ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
17-09-2024, 03:36
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ร้อยรักษ์กวีวรรณ  |  ๐ สายลมแสงแดด ๐ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
๐ สายลมแสงแดด ๐  (อ่าน 5035 ครั้ง)
ariyaka
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31


« เมื่อ: 31-08-2006, 08:31 »

กลอนตลาด

๐ ฟ้า ฝน ดิน ไฟ ๐

๐ ฟ้า...สูงส่งต่างชั้นเกินฝันถึง
ทุกคำนึงก็ตระหนักอยู่หนักหนา
เมื่อฟ้าต้องหมองหม่นด้วยฝนทา
จึงบรรดาแดนดินย่อมยินดี

๐ ฝน...หลั่งสายหมายปลงสูงลงต่ำ
เป็นม่านน้ำโลมรุกไปทุกที่
อำรุงความปรารถนาบรรดามี
ได้เปรมปรีดิ์กับฐานะภาวะเดียว

๐ ดิน...ย่อมซับชื่นฉ่ำแห่งน้ำฟ้า
ที่หล่นหล้าเนืองนองให้ข้องเกี่ยว
แผ่เย็นเยียบฝากหมายผ่านสายเกลียว
เพื่อน้อมเหนี่ยวบริบทให้จดกัน

๐ ไฟ...ดวงเดียวลอยตนรอฝนผ่าน
เพื่อขับเคลื่อนขอบกาลพ้นม่านกั้น
ช่วยต่ำ-สูงตอกย้ำความสัมพันธ์
ผ่านไอควันจากดินขึ้นถิ่นบน

๐ โลก...ลอยเลื่อนเคลื่อนวงอย่างคงที่
เพื่อ-เป็น-มี-ตวงเต็มอย่างเข้มข้น
เพียงเปลี่ยนแปลงครอบครองต่างผองคน
ต่างฤๅการเวียนวน..ดิน..ฝน..ฟ้า..?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2006, 09:08 โดย ariyaka » บันทึกการเข้า
ariyaka
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31


« ตอบ #1 เมื่อ: 31-08-2006, 08:42 »

วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

๐ ศศิร่ำจำรัสรอง ๐

๐ พร่างพรายผกายรุจะอร่าม
ขณะยามนะค่ำเย็น
ยินร้องคะนองสกุณะเห็น
จะละเล่นระเริงลม

๐ ร่ำร่ำ..ตะวันจะละจะลา
ประลุภาวะจ่อมจม
เห็นเห็น..ก็เพ็ญศศิวิกรม
ชุติห่ม ณ ห้วงหาว

๐ เหลือบแสง ณ แหล่งอุทกะผืน
ระบุคืนจะยังยาว
ริ้วลมระดมผิวะจะหนาว
ก็เพราะร้าวอุรารอน

๐ นึกคราญะผ่านพละถวิล
อุระถิ่นสิอาทร
คร่ำครวญเพราะส่วนทุขะสะท้อน
ฤจะถอนถวิลถึง

๐ เยียบเย็นเพราะเย็นศศินะแสง
รติแรงก็รัดรึง
โยกคลอนบ่ผ่อนพิษะคะนึง
ตละตรึงสิเต็มตรอง

๐ ใจเห็นจะเช่นอุทกะผืน
นิละขืนจะเข้าครอง
รูปเห็นก็เช่นกรรมะสนอง
พิศะต้องสิเจียนตาย..

๐ สืบสร้างระหว่างรหัสะเนตร
ประลุเจตะกำจาย
วาบอุ่นเพราะสุนทริยะสยาย
นยะถ่ายสิทอดถึง

๐ อาวรณ์สะท้อนประดุจะเถา-
วัลย์เร้ากระหวัดรึง
เช่นใจและใจขณะคะนึง
ระยะหนึ่งก็นับนาน

๐ ดุจปาริชาตินิรมิต
เฉพาะพิศะพิมพ์พาล
ดาลเดชวิเศษะพิสดาร
ก็สมาน ณ แรกมอง

๐ เพรงบุญจะหนุนรติพิจิตร
สุจริตะรับรอง
เพรงบาป ณ คาบบ่คละสนอง
ฤดิสองก็บรรสาร

๐ ร่วมบาตร ณ ชาติบุพะประภพ
ดละภพะร่วมพาล
แม่เอยเพราะเคยอธิษฐาน
อุปการะร่วมกรรม

๐ สองชาติสวาดิพิสมัย
สมะนัยะน้อมนำ
โอนใจและใจปณิธิสัม-
ผัสะย้ำสมานใย

๐ สืบจิตเพราะฤทธิ์อธิษฐาน
บุพะกาละก่อนไกล
เห็นพลันจะปันรติพิสัย
พิสมัย ณ แรกมอง

๐ อาวรณ์สะท้อนประดุจะน้ำ
ศศิร่ำจำรัสรอง
ย่อมพลิ้วผิว์ริ้วชละละออง
นิระล่องปลาตเลือน...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2006, 09:08 โดย ariyaka » บันทึกการเข้า
ariyaka
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31


« ตอบ #2 เมื่อ: 31-08-2006, 08:53 »

๐ บุหลันลอยเลื่อน ๐

โคลงสี่สุภาพ

๐ หลังสูรย์ลับล่วงพ้น.........จึ่งเผย
เพ็ญบุหลันเลื่อนเกย..........ก่องหล้า
ขับดาวข่มดวงเลย.............เลือนส่อง ราแม่
เหนี่ยวพิศผองใต้ฟ้า...........ฝากแจ้งกำจาย ฯ

๐ เห็นงามสูงส่งพร้อม........ภาคเพ็ญ
ปรารถนาแสงนวลเย็น........หยาดต้อง
อาวรณ์อ่อนไหวเอ็น-.........ดูแต่ กรรมนา
ดาลเยื่อใยเหนี่ยวพ้อง........ผูกไขว้ถนอมขวัญ ฯ

๐ น้ำค้างหยาดไม้ท่าม.......จันทร์แสง
แต่เมื่อน้ำใจแรง................ปรี่ล้น
พล่านขึ้นอุ่นอกแผง...........ผุดระลอก
ก่อนเอ่อขึ้นท่วมท้น...........แห่งห้วงสิเนหา ฯ

๐ ครืนครวญแผ่นน้ำคร่ำ.....ในคืน
จันทร์พร่างใจพลิ้วผืน.........ผ่องแผ้ว
โชนช่วงห่วงหายืน.............หยัดท่วง ทีเนอ
หนแห่งจึงพร่างแพร้ว.........ผ่านย้อนให้ยล ฯ

๐ กรรทบแผ่นน้ำเรื่อ...........รัชนี
ลมกระเพื่อมวาดวี..............วาบเต้น
คลื่นระริกระลอกลี-............ลาศวิ่ง ตามนา
เรียมระริกสวาดิเร้น............ลอบเร้นด้วยนวล ฯ

๐ อัคคีโหมแห่งห้วง............หฤทัย
ฤๅบาปภพภาพไกล............กลับย้อน
ตอกตรึงสาปติดใน.............เสน่ห์แม่ แลเนอ
จึงระรุมอุระร้อน.................เร่งน้ำใจสนอง ฯ

๐ อาวรณ์ระอุเร้า................รึงใจ
จึง..หักหาญอย่างไร...........ยากรั้ง
ตั้งเป็นชาติชอนไช.............ชนม์ชีพ
โหมระลอกคราวครั้ง...........ข่มได้ฉันใด ฯ

๐ สะท้อนความลึกล้ำ.........ดำรง
ผ่านรูปรอยลุ่มหลง.............รับรู้
ยากแต่หักใจปลง..............ปลดบ่วง สวาดิเนอ
ถวิลแต่แม่ยอดชู้...............ชั่วฟ้าดินสมัย ฯ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2006, 09:09 โดย ariyaka » บันทึกการเข้า
ariyaka
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31


« ตอบ #3 เมื่อ: 31-08-2006, 09:01 »

กาพย์ยานี ๑๑

๐ ปลายวัน ๐

๐ เหลือเพียงจะจมลับ
จึงระยับให้มองยล
เหลือเพียงนภาบน
ที่จะแดงจนแสงจาง

๐ จากเพื่อจะย้อนใหม่
ผลักสมัยสู่เลือนราง
จากเพื่อว่าเรื่อสาง
จะกระตุ้นให้โหยหา

๐ เห็นใกล้บ่ใช่หมาย
เหตุเพราะง่ายจะชายตา
เมื่อไกลก็ไขว่คว้า
อกละล้าเพราะคอยเห็น

๐ ราตรีคงมีดาว
ส่องสกาวพร้อมจันทร์เพ็ญ
แสงน้อยพอปล่อยเข็ญ
และแสงเย็นพอปลอบใจ

๐ ไม่ร้อนทั้งอ่อนแรง
ไม่เจิดแจ้งอุไรไกล
ไม่เผาระเร้าขัย
เสมือนไร้และไม่มี

๐ คลุมขันธ์กรรทบเทียบ
แต่เย็นเยียบที่ย่ำยี
เปลี่ยวเปล่าที่เข้าตี
จะต่อต้านช่างหนักแรง

๐ รอเยี่ยมตะวันย้อน
จะตากร้อนให้ทิ่มแทง
รอส่องรังสีแสง
จะกลับแจ้งเห็นภาพ...ใคร

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2006, 09:10 โดย ariyaka » บันทึกการเข้า
ThailandReport
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,415


« ตอบ #4 เมื่อ: 31-08-2006, 09:46 »

นับแต่วันที่ Mod ห้องนี้ "หายหน้า"ไป..เพราะเหตุวันนั้น
นับเนื่องถึงวันนี้ ที่ผมเข้ามาใน อรุณรุ่ง ของวันใหม่

ได้พบ กาพย์ยานี๑๑ โคลงสี่สุภาพ วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ และ กลอนตลาดๆ
(ขาดที่อยากอ่านคือ มานวกฉันท์ - ไม่รู้เขียนผิดหรือไม่นะคับ มา-นะ-วะ-กะ-ฉัน)
ซึ่ง ด้วยความรักชอบในบทประพันธ์ที่ตัวเอง ไร้ความสามารถจะเขียนได้
จึงอดมิได้จะเข้ามาเชยชม

ด้วยหัวใจที่ ขอกล่าวคำว่า "ละอาย" ต่อ คุณ "สดายุ" ไว้ ณ ที่นี้
ขอกล่าวคำต้อนรับ ในฐานะ น้องใหม่ ที่ เก่ากว่า คุณ ariyaka ไม่กี่เดือน


ด้วยคำว่า ผมเสียใจ ในเรื่องที่ผ่านมานะคับ


ดังคำคน เจนจบ ทั่วภพหล้า
ที่ว่า เลิศพสุธา ฟ้ากำหนด
แต่กระทำ ดั่งจิต ทุริยศ
หลงโป้ปด ลวงรับ ภาพมายา


ผมใคร่กล่าวขออภัย อย่างเป็นทางการไว้ ณที่นี้ ครับคุณ สดายุ หรือariyaka  ก็ตาม
สำหรับสิ่งที่ผมได้ล่วงเกินไว้ใน การณ์ผ่านมา
แม้ว่า ความจริง จะยังมิได้บังเกิดต่อหน้าผม..

แต่เพียงแค่ การปรากฎตัว อย่างน่านิยมชมเชย ของคุณ
ในขณะที่ กาลเวลา ได้พิสูจน์การหายตัว ของอีกคนหนึ่ง แจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ


ผมขออภัย จริงๆครับ และหวังว่าคงยินยอมรับไว้นะคับ คุณ ariyaka  ( สดายุ )
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2006, 10:10 โดย ThailandReport » บันทึกการเข้า

The only thing necessary for the triump of evil is for good men to do nothing !!
สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ นั่นคือการที่ คนดีๆนิ่งดูดาย !
เก็ดถวา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,753



« ตอบ #5 เมื่อ: 31-08-2006, 10:08 »


ไพเราะมากๆ เลยค่ะคุณ ariyaka

ไม่กล้าเขียนต่อเลย

เก็ดถวาชอบอ่านฉันท์และกาพย์มากๆ

รู้ตัวว่าหลงรักฉันท์ครั้งแรกตอนอ่านมัทนะพาธาค่ะ

บันทึกการเข้า

Avada Kedavra!!!!!!!
ฟ้าเข้ม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 462


« ตอบ #6 เมื่อ: 31-08-2006, 10:38 »

มาสวัสดีคุณอริยกะครับ

หายไปนาน กลับมาเยือนทีนี่ใส่ชุดใหญ่เลย ไพเราะมากครับ
บันทึกการเข้า
ทิมมี่
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 709


« ตอบ #7 เมื่อ: 31-08-2006, 10:54 »

 Razz

สวัสดีครับ คุณariyaka
ผมขอต้อนรับสมาชิกใหม่  สำหรับที่นี่
แต่มือเก่า ที่เก่งจาก พันทิปด้วยความยินดีครับ
บันทึกการเข้า
ariyaka
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31


« ตอบ #8 เมื่อ: 31-08-2006, 11:40 »

