ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 21:51
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ภาษีหุ้นฉุดสู่นรก 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ภาษีหุ้นฉุดสู่นรก  (อ่าน 753 ครั้ง)
1ktip
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,457



« เมื่อ: 31-08-2006, 21:59 »

อ้างถึง
       การคบคิดกันโกงภาษีในกรณีขายหุ้นชินให้กับเทมาเส็กกำลังทำให้ผู้บริหารในกรมสรรพากรและกระทรวงการคลังอยู่ไม่เป็นสุข เพราะกำลังเดินเข้าใกล้ประตูคุกเข้าไปทุกทีแล้ว
       
       คงเหลือแต่ว่าติดคุกอย่างเดียวหรือติดคุกและถูกยึดทรัพย์ด้วยเท่านั้น
       
       คือถ้าหากยังดึงดันไม่ทำหน้าที่ให้ถูกต้อง คือไม่เรียกเก็บภาษีตามหน้าที่ที่ต้องทำ นอกจากจะต้องมีความผิดถึงติดคุกแล้ว อาจจะต้องรับผิดถึงขั้นถูกยึดทรัพย์ชดใช้ค่าภาษีอีกหลายหมื่นล้านด้วย
       
       แต่ถ้าทำหน้าที่เสียให้ถูกต้องและหลวงได้รับค่าภาษีแล้วก็ไม่ต้องถูกยึดทรัพย์ และโทษติดคุกก็อาจจะได้รับการบรรเทาโทษหรืออาจได้รับการรอลงอาญาได้
       
       จะตัดสินใจอย่างไหนก็เลือกกันเอาเองเถิดพ่อเจ้าพระคุณ!
       
       ทำไมเราถึงบอกว่ากำลังใกล้คุกตะรางและใกล้ถูกยึดทรัพย์เข้าไปทุกที?
       
       ก็เพราะว่าการดึงดันไม่ทำหน้าที่ให้ถูกต้อง ไม่ยอมจัดเก็บภาษีตามหน้าที่ที่ต้องทำ กลับไปขย้ำขยี้รีดภาษีจากชาวบ้านจนเดือดร้อนปั่นป่วนทั้งบ้านทั้งเมือง แล้วริอ่านขัดขืนไม่ไปให้ถ้อยคำกับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินตามหน้าที่ซ้ำเข้าไปอีก ยิ่งทำให้การทำผิดถลำลึกแบบเดียวกับพวกสามหนาห้าห่วง
       
       ไปหลงเชื่อใครก็ไม่รู้ยื่นเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัยว่าสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินไม่มีอำนาจหน้าที่เรียกพวกสรรพากรไปชี้แจงเรื่องจัดเก็บภาษีและมีเรื่องที่ขอให้วินิจฉัยเพื่อจะอาศัยคุ้มกะลาหัวอีกหลายข้อ
       
       ซ้ำรอยเดียวกับพวกสามหนาห้าห่วงที่หลงให้เขาหลอกว่าจะคุ้มกะลาหัวให้พ้นคุกพ้นตะรางได้ จึงตะบึงดึงดันเดินหน้าเรื่อยไป และในที่สุดก็ต้องถูกศาลตัดสินให้ติดคุก!
       
       ไม่เชื่อกฎหมาย ไม่เชื่อกฎแห่งกรรม ดันไปหลงเชื่อใครก็ไม่รู้ว่าจะคุ้มกะลาหัวได้
       
       แล้วเป็นไงหล่ะ? ในที่สุดก็หนักกว่าเก่า เพราะสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเขาไม่ได้เป็นทาสระบอบทรราชใด ๆ เขาเป็นที่ปรึกษากฎหมายแผ่นดินที่มีเกียรติภูมิสูงมาก เพราะเป็นสถาบันที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ทรงตั้งด้วยพระองค์เอง
       
       สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามีคำวินิจฉัยในหลายเรื่อง พอสรุปได้ดังนี้
       
       ประการแรก สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินมีอำนาจเรียกเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรไปให้ถ้อยคำได้ และเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรก็ต้องไปให้ถ้อยคำในการตรวจสอบนั้น โดยขอบเขตการตรวจสอบและวิธีการตรวจสอบต้องเป็นไปตามที่ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินกำหนด
       
       ประการนี้ก็จ๋อยราวกับเห็นผีในเวลากลางวันแล้ว!
       
