรัฐ
นี่คือที่มาของเกมรุกด้านสื่อของฝ่ายรักษาการณ์รัฐบาลขณะนี้
ยุทธศาสตร์สื่อศึกสื่อ
ลักษณะกลยุทธ์แบบหนึ่งที่นักการเมืองพรรคไทยรักไทยดำนเนินการตอบโต้การที่ผู้นำรัฐบาลถูกวิพากษ์และรุกไล่ก็คือการจัดให้มีสื่อที่แสดงปฏิกิริยาย้อนกลับไป เช่น การจัดชุมนุมคนและการจัดกลุ่มเชียร์ เพื่อจะสื่อสารว่ามีกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับฝ่ายต่อต้าน
แม้ว่าสื่อของรัฐทั้งที่เป็นวิทยุและโทรทัศน์ส่วนใหญ่มักถูกระบบการบริหารทำให้ต้องสนองนโยบายการสื่อสารในลักษณะที่ไม่เกิดผลลบต่อรัฐบาล คือ พยายามหลีกเลี่ยงการวิพากษ์วิจารณ์บทบาทและนโยบายของแกนนำรัฐบาล แต่เพื่อตอบโต้กับกระแสข่าวเชิงลบที่เกิดจากการเปิดประเด็นความไม่ถูกต้อง หรือการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องคุณธรรมที่ตรงข่ามกับแนวคิดและวิถีปฏิบัติของผู้นำรัฐบาล
การเดินเกมรุกลงทุนปั้นสื่อแบบหลากหลายสนองความต้องการของแกนนำฝ่ายการเมือง รัฐบาลจึงเริ่มขึ้นซึ่งมีทั้งสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ เว็บไซต์ และรายงานข่าวสั้นผ่านโทรศัพท์มือถือ (SMS) รวมทั้งสื่อหนังสือ
การเปิดเว็บไซต์
www.reporter.co.th กับการเปิดตัวหนังสือพิมพ์ เดอะรีพอร์ตเตอร์ รายสัปดาห์โดยวางตลาดเล่มแรกไปแล้วเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ตลอดจนการเตรียมขอเช่าช่องสัญญาณดาวเทียม NSS 6 ของเนเธอร์แลนด์ และไทยคม 3 เพื่อนำเสนอข่าวผ่านดาวเทียมช่องใหม่ของพลพรรคพิทักษ์ทักษิณ ถือเป็นความเคลื่อนไหวในศึกสื่อชนสื่อระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กับกลุ่มฝ่ายตรงข้าม โดยมีเป้าหมายเพื่อชนกับ สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ หนึ่งในแกนนำโค่นระบอบทักษิณ ในลักษณะตาต่อตาฟันต่อฟันเลยทีเดียว
แม้ว่ารัฐจะครอบครองสื่อไว้ในมือเพียบทั้งฟรีทีวี 6 ช่อง สถานีวิทยุทั่วประเทศอีกกว่า 200 สถานี เคเบิลทีวี สื่อสิ่งพิมพ์อีกหลายฉบับ แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความพยายามครอบงำ และโฆษณาชวนเชื่อประชาชน ทั้งที่หากคิดเฉพาะฟรีทีวีเพียงอย่างเดียวก็เข้าถึงประชาชนได้กว่า 90% อยู่แล้ว และในจำนวน 10% ที่น้อยนิดของสื่อสิ่งพิมพ์นี้มีไม่กี่ฉบับเท่านั้นที่รายงานข่าวตามความเป็นจริง ตลอดจนกล้าวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลอย่างตรงไปตรงมา
วันนี้สื่อของสนธิ แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ใช้เป็นกระบอกเสียง และรายงานความจริงที่เกิดขึ้นจากการกระทำของรัฐบาลชุดนี้ มีหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ผู้จัดการ สถานีโทรทัศน์ ASTV ที่เช่าดาวเทียม NSS 6 ของเนเธอร์แลนด์
ขณะที่พลพรรคพ.ต.ท.ทักษิณมีความเพียรอย่างยิ่งกับการเปิดสื่อใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อชิงฐานมวลชนกลุ่มต่อต้านทักษิณ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข่าวสารในด้านที่ตนเองต้องการ ที่เปิดตัวไปแล้วคือเว็บไซต์ Reporter กับหนังสือพิมพ์ เดอะ รีพอร์ตเตอร์ รายสัปดาห์
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้มีทั้งหมด 64 หน้าราคาขาย 15 บาท มีเนื้อหาทั้งการเมือง เศรษฐกิจ ต่างประเทศ กีฬา และบันเทิง วางคอนเซปต์ว่า เป็นทางเลือกใหม่ของผู้บริโภคข้อมูลข่าวสาร
เนื้อหาที่นำเสนอส่วนใหญ่จะเป็นการปกป้องการกระทำของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับทักษิณ และดิสเครดิตข่าวของฝ่ายตรงกันข้าม ดังจะเห็นได้จาก ขณะที่หนังสือพิมพ์หลายฉบับ ไม่ว่าจะเป็น ประชาชาติธุรกิจ มติชน ผู้จัดการ กรุงเทพธุรกิจ โพสต์ทูเดย์ พยายามขุดคุ้ย และตีแผ่ความไม่ชอบมาพากลของบริษัทกุหลาบแก้วว่าเป็นนอมินีของต่างชาติ แต่หนังสือพิมพ์ เดอะรีพอร์ตเตอร์ ฉบับแรกกลับเป็นฉบับเดียวที่นำเสนอในประเด็น คลี่กลีบกุหลาบแก้ว สายเลือดไทยพันเปอร์เซ็นต์
ในฉบับนี้จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับบริษัทนี้มีสถานะทางธุรกิจอย่างไร มีอาณาจักรทางธุรกิจครอบคลุมไปทั่วทวีปเอเชีย เปิดปูมเบื้องลึกของ ดาโต๊ะสุรินทร์ หรือ สุรินทร์ อุปพัทธกุล ผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทกุหลาบแก้ว ที่มาเปิดตัวตนที่แท้จริงว่าเป็นคนไทยหรือไม่ ประกอบอาชีพมีหลักแหล่งที่ใดในประเทศไทย
ว่ากันว่าทีมงานที่จัดทำเว็บไซต์ และหนังสือพิมพ์ดังกล่าวเป็นคนใกล้ชิดกับ เนวิน ชิดชอบ รักษาการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เป็นผู้จัดทำขึ้น
ไม่เพียงเท่านั้น ในคอลัมน์ ปิดไม่ลับ Special ของหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา นำเสนอว่า ล่าสุดได้มีการรุกคืบไปอีกขั้นด้วยการเข้าไปทำรายการโทรทัศน์ในช่อง UBC 9 ซึ่งมีกระแสข่าวว่า เนวินได้ขอเงินจากคุณหญิงพจมาน ชินวัตร มา 100 ล้านบาท เพื่อใช้ในการทำรายการโทรทัศน์ต่อสู้ด้านข่าวสารกับฝ่ายตรงกันข้ามโดยตรง และได้จัดให้บรรดาทีมรองโฆษกและทีมการเมืองของพรรคไทยรักไทยผลัดเปลี่ยนเข้าไปนั่งจัดรายการมาระยะหนึ่งแล้ว
อย่างไรก็ตาม รายการนี้ได้ถูกยกเลิกไปเรียบร้อยแล้ว บ้างก็ว่า UBC หวั่นเกรงจะกลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งกระทบต่อฐานลูกค้าฐานลูกค้าและการทำธุรกิจโดยตรง จึงพยายามยกเลิกไม่ให้กลุ่มนักการเมืองของพรรคไทยรักไทยเข้าไปจัดรายการอีก บ้างก็ว่าเป็นเพราะผู้จัดรายการไปกล่าวล่วงละเมิดคำตัดสินศาล ทำให้พรรคไทยรักไทยต้องหาช่องทางอื่นในการเสนอรายการโทรทัศน์ของตัวเอง
แน่นอนว่าช่องทางที่เลือกใช้นำเสนอรายการโทรทัศน์ต้องเป็นการเช่าช่องสัญญาณดาวเทียม NSS 6 ที่สถานีโทรทัศน์ ASTV ของสนธิ และวัดธรรมกายใช้อยู่
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การใช้ช่วงเวลาทาง UBC นั้นอยู่ในแผนชั่วคราว เพราะแผนใหญ่คือการทำรายการด้วยช่องช่องทางของตัวเอง คือ เตรียมการใช้ช่องสัญญาณ NBT (National Broadcast Television) ซึ่งเป็นเครือข่ายของสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 แล้วขายรายการผ่านธุรกิจเคเบิลทีวีตามจังหวัดต่างๆ
นี่เป็นช่องกลยุทธ์ที่ ASTV ของเครือผู้จัดการ ซึ่งเป็นที่นิยมทั้งระดับประเทศ และระดับคนไทยในต่างประเทศ แหล่งข่าวเชื่อว่า มีผู้รับการสนับสนุนจากเนวินในการดำเนินการเรื่องนี้เพื่อสนองเป้าหมายทางการเมือง
การรุกเข้ามาสร้างสื่อของตนเองเช่นนี้ แน่นอนว่าไม่ได้หวังผลในเชิงธุรกิจ หรือมองเรื่องกำไร-ขาดทุนแต่ประการใด เนื่องจากทั้งเว็บไซต์ Reporter และวิทยุชุมชน 89.75 ที่ทำหน้าที่ออกข่าวและดำเนินการสนองกลยุทธ์ด้านข่าวสารแนวบวกกับรัฐบาลเช่นนั้นนั้น เป็นสื่อที่สามารถสื่อสารได้ฉับพลันทันที เช่นเดียวกับโทรทัศน์ จึงเป็นเครื่องมือสื่อสารที่สามารถรับข้อมูลและสื่อสารเพื่อสนับสนุนและตอบโต้กับฝ่ายที่วิจารณ์หรือให้ข้อมูลที่กระทบรัฐบาล
แหล่งข่าวกล่าวว่า ฝ่ายแกนนำคนใกล้ชิดทักษิณ หรือเนวินคงมองว่าถึงสัดส่วนของ คนไม่ชอบทักษิณ จะมีเปอร์เซ็นต์ไม่น้อยก็ตาม แต่พื้นที่ส่วนนี้ก็มีสื่อมากมายที่แข่งกันทำตลาดเพื่อแย่งลูกค้า ขณะที่สื่อที่ทำตลาดสำหรับ คนที่ชอบทักษิณ ยังมีน้อย ดังนั้น จึงเป็นโอกาสสำหรับสื่อที่สนองกลุ่มปกป้องทักษิณจึงมีโอกาสเกิด
ผลิตรายการ
เริ่มบุกอิสานก่อน
แหล่งข่าวจากวงการสื่อสารกล่าวว่า ระยะที่ผ่านมาได้มีทุนการเมืองเข้ามาผลิตรายการโทรทัศน์ในรูปแบบสถานีข่าว ที่เนื้อหาเน้นการตอบโต้การนำเสนอข่าวสารของฝ่ายที่ไม่พึงพอใจนายกฯทักษิณ มีการออกอากาศในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคไทยรักไทย โดยเฉพาะในจังหวัดมีรัฐมนตรีคนสำคัญของพรรคเป็นมือไม้หลักของท่านนายกในเวลานี้
รายการนี้จะแทรกเข้าไปในช่องสัญญาณของผู้ให้บริการเคเบิ้ลในพื้นที่ภาคอิสานเป็นหลัก และมีความพยายามที่จะขยายพื้นที่ออกอากาศไปยังภูมิภาคอื่น ๆ
ขณะเดียวกันจากการสอบถามไปยังสมาคมเคเบิ้ลทีวีแห่งประเทศไทยถึงการออกอากาศของรายการดังกล่าว ได้รับคำตอบจากกรรมการท่านหนึ่งว่า เป็นเรื่องของผู้ให้บริการแต่ละแห่งว่าจะเลือกเอาสัญญาณที่ได้รับมานั้นปล่อยต่อให้กับลูกค้าหรือไม่ หากรายการนั้นเป็นรายการที่ไม่ดีผู้ให้บริการก็คงไม่นำมาบรรจุไว้ในแพ็กเกจที่เสนอให้กับลูกค้า
จะเห็นได้ว่าผู้ให้บริการแต่ละรายจะมีรายการที่ไม่เหมือนกันทั้งหมด ขึ้นอยู่กับพื้นที่ให้บริการ เช่น พื้นที่บางแห่งมีคนเชื้อสายจีนมากก็อาจนำงิ้วหรือเพลงจีนเข้ามาบรรจุในแพ็คเกจ แต่จะมีรายการบางประเภทที่เหมือนกันเพราะเป็นรายการที่ซื้อร่วมกัน ทำให้ได้ต้นทุนของรายการที่ถูกลง
นอกจากนี้เคเบิ้ลแต่ละแห่งมักมีช่องที่เสนอข่าวสำหรับท้องถิ่นนั้น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข่าวทางด้านประชาสัมพันธ์ เช่น นักการเมืองหรือรัฐมนตรีที่เข้ามาตรวจพื้นที่เมื่อติดต่อมาที่ผู้ประกอบการก็จะออกไปถ่ายและนำภาพนั้นมาเสนอให้กับผู้ชม ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่เคเบิ้ลแทบทุกแห่งทำกันทั้งนั้น