คุณ thailand report
ไม่เป็นไรครับ...ผมยินดีที่คุณเข้าใจเรื่องราวแล้ว
ปกติผมเขียนอยู่ในบล็อคตัวเอง

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&group=1

เป็นส่วนใหญ่
อย่างไรก็แล้วแต่ หวังว่าเวปนี้จะมีพัฒนาการที่ดีขึ้น
เป็นลำดับ...และผมจะแวะมาตามแต่โอกาสอำนวย
คนชอบร้อยกรอง...ก็ซอกแซกไปเรื่อยครับ

มาณวกฉันท์ เป็นฉันท์ที่ผมเคยเขียนหนเดียวเอง
แต่เป็นฉันท์ที่ คมทวน คันธนู ยกย่องเป็นฉันท์ เกรดเอ อีกประเภท



คุณเก็ดถวา
ตั้งชื่อได้แปลกมาก..ไม่ทราบแปลว่าอะไรครับ
หากชอบฉันท์คงต้องแนะนำว่า
สามัคคีเภท เป็นฉันท์ชั้นหลังที่แต่งได้ดีเยี่ยม
โดยเฉพาะ วสันตดิลก และ อินทรวิเชียร ท้ายเรื่อง
เพียงแต่ผมชอบสัมผัส..เลยใส่สัมผัสลงไปในฉันท์
จนคล้ายกลอนไปเลย

ฝึกเขียนไปเรื่อยเปื่อยครับ
ยังไม่ได้ดังใจเท่าที่ควร



คุณฟ้าเข้ม
สวัสดีอีกครั้งครับ
ยินดีที่ได้พูดคุยกันอีก




๐ ฟ้าจรดน้ำ ๐

อีทิสังฉันท์ ๒๐

๐ โรยรวีขยับจะลับจะลา
จะปลงระเรื่อณเหนือนภา
ณสายัณห์

๐ แดงผิว์เลือดนะโหมชโลมสวรรค์
ศิวาวิกาลจะผ่านจะพัน
ประจัญรอย

๐ ขอบพโยม ฤ รอจะคลอจะคอย
อุทัยละวันบุหลันทะยอย
จะลอยบน

๐ บทจะเปลี่ยนสลับจะกลับจะวน
อนิจะกาละผ่านปะปน
บ่ทนนาน

๐ แสงบุหลันบ่แรงจะแจ้งสถาน
จะทดจะแทนบ่แม้นจะปาน
ตระการวัน

๐ เห็นก็พรางสลัวและมัวประชัน
ผิว์แขจะเด่นเพราะเพ็ญนะสรรค์
ถวัลย์ทรง

๐ ยังบ่อาจจะเปรียบจะเทียบดรงค์
จรัสรุจีรพีชะลง
ผจงพราย

๐ วันจะสุดจะสิ้นชะจินต์ขจาย
ประภาสตะวันจะบั่นมลาย
ละวายสี

๐ เคลื่อนและคล้อยละสรวงจะร่วงนที
ตะวันละลาก็ว้าฤดี
ระรี่รวน

๐ ใจบ่สิ้นบ่ลับจะกลับจะหวน
ก็ชั่ววิกาละผ่านจะทวน
นะนวลเอย.



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2006, 12:44 โดย ariyaka » บันทึกการเข้า
เก็ดถวา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,753



« ตอบ #9 เมื่อ: 31-08-2006, 11:52 »


คุณเก็ดถวา
ตั้งชื่อได้แปลกมาก..ไม่ทราบแปลว่าอะไรครับ
หากชอบฉันท์คงต้องแนะนำว่า
สามัคคีเภท เป็นฉันท์ชั้นหลังที่แต่งได้ดีเยี่ยม
โดยเฉพาะ วสันตดิลก และ อินทรวิเชียร ท้ายเรื่อง
เพียงแต่ผมชอบสัมผัส..เลยใส่สัมผัสลงไปในฉันท์
จนคล้ายกลอนไปเลย




สวัสดีอย่างเป็นทางการค่ะ

พร้อมกับเอาความหมายของ "เก็ดถวา" มาฝากค่ะ

เป็นดอกไม้ข้างล่างนี้นะคะ.. พุดซ้อน นั่นเองค่ะ

เก็ดถวา เป็นภาษาพื้นเมืองภาคเหนือค่ะ

คุณ ariyaka เคยได้ยินเพลงพี่จรัล มโนเพ็ชรไหมคะ

มีท่อนหนึ่งบอกว่า..

"แล้วให้เขาจัดเตรียมมะลิ เก็ดถวา และสารภี ดอกเหล่านั้นที่กรุงเทพมี....แต่... มันไม่สวย"
  Mr. Green Mr. Green


บันทึกการเข้า

Avada Kedavra!!!!!!!
ariyaka
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31


« ตอบ #10 เมื่อ: 31-08-2006, 11:55 »

สวัสดีครับน้องทิมมี่
เข้าใจว่าคุณคงมาจากพันทิปเหมือนกัน
ที่นั่นเดี๋ยวนี้มือเก่าหายหน้าไปแทบหมด

๐ ยามเช้า ๐

๑. มาลีอวลกลิ่นฟุ้งแต่รุ่งสาง
แทรกระหว่างช่วงจันทร์ผละพันแสง
ลมอุษาผ่านลำมาย้ำแยง
ก่อริ้วแหล่งเกลื่อนเกล็ดของเพชรร้าว

๒. ชั่วโคมฟ้าลอยดวงขึ้นสรวง/ส่อง
หมอกจำต้องจำพรากจำจากหาว
นานเพียงใดน้ำค้างหยดพร่างพราว
จะยังวาวแสงวับให้รับรู้

๓. อ่อนไหวต่อปรากฎ..จึงหมดสิ้น
เลือนจากถิ่นจากที่เคยมีอยู่
คน/พฤกษ์/สัตว์/ฟ้า/ดิน/ทั้งสินธู
ยากเลี่ยงสู่วงเวียนการเปลี่ยนแปลง

๔. ช่วงคำนึงไหวหวั่นของวันเก่า
ล้วนเปลืองเปล่าสับสนกลางหนแห่ง
เพียงหนึ่งผู้ตาต่ำต้องสำแดง
วนสอดแสร้งสร้างซ้ำรอยจำนง

๕. ยินบรรหารปรากฎเป็นพจน์สวย
ล้วนฉาบด้วย..แง่มุมความลุ่มหลง
ร้อนในอกจากคิดจักปลิดปลง
แค่เสพมงคลถ้อย..ใช่ลอยพ้น

๖. เตือนตาทุกสบต้องครรลองโลก
ที่โบยโบกทำนองเพลงหมองหม่น
เตือนจิตตัวอย่าพลั้งสู่วังวน
ที่ทุกข์ทนทดท้อนั้นรอคอย

๗. ชั่วเพียงคิดผ่านคำแล้วย้ำขาน
คืออัตตาเบ่งบานออกผ่านถ้อย
ลืมตัวตนตามคิดจนจิตลอย
คำก็พลอยกดชีพเทียวบีบคั้น

๘. กำเนิดท่ามขอบขันธ์ห้วงอรรณพ
ทุกสิ่งสบส่งให้จิตไหวหวั่น
ทุกสิ่งทราบบันลือ/หลง/ดื้อรั้น
แต่กระนั้นโง่อยู่ไม่รู้แล้ว

๙. เหมือนเข้าใจตัวตน...ทั้งคนอื่น
จึงพูดขืนกลบแก้อยู่แน่แน่ว
สบตาที่วาบเต้นจึงเห็นแวว
ว่าเพียงแนวข่มเข็ญบนเส้นทาง

๑๐. มาลีอวดสีงามในยามสาย
หอมกำจายภู่วนทั้งบนล่าง
หวานหอมดังข่ายขุมแห่งหลุมพราง
รสจักจางจากลิ้นได้สิ้นฤๅ ?

บันทึกการเข้า
ariyaka
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31


« ตอบ #11 เมื่อ: 31-08-2006, 12:00 »

อ้อ..รับทราบครับ
พอดีเคยเขียนไว้ใน
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&group=5&month=02-2006&date=07&blog=1

๐ พุดซ้อนเสียดกลีบขึ้น.....เป็นวง
ขาวสดเวียนเป็นทรง........แทรกซ้ำ
เจ้าเอยแทรกรูปลง..........ตาพี่
หวานก็ส่งหยอดย้ำ..........หยาดให้ถวิลหา ฯ

ขอเอามาลงแบบที่อาศัยรูปข้างบนผสมกันไปละกัน
บันทึกการเข้า
ดอกเข็มขาว
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 534



« ตอบ #12 เมื่อ: 31-08-2006, 12:47 »

สวัสดีค่ะคุณ ariyaka
คำฉันท์เพราะมากค่ะ
ยิ่งอ่านเป็นทำนองยิ่งไพเราะจริง ๆค่ะ
บันทึกการเข้า

เก็ดถวา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,753



« ตอบ #13 เมื่อ: 31-08-2006, 12:54 »





๐ พุดซ้อนเสียดกลีบขึ้น.....เป็นวง
ขาวสดเวียนเป็นทรง........แทรกซ้ำ
เจ้าเอยแทรกรูปลง..........ตาพี่
หวานก็ส่งหยอดย้ำ..........หยาดให้ถวิลหา ฯ





ประทับใจจังเลยค่ะ...

ขออนุญาตเอาภาพแทรกนะคะ



บันทึกการเข้า

Avada Kedavra!!!!!!!
ThailandReport
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,415


« ตอบ #14 เมื่อ: 31-08-2006, 12:58 »

อ้อ..รับทราบครับ
พอดีเคยเขียนไว้ใน
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&group=5&month=02-2006&date=07&blog=1

๐ พุดซ้อนเสียดกลีบขึ้น.....เป็นวง
ขาวสดเวียนเป็นทรง........แทรกซ้ำ
เจ้าเอยแทรกรูปลง..........ตาพี่
หวานก็ส่งหยอดย้ำ..........หยาดให้ถวิลหา ฯ

ขอเอามาลงแบบที่อาศัยรูปข้างบนผสมกันไปละกัน


ส่งการ์ด เชิญให้ผมด้วยนะครับ ได้ฤกษ์วันไหน บอกด้วยจะเอาวงดนตรีไปบรรเลง Wedding ซิมโฟนี ให้คับ
 Tongue out Embarassed Cool Lips are sealed
บันทึกการเข้า

The only thing necessary for the triump of evil is for good men to do nothing !!
สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ นั่นคือการที่ คนดีๆนิ่งดูดาย !
ariyaka
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31


« ตอบ #15 เมื่อ: 31-08-2006, 13:28 »

สวัสดีครับคุณดอกเข็มขาว
เสียดายที่ไม่ได้เขียนโคลงสำหรับดอกเข็มสีขาว
ลองเขียนสดดูสักบท...



๐ เข็มขาวอะคร้าวพุ่ม...........แผกทรง
ขาวแทรกเหลืองแซมผจง.....แจ่มหล้า
หอมหวานล่อภมรลง............เล็มตฤป รสนา
หวานยิ่งมาลย์ย่อมหน้า.........หนึ่งน้องนางเดียว


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2006, 13:33 โดย ariyaka » บันทึกการเข้า
ThailandReport
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,415


« ตอบ #16 เมื่อ: 31-08-2006, 13:32 »

ตายๆๆๆๆๆ แฟนคลับผม ป่านนี้นั่งหน้าแดง (สลับเขียว)
อมยิ้ม  Smile จน ดอกเข็มเปลี่ยนสีไปซะละมั้งเนี่ย
ฮ่าๆๆๆๆ  Shocked Mr. Green Laughing Razz Cool




**ยื่นใบลาออกจากแฟนคลับผมไปสมัคร คลับใหม่ ได้นะคร้าบ ฮิๆ
อนุมัติทันใจ ใน 30 วินาที ฮ่าๆๆ
**
บันทึกการเข้า

The only thing necessary for the triump of evil is for good men to do nothing !!
สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ นั่นคือการที่ คนดีๆนิ่งดูดาย !
ariyaka
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31


« ตอบ #17 เมื่อ: 31-08-2006, 13:48 »

เสียดายที่ผมใส่รูปไม่เป็น
นึกว่าจะใช้โค๊ดเดียวกับใน บล็อคแก๊ง..ไทยโพเอม
อย่างไรก็ดี...
หวังว่าจะมีคนใจบุญช่วยแนะนำวิธีด้วยนะขอรับ


คุณเก็ดถวา

๐ มาลีชูช่อช้อย.............ชวนชม
อวลกลิ่นหอมร่ำรมย์.........รื่นล้ำ
สูงเกินเหนี่ยวลงดม..........ดอมดอก
เกรงกลีบบางบอบช้ำ.......ชอกเนื้อควรถนอม ฯ



คุณthaiฯ

เขาว่าผู้หญิงมีความอ่อนหวานเหมือนดอกไม้
โบราณเลยมักใช้ดอกไม้เป็นสื่อที่จะส่งผ่าน
ความนัยของบุรุษไปถึง

การมอบดอกไม้ให้กันในวันสำคัญ
ของคนพิเศษจึงเป็นประเพณีที่หยั่งราก
ลึกในโลกตะวันตก

ผู้หญิงเป็นเพศที่ควรแก่การทะนุถนอม
อันควรด้วยมธุรสวาทีทั้งปวง
บันทึกการเข้า
ariyaka
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31


« ตอบ #18 เมื่อ: 31-08-2006, 13:54 »

๑๔
๐ ปีกบางควะคว้างพละสะบัด
ขณะลัดนภาลัย
พลิ้วผ่านทะยานรัถยะไกล
บทะใหม่จะมืดมน

๐ ลิ่วล่วงทะลวงนิละสถาน
ปริมาณะอำนนต์
ดั่งแถวทะแกล้วพยุหะพล
นภะบนตะบึงบิน

๐ เพ็ญจันทระปันรุจะขจ่าง
ผิวะอ้าง...ก็เมืองอินทร์
งามจันทร์บ่บั่นภัตะถวิล
บ่จะสิ้นจะสุดสาย

๐ มืดดำทิฆัมพระทะมื่น
ภวะคืนก็เริ่มคลาย
มืดใจ...ไฉนมุหะจะวาย
เลาะสลายและลบเลือน

๐ จันทร์เพ็ญบ่เว้นรุจิพิจิตร
ฤจะบิดวิโรจน์เบือน
ย่อมป่นวิกลนิละสะเทื้อน
ตละเยือนก็ควรยล

๐ ค้างคาวเหาะหาวก็เพราะจะแย่ง
เสาะแสวงภักษาปรน-
เปรอร่างระหว่างชิวะจะพ้น
ภพะ- วน ณ หนทาง

๐ หม่นกาละผ่านกิจะประกอบ
เพาะระบอบระเบียบวาง
ตราบพลบประจบรุจะ ณ สาง
จะผละทางและกลับทวน

๐ เพื่อไหวทิวาสมะตะวัน
ทะนุขันธะบังควร
เพื่อฟ้าประดาชิพิตะผวน
ชะขบวระโบยบิน

๐ แทรกสรรคะปันทิฐิพิบูลย์
อนุกูละกอปรกิน
แม้นวาระผ่านบ่ชะถวิล
บ่ชะจินตนาจาง

๐ ไกลห่างระหว่างสถุละกรรม
สัทะธรรมะทอดทาง
ตรับความบ่ลามจิตะระคาง
พิเคราะห์วางบ่หวั่นไหว

๐ แม้นโลกกระโชกทุขะระรุม
พิษะชุ่มบ่ปราชัย
ตามเตือนเสมือนสวะสมัย
เฉพาะไว้ประลองรณ.
บันทึกการเข้า
ThailandReport
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,415


« ตอบ #19 เมื่อ: 31-08-2006, 14:02 »



คุณthaiฯ

เขาว่าผู้หญิงมีความอ่อนหวานเหมือนดอกไม้
โบราณเลยมักใช้ดอกไม้เป็นสื่อที่จะส่งผ่าน
ความนัยของบุรุษไปถึง

การมอบดอกไม้ให้กันในวันสำคัญ
ของคนพิเศษ
จึงเป็นประเพณีที่หยั่งราก
ลึกในโลกตะวันตก

ผู้หญิงเป็นเพศที่ควรแก่การทะนุถนอม
อันควรด้วยมธุรสวาทีทั้งปวง

ผมไม่มีดอกไม้  ผมมีแค่..หัวใจดวงเดียว
พอจะใช้แทน มอบให้เธอคนนั้น ในวันพิเศษ...ได้..หรือไม่ ?
ปรึกษาหน่อยสิคับ คุณ อริยะกะ
บันทึกการเข้า

The only thing necessary for the triump of evil is for good men to do nothing !!
สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ นั่นคือการที่ คนดีๆนิ่งดูดาย !
ariyaka
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31


« ตอบ #20 เมื่อ: 31-08-2006, 14:10 »

หัวใจดวงเดียว....นี่ค่อนข้างเป็นนามธรรมไป
เกรงว่าเธอคนนั้นจะมิอาจจับต้องสัมผัสถึง
ไมตรีได้

แต่ช่อดอกไม้ช่อละหลายร้อย หรือเป็นพัน
ก็ออกจะเกรงใจกระเป๋า...อยู่ครามครัน

หากเป็นผม
สงสัยต้องลองเอามือเธอเธอทาบหัวใจดู
ให้เธอคนนั้นแนบหูฟังเสียงกระซิบนั้น
ฮี่ๆๆ
บันทึกการเข้า
ThailandReport
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,415


« ตอบ #21 เมื่อ: 31-08-2006, 14:13 »

ผมขอน้อมรับเอาไปใช้ ในเร็วพลันครับ
ขอบพระคุณที่แนะนำ

 Tongue out Embarassed Cool
บันทึกการเข้า

The only thing necessary for the triump of evil is for good men to do nothing !!
สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ นั่นคือการที่ คนดีๆนิ่งดูดาย !
เก็ดถวา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,753



« ตอบ #22 เมื่อ: 31-08-2006, 14:32 »

เสียดายที่ผมใส่รูปไม่เป็น
นึกว่าจะใช้โค๊ดเดียวกับใน บล็อคแก๊ง..ไทยโพเอม
อย่างไรก็ดี...
หวังว่าจะมีคนใจบุญช่วยแนะนำวิธีด้วยนะขอรับ


คุณเก็ดถวา

๐ มาลีชูช่อช้อย.............ชวนชม
อวลกลิ่นหอมร่ำรมย์.........รื่นล้ำ
สูงเกินเหนี่ยวลงดม..........ดอมดอก
เกรงกลีบบางบอบช้ำ.......ชอกเนื้อควรถนอม ฯ







ไพเราะมากๆ ค่ะ เก็ดถวา ขออนุญาตเอาภาพแทรกอีกครั้งค่ะ  Very Happy



วิธีแทรกภาพนะคะคุณ ariyaka

1.   คุณต้องมี URL ของภาพที่ต้องการนำมาแทรกก่อนนะคะ

2.   ถ้าขณะนี้คุณกำลังอยู่ในกรอบที่คุณกำลังพิมพ์ข้อความ คุณก็พิมพ์ไปเรื่อยๆ นะคะ

3.   เมื่อถึงช่วงที่คุณต้องการแทรกภาพ ให้คุณคลิกปุ่มที่หน้าตาเหมือนกรอบรูปค่ะ ซึ่งจะอยู่ด้านล่างพอดีเป๊ะกับปุ่มสำหรับทำตัวเอียงนะคะ

4.   เมื่อคลิกที่ปุ่มนั้นแล้ว มันจะขึ้นในกรอบที่คุณพิมพ์ตัวหนังสือว่า วงเล็บimg และ วงเล็บ /img โดยที่เคอร์เซอร์ของคุณจะอยู่ตรงกลางระหว่าง วงเล็บ img กับ วงเล็บ /img ค่ะ

5.   ตรงเคอร์เซอร์นี้เอง ให้คุณไป copy url ของภาพที่คุณเตรียมไว้ มา paste ใส่เลยค่ะ มันก็จะเป็นดังนี้นะคะ

วงเล็บ img http://ภาพของคุณ ปิดท้ายด้วย วงเล็บ /img




แหะๆ ไม่รู้ว่าอธิบายห่วยหรือเปล่านะคะ  Confused

มันพิมพ์ให้เหมือนจริงไม่ได้อ่ะค่ะ อธิบายไปแล้วกลัวคุณงงจัง

แต่ลองทำดูนะคะ..  Tongue out



ปล. ถ้าทำได้แล้ว ช่วยลบข้อความนี้ไปด้วยนะคะ มันจะทำให้กระทู้กลอนของคุณสะดุดน่ะค่ะ  Very Happy
บันทึกการเข้า

Avada Kedavra!!!!!!!
ariyaka
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31


« ตอบ #23 เมื่อ: 01-09-2006, 23:19 »

ขอบคุณ คุณเก็ดถวา ที่แนะนำ

๐ จากวันนั้น ๐
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

๐ รื่นรื่นก็คลื่นวรรษะวสันต์
ละสวรรคะโปรยปราย
หยาดชละหล่นปะทะขจาย
แตะสลายชโลมติณ

๐ สืบสมอุดมะอภิรัฐ
บริพัตระแดนดิน
สืบสร้างมล้างอริอริน-
ทระสิ้นบ่สืบทรง

๐ สิ้นนั้นถวัลยะประเวศ-
นะพิเศษะเขตคง
อำนาจและอาชญะดรง-
คะก็ปล่งบ่อาจแปลง

๐ เสี้ยนเศิกบ่เกริกพละสมร
ฤทธิรอนและอ่อนแรง
จึงวัตรพิพัฒนะแสวง
ประลุแหล่งประโลมชม

๐ บรรยงประสงคะปริวรรต
วิทวัสะปรารมภ์
หักหาญจะลาญอรินิคม
ยุติข่มบ่ล่มคาม

๐ นองสินธุรินบทะละหลั่ง
ดละหวังวะวาบวาม
นองกละบนบุรพะยาม
ดละงามตระหง่านเงย

๐ เสริญศักดิศักยะนคร
กละพรเพราะรำเพย
บรรสมภิรมยะเฉลย
ผิวะเผยจะเพียบแพง

๐ เพราเพรงเชลงสิรินิทัศน์
กละรัตะเรื่อแรง
เรื่องกล่าวระราวรัศมิแสง
ประจุแต่งนภางาม


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2006, 23:21 โดย ariyaka » บันทึกการเข้า
ariyaka
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31


« ตอบ #24 เมื่อ: 01-09-2006, 23:25 »

๐ ถึงวันนี้ ๐

๔.
๐ เนื่องฤๅเนตรรื้นเอ่อ…………อัสสุชล
ถ้วนตรอกบ้านตำบล…………..บ่มไข้
ขัดแย้งขยายผล………………..พาณผุด พล่านแล
ราวนรกหมกไหม้……..………..แม่นแม้นกลีเมือง

๐ ผ่านเคืองด้วยคละคลุ้ง……..คาวเลือด
ปลิดชีพประชาเชือด……………ชาติม้วย
ร่ำไห้บ่แห้งเหือด………………..ห่างเทวษ ทวีพ่อ
ปมเงื่อนฤๅหงายด้วย…………..ดับเชื้อชีพประชา

๐ โองการอิงก่อเกื้อ……..…...การณ์กบฏ
ชีพปลิดเคียงประณต……..…..นอบน้อม
อภิวาทพะวงจด…………………จารจิต แจ้งฤๅ
เพียงหล่อวิปลาสล้อม………...หลอกไว้ให้วน

๑๑.
๐ แผ่นผืนไผทนี้
บ่จะมีไว้ช่วงชิง
ถ้วนพรรคก็พักพิง
ชิวะอิงและอาศัย

๐ เหนือใต้และออกตก
มติยกว่าคือไทย
ร่วมหมายเพาะสายใย
พิสมัยสมานฉันท์

๐ ศาสน์วัตรและศรัทธา
อุปการะร่วมกัน
แม้นแผกบ่แยกพันธุ์
จิตะนั้นก็คือไทย

๐ ต่างเชื่อบ่เพื่อแตก
บ่จะแยกว่าถิ่นใคร
ต่างศาสน์และภาษนัย
บ่จะใช่ไว้ชังกัน

๐ หยุดกล่าวและสาวเหตุ
ยุติเลศจะโรมรัน
หยุดสิ้นทมิฬทัณฑ์
และหยุดสั่นมุสาเสียง

๐ ทุกเปรี้ยงของปืนปลาบ
บ่ต่างคราบของเถื่อนเคียง
ทุกร่ำกำสรดเรียง
บ่ต่างเสียงของซาตาน

๐ ฤๅวัจนานั่น
ฤจะคันถะแห่งมาร
กล่าวแกล้งตระการการณ์
พิสดารว่าจากแถน

๐ วุ่นวายทุกมุมโลก
ผลิวิโยคทุกดินแดน
หมู่มากก็ยากแสน
จะแยกแคว้นทุกแผ่นดิน

๐ หากผืนไผทนี้
บ่ยินดีจะอยู่กิน
แผกจิตและผิดจินต์
ละให้สิ้นอย่าอาวรณ์.
บันทึกการเข้า
ariyaka
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31


« ตอบ #25 เมื่อ: 06-09-2006, 08:47 »

๐ ตะวัน ๐
โดย...สดายุ

๐ รอคอยย่อม..เพียงแรงพันแสงส่อง
กำจายต้องภูมิทัศน์ระบัดสี
เพื่อลมอุ่นกรุ่นไอจักไหววี
โลมแผ่นพื้นปฐพีก่อลีลา

๐ ลำดับกาลผ่านคล้อยขึ้นลอยเด่น
สักหลืบเร้นหลบภาคยังยากหา
เหลือแต่ต้องยอมพาดด้วยอาชญา
แต่ชั้นฟ้าสู่ดินจนสิ้นเชิง

๐ เพียงหนึ่งดวงช่วงอยู่ไม่รู้เร้น
รุ่งเรืองเห็นเป็นร่างลอยค้างเติ่ง
เอื้อสรรพะชีวันได้บันเทิง
ใต้พวยเพลิงกำหนดทุกกฎการณ์

