ทรท.สลัดแม้วซูฮกสมคิด
ตั้ง5คณะทำงานกู้ชีพพรรค! ลอยแพหัวหน้ารักษาองค์กร
โพสต์ทูเดย์ ดิ้นหนีหายนะ บิ๊ก ทรท.ลั่น สถานการณ์วิกฤต ต้องสละอวัยวะรักษาชีวิต เปลี่ยนหัวหน้าได้ แต่ต้องรักษาพรรคไว้เป็นสถาบันการเมือง
นายปองพล อดิเรกสาร รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย (ทรท.) ให้สัมภาษณ์พิเศษโพสต์ทูเดย์ว่า กลุ่มอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค ได้หารือกันแล้วเห็นว่า เพื่อความอยู่รอดของพรรคในภาวะ ที่พรรคประสบวิกฤตเช่นนี้ แนวทางที่จะรักษาพรรคไว้ได้คือต้องไม่ยึดติดตัวบุคคล หากแต่ต้องรักษา ทรท.ไว้ให้เป็นสถาบันการเมือง
เดิมทีเรามองหัวหน้าพรรคกับพรรคเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พอมาวันนี้เมื่อหัวหน้าพรรคมีปัญหา ความเป็นหัวหน้าพรรคกับพรรค ก็ต้องแยกออกจากกัน ไม่ได้ซ้อนกันเหมือนแต่ก่อน ส.ส.ส่วนใหญ่จึงต้องเอาพรรคไว้ เรามองว่าตัวหัวหน้าพรรคเปลี่ยนได้ เราต้องรักษาพรรคไว้ให้เป็นสถาบันการเมือง นายปองพล กล่าว
นายปองพล กล่าวว่า คนในพรรคไม่อยากจะเห็นปรากฏการณ์อย่างที่หลายคนพูดว่า ทรท.เป็นพรรคเฉพาะกิจ หมด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคเมื่อไหร่ พรรคก็ล่มสลายเมื่อนั้น ฉะนั้นจึงยึดตัวบุคคลไม่ได้ แต่ต้องยึดนโยบายพรรคเพื่อทำให้พรรคเข้มแข็งขึ้น ทั้งนี้อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้ข้อสรุปถึงแนวทางรักษาพรรคไว้ 2 ประการคือ 1.จะเตรียมตัวแทนพรรคไปพูดในเวทีต่างๆ เพราะที่ผ่านมา เมื่อพรรคเป็นรัฐบาลแทบไม่เคยส่งใครไปร่วมอภิปรายในเวทีสำคัญ โดยเฉพาะด้านการศึกษา 2.มีการแบ่งบัญชีรายชื่อ เป็น 5 กลุ่ม ไปทำงานด้านต่างๆ
5 กลุ่มดังกล่าวประกอบด้วย 1.ด้านการเมือง มี นายวีระ มุสิกพงศ์ เป็นหัวหน้า 2.ด้านสังคมให้นายสุขวิช รังสิตพล เป็นหัวหน้าทีม 3.ด้านเศรษฐกิจ มี นายอดิศัย โพธารามิก เป็นหัวหน้า 4.ด้านกฎหมายและการปฏิรูปการเมือง นาย โภคิน พลกุล เป็นหัวหน้า 5.ด้านประชาสัมพันธ์ มีนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ เป็นหัวหน้า ทั้ง 5 คณะจะประชุมทุกสัปดาห์ เมื่อได้ข้อสรุปถึงนโยบายหลักแล้วก็จะเชื่อมกับคณะกรรมการด้าน ยุทธศาสตร์ของพรรค ซึ่งมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานอีกที
ในช่วงวิกฤตนี้ กลุ่มอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะเป็นฝ่ายเชื่อม และต้องทำให้สำเร็จ เพราะนี่คือความอยู่รอดของพรรค เราไม่ต้องการให้พรรคปกครองโดยคนคนเดียว แต่บางคนบอกว่า สิ่งที่เราทำไปนี้ เดี๋ยวผู้ใหญ่ของพรรคไม่เห็นด้วย ผมถามใครเป็นผู้ใหญ่ของพรรค เรานี่แหละเป็นผู้ใหญ่ทั้งนั้น จะให้ข้างบนสั่งมาไม่ได้ ยิ่งวันนี้เราไม่แน่ใจว่าหัวหน้าพรรคจะเว้นวรรคหรือไม่ ยังไงเราก็ต้องเดินต่อไป นายปองพล กล่าว
นายปองพล กล่าวด้วยว่า ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรค โดยส่วนตัวแล้วก็เห็นว่า นายสมคิด ก็มีความเหมาะสมที่จะมาทำหน้าที่นี้ เพราะเป็นผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งด้านอื่นๆ ซึ่งทุกฝ่ายก็ให้การยอมรับ
ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ รองอธิบดีกรม สอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ดีเอสไอจะขยายอำนาจการบังคับใช้ พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 จากเดิม 27 คดี ให้ครอบคลุมถึงคดีการลอบวางแผนสังหารผู้นำประเทศ หรือคดีการลอบวางระเบิดด้วย เพราะคดีประเภทนี้เป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบสุข
ทั้งนี้ ดีเอสไอจะทำงานแบบบูรณาการมากขึ้น โดยจะขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานต่างๆ ให้ส่งเจ้าหน้าที่ชำนาญการพิเศษ รวมทั้งอัยการเข้ามาร่วมเป็นพนักงานสอบสวนด้วย ซึ่งจะทำให้สำนวนคดีและดำเนินคดีเป็นไปด้วยความรัดกุมและ รวดเร็วขึ้น
--------------------------------
http://www.posttoday.com/newsdet.php?sec=news&id=117854