มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคฟ้องศาลปกครอง 'ทักษิณ-ปตท.'แปรรูปผิดกม.
31 สิงหาคม 2549 10:38 น.
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคฟ้องศาลปกครอง 'ทักษิณ-ปตท.'แปรรูปไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้เพิกถอนแปรรูปปตท.
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พร้อมด้วย นางสาว รสนา โตสิตระกูล และ นางสาวสายรุ้ง ทองปลอน ผู้จัดการสหพันธ์เพื่อผู้บริโภค เดินทางมายื่นฟ้อง คณะรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และนายวิเศษ จูภิบาล รักษาการ รมว.พลังงาน เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1 ถึง 3 ต่อศาลปกครองสูงสุด ข้อพิพาทเกี่ยวกับความไม่ชอบด้วยกฎหมาย เกี่ยวกับในการตราพระราชกฤษฎีกา กำหนดอำนาจ สิทธิและประโยชน์ของบริษัท การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) พ.ศ.2544 และพระราชกฤษฎีการกำหนดเงื่อนเวลายกเลิกกฎหมายว่าด้วยการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2544 เพื่อการแปรรูปบริษัท ปตท.เป็น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2544
โดยผู้ฟ้องระบุว่า กระบวนการแปรรูป บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)ขัดกับ พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2542 ที่การจัดการแต่งตั้ง คณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากคณะกรรมการดังกล่าว ไม่มีคุณสมบัติ ตามมาตรา 16 ของพ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ
โดยคณะกรรมการดังกล่าวขาดองค์ประกอบในส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ มีได้ไม่เกิน 3 คน แต่การจัดตั้งมีผู้ทรงคุณวุฒิเพียงคนเดียว คือนายธีระ วิภูชนิน รองกรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ขณะเดียวกันพบว่านายวิเศษ จูภิบาล และนายมนู เลียวไพโรจน์ ซึ่งเป็นคณะกรรมการจัดตั้ง ก็ยังกระทำผิด พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ ที่ได้เป็นผู้ถือหุ้น ในบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ทั้งที่ กฎหมายได้ห้ามคณะกรรมการเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทที่ได้มีการเปลี่ยนทุนรัฐวิสาหกิจ เป็นบริษัทจำกัด (มหาชน )
นอกจากนี้ในการแปรรูป ปตท.ดังกล่าว ด้วยการตราพระราชกฤษฎีการทั้ง 2 ฉบับ ยังก่อให้เกิดการผูกขาดโดยองค์กรเอกชน ในรูปแบบ บริษัทมหาชน ซึ่งมีผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนส่วนใหญ่ และการแปรพระราชกฤษฎีกาทั้ง 2 ฉบับ ยังมีผลทำให้มีการนำทรัพย์สิน ที่เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน ซึ่งไม่สามารถซื้อขายหรือให้อยู่ในการถือครองของเอกชน ที่แสวงหากำไรด้วย และที่สำคัญการแปรรูปดังกล่าวไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนอันเป็นสาระสำคัญของกฎหมายที่ไม่ได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
ดังนั้นผู้ฟ้องคดีจึงขอให้ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ยกเลิก และเพิกถอนพระราชกฤษฎีกา การแปรรูป บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน )ทั้ง 2 ฉบับhttp://www.bangkokbiznews.com/2006/08/31/w001_133710.php?news_id=133710