~*~ ..ตามอารมณ์.. ~*~

[อังศนา]

โอ้โฮ.. ขนาดเขียนน้อยเหรอคะเนี่ย คุณคมเย็น 
เล่นกลบททั้งโคลงทั้งกลอนเป็นพายุบุแคม.. อิอิ
..ลองจะแต่งกลอนกลที่ดูแล้วง่ายสุด (คูหาที่ ๘๘ ในกระทู้ร้อยรักษ์กวีวรรณ) ดูบ้าง 
เพราะใกล้เคียงกับโคลงพันธวีสติกาล แต่ยังไม่สำเร็จค่ะ หมดความเพียรไปเสียก่อน
เอาไว้ฮึดให้ครบบทเมื่อไหร่จะเอาไปอวดนะคะ
..ระยะนี้มัวอ่านหนังสือเหมือนกันค่ะ แต่เป็นหนังสือเก่าเอามาอ่านใหม่หนที่ ๔ หรือ ๕ จำไม่ได้ 
เรื่องเพชรพระอุมาของพนมเทียนน่ะค่ะ  กะอ่านพอเพลินๆ แก้เซ็ง แต่เผลอติดพันจริงจัง.. อิอิ

                                       

[komyen]

สวัสดีครับคุณอัง  ผมไปดูwww.geocities.com/bot_kawee/
หัวข้อ กลบท มีบางบทเขาว่าเป็น กลแบบ จากจินดามณี
เลยลองเขียนมา  แต่บางวรรคไม่เหมือนตัวอย่าง

สารถีชักรถ(ยังไม่ได้ถอด)

ฟ้าเพ็ญจันทร์ผ่อง
ฝันพี่เพ้อเพียง
วันทุกข์เทวษคืน
เก้อพี่เฝ้ารอ

ถอดเป็นโคลง

ฟ้าเพ็ญจันทร์ผ่องฟ้า..........เพ็ญจันทร์
ฝันพี่เพ้อเพียงฝัน.............พี่เพ้อ
วันทุกข์เทวษคืนวัน........ทุกข์เทวษ
เก้อพี่เฝ้ารอเก้อ...........พี่เฝ้ารอจันทร์

วรรค๔ไม่ได้ตามตัวอย่าง  แต่ใช้หลักเดียวกับวรรคอื่น
คำว่าจันทร์คำสุดท้ายมั่วใส่เข้ามาดื้อๆ

บทสังขยา(ยังไม่ได้ถอด)

มัวเมฆฟ้าหม่น
ฟ้าวาบกลัวเกรง
แลหมอกมืดมัวสลัว
ฝนฉ่ำรินทั่วหล้า

ถอดเป็นโคลง

มัวเมฆฟ้าหม่นฟ้า.........เมฆมัว
ฟ้าวาบกลัวเกรงกลัว.........วาบฟ้า
แลหมอกมืดมัวสลัว...............หมอกมืด
ฝนฉ่ำรินทั่วหล้า.......................ทั่วหล้าฉ่ำฝน

[อังศนา]

เสาร์สวัสดิ์ค่ะ คุณคมเย็น 

ผู้คนทั้งโลกหล้า..........หลากหลาย
ต่างรูปลักษณ์มากมาย........หมื่นล้าน
มีเพียงหนึ่งที่หมาย.............มองพบ
ตาสบตาสะท้าน................ระทึกท้นหัวใจ

แม้นใครใครแวดล้อม.......รอบตัว
แสนอัดแอเนียนัว.................เหนื่อยล้า
กลับเหลือแต่เงาสลัว............เลือนลบ
เพียงแค่ได้เห็นหน้า..............แว่บนั้นวาบหวาม

         

หมายเหตุ : จริงๆ แล้วข้าพเจ้าอยากให้รูปข้างบนนี้เป็นลิงค์เพลง
ที่คลิกแล้ว Media Player เปิดให้โดยอัตโนมัติ ผู้มาเยี่ยมเยือนจะได้
เปิดฟัง I Only Have Eyes for You ที่แสนหวานของ Art Garfunkel
ซึ่งคุณ qazxsw กรุณาเอื้อเฟื้อให้ แต่จนปัญญาเพราะทำไม่เป็นค่ะ

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

เริงอารมณ์ คมกลอน พาอ่อนไหว
เพลงดอกไม้ เริงระบำ สุดฉ่ำหวาน
เมื่อเพลงรัก เริ่มบรรเลง ดอกไม้บาน
ทุกวันวาร ในความฝัน ฉันมีเธอ


ยามราตรี มีแสง แห่งดวงดาว
มีบางคราว นั่งเศร้า และพลั้งเผลอ
เห็นดารา จ้องมองมา พาละเมอ
แค่เพียงเพ้อ เผลอใจ ไปอีกครา


สวัสดีทุกๆท่านค่ะ  สวัสดีพี่อังศนาค่ะ

[อังศนา]

เหมือนเรือน้อยห่างน้ำ............แสนนาน                                                                   
ติดเติ่งอยู่บนคาน........................แคร่ค้าง
แตกปริยากประสาน.....................เศษซ่อม
เซียวซีดแสนอ้างว้าง...................ช่างว้าเหว่ไฉน๚

หมดใจจะถักริ้ว..................รวงคำ
หมดเรื่องให้จดจำ....................จับคว้า
เหลือแต่มุกแสร้งทำ..................ตามถนัด
ไร้รักมักอ่อนล้า.........................รสร้อยกรองเฝือ๚

ขี้นเหนือเพื่อเยี่ยมบ้าน........มารดา
ฉลองศกใหม่ประสา..................พี่น้อง
ครอบครัวพบกันพา...................เพลินเที่ยว
ปีหนึ่งครบหน้าต้อง...................แต่งถ้อยพูดถึง๚ะ๛

..บ้านแม่

   

..การเมืองวันสองวันนี้ทำให้รู้สึกห่อเหี่ยวหัวใจยังไงพิกล 
แต่ละข่าวดูสับสนวุ่นวายชวนทดท้อเสียจริงๆ  เชียว
..เลยพอจะเป็นข้ออ้างที่ไปเอาโคลงกระบวนเก่าจากปีก่อนมารีไซเคิล 
เผอิญเป็นเรื่องการเดินทางกลับบ้านตอนปีใหม่เหมียนๆ กันด้วย

..ของเก่านั้นค้างเติ่ง ไปไม่ถึงไหน
..แต่ของใหม่นี่ก็ยังไม่แน่ใจนักว่าจะไปได้ซักกี่น้ำ
แบบว่า.. ตามอารมณ์ 

[อังศนา]

เมืองหลวงชักเริ่มร้อน.............แล้วแฮะ
หยาดเหงื่อหยดแหมะแหมะ...........หมาดหน้า
หัวเหม่งเปียกเฉอะแฉะ.................ชุ่มโชก
หงุดหงิดเพราะอ่อนล้า..................เมื่อไร้ลมหนาว

..อาทิตย์ที่ผ่านมา มีโอกาสใส่เสื้อคอตั้งแขนยาวอยู่ ๒ วัน
ได้เห็นหมอกลอยอ้อยอิ่งอีก ๒ เช้า ซึ่งก็รู้แล้วว่าหมดหนาวแน่
เพราะไอเย็นเจอกับไออุ่นเข้าให้แล้ว มาวันนี้จึงร้อนตับแทบแตก

..ทำให้คิดถึงความหนาวตอนขึ้นเหนือเมื่อปีใหม่  ที่ทั้งครอบครัวของข้าพเจ้า
เดินทางไปทำบุญขึ้นบ้านใหม่และฉลองปีใหม่กันในไร่ส้มที่ อ. งาวของน้องชาย

..หมอกในไร่ส้ม

[อังศนา]

กว่าสิบคนทั้งครอบ...........ครัวเรา
ขับรถขึ้นลงเขา......................เลียบโค้ง
มุ่งเมืองเล็กเงียบเหงา..............แสนสงบ
............................................................
สารภาพกันโต้งโต้ง.................หมดแต้มสมองตัน 

..คิดจะเขียนโคลงเล่าเรื่องแบบอนุนิราศ แต่ดูท่าทางจะไปไม่รอด 
แต่งได้อาทิตย์ละบาท  ..เลยตัดสินใจแปะรูปอย่างเดียวดีกว่า

..ถนนเข้าไร่

[อังศนา]

..พอเลี้ยวออกจากถนนลาดยางในตัวอำเภอ ก็เจอถนนดินแดงแบบนี้
           

จนกระทั่งถึงประตูเข้าไร่


ในไร่มีบ้านพัก ๒ หลัง ที่รองรับพี่น้องลูกหลานได้ ร่วมๆ ๒๐ ชีวิต

[อังศนา]

..เราไปถึงกันตอนบ่ายๆ ยังมีแดดจัดจ้าฟ้าใส
ชวนให้เดินเล่น สำรวจผลหมากรากไม้

..ส้มดกเต็มต้น แต่ที่เสียก็มีไม่น้อย 

..ดอกส้มส่งกลิ่นหอมรัญจวนใจ 

..พุทราลูกโตรสหวาน 

..สระน้ำ   

..สระน้ำอีกด้าน 

..ต้นไม้ต้นโปรดของข้าพเจ้า 

..ต้นนี้ของหลานชาย ผู้ซึ่งจูงมือป้าไปดูแล้วให้ทายว่าต้นอะไร 

[อังศนา]

..คนจากเมืองหลวงส่วนใหญ่จะขี้หนาว 
รวมถึงข้าพเจ้าด้วย ทั้งๆ ที่ชอบอากาศหนาวมั่กๆ
แต่งานนี้.. เจ้าบ้านบอกไม่ต้องห่วงเพราะเตรียมเครื่องทำน้ำร้อน 
ขนาดเมกกะไว้ต้อนรับแล้วววว

..เครื่องทำน้ำร้อนประจำไร่

..ตอนเช้ายังใช้เป็นฮีทเตอร์กลางแจ้งได้อีกด้วย

[อังศนา]

ช่วงที่เราอยู่ที่นั่น คนอำเภองาวบอกว่าอากาศอุ่นขึ้นนิดหน่อยแล้ว 
แต่กระนั้นก็คงจะราวๆ ๑๐ องศาเห็นจะได้

..ผู้เฒ่าผู้แก่ในท้องที่ยังนุ่งห่มเต็มยศ

..คนจากเมืองหลวงยิ่งต้องนุ่งห่มเต็มพิกัด

..คุณย่าได้ไออุ่นเป็นพิเศษจากลูกชาย

..หลานชายวัยรุ่นก็ยังหนาว

..แล้วป้าจะไปเหลือฤๅ

[achiteer]

สวัสดีคะคุณอังศนา 
บทกลอนและภาพประกอบน่ารักมากคะ   

[อังศนา]

วันปีใหม่ เราทำบุญเลี้ยงพระเช้า 
หนาวแค่ไหน ก็จำเป็นต้องติ่นกันแต่เช้า

..อาทิตย์อุทัย

..พระสวดสืบชะตาแบบทางเหนือให้เจ้าภาพ (เสียงสวดมนต์ฟังเพลินจริงๆ
                                                                    นอกจากจะเป็นสำเนียงเหนือแล้ว ยังสวดด้วยความเร็วสูงมาก.. อิอิ)

..แขกก็ได้ร่วมสืบชะตาด้วย

..พอเสร็จพิธีสงฆ์ ก็มีการปล่อยโคมให้เจ้าภาพ ด้วยอภินันทนาการ
                                                                     จากตุ๊เจ้ารูปที่ยืนอำนวยการในรูปนั่นแล

[อังศนา]

สวัสดีค่ะ  คุณachiteer
..ขอบคุณค่ะที่แวะมาชม 
เหลือรูปสัพเพเหระของทริปนี้อยู่ในสต็อคอีกไม่กี่รูปแล้วค่ะ

[อังศนา]

ขอตบท้ายด้วยรูปสัตว์เลี้ยงที่น่ารักก็แล้วกันค่ะ..

..ไจแอ้นท์ หมาตัวโตในไร่   

..หมอก นักเลงโตประจำไร่ 

..เสือกับถ้วยฟู สองหมาน้อยปากเปราะ 
                                                                         (ตุ๊เจ้าสวดมนต์เสร็จจะกลับวัด หารองเท้าไม่เจอหลายข้าง)

..บ้านหมา ที่หมาไม่ยักยอมอยู่ 

..ไก่ขี้ตื่น (กว่าจะถ่ายรูปนี้ได้ เล่นเอาตากล้องเหนื่อย) 

..บ๊ะจ่าง หมาอ้วนของข้าพเจ้าที่ฝากเลี้ยงไว้ที่บ้านแม่ 
                                                                         ใครเห็นก็ชอบถามว่า นี่หมาหรือหมูกันแน่.. อิอิ

..ตุ๊กตาประดับสวนหย่อมในไร่ ที่ข้าพเจ้าเห็นทีไรให้รู้สึกร้อนตัวยังไงพิกล! 

[อังศนา]

จบทริปหมดรูปน้อย..........สนับสนุน
จบเรื่องเล่าหมดทุน................ทึบตื้อ
จบด้วยบทโคลงหุน................หันแต่ง
จึงจบเอาดื้อดื้อ......................จบด้วยอัสดง

..อาทิตย์อัสดง

[นทร์]

ขอบคุณที่

สร้างสรรค์ บทกวี ดีดีให้ได้อ่านกัน 



* ผมตามอ่านประจำครับ แต่เขียนไม่เป็น 

[อังศนา]

อาทิตย์สวัสดิ์ค่ะ คุณนทร์ 

ขอบคุณที่แวะเข้า.........กระทู้โคลง
คำบอกกล่าวจรรโลง...........จิตแท้
ถ้อยทายทักเชื่อมโยง...........เยี่ยงมิตร
หากชอบเชิญอ่านแม้............ไม่รู้วิธีเขียน
ได้รู้ว่ามีซีเคร็ทแอ็ดมายเรอร์ ทำให้รู้สึกดี๊ดี ..ขอบคุณค่ะ! 

[เก็ดถวา]

ชอบบ้านและครอบครัวพี่อังฯ จังเลยค่ะ

ทำไมโคมลูกโตจังเลย แล้วมันจะขึ้นได้สูงมั้ยคะ

และ..

หลานชายหล่อมั่กๆ   

[komyen]

ตามทริปดูรูปแล้ว..........หลงไหล
ชมภาพระวีสมัย.............รุ่งเช้า
ครอบครัวอบอุ่นไอ..........เครือญาติ
หมาไก่ร่วมหยอกเย้า........ยั่วยิ้มริมสวน

สวัสดีคุณอังและทุกท่านครับ

[ภูดิน]

คารวะคุณอังศนามาเยือนน้อง      
โคลงร้อยกรองคล้องคำซึ้งซึ่งความหมาย   
น้องฝันเฟื่องเรื่องทะเลเพื่อผ่อนคลาย    
แล้วรำร่ายร้อยเรียงเพียงผูกพัน

มาพากเพียรเขียนกลอนสอนใจตน   
เรื่องหมองหม่นบ่นครวญล้วนเสกสรร
หากผิดพลั้งยั้งโกรธขอโทษกัน   
แล้วจำนรรฝันกลอนเว้าวอนเอย
       
สวัสดีค่ะ คุณพี่อังศนา  ขอบพระคุณมากค่ะให้เกียรติน้องใหม่คนนี้ 
ขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นแฟนคลับห้องร้อยรักษ์กวีวรรณ ค่ะ  โปรดช่วยชี้แนะด้วยค่ะ

[อังศนา]

ศุกร์สวัสดิ์ค่ะ คุณคมเย็น น้ำหวาน
และขอต้อนรับคุณดินหอม น้องใหม่ ด้วยความยินดีอย่างยิ่งค่ะ

โคมลอยลอยเรียดฟ้า........ฝากยล
ลอยลิบลิบลมบน...................โบกไว้
ลิบลับลับตาคน.....................ข้างล่าง
ลับล่อล่อใจให้.......................ห่วงแล้วมองหา



..โคมลูกนั้น ลูกโตจริงๆ ค่ะ ฝีมือตุ๊เจ้าผู้ประดิษฐ์น่ะไม่เบาเลย 
พอบรรจุไอร้อนเต็มลูกแล้ว ก็ลอยสูงลิบลับ.. ไม่รู้ป่านนี้ไปตกที่ไหน
(ตุ๊เจ้าท่านเขียนสารติดไว้ตัวใหญ่มาก ลงชื่อนามสกุลเจ้าของไร่เต็มยศ)
..ส่วนที่ว่าหลานชายหน้าตาดีนั้น.. เอ่อ มัน kinda runs in the family อะ.. อิอิ 

[อังศนา]

     ..หยิบบทกลอนเก่าเก่ามาเล่าใหม่
       วางเอาไว้เล่นเล่นเป็นเป้าหมาย
            รอคนที่รักรักมาทักทาย
            สาธยายนิดนิดคิดถึงจัง..
   
        Missing You ~ Bobby Krajnik

ค่ำนี้.. ไม่รู้เป็นไร ครึ้มอกครึ้มใจพิลึก ..อิอิ
นั่งฟังเพลง jazz หวานอมเศร้า จิบ White Russian ที่หวานร้อนแรง
แล้วก็นั่งคิดถึงกระทู้เก่าๆ กระทู้นึงในห้องราชฯ ที่เคยคร่ำครวญความคิดถึงเอาไว้
..จึง recycle อีกตามฟอร์ม 

[อังศนา]

                        ๏ คิดเอ๋ยคิดถึง
                วันวันหนึ่งส่งแต่ใจไปถามหา
             อยากจะรู้อยากจะเห็นความเป็นมา
                 คิดถึงว่าเป็นสุขหรือทุกข์ใจ
                หากไปหาเดี๋ยวนี้ได้คงไปแน่
                   มาติดแต่ไม่รู้ว่าอยู่ไหน
                ได้แต่ทนหักห้ามไม่ถามใคร
                  แต่ว่าในส่วนลึกนึกถึงเอย...*

   

                               

[เก็ดถวา]

กลอนนี้ หนูเขียนไว้นานมากๆ แล้วค่ะพี่อังฯ

แต่เห็นพี่อังมาอารมณ์นี้ หนูเลยอยากตามอารมณ์ด้วยค่ะ


ฝนหยุดตกแล้ว

นกกระจอกเจื้อยแจ้ว อีกครั้ง

แสงแดด สีเหลืองเรืองรัง

ฉันนอนฟัง บทเพลงละมุน

จะว่าเหงารึ! ก็มีบ้าง

ก็บางครั้งอยากอบอุ่น

อยากอยู่ใกล้คุณ

ซบอกอุ่นที่กรุ่นรัก




อิอิ.. เขิน

[อังศนา]

ฝนฉ่ำฟ้าสวัสดิ์ค่ะ น้ำหวาน

♥ บอกกันเพียงหนึ่งถ้อย........คิดถึง
บอกเล่าความคำนึง................แน่วเน้น
บอกกล่าวจากใจจึง................แจ่มชัด
บอกแก่ผู้ที่เร้น......................ร่างคล้ายล่องหน๚

♥ บอกฝนโปรยทั่วฟ้า...........ตามแฝง
บอกแดดยามเริงแรง.............ฝากร้อน
บอกดาวระยิบแสง.................ส่งกระซิบ
บอกกับสายลมย้อน...............ช่วยย้ำยังถวิล๚ะ๛


Missing You ~ Peter O Niell

..บางทีพี่ recycle หลายตลบจนจำไม่ได้ว่าแปะซ้ำไปมั่งอ๊ะป่าว 
หากเผอิญอ่านแล้ว อ่านอีกซักทีก็คงไม่เป็นไรนะคะ.. อิอิ

[RedraGon]

ตามอารมณ์ ....         
ชอบ ชอบ ชอบ

[เก็ดถวา]

เหรอค้า.. แล้วชอบอารมณ์ไหนล่ะ 

[อังศนา]

พุธสวัสดิ์ค่ะ คุณ swap และน้ำหวาน

                        ..ยังคงคิดถึงอยู่่ไม่รู้่วาย
                   ทั้งที่หายหน้านานปานสาบสูญ
                      แม้แอบปาดน้ำตาด้วยอาดูร
                    ยังเกื้อกูลใจเกี่ยวก้อยทุกรอยจำ
                                     

                    Longing For ~ Pino Dangelico

[RedraGon]

ตอบแล้วหลับเฉยเลย  (โทษทีจ้า)

++ ชอบรูปสีน้ำมัน
++ ชอบกลอน (บางบท)

อย่าถามเยอะนะ ... เดี๋ยวหน้าแดง !!!     


ป.ล.
-- ขอแก้ไข profile นะครับ ...  ( อยากเข้มอ่ะ )
-- เปลี่ยนจาก swap เป็น RedraGon

[เก็ดถวา]

     ฤดูร้างร้าวเริ่มแล้ว..........จากลา
เย็นเฉียบบาดอุรา..............ฝากไว้
ละอองรื้นปริ่มนัยน์ตา..........บาดเจ็บ
นอนหลับหวังจะได้............ตื่นขึ้นจากฝัน





อาจารย์พี่อังฯ คะ
โคลงบทนี้ ขอส่งเป็นการบ้านทิ้งไว้ค่ะ
หนูป่วย.. จากความเย็นของลมฤดูหนาว
คิดว่าอาจต้องลาเพื่อพักผ่อน...
ไม่รู้ว่านานเท่าไร จะกลับมาเหมือนเดิม

[อังศนา]

      แม่มดน้อยป่วยไข้.........ขอลา
      เอ่ยปากฝากวาจา..................จรดไว้
      ทำพี่พะวักพะวงหา.................เป็นห่วง
      ขอส่งความรักให้....................ห่มเจ้าจนหาย

                 
โธ่.. น้องน้ำหวานไม่สบายไปเสียแล้ว
ดูแลตัวเองดีๆ นะคะ จะได้หายป่วยกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมเร็วๆ

                           

[เก็ดถวา]

อาจารย์พี่อังฯ ขา

หนูมาบอกว่าคิดถึง

รู้สึกอยากจะหายเพียงแค่เห็นท่อนนี้

"ขอส่งความรักให้....................ห่มเจ้าจนหาย"

มันสวยงามและมีความหมายจริงๆ ค่ะ

ขอบพระคุณจากใจ สักพันครั้ง นะคะ

 



ปล. อากาศที่บ้านหนู วันนี้อุณหภูมิลดลงกระทันหันอีกแล้วค่ะ (น่าจะหลายองศา) แปลกมากๆ

[อังศนา]

สวัสดียามดึกค่ะ น้ำหวานน้องรัก
..พี่ก็คิดถึงหนูเหมียนกันเลยยยย 
วันนี้ ที่กรุงเทพก็หนาวค่ะ ตอนเช้าตรู่ลมเย็นยะเยือก 
พี่อ่านเจอในเว็บกรมอุตุฯ บอกว่าเป็นเพราะความกดอากาศต่ำจากจีน

อย่าลืมรักษาตัวดีๆ ให้หายเร็วๆ นะคะ จุ๊บๆๆๆ

[เก็ดถวา]

พี่อังฯ ขา

อาการทางกาย หายเร็วค่ะ

แต่ลมหนาวใจร้าย บาดเข้าไปถึงใจเรยยย

กำลังพยายามรักษาให้หายทันกันทั้งกายและใจค่ะ

...

หนูเอาเพลงมาแปะ ที่กระทู้ข้างๆ

พี่อังฯ แวะไปฟังสิคะ เพลง "ตามอารมณ์" ของหนู อิอิ
 

[อังศนา]

..กำลังฟัง 'เป็นเกียรติเกินพอ' อยู่ค่ะ
หวานๆ เศร้าๆ นะคะ ฟังแล้วอยากร้องไห้เล็กๆ

[อังศนา]

อารมณ์เริงรื่นแล้ว............ตกหลุม
สะดุดเหลี่ยมเจอหักมุม............เปลี่ยนม้า
พูดอย่างคิดอย่างสุม...............ไฟส่ง
ขอเลิกยอมโยนผ้า.................เลือกแพ้ผินหลัง


            Disappointed ~ Betty Murchison
..การได้ยินมาอย่างหนึ่ง แล้วกลับได้เห็นอีกอย่างหนึ่ง 
มักทำให้รู้สึกผิดหวัง และอารมณ์เสียจนเสียอารมณ์ได้ ..เฮ้อออ

[อังศนา]

ลมการเมืองลวกร้อน......เรรวน
หลายระลอกพัดก่อกวน.........ดั่งแกล้ง
มีแต่เรื่องผันผวน.................ผิดคาด
ลุ้นช่วยจนใจแห้ง................เหี่ยวแล้วฤาษี
..อ่านกระทู้วันสองวันนี้แล้ว หัวใจเหี่ยวแห้งพิลึกค่ะ 
ดูมันอลเวงไม่ลงตัวซักที กลุ่มนั้นเอาเอาอย่างนี้ กลุ่มนี้จะเอาอย่างนั้น
แม้ข้าพเจ้าจะท้อแท้จากการลุ้นเอาใจช่วยขิงเฒ่า แต่ข้าพเจ้าก็อดรู้สึก
สะเทือนใจไม่ได้ที่เห็นคำก่นด่าท่านสุรยุทธ์อย่างรุนแรงจากทั้งสองฝ่าย
..มันทำให้เบื่อการเมืองขึ้นมาดื้อๆ แบบว่า.. มันจะเป็นยังไงต่อไปก็ชั่งหัวมันเถอะ! 

[อังศนา]

ดังนั้น.. อย่าได้ว่ากันเชียว ถ้าข้าพเจ้า 
จะพร่ำเพ้อถึงหาดทรายสายลมอยู่คนเดียว
ท่ามกลางกระทู้อันร้อนรุ่มของเสรีไทย



ลมร้อนผ่านเพิ่มร้อน.........ตามฤดู
พัดผ่าวผิวเกรียวกรู................กรากกร้าน
ระทึกถ้อยฝาดเฝื่อนหู.............แหนแห่
จำล่องหนห่างบ้าน................เบื่อกระทู้ทุ่มเถียง๚ะ

ลมทะเลเพียงโล้คลื่น........คร่ำครวญ
อาจพัดกรรโชกรวน.................ระลอกน้ำ
อาจโชยแผ่วเชิญชวน..............ใกล้ชิด
ริมหาดเสียงสาดซ้ำ.................ซ่าเคล้ากล่อมขวัญ๚ะ๛
หมายเหตุ : ตัดตอนจากโคลงกระบวนเก่าเอามาอ่านเล่นแก้กลุ้ม

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

ก็ฉันอยาก ให้เป็นไป ในแบบนี้
เมื่อไม่ดี แล้วก็ไม่ ตามใจฉัน
ฉันบอกแล้ว ให้รีบเร่ง จัดการมัน
ให้รู้ทัน ชักช้า หักพร้าเลย

อีกฝ่ายว่า ช้าช้า ได้พร้างาม
อย่าผลีผลาม อาจพลาด พี่น้องเอ๋ย
อันตัวบท กฎหมาย อย่าละเลย
อยู่เฉยเฉย สักพัก จักดีเอง

เบื่อสวัสดิ์เหมือนกันค่ะ พี่อังฯ

[เก็ดถวา]

ตามเข้ามาอ่านค่ะ พี่อังฯ

หนูอยากจะเขียนโคลงตอบบ้าง

แต่เพราะเซ็งอารมณ์เลยเขียนไม่ได้แล้ว

(ก็นี่มันกระทู้ตามอารมณ์นี่นา) อิอิ

 

[อังศนา]

พุธสวัสดิ์ค่ะ คุณดอกฟ้าฯ และน้องน้ำหวาน 
ยังดีที่มีแนวร่วม.. อิอิ




       
        ถวิลถึงผืนแผ่นฟ้า............สีคราม
       ปุยเมฆล่องลอยตาม...............แต่งริ้ว
       แมกไม้แผ่ใบงาม....................เรียบง่าย
       ติดปีกใจร่อนพริ้ว....................หลบร้อนละเมอหา
 


สีฟ้าบนฟากฟ้า..........แสนไกล
โค้งจรดแนวน้ำใส............วาดเส้น
เหมือนส่งรักจรดใจ...........จากอีก ใจเอย
ไร้ช่องว่างแหวกเว้น..........วรรคให้ห่างเหิน


       
        โกงกางโก่งรากพ้น.............ผืนทราย
       เบียดเสียดอยู่เรียงราย..............เลียดน้ำ
       อากาศอบกลิ่นอาย...................ทะเลอาบ
       คลื่นไล่ระลอกย้ำ......................อย่างนั้นสม่ำเสมอ



เหยี่ยวกระหยับปีกเยื้อง...........ยอดเขา
ถลาร่อนหลบลับเงา......................แมกไม้
ปลายเกาะแก่งหินเทา....................ก่ายทับ
เกลียวคลื่นคลายฟองได้................แดดต้องแต่งสี


       
        ตะวันเที่ยงส่องเวิ้งหาด.........ใจหาย
       น้ำลดหินผุดทราย......................โผล่ซ้อน
       ปะการังต่างเรียงราย...................เรี่ยราด
       รอกระแสไหลย้อน......................หยัดยื้อจนเย็น



โกงกางหูช้างหล่น.......ละลานตา
หอมกรุ่นอวลอุรา..............ยิ่งแล้ว
เก็บใส่กระทงมา...............หมายชื่น
เชยกลิ่นจึงไม่แคล้ว..........จิตคล้องคะนึงขวัญ


       
        กลางทรายเห็นรากไม้......โค้งมน
       ผุดโผล่จากลึกจน................โจ่งแจ้ง
       เหมือนรักที่ดิ้นรน.................อิสระ
       ปลดปล่อยไม่เสแสร้ง...........ส่งถ้อยถึงเสมอ



ฝากใจลอยล่องเวิ้ง..........วารี
ฝ่ากระแสชลธี.......................กระฉอกท้า
ใฝ่ดาวส่องวิถี.......................ความถูก ต้องแล
ฝืนร่างแม้เหนื่อยล้า................อย่าล้าแรงฝัน


       
        หัวใจคลุกเคล้าซ่อน.......ริมทราย
       แฝงฝากพจน์ขยาย.............บอกย้ำ
       ปลายนิ้ววาดเส้นสาย..........เป็นสื่อ
       จารึกริมฝั่งน้ำ.....................เรขเน้นนวลถวิล

หมายเหตุ : ตัดตอนและแต่งเติมตามอารมณ์ถวิลถึงริมทรายชายทะเล
                (จากระทู้ลมร้อน ไอทะเล คราวไปเยือนเกาะสุรินทร์ปีก่อนนู้นน)

[THE THIRD WAY]

อารมณ์ฉัน วันนี้ ไม่มีแล้ว
ไม่ผ่องแผ้ว ไม่เบิกบาน ไม่สดใส
ด้วยอาเภท เหตุเกิด ในเมืองไทย
ต่อไปนี้ ตัวใคร ก็ตัวมัน



ใครรักชาติ ขนาดไหน ว่าไปเถิด
เหตุที่เกิด เพราะอะไร ฉันไหวหวั่น
เพื่อชาติ หรือเพื่อใคร ทำอะไรกัน
วานสวรรค์ ช่วยตอบที นี่หรือคน?[/size]
3333333333333333333333333333333333333333333
5555555555555555555555555555555555555555555
7777777777777777777777777777777777777777777
9999999999999999999999999999999999999999999

โคลงโลกนิติคำกลอน
เป็นบทที่ชอบมาก และมักจะใช้อยู่เสมอ
ในยามที่ท้อแท้ หมดหวัง

ชื่อ รำพึงในป่าช้า

วังเอ๋ย วังเวง
หง่างเหง่ง ย่ำค่ำ ระฆังขาน
ฝูงวัวควาย ผ้ายลา ทิวากาล
ค่อยค่อยผ่าน ท้องทุ่ง มุ่งถิ่นตน
ชาวนา เหนื่อยอ่อน ต่างจรกลับ
ตะวันลับ อับแสง ทุกแห่งหน
 ทิ้งทุ่งให้ มืดมัว ทั่วมณฑล
และทิ้งตน ตูเปลี่ยว อยู่เดียวเอย

[THE THIRD WAY]

เพราะเราคือ ผู้แพ้ อย่างแท้จริง
แพ้ทุกสิ่ง แพ้ทุกอย่าง แพ้ทั้งหมด
แพ้กระทั่ง ลิ่วล้อ ผู้ทรยศ
แพ้กบฎ กบิลเมือง เรื่องน่าอาย



จะไปสบ ตาใคร ในโลกหล้า
ให้ใครเขา ตราหน้า น่าใจหาย
หรือบ้านนี้ เมืองนี้ จะเป็นไป
สวัสดี ประเทศไทย ประเทศเรา

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

แล้วจะหนี ไปไหน กันได้เล่า
จะจับเจ่า กอดเข่า เฝ้าทุกข์เข็ญ
ประเทศไทย สุขทุกข์ หรือร้อนเย็น
ทำไม่เห็น หรือจะสู้ อยากรู้จริง

สวัสดีค่ะ ลุงป๋าสามและทุกๆท่าน

[tu249cm]

ไพเราะมากเลยค่ะ ชอบอ่านกลอนมากแต่แต่งไม่เป็น
 ชอบแต่งเก็บไว้อ่านคนเดียว ไม่กล้าให้คนอื่นอ่าน
 เพราะฝีมือยังห่างหลายชั้นกับเพื่อนๆที่กระทู้นี้ค่ะ

[komyen]

จากภาพของคุณtu249

ไม้ใหญ่สูงเยี่ยมฟ้า.........หยัดยืน
ลมกระโชกโยกยังฝืน.........อยู่ยั้ง
หมอกขาวค่อยคลายคืน..........คงสว่าง
พักร่มไม้คราครั้ง......................เครียดร้อนผ่อนคลาย

สวัสดีคุณอังและทุกท่านครับ

[อังศนา]

ศุกร์สวัสดิ์ค่ะ คุณคมเย็น คุณ tu249
คุณดอกฟ้าฯ และคุณ Third Way

แอบนึกเหนื่อยหน่ายท้อ.....ถอดใจ
ตัวลีบโลว์โพรไฟล์..................ฝ่อแล้ว
โคลงกลอนแต่งไม่ไป..............จมปลัก
มันเหือดมันเหี่ยวแห้ว...............หดห้วนสนุกหาย๚ะ

เคยหมายมุ่งมั่นร้อย.........ร่วมวง
ผิดท่าพาลพาหลง.................หลุดเลี้ยว
โดนหมัดฮุคเลยงง.................หยุดชะงัก
เซ่อนักจึงโดนเขี้ยว...............ขบให้หายเขลา๚ะ

มือเพลาชักเท้ากระถด.......ถอยหลัง
ตาเปิดแต่ระวัง.......................ปากไว้
ประคองจิตเจตนัง...................นิ่งสงบ
พิศทุกสรรพสิ่งไซร้..................กระจ่างให้เห็นธรรม๚ะ๛

                            A Bit Upset

               Photo : Evren Sahin/trekearth

[คนในวงการ]

หืมม ใครทำคุณอังศนาโกรธ น่าตีจริง ๆ

[เก็ดถวา]

ชู่วววว.. พี่อังฯ Upset ต่างหาก

(ไม่เคยเห็นพี่อังโกรธใครซักที)