เชียร์พันธมิตร ฆ่าเชียร์ทักษิณ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 03.00 น. วานนี้ (30 ส.ค.) ร.ต.อ.อธิป นาคมณี ร้อยเวร สภ.อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายกันในงานบำเพ็ญกุศลศพที่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 3 ต.ทรายขาว อ.หัวไทร จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.เสริมศักดิ์ ผ่องโชค ผกก. พ.ต.ท.อรุณ อักษรนิตย์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.โกมล มหิตพงษ์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.ธนศักดิ์ กลับรอด สว.สส. และอาสาสมัครมูลนิธิประชาร่วมใจไปที่เกิดเหตุ
พบเป็นบ้านไม้ทรงไทยใต้ถุนยกสูงกำลังจัดงานบำเพ็ญกุศลศพ โดยญาตินำร่างผู้เสียชีวิตใส่โลงศพตั้งไว้ในเต็นท์ข้างบ้าน และในเต็นท์เดียวกันก็ตั้งโต๊ะเลี้ยงอาหารแขกที่มาร่วมงาน ปรากฏว่าโต๊ะเก้าอี้ล้มระเนนระนาด จานกับแกล้ม แก้ว ขวดเบียร์ ขวดเหล้า แตกกระจายเกลื่อนพื้น เลือดปนมันสมองกระเซ็นเปรอะเปื้อนข้าวของไปทั่วบริเวณ ในที่เกิดเหตุพบไม้ท่อนฟืนผ่าซีกยาว 3 ฟุตเปื้อนเลือดตกอยู่ ใกล้กันพบขวานเล่มใหญ่เปื้อนเลือด ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุตกอยู่เช่นกัน ส่วนผู้ถูกทำร้ายบาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.หัวไทร และเสียชีวิตแล้ว ทราบชื่อนายโฉม ศรีประเสริฐ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/3 หมู่ 3 ต.หัวไทร มีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมเข้ากลางศีรษะ ท้ายทอยและเหนือกกหูซ้าย แผลลึกฉกรรจ์ กะโหลกแตกสมองทะลัก
สอบสวนทราบว่า บ้านที่เกิดเหตุกำลังจัดบำเพ็ญ กุศลศพญาติผู้ใหญ่ที่ถึงแก่กรรมด้วยโรคชรา ช่วงหัวค่ำมีแขกเหรื่อจำนวนมากมาร่วมในพิธีสวดพระอภิธรรม กระทั่งตกดึกแขกต่างทยอยกันกลับ คงเหลือผู้ร่วมงานอยู่ราว 50 คน ส่วนใหญ่เป็นญาติและเพื่อนบ้านใกล้เคียง หนึ่งในนั้นคือนายโฉมผู้ตาย ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ยังคงตั้งวงนั่งดื่มเหล้าอยู่กับนายปรีชา คงนวล อายุ 33ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่เดียวกัน เพื่อนสนิทและคนในหมู่บ้านอีก 3 คน โดยทั้งหมดอาสากับทางเจ้าภาพว่าจะขออยู่เฝ้าเป็นเพื่อนศพจนสว่าง เจ้าภาพจึงจัดเบียร์มาให้ดื่มต่อจากเหล้าอีก 1 โหล
กระทั่งตกดึกทุกคนในวงต่างเมาได้ที่ และพูดคุยกันจนหมดเรื่องจะคุยต่อ นายโฉมจึงงัดเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองที่กำลังร้อนแรงระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายตรงข้ามขึ้นมาพูดคุย โดยนายโฉมซึ่งเดิมเป็นชาวบุรีรัมย์ มาได้ภรรยาและทำงานรับจ้างอยู่ใน อ.หัวไทร ถือหางข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในขณะที่นายปรีชาซึ่งเป็นคนในพื้นที่ ถือหางฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ต่างฝ่ายต่างยกเหตุผลของตนขึ้นมาโต้เถียงกันเสียงดังลั่น
กระทั่งนายโฉมด่านายปรีชาว่า ไอ้เลือดสะตอ นายปรีชาก็ด่ากลับว่า ไอ้พวกทรราช จากนั้นทั้งคู่ก็ปรี่เข้าชกต่อยกันอุตลุด นายโฉมสู้ไม่ได้วิ่งไปคว้าท่อนฟืนที่กองอยู่ข้างบ้านทุบตีนายปรีชาจนหัวแตกเลือดสาด นายปรีชาเหลือบไปเห็นขวานผ่าฟืนวางอยู่ จึงคว้าขึ้นมาไล่ฟันนายโฉมจนล้มฟุบจมเลือดแน่นิ่ง ก่อนทิ้งขวานสื่อมรณะไว้ในที่เกิดเหตุแล้ววิ่งหลบหนีหายไปในความมืด ผู้เห็นเหตุการณ์รีบนำร่างโชกเลือกของนายโฉมส่ง โรงพยาบาลหัวไทร และขาดใจตายระหว่างทาง
ร.ต.อ.อธิป นาคมณี พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า สำหรับงานศพงานเดียวกันนี้เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ได้มาชันสูตรศพผู้เสียชีวิตภายในงานมาแล้ว 1 ราย คือนายตุ่น แก้วเหมือนรักษ์ อายุ 70 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้าน ที่มาร่วมนั่งฟังสวดพระอภิธรรม จู่ๆก็หน้ามืดเป็นลมหมดสติและเสียชีวิต แพทย์ชันสูตรพบว่าหัวใจล้มเหลวกะทันหัน ญาติไม่ติดใจสงสัยใดๆ กระทั่งมาตอนตี 3 ก็มาเกิดเหตุตีกันตายในงานอีกครั้ง บ้านหลังนี้จึงถือว่ามีคนตาย 3 ศพ คือศพที่บำเพ็ญกุศลอยู่ ศพนายตุ่นที่เป็นลมตาย และศพนายโฉมที่ถูกฟันตายเป็นรายล่าสุด
สำหรับนายโฉมผู้ตายและนายปรีชาผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนรักเพื่อนเกลอทำงานรับจ้างด้วยกันมากว่า 10 ปีแล้ว ทั้งคู่ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันมาก่อน กระทั่งมาโต้เถียงเรื่องการเมืองกันในงานศพ ประกอบกับความมึนเมาจึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งติดตามตัวนายปรีชาผู้ต้องหามาดำเนินคดีต่อไป
http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=18030วงเหล้า ห้ามพูดการเมือง
เพื่อนรักกันแท้ๆ....