สยามรัฐ : การเมือง
คิดระหว่างวัน / ดุสิต ศิริวรรณ
++ คำบอกเล่าจากผู้อ่าน
http://www.siamrath.co.th/Politic.asp?ReviewID=148682=======================================
เรื่องการลอบวางระเบิดสังหาร มีท่านผู้อ่านได้เขียนรายละเอียดโดยอ้างว่า อยู่ในสถานการณ์และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในวันเกิดเหตุ ผมเห็นว่า เป็นความเห็นที่น่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ซึ่งสนใจจะติดตามเรื่องนี้ เพื่อให้ได้ความจริงอันกระจ่างชัด จึงขอนำมาลงในคอลัมน์ของผมวันนี้ เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นให้กับทุกฝ่าย
ท่านผู้อ่านใช้ชื่อสมมติว่า ปราณ เพราะไม่ประสงค์จะให้ระบุชื่อจริง นามสกุลจริง คุณปราณเคยเป็นตำรวจเก่ามีความรู้เกี่ยวกับเรื่องระเบิด เพราะเคยไปเรียนในต่างประเทศ เล่าให้ฟังว่า...
......เรื่องนี้ผมได้ไปดูที่เกิดเหตุด้วย ผมจะอธิบายเรื่องดินระเบิดกับวิธีการระเบิดของรถยนต์ในที่เกิดเหตุ คือ คนร้ายได้ใช้รถยนต์ 2 คัน คันหนึ่งจอดคาไว้ที่ตรงหัวเลี้ยวเพื่อบังคับทิศทางรถที่จะผ่าน
ส่วนอีกคันหนึ่งที่บรรจุระเบิดเป็นรถยนต์ยี่ห้อแดวู เขาบรรจุดินระเบิดไว้ที่ฝากระโปรงท้ายและก็ภายในรถ โดยที่ฝากระโปรงท้ายเค้าบรรจุระเบิดซีโฟร์ กับ ทีเอ็นที เขาใช้แก๊สฝักแคระเบิด แบบชนวนระเบิดไฟฟ้า ฝักแคระเบิดจะยาวเท่าๆ กับปากกาบิ๊กและยัดเข้าไป มีสายไฟฟ้า 2 สายโผล่ออกมาเพื่อจะไปต่อกับแบตเตอรีรถยนต์เสร็จแล้วตัวดินระเบิดทั้งหมดประมาณ 5 กิโลกรัม
ทีเอ็นทีกับซีโฟร์ เขาไปวางรวมกับยูเรีย หรือแอมโมเนียไนเตรท ซึ่งเป็นปุ๋ยยูเรีย หนัก 64 กิโลกรัม เพื่อขยายดินระเบิดอีกทีหนึ่งวางไว้ท้ายรถและอีกผนังในท้ายรถ ฝากระโปรงท้ายรถคือผนังที่ติดกับเบาะหลังเขาใช้กระสอบทรายกั้นเอาไว้เพื่อบังคับทิศทางให้ระเบิด เมื่อระเบิดแล้ว จะออกมาทางท้ายรถเท่านั้น คนที่จุดชนวนระเบิดด้วยรีโมท คนที่อยู่ด้านหน้ารถ จะไม่ได้รับอันตรายเพราะมันบังคับทิศทาง
ในทางของหลักวิชาการระเบิด จะเห็นว่า เวลาคนเก็บกู้ระเบิดมือ คนเก็บกู้จะถือถังทรายไปหนึ่งถัง ภายในนั้นจะมีการเจาะเป็นรูปกรวยเรียกว่า วีเชฟ เวลาที่เขาถือไป เขานำระเบิดใส่ในวีเชฟนั้น ถ้าเกิดระเบิดขึ้นมาเขานอนหมอบข้างๆ ระเบิดจะพุ่งตามกรวยไม่โดนข้างๆ ใช้วิธีบังคับทิศทางด้วยกระสอบทราย
ผู้ที่ดำเนินการเรื่องนี้ มีความรู้เรื่องระเบิดมากทีเดียว คนที่ทำก็ง่ายนิดเดียวเพียงแค่กดรีโมท รีโมทจะไปบังคับรีเลย์อีกที รีโมทรถยนต์ก็ใช้ได้ บังคับรีเรย์ให้ไปสับสวิตซ์ให้กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรีทำงาน ก็จะไปขยายดินระเบิดแล้วก็จะไปขยายปุ๋ยยูเรียหรือแอมโมเนียไนเตรทอีกทีร้ายแรงมาก ฤทธิ์แรงระเบิดบังคับทิศทางแบบนี้ ปกติแรงระเบิดจะผลักดันต่อสิ่งห้องล้อมรอบด้านข้าง แต่นี่ผลักดันได้ด้านเดียว มันจะเพิ่มเป็น 2 เท่า ไปได้เป็นกิโลเมตร และวิธีการวางรถยนต์แบบนั้น เค้าบังคับให้รถนายกรัฐมนตรีต้องไปทิศทางที่เค้าวางเอาไว้
สาเหตุที่การดำเนินงานในครั้งนี้พลาดคือ วันนั้นนายกรัฐมนตรีปกติกำหนดจะออกจากบ้านประมาณ 9 โมงกว่าๆ ทีนี้เขามาดักรอตอน 9 โมง ทำรถยนต์เสียเรียบร้อยหมด รถเสียอยู่ก่อนแล้ว รถที่ระเบิดก็บรรทุกจ่อไว้แล้ว ถ้ารถขบวนผ่านตามเวลาก็ระเบิดพอดีถ้าเขาทำได้
วันนั้นบุญครับ ท่านนายกฯออกจากบ้านแต่เช้า ประมาณ 8 โมงเช้าเพราะมีประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลเรื่องน้ำท่วมและตำรวจก็มาจับได้ คืออย่างนี้หลังจากที่เขาพลาดแล้ว เขามาเอารถคืนครับ เพราะรถจอดเสียไว้นานเดี๋ยวตำรวจมาจับครับ 9 โมงกว่าๆ เขาถึงมาขึ้นรถ จะเอารถกลับ
สมมติถ้าท่านนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางตามกำหนดเดิม จะอันตรายมาก และแสดงว่าชนวนระเบิดที่อยู่ในรถมีระเบิดพร้อมที่จะระเบิดได้ทุกเวลา เพียงแต่กดรีโมทด้านหน้ารถเขา เขาก็ไม่มีอันตรายครับ ภายในรถยังพบปากการะเบิดไฟฟ้าเวลาเกิดระเบิดจะไปลุกน้ำมันเบนซินข้างในอีกตั้งหลายอัน สะพานซังฮี้ และตึกแถวบริเวณนั้นหมดเลยครับ เพราะมันบังคับทิศทางเป็น 2 เท่า...
นี่คือ สิ่งที่เป็นข้อมูลจากท่านผู้อ่านและเป็นผู้ฟังวิทยุกระจายเสียงรายการที่ผมได้ดำเนินรายการทางวิทยุกระจายเสียงเอฟเอ็ม 102 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งผมหวังว่า พวกเราในฐานะประชาชนเต็มขั้นจะได้ใช้ข้อมูลเบื้องต้นเหล่านี้ตามวิจารณญาณของแต่ละคน