       ประการที่สอง ตรงนี้สำคัญมาก เพราะมีการวินิจฉัยว่าการปฏิบัติที่ผ่านมานั้นมีคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีตามกฎหมายภาษีและผูกพันกรมสรรพากรว่ากรณีการขายหุ้นแบบนี้ต้องประเมินเงินได้ ณ วันเวลาที่ได้หุ้นมา แต่กรณีรายหุ้นชินนั้นได้เปลี่ยนวิธีการใหม่เป็นว่าให้ถือเอาวันเวลาขายซึ่งไม่รู้ชาติไหน และไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
       
       ตรงนี้แหละติดตะรางแน่! เพราะคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีนั้นมีผลผูกพันตามกฎหมาย หากจะเปลี่ยนแปลงก็ต้องแก้กฎหมายเท่านั้น เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรจะไปเปลี่ยนคำวินิจฉัยเอาเองตามใจชอบไม่ได้
       
       รายนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงการคำนวณเงินได้เอาตามใจชอบ ผิดกฎหมายและผิดคำวินิจฉัย เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับคนบางคนเท่านั้น จึงผิดกฎหมายชัด ๆ มีโทษอาญาสถานหนักและถึงขั้นยึดทรัพย์อีกด้วย
       
       ประการที่สาม วินิจฉัยว่าการตอบข้อหารือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในทางภาษีอากร จึงต้องมีความรับผิดชอบ
       
       พูดง่าย ๆ ก็คือจะมาแก้ตัวส่งเดชว่าการตอบข้อหารือที่ตอบไปว่าการขายหุ้นชินรายนี้ไม่ต้องเสียภาษีนั้นเป็นการตอบส่งเดช ไม่มีผลอะไรไม่ได้
       
       มีผลเป็นการทำผิดกฎหมายเพราะช่วยกันโกงภาษีนั่นเอง!
       
       แต่การกระทำเช่นนั้นไม่มีผลทำให้หมดภาระในการเสียภาษีเพราะถ้ามีภาระต้องเสียภาษี ถึงจะคบคิดกันฉ้อโกงโดยการตอบหารือแบบนี้ก็ไม่คุ้มกะลาหัวแต่ประการใด จะต้องเสียภาษีต่อไปตามที่ถูกประเมิน
       
       ประการที่สี่ วินิจฉัยว่าภาระการที่จะต้องเสียภาษีนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่เวลาซื้อขายหุ้นชินนอกตลาด แต่สามารถยื่นแบบเพื่อเสียภาษีได้ในเดือนมีนาคมของปีถัดไปคือปี 2550
       
       แต่เนื่องจากการซื้อขายหุ้นแบบนี้ผู้เสียภาษีจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายและต้องยื่นเสียภาษีภายใน 7 วันนับแต่เกิดรายการซื้อขาย จึงต้องยื่นเสียภาษีภายใน 7 วันนับแต่วันซื้อขายหุ้น
       
       เมื่อไม่เสียภาษีตามกำหนดนี้ก็ต้องเสียภาษีดอกเบี้ยและค่าปรับด้วย
       
       ความจริงจำนวนภาษีนั้นไม่ใช่เฉพาะที่เกิดจากรายการแอมเพิ้ลริชอย่างเดียว แต่เกิดจากการขายทั้งหมด คือทั้ง 73,000 ล้านบาท เพราะมีการโอนนอกตลาดหุ้นมาก่อนทั้งสิ้น
       
       เห็นหรือยังพระเดชพระคุณทั้งหลายว่ากรรมมีจริง! กฎหมายก็มีความศักดิ์สิทธิ์และความยุติธรรมก็มีอยู่ในประเทศนี้บ้าง ดังนั้นเมื่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัยอย่างนี้จึงผูกพันฝ่ายบริหารคือกรมสรรพากรและกระทรวงการคลัง
       
       จึงต้องหน้าจ๋อยไปให้ถ้อยคำต่อสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินอยู่ในขณะนี้
       
       ต้องไปชี้แจงว่าทำไมจึงไม่เก็บภาษี ฮึ!
       
