ปุถุชน
|
|
« เมื่อ: 28-08-2006, 21:12 » |
|
เพราะเป็นแค่ "แขนขาทักษิณ" พาณิชย์จึงไม่กล้าจัดการ"นอมินี" 23 สิงหาคม 2549 18:57 น. คนไทยที่สนใจการบ้านการเมืองบอกว่าแค่เรื่องความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3 จังหวัด ที่ ทักษิณ ชินวัตร ทำอะไรไม่ได้ และไม่มีท่าทีว่าจะลงไปแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ก็เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้รักษาการนายกฯ ประกาศแสดงความรับผิดชอบด้วยการ "ลาออก" และให้คนอื่นทำหน้าที่แทนแล้วกรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : แต่สำนึกหรือคำว่า accountability ในการเมืองไทยมีค่าเป็นศูนย์ คนไทยจึงยังเห็นทักษิณ ทำทีเหมือนตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางภาคใต้เลยแม้แต่น้อย คนที่เขาถามหาความรับผิดชอบของผู้นำยังบอกต่ออีกว่า เฉพาะเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์สอบสวนเรื่อง "ไทยเทียม" หรือ nominee กรณีการซื้อหุ้น บริษัทชินคอร์ป โดย เทมาเส็ก ของสิงคโปร์ ในประเด็นว่าด้วยการที่เข้าข่ายกระทำผิด พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ก็ควรจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ทักษิณ ต้องลาออกจากตำแหน่งอีกเช่นกัน
เพราะครอบครัวของรักษาการนายกฯ มีความเกี่ยวดองกับเรื่องที่กำลังถูกสอบจากที่ขายหุ้นครั้งนี้ได้เงินถึง 73,000 ล้านบาท ด้วยวิธีการที่ไม่ต้องเสียภาษีเลยแม้แต่บาทเดียว อีกทั้งคนที่สอบที่กระทรวงพาณิชย์ก็ยังอยู่ใต้การบังคับบัญชาของรักษาการนายกฯ อาจจะใช้อำนาจทางการเมืองหรือบารมีหรือเส้นสายทั้งทางตรงและทางอ้อมเข้าไปทำให้การสอบสวนไม่ตรงไปตรงมา ทำให้ประชาชนคนไทยเสียประโยชน์และทำให้กฎหมายไทยไร้ความศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ถูกมองว่าคนมีอำนาจทางการเมือง และการเงินสามารถทำอะไรผิดกฎหมายก็ได้ ทุกวันนี้ ข้าราชการระดับสูงบางคนในกระทรวงก็มีอาการว่าจะ "ถ่วงเวลา" ต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งก็ยิ่งทำให้ภาพ "ผลประโยชน์ทับซ้อน" ของคนใกล้ชิดทักษิณมีสูงขึ้นไป
ทั้งๆ ที่มีข่าวระบุชัดเจนว่าคณะกรรมการสอบสวนเบื้องต้นที่มีอธิบดีพัฒนาธุรกิจการค้า น.ส.อรจิต สิงคาลวณิช เป็นหัวหน้าได้สรุปว่า
"ผลสรุปเบื้องต้นคือมีข้อมูลเชื่อว่าผู้ถือหุ้นในบริษัทกุหลาบแก้ว เป็นนอมินี ซึ่งเป็นความผิดมาตรา 36 ตาม พ.ร.บ การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวและเตรียมเสนอให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป เพราะเป็นคดีอาญา..." หากทักษิณ ไม่ได้เป็นรักษาการนายกฯ อยู่ เรื่องนี้ก็จะต้องเดินไปข้างหน้าตามครรลองแห่งนิติรัฐที่เรียกว่า rule of law โดยไม่รอช้าเพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของประเทศชาติอย่างยิ่ง แต่รัฐมนตรีและข้าราชการในกระทรวงพาณิชย์บางคนที่เกี่ยวข้องกลับใช้ความเป็น "ศรีธนญชัย" มาซื้อเวลา อ้างว่าจะต้องตั้งกรรมการอีก ต้องสอบสวนเพิ่มเติมอีก เพราะมีอำนาจตามกฎหมายที่จะทำอย่างนั้น เข้าข่าย rule by law อันหมายถึงการตีความด้วยการอ้างกฎอ้างเกณฑ์ต่างๆ เข้าข้างตัวเอง ไม่สนใจว่าความเป็นธรรมของสังคมจะถูกกระหน่ำซ้ำเติมอย่างไรหรือไม่ ดูง่ายๆ ว่าผู้ถือหุ้นต่างชาติในกรณีนี้มีอำนาจพิเศษ ผู้ถือหุ้นไทยจะไถ่ถอน หรือโอนหรือขายไม่ได้ ยกเว้นได้รับอนุญาตจากต่างชาติ ซึ่งเกือบไม่ต้องสงสัยว่าเป็นเงื่อนไขของการถือหุ้นแทน เหตุที่คนไทยต้องห่วงเรื่อง "ไทยเทียม" คือบริษัทกุหลาบแก้วเป็นนอมินี "ฮุบ" ชินคอร์ปให้เทมาเส็กของสิงคโปร์ ก็เพราะชินคอร์ปได้สัมปทานดาวเทียม สถานีโทรทัศนไอทีวี มือถือเอไอเอส และแม้กระทั่งสายการบินประหยัด (แอร์เอเชีย) อันเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศทั้งสิ้น คