เสียงจาก \"อนาคตของชาติ\" ถึง \"ระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัย\" แสนห่วยแตก หมายเหตุ น้องพงษ์กำชับเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าขอให้พี่ช่วยนำบทความนี้ลงโพสต์ด้วยนะครับ ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น เรื่องนี้สำคัญขนานแท้เชียวล่ะ สวัสดีครับท่านผู้อ่านครับ หลังจากที่กระผมไม่ได้จับแป้นพิมพ์เสียหลายวัน คือจากที่คุณทักษิณประกาศปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งนั้น หลังเหตุการณ์นั้นกระผมก็มิได้ลงบทวิจารณ์แต่อย่างไร มาวันนี้คงเป็นอีกวาระหนึ่งกระมัง ที่กระผมคงจะต้องมาว่ากล่าวกัน วันนี้จะเขียนถึงกรณีประเด็นของเยาวชนและประเด็นการเมืองซึ่งประเด็นหลังดูจะเล็กไปเสียเลยครับ เมื่อเทียบเทียมกับประเด็นการศึกษาของเยาวชน
กระผมจึงจะขอกล่าวถึงในประเด็นที่สำคัญเสียก่อน เพราะอดเสียไม่ได้ครับที่จะต้องมาว่ากล่าวกัน คือในกรณีของระบบที่คัดเลือกคนเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ในระบบใหม่นี้จากการสอบถามนักเรียนผู้เข้าสอบในระบบใหม่นี้ กระผมขอเรียนเลยครับว่าดูแล้วหดหู่ใจ จะว่าไปคงจะเรียกได้ว่าอัปรีย์เสียสิ้นดี คือจะไม่ให้กระผมใช้คำเรียกดังกล่าวได้อย่างไรเล่า
ในการสอบครานี้หากว่ากันก่อนที่จะเข้าสู่ห้องสอบก็เรียกว่าชุลมุนวุ่นเสียแล้ว เพราะทางเจ้าคนผู้ที่จะต้องรับและรับชอบนั้นได้เปลี่ยนสถานที่สอบเอาเสียล่วงหน้าประกาศล่วงหน้าเพียงแค่วันเดียว คือใครที่ฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัวไม่มีทุนพอจะซื้อคอมพิวเตอร์ได้ก็คงไม่ต้องสอบกันล่ะ ในพฤติการณ์นี้คงทราบครับว่าใครกันรึแน่ที่ไร้ความชอบด้วยธรรม ใครกันแน่รึที่ควรจะต้องรับผิดชอบ ทางผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง หรือว่าเด็กผู้เข้าสอบ
หากจะโยนมากล่าวโทษในฝ่ายหลัง ก็คงจะว่ากันเสียให้เปลืองน้ำลาย อายหน้าเหวี่ยงพื้น ให้เด็กถอนผมขาวกันเสียง่าย ๆ คือเหตุผลที่จะกล่าวอ้างว่าในฝ่ายผู้ไปสอบนั้น คงจะว่า ผู้จะสอบนั้นไม่มีความกระตือรือร้นในการตามข่าวเรื่องการสอบ อะไรกัน! ตรวจสอบข้อมูลเรื่องระเบียบการสอบทางอินเตอร์เน็ตยังไม่ขวนขวายกันเสียอีกทั้ง ๆ ที่ได้แจ้งไว้ให้ทราบเสียล่วงหน้าตั้งนานถม เพียงแค่ทางผู้รับผิดชอบเปลี่ยนสถานที่สอบก่อนวันสอบเสียวันเดียว ยังมิได้ตรวจสอบเสียก่อนลงสนามจริงในวันรุ่งขึ้น
เด็กนี่ช่างเหลวไหลเสียเหลือเกินเรื่องของตัวแท้ ๆ ยังไม่ดู สูจะมาโทษผู้รับผิดชอบเสียกระไร เพราะเรื่องทั้งเรื่องก็มิได้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เสียสักกระหน่อย เป็นเรื่องของเด็กในการเตรียมตัวไปสอบทั้งนั้น
นี่ล่ะครับคงจะถือว่าเป็นเหตุและผลที่น่าฟังเสียทีเดียว ฟังดูช่างอิ่มเอมเปรมใจเสียเหลือหลาย กระผมจึงอดมิได้ที่จะนึกย้อนไปเสียว่าท่านผู้รับผิดชอบ เรื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในครานี้ ได้ผุดมาจากส้วมโถไหน? จึ่งกระทำการที่เรียกได้ว่าไร้จริยธรรมเป็นอย่างสูงยิ่ง อ่ะ มาถึงเรื่องของการเข้าห้องสอบ พอเข้ามาได้ก็คิดว่างานนี้คงจะต้องใช้วิทยาความรู้ที่สั่งสมมาเสียเต็มที่ แต่ทว่าหากดูข้อสอบแล้ว
ผู้ที่เข้าสอบนั้น หลายคนหลายท่านได้กล่าวมาเป็นเสียงเดียวกันดั่งปลิดทิ้งเลยครับว่า ง่ายมาก ทั้ง ๆ ที่กระผมจะพยายามถามผู้ที่ไม่ใคร่จะเรียนดีเด่นเสียสักเท่าไหร่ คือหากจะให้ว่ากันก็คือเรียนขั้นพอใช้เท่านั้นกระมัง
แต่ก็ได้รับเสียงตอบมาเช่นเดียวกันครับว่า ง่ายมาก และผมก็ไม่แน่ใจสักเท่าไรนักจึงซักถามดูอีก ก็ได้รับคำตอบมาครับว่า ข้อสอบเอนทรานซ์ระบบเก่าที่ตนได้ทดลองฝึกทำนั้น ยากกว่าข้อสอบฉบับระบบใหม่นี้หลายต่อหลายเท่าตัวนัก เพราะเหตุเนื่องมาจากการเปลี่ยนตัวคณะผู้ออกข้อสอบทั้งชุดด้วยหรือไม่ประการใดนั้นอันนี้กระผมไม่แน่ใจจึ่งไม่ขอยืนยันแน่ชัด และในการจัดห้องสอบรวมถึงการคุมสอบนั้น
กระผมตั้งแต่ผุดแต่เกิดมาจากครรภ์มารดา ก็เพิ่งจะเคยทราบครับว่า ในการคุมห้องสอบแท้จริงแล้ว มีแบบนี้ในโลกด้วยหรือ คือพฤติการณ์ในการคุมห้องสอบแบบที่ว่า ผู้คุมท่านหนึ่งหลับ อีกท่านพูดคุยกันเด็กนักเรียนที่เข้าสอบในฐานะครูอาจารย์กระมัง และไม่ได้ใส่ใจหรือยินดีฤาร้ายประการใดกับการทุจริตสอบ เพราะในการจัดห้องสอบคราวนี้ทราบมาว่าละเลยจากรูปแบบมาตรฐานเสียมากนัก คือห้องหนึ่ง ๆ จะมีนักเรียนผู้เข้าสอบเสียหกสิบคนโดยประมาณ และการจัดโต๊ะสอบ แทบจะเรียกได้เลยครับว่าแหงนหน้าชำเลืองตาก็เป็นอันรู้ข้อสอบของคนข้าง ๆ และที่สำคัญในการคุมสอบมิได้มีการตรวจตรากระเป๋าหรือกระเป๋าใส่เครื่องเขียนที่สามารถยัดโพยอันใดเข้าไปได้ ในการตรวจสอบไม่ปรากฏครับ
นี่กระผมจะเรียกได้ว่าละเลยและบกพร่องต่อหน้าที่อย่างรุนแรงเสียได้หรือไม่ และจะเรียกผู้ที่รับผิดชอบงานนี้ว่ามีคุณภาพที่ต่ำทรามเสียยิ่งกว่าจะปล่อยให้ไปควบคุมการสอบของเด็กระดับอนุบาลได้ เพราะงานที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งยวดที่หมายถึงอนาคตทั้งชีวิต การเลี้ยงดูบำรุงของพ่อแม่ผู้ปกครองมาครึ่งชีวิต สิ่งเหล่านี้กำลังถูกแขวนไว้ภายใต้การทำงานของท่าน เรื่องนี้เป็นเรื่องของการคัดคนแท้ ๆ ซึ่งระบบและมาตรฐานนั้นจำต้องดีเสียก่อน และในส่วนอื่น ๆ จึ่งจะพ่วงตามกันมาสิ่งที่พ่วงตามกันมาก็คือเด็กและคุณภาพที่ติดตัวเด็กที่ถูกการคัดสรรมาจากระบบ ซึ่งหากระบบเหลวแหลกเสียแล้ว ตัวบุคลากรที่ได้รับมาจากระบบคงจะไม่ต้องเอ่ยถึงหรอกครับ
ท่านผู้อ่านครับ กระผมเห็นทีจะปล่อยปละให้ไฟมันสุมทรวงดั่งนี้เสียไม่ได้แล้ว เพราะรังแต่จะลุกลาม และอาจพาลจะไปสู่การทำลายบุคคลากรที่ดีงามของชาติที่อาจถูกระบบที่เลวทรามนี้กีดบังมิให้เข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยได้ด้วยความสง่างามตามความสามารถของตน เพราะถูกตราหน้าว่าเป็นบุคลากรที่ถูกคัดสรรมาจากระบบที่มีปัญหา ซึ่งเรื่องนี้กระผมเห็นทีนักศึกษาที่ไม่เพียงแต่จะเป็นนักเรียกมัธยม6เสียเท่านั้น
หากแต่กระผมเห็นว่านักเรียนมัธยมทั่วประเทศ สมควรเป็นอย่างยิ่งครับที่จะออกมารวมตัวรวมพลังกัน เพื่อเรียกร้องระบบที่ดี ให้กลับคืนมาดั่งเก่า และจะเป็นการกำราบเสียให้บรรดาเฒ่าเพราะอยู่นานทั้งหลายให้จำเสียเลยครับว่า จะทำการชุ่ย ๆ คิดจัดตั้งระบบชุ่ย ๆ เหมือนดั่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เสียมิได้อีกแล้ว แล้วจะต้องให้พลังนักเรียนรวมตัวกันอย่างจริงจังเพราะจะเป็นเกราะป้องกันอนาคตของบรรดานักเรียนทั้งหลายเอง
กระผมเห็นสมควรและจะโบกธงสนับสนุนการเรียกร้องครั้งนี้เสียเป็นอันแน่ และสมควรที่จะต้องประกาศเสียเลยครับว่า เราจะไม่ยอมรับระบบที่ทำให้เกิดความได้เปรียบ ฤาเสียเปรียบ และไม่ต้องการระบบที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำของนักเรียนที่อยู่ต่างมาตรฐานการชี้วัด และจะไม่ยอมพฤติกรรมชุ่ย ๆ ในระบบที่ได้มาจากความชุ่ย ๆ ดั่งนี้อีก เป็นอันว่าคงจะชัดเจนกระมังว่างานนี้ขั้นที่สมควรจะดำเนินไปควรจะเป็นเช่นใด และการณ์นี้จะมีหน้าใดมาปัดความชั่วมาสู่เด็กนักเรียนเสียอีกบ้าง (อดิศัยและนายรุ่ง มิทราบว่าตอนนี้บากหน้าไปซุกอ่างกะปิอยู่ที่ใดก็มิทราบได้ครับ) สวัสดี
น้องพุฒิพงษ์
**ผมได้อ่านทั้งหมดแล้วและคิดว่ามีความสำคัญที่ทุกคนต้องรู้ว่าการศึกษาไทยในมุมมองของน้องพงษ์ที่กำลังจะตกเป็นเหยื่อของระบบที่เน้นผลสอบในห้องเรียนเพียงอย่างเดียวในอีก 1-2 ปีนี้เขามีความคิดเห็นอย่างไร มาร่วมหาทางออกช่วยกันครับถ้าหากจะอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมสามารถอ่านได้ที่
http://porameto.kapookclub.com ครับ