       อีกไม่กี่วันก็คงจะมีคำวินิจฉัยจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแล้ว ถึงวันนั้นก็คงมีการส่งเรื่องไปดำเนินคดีกับคนโกงภาษี รวมทั้งคนที่ช่วยโกงภาษีด้วย
       
       เวลาจึงเหลือน้อยเต็มทีที่จะสำนึกผิดแล้วรีบดำเนินการจัดเก็บภาษีให้ถูกต้องครบถ้วนก็จะไม่ต้องถูกยึดทรัพย์ และจะได้รับบรรเทาโทษในคดีอาญาด้วย
       
       บทเรียนที่เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร กระทรวงการคลังกลุ่มนี้ควรจะได้ตระหนักก็คืออย่าไปเชื่อใครว่าจะคุ้มกะลาหัวได้ ควรที่จะเคารพและปฏิบัติตามกฎหมาย ตามหน้าที่จะดีกว่า
       
       ก็ต้องบอกฝากไปถึงนายยรรยง พวงราช และคณะในกระทรวงพาณิชย์ให้ดูตัวอย่างไว้ให้ดี เพราะกำลังเข้าแถวเดินตามคนพวกนี้อยู่แล้วเหมือนกัน!

ข่าวจากผู้จัดการ
บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #1 เมื่อ: 31-08-2006, 22:04 »

ถ้าทักษิณยังครองอำนาจต่อ คนเหล่านี้จะปลอดภัยค่ะ

แต่ถ้าทักษิณหมดอำนาจ คนเหล่านี้หมดอนาคตและติดคุกค่ะ
บันทึกการเข้า
HILTON (ปาล์มาลี)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,310



« ตอบ #2 เมื่อ: 31-08-2006, 22:08 »

คุณหญิง  พระเจ้าฝากสก๊อดไบร์มาขัดให้สะอาดด้วย  

หากศัตรูของลูกตบหน้าลูก 1 ครั่ง  จงยื้นแก้มอีกข้างให้เขาตบ  (เพราะมันเป็นที่ของมัน) แต่เมื่อเวลามาถึงและเป็นทีของเจ้า  พ่อคงไม่ต้องบอกนะว่าเจ้าควรทำอย่างไง ....อาเมน
บันทึกการเข้า
1ktip
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,457



« ตอบ #3 เมื่อ: 31-08-2006, 22:10 »

ผมยังไม่เห็นข่าวนี้จากที่อื่นๆ เลย เลยไม่แน่ใจว่ามันชัวร์รึยัง ถ้าเป็นจริงตามเนื้อข่าวแล้ว ปัญหาอื่นๆ ในกรณีขายหุ้นชินจะตามมาอีกเพียบ

ชาวบ้านชาวช่องก็จะได้หมดข้อกังขากัน และทักษิณคงตัดสินใจลาออกจากประเทศไทยได้ง่ายขึ้น
บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #4 เมื่อ: 31-08-2006, 22:57 »

มันจะง่ายอย่างงั้นเลยเร้อ อ่านแล้วดูเพ้อเจ้อยังไงก็ไม่รู้
บันทึกการเข้า
1ktip
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,457



« ตอบ #5 เมื่อ: 31-08-2006, 23:12 »

มันจะง่ายอย่างงั้นเลยเร้อ อ่านแล้วดูเพ้อเจ้อยังไงก็ไม่รู้

เพ้อไม่เพ้อไม่รู้ล่ะครับ คุณชอบแถ เดี๋ยวสื่ออื่นๆ เริ่มออกข่าว ก็คงเป็นประเด็นร้อนอีกประเด็น
บันทึกการเข้า
INC.BKK
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 325

Tuksin Get Out!


« ตอบ #6 เมื่อ: 02-09-2006, 18:38 »

ไปให้ราคากับคนชอบถุย ทำไมอ่ะครับ อย่าไปสนใจเลย ชอบเบี่ยงประเดน  Laughing
บันทึกการเข้า

Tuksin GET OUT !
นายเบียร์
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 997



« ตอบ #7 เมื่อ: 02-09-2006, 18:56 »

ถ้าลงจากอำนาจตอนนี้ก็พินาศกันไปทั้งระบบแหละครับ คนที่ร่วมขบนการก็ไปกันหมดทั้งยวง Laughing
บันทึกการเข้า

hison
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 217


« ตอบ #8 เมื่อ: 20-09-2006, 19:25 »

 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: