ยื้อเพราะห่วงสมบัติ
สถานการณ์บ้านเมืองมาถึงจุดนี้แล้ว น่าจะสรุปได้ว่า ผู้นำรัฐบาลกลายเป็นภาระของแผ่นดิน ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน และไม่เอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยโดยประชาชนมีสิทธิเสรีภาพ ตราบใดที่บุคคลผู้นี้ยังอยู่ ประเทศชาติไม่มีวันสงบ ความขัดแย้งจะแผ่ขยายเพราะการปลุกปั่นยุยงผ่านหัวคะแนนและผู้แทนนายทุน
ถามหน่อยเถอะ ! ฝรั่งมังค่าหน้าไหนจะกล้าหอบเงินมาลงทุน ถ้าผู้นำประเทศไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนและสังคมโลก ซึ่งรู้ทันเหลี่ยมแล้ว ?
โดนฝรั่งฟ้องร้องคาศาลอาญา ประจานให้เห็นพฤติกรรมเด่นชัด !
ก่อนหน้านี้มีเสียงโทษว่ากลุ่มผู้เดินขบวนคัดค้านได้สร้างความไม่มั่นใจต่อนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งไม่จริง ! เห็นกันชัด ๆ ว่าเทมาเซค โฮลดิ้งส์ ของสิงคโปร์ ยังกล้ามาซื้อกิจการเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติไทยด้วยซ้ำ
เอาเงิน 7.3 หมื่นล้านบาทมาซื้อหุ้นกลุ่มชินคอร์ปจากครอบครัวผู้นำรัฐบาล และทำคำขอเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายอื่น รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท แต่ตอนนี้จ่ายเงินเพียงครึ่งเดียวให้แก่ครอบครัวผู้นำ
ที่เหลือครึ่งหนึ่งนั่นแหละ เป็นสาเหตุว่าทำไมผู้นำรัฐบาลไม่ยอมลาออก เว้นวรรค หรือเลิกราจากความพยายามในการสืบสานต่ออำนาจครองประเทศ
ผู้นำรัฐบาลในที่นี้ไม่ได้หมายถึงผู้นำประเทศ เพราะไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนอย่างกว้างขวาง เช่นภาคใต้ไม่เอาด้วยเลย ไม่กล้าไปเหยียบหลายเดือนแล้ว และภาคเหนือตอนล่างก็ประกาศห้ามเข้าพื้นที่อีกด้วย
ภาคอีสานในบางพื้นที่ก็จะเป็นเขตห้ามเข้า ส่วนในกรุงเทพฯ และพื้นที่รอบนอกก็กลายเป็นดินแดนต้องห้าม เว้นแต่จะเสี่ยงต่อการถูกโห่ร้องขับไล่
กลายเป็นผู้นำรัฐบาล หรือหัวหน้าพรรคผัวเมีย ซึ่งต้องหลีกเร้นกาย หนีหน้าจากประชาชน ไม่กล้าตอบคำถาม ข้อสงสัย เก็บเงื่อนงำ ความไม่โปร่งใส ใช้อำนาจของกลไกกฎหมายปิดกั้นการสอบสวนทุกวิธี ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง
ที่ยื้อ ตื๊อ ทนเสียงประณามขับไล่ เสื่อมศักดิ์ศรี เกียรติยศ เพราะยังห่วงสมบัติมหาศาลนั่นเอง ! ถ้าลงจากอำนาจเมื่อไร การเซ็งลี้เอาสมบัติของชาติไปขายให้สิงคโปร์ ต้องถูกเพิกถอน ดังกรณีการสอบสวนบริษัทกุหลาบแก้ว
ข้าราชการบางนายเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายด้วยการปกป้องทุกทาง หวังรอว่าการเลือกตั้งจะเป็นช่องทางให้ปรับเปลี่ยน แก้ไขระเบียบกฎหมาย
สมุนตัวเอ้การเมืองแบะท่าออกมาแล้ว อ้างว่าน่าจะผ่อนผันให้ตัวแทนหรือนอมินีเป็นการถูกต้องตามกฎหมาย จะได้เอื้อต่อการลงทุน
พวกนี้กล้าทำความชั่วให้รวดเร็วทันใจ ไร้ยางอายจริงๆ! ถ้าทำมาหากินตรงไปตรงมา ไม่ใช้อิทธิพลสร้างความมั่งคั่งโดยวิธีสกปรกซกมก ผูกขาด แก้กฎหมายให้โกงได้เนียนๆ ไฉนเลยจะต้องหวาดหวั่นการตรวจสอบ ขุดคุ้ยว่ามีใครประกอบอาชญากรรมเพื่อให้ร่ำรวยหรือไม่ ?
นอกจากกุหลาบแก้ว นอมินี แล้ว สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินยังไล่บี้ประเด็นภาษีขายหุ้น ย้อนรอยเงื่อนงำ พฤติกรรม จนอาจทำให้ติดคุกยกครัว
แรงบีบคั้นรุกคืบเข้ามาทุกด้าน จะทำอะไรๆ ก็ดูไม่เป็นใจเหมือนก่อน !
ตลอดเวลากว่า 5 ปีของการกุมอำนาจ มีแต่เรื่องราวฉาวโฉ่ ซุกนั่น ซ่อนนี่ ไล่ดะลงมาจากหัวหน้าครอบครัวจนถึงลูกๆ ลามไปถึงเครือข่ายญาติ
กอบโกยความร่ำรวยแบบโฉ่งฉ่าง ไม่หวั่นว่ากฎหมายจะตามคิดบัญชีในวาระสูญสิ้นอำนาจ ยิ่งใกล้จนตรอก ถึงวาระจุดจบ ก็ยิ่งดิ้นรนหนัก เพราะหาทางลงแบบสบายๆ ไม่ได้ สายเกินกว่าจะพลิกแพลงซะแล้ว
ประกาศสู้ๆ เพียงเพื่อไม่ให้พรรคผัวเมียต้องแตก ลูกน้อง ลิ่วล้อจะอกสั่นขวัญหาย หนีตายยกรัง ตราบใดที่ยังไม่รอดพ้นการตรวจสอบ และรับเงินเต็มจำนวน จะไม่ถอยหนีเด็ดขาด เว้นแต่จะโดนยุบพรรค เพิกถอนสิทธิการเมือง การสิ้นอำนาจจะนำไปสู่การโดนยึดสัมปทานธุรกิจคืนเข้ารัฐ เทมาเซค โฮลดิ้งส์ ต้องเรียกร้องเอาเงินคืน กลายเป็นความสูญสิ้นทรัพย์สิน ชื่อเสียงยับเยิน แถมอิสรภาพยังอยู่ในความสุ่มเสี่ยงเพราะคดีอาญาอีกด้วย
ขอตอกย้ำอีกครั้ง ใครไล่อย่างไรก็ไม่ยอมออก ต่อให้คนไล่ฆ่าฟันกันตายเป็นเบือกลางเมืองก็จะยังดื้อด้านทน เพราะห่วงสมบัติ ! ไม่ได้เป็นห่วงประชาชนคนยากไร้ รากหญ้าชนบทนาดอน ซึ่งโดนปั่นหัวเป่าหูจนเชื่องหรอก
เมื่อโดนรุกไล่หนัก ต้องมีกองกำลังอารักขาเข้มงวด เสนาบดีควรบำบัดทุกข์ชาวบ้านดันทุรังออกคำสั่งให้ผู้ว่าฯ จัดการไม่ให้ม็อบชุมนุมขับไล่ผู้นำ
ไม่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนเรอะ ! และเสนาบดีมีมันสมองคิดได้เพียงนี้เท่านั้นหรือ ? ย้ำอีกครั้ง คณะผู้แทนไทยจะไปร่วมประชุมเรื่องสิทธิมนุษยชนกับสหประชาชาติในเร็ววันนี้ จะมีคำถามที่ตอบและแก้ตัวไม่ได้
กล้ามีคำสั่งตามแนวคิดดึกดำบรรพ์แบบนี้ได้อย่างไร น่าจะเปิดตาดูโลกกว้าง แทนการเหม่อลอยมองเพดาน ควานหาคำตอบให้ผู้สื่อข่าว
ทั้งๆ ที่มีวันนี้ให้เห็น ก็ยังมีคนหน้ามืดตามัวรับใช้แบบไร้สติอีกนิ ! อิอิอิ !!!
http://www.komchadluek.net/2006/08/column/m004_41304.php?news_id=41304Failling PM -> Failling State