๐ วันเวลาเริ่มนับลำดับให้
แต่อนันต์แห่งไฟแผ่ไพศาล
กัมปนาทหน่วงหนักทั้งจักรพาฬ
อันต่อเนื่องยาวนานถึงกาลนี้

๐ ผลักเช้า-ค่ำหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนหน้า
จนจันทร์จ้า-ดาวกระพริบอันริบหรี่
ได้โผล่-เร้น-เห็น-ร้างเป็นบางที
ได้เลื่อนที่เลี่ยงทางจนห่างกัน

๐ รับรู้สรรพผ่านแสงที่แบ่งส่อง
ทาบตาสองเสพใส่จนไหวสั่น
คอยเวียนว่ายวนว่าตามตาวัน
เรียงก่อนหลังลดหลั่นพลอยบรรเลง

๐ บ้างเพลิดเพลินหมกมุ่นเหล่าคุณค่า
แสวงหารูปธรรมอย่างคร่ำเคร่ง
บ้างสร้างกรอบแกร่งล้ำเคี่ยวกรำเอง
ปล่อยฝันเคว้งคว้างหงายตามรายทาง

๐ ตามวิถีโคจรจนอ่อนล้า
จึงเห็นส่วนปรารถนาขึ้นมาบ้าง
แม้นมีร่มเงาเถื่อนก่อเลือนลาง
จักคอยพรางภาพเห็นตามเป็นจริง

๐ ย่อมดีกว่ากลบกลืนด้วยคืนค่ำ
ที่มืดดำโลมรุกไปทุกสิ่ง
เกินภาคส่วนแจ่มใสจักไหวติง
ตราบเดือนดิ่งดาวดับลงกับแดน

๐ จึงเมื่อมืดหม่นหมองขึ้นครองฟ้า
ถวิลหาเพียงไฟอำไพแสน
ขึ้นลอยดวงช่วงอยู่อย่ารู้แคลน
โลมสู่แผ่นดินเพื่อได้เกื้อกูล

๐ รอคอยเพียง...ภาคอรุณอบอุ่นนั้น
เพื่อสัมพันธะภาพไหวจากไอสูรย์
ก่อสุนทรียะภาพนำความจำรูญ
ได้เพิ่มพูนรังสีจ้าในตาตน
 
 
บันทึกการเข้า
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #26 เมื่อ: 06-09-2006, 11:32 »

หยาดจากฟ้ามาดินในถิ่นร้าง
หยาดน้ำค้างกลางคืนชื่นกลิ่นป่า
หยาดละอองของหมอกขาวพราวพนา
หยาดน้ำตาปนน้ำค้างคืนร้างดาว

รัตติกาลปานหมึกป่าลึกชัฏ
ดึกสงัดลัดมาในป่าหนาว
ในคืนแรมเดือนร้างน้ำค้างพราว
ราตรียาวคราวร้างห่างคู่ครอง

คนเดียวดายโดดเดี่ยวเปลี่ยวใจเหงา
มีเพียงเราเศร้าหม่นอยู่ทนหมอง
หริ่งเรไรไร้คำร่ำทำนอง
ไร้เสียงร้องผองแมลงแข่งสำเนียง

มีแต่เพียงเสียงน้ำลำธารไหล
ในพงไพรไร้สิ้นสรรพเสียง
คืนมืดหม่นทนไกลไร้เธอเคียง
มีแต่เพียงตัวเราเศร้าใจครวญ

เมฆลอยผ่านม่านฟ้าเผยเฉลยแสง
มีดาวแข่งแตงฟ้าพาใจหวน
คิดคนึงถึงครั้งยังเคียงนวล
เคยชี้ชวนชมดาวคราวรักกัน

มาวันนี้มีแต่เราเปล่าเปลี่ยวนัก
คนไร้รักพักใจในถิ่นฝัน
นับแต่นี้มีแต่ร้างห่างทุกวัน
ใจเคยมั่นผันแปรไม่แน่นอน

ในแดนดินถิ่นไพรไกลแสงสี
แผลใจมีแหล่งสงบที่หลบซ่อน
หวังกลับคืนฟื้นใจไร้บังอร
พ้นนิวรณ์ร้อนรุ่มกลุ้มอุรา

เยี่ยมกระทู้คุณอริยกะหน่อย   สวัสดีครับ
บันทึกการเข้า
ariyaka
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31


« ตอบ #27 เมื่อ: 09-09-2006, 11:51 »

สวัสดีครับคุณคมเย็น

๐ ลอย..ตะวัน ๐

๐ สะท้านแก้วน้ำค้างตอนสางรุ่ง
หลังเฟื้อยฟุ้งสีสันตะวันฉาย
สะท้อนเห็นวูบวับก่อนลับวาย
เมื่อแสงฟ้าทอดสายกล้ำกรายดง

๐ อ่อนไหวถึงปานนี้..วารีหยาด
เจ้าสะอาดบริสุทธิ์และสูงส่ง
คราวพระลบบำราศค่อยหยาดลง
ดั่งพะวงมืดมิด..จะปิดรอย

๐ ลมลูบตัวอ่อนพลิ้ว..โลมริ้วแก้ว
อ่อนเอนไหวเจ้าแล้ว..เพียงแผ่วค่อย
ดั่งใจหนึ่งทดท้อ..การรอคอย
จักอ่อนเอนเงียบหงอย..ด้วยน้อยใจ

๐ สะท้านขั้วหัวใจ..อยู่ในรุ่ง
แต่หมายมุ่งไมตรี..เขามีให้
สะท้อนนั้นร้อยบ่วง..ความห่วงใย
ที่คล้องไว้ผูกมั่น..เป็นพันธนา

๐ ระเหยห่างหายไปน้ำใสหยาด
บริสุทธิ์และสะอาดก็ปราศค่า
ระอุเอ่อความหมายผ่านสายตา
ปรารถนาก็มองเห็น..ว่าเช่นกัน

๐ เรื่อรุ่งของแสงแรก..เมื่อแทรกสู่
จึงรับรู้ความนัย..ความไหวหวั่น
เมื่ออำไพโชติช่วง..ของดวงวัน
พาดสีสัน..โชติช่วงที่ดวงใจ

๐ รอคอยมานับนาน..แต่ผ่านพลบ
จึงบรรจบรอยระยับ..ที่ขับไข
ดูเถิดตระการตา..ยิ่งกว่าใด
ประชุมแสงส่งให้..ด้วยใจยอม

๐ แต่อกอาบซาบซับลำดับแสง
อุ่นก็แฝงกำลังเข้าหลั่งหลอม
ที่ว่าหวานมธุรส..ยาก อด ออม
ก็พรั่งพร้อมมธุรส..เข้าบดเบียน

๐ ล่องลอยผ่านฟ้าคราม..สู่งามขวัญ
ผลัก-วงจันทร์จางรอย..ให้ถอยเปลี่ยน
กวาดหมู่ดาวสิ้นแสงไร้แรงเวียน
ตราบกร่อนเกรียนเหลือช่วง..เพียงดวงเดียว.
บันทึกการเข้า
ariyaka
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31


« ตอบ #28 เมื่อ: 09-09-2006, 11:55 »

๐ รอ..ตะวัน ๐

๐ รออรุณหมุนคว้าง..พ้นสางตรู่
เพื่อมาลย์หมู่รวยรินให้ถิ่นหอม
เอื้อผึ้งภู่ภุมรินได้บินดอม
เข้าหล่อหลอมหวานรส..เป็นบทเดียว

๐ รอนั้นเพียงลอยอุทัยขึ้นไขรูป
โลมแสงลูบเงียบเหงาลบเปล่าเปลี่ยว
ให้พฤกษ์พรรณพร่ำพลอด..ใบทอดเรียว
ระบัดเขียวยอดรับ..ระยับนั้น

๐ แย้มมาเถิดรูจี..รังสีฟ้า
จงทอดฝ่าม่านเมฆลงเสกสรรค์
ให้หล้าล่างเปรมปรีดิ์..สืบชีวัน
จะทอดขวัญรับเรื้อง..บรรเทืองทอ

๐ อกเอย..แล้วไฉนมาไหวหวาด
ด้วยโอภาสบรรเจิดที่เกิดก่อ
ลอบเร้นหอมละมุนที่หนุนรอ
หวานที่พอติดตรึง..ก้นบึ้งใจ

๐ ใช่..รอคอยนับนาน..จึงผ่านพบ
เมื่อบรรจบฉับพลันจึงหวั่นไหว
ประเทียบถ้อยร้อยร่ำที่อำไพ
เสมอนัยเหนี่ยวนำ...สู่จำนน

๐ ทอดมาเถิดรูจี..รังสีสรวง
มาร่วมล่วงเลือนเลศกลบเหตุผล
เอาอารมณ์บ่มไล้..ดวงใจคน
ให้สับสนวนว่าย..อย่าคลายเลย.
บันทึกการเข้า
อธิฏฐาน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,912


รักษาประเทศชาติ เป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคน


« ตอบ #29 เมื่อ: 09-09-2006, 13:09 »






oวันใหม่ดอกไม้บาน
แสนสราญสวยสดใส
ผีเสื้อโบยบินไป
จุมพิตกลีบสูดเกสร

oดอกพุดเผยอแย้ม
ดุจดั่งแก้มแม่บังอร
ภู่ผึ้งฤๅรานรอน
ถนอมเจ้าเท่าชีวา

oดอกรักเริ่มชูช่อ
ดุจดั่งล้อภุมรา
แว่วเสียงสกุณา
รอตะวันอันเฉิดฉาย

oพะยอมหอมไกลถิ่น
กลิ่นรวยรินรับยามสาย
สุดเศร้าแสนเสียดาย
สายธารใจมิไหลคืน


สวัสดีค่ะคุณคมเย็น , คุณariyaka
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-09-2006, 13:17 โดย อธิฏฐาน » บันทึกการเข้า

หยุด...สัมปทานอุทยานแห่งชาติ
http://www.oknation.net/blog/sandstone
morning star
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,119


don't let them make up your mind


« ตอบ #30 เมื่อ: 09-09-2006, 15:04 »

สายลมพลิ้วพัดผ่านผิวพลันหวั่นหวาม
เคลื่อนคล้อยเข้าหนาวยามยังขาดคู่
เผลอแผลบผ่านพ้นวสันตฤดู
ให้หดหู่หาหัวใจยังไ่ม่เจอ


(ขอแจมครับ..ถึงฝีมือไม่มีแต่ก็มีใจครับ Mr. Green...)
บันทึกการเข้า

อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
อธิฏฐาน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,912


รักษาประเทศชาติ เป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคน


« ตอบ #31 เมื่อ: 09-09-2006, 15:18 »

สายลมพลิ้วพัดผ่านผิวพลันหวั่นหวาม
เคลื่อนคล้อยเข้าหนาวยามยังขาดคู่
เผลอแผลบผ่านพ้นวสันตฤดู
ให้หดหู่หาหัวใจยังไ่ม่เจอ


(ขอแจมครับ..ถึงฝีมือไม่มีแต่ก็มีใจครับ Mr. Green...)


ฝีมือสู้ฝีเท้าไม่ได้หรอกค่ะ ใครอึดกว่าคนนั้นชนะ Lips are sealed
บันทึกการเข้า

หยุด...สัมปทานอุทยานแห่งชาติ
http://www.oknation.net/blog/sandstone
ariyaka
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31


« ตอบ #32 เมื่อ: 10-09-2006, 16:52 »

สดายุตาฉันท์ ๑๔

001010            11101012
001012            11101013

๐ ยามเช้าระเร้าจรัส
สุริยะรัศมิ์ก็โจมผจง
งามนักผิว์พักตร์อนง-
คะรติทรงเพราะเนตรดนู

๐ ยามนั้นก็พลันระรื่น
กมละตื่นผิว์คลื่นพบู
ไหวช่อและรอจะชู
ภมระหมู่ก็รู้จะคลอ

๐ งามดอกระลอกประทิ่น
เยาะภุมรินพะเน้าพะนอ
งามเจ้านะเร้าจะรอ
กมละหนอบ่หน่ายบ่แหนง

๐ เฉกลมระดมสะพัด
เพราะปฏิพัทธะรัดและแรง
นางเอยผิว์เผยจะแปลง
ทุขะจะแล่งชิวาตม์มลาย.
บันทึกการเข้า
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #33 เมื่อ: 31-10-2006, 13:42 »

รักนุชดุจสักต้อง.........ศรตรึง
ทรวงติดคิดคำนึง...........คู่น้อง
เคียงนางห่างคิดถึง.............คอยท่า
ครวญท่วมเทวษเหตุน้อง...........ห่างหน้าหานวล

หวนนึกตรองตรึกซ้ำ..........ตรมทรวง
ตราบสุดสิ้นคำลวง............คลาดแล้ว
คอยลมข่มโศกปวง...........เศร้าเปลี่ยว
แสนปวดชวดเชยแก้ว........ชิดใกล้ชมกัน

(นาคบริพันธ์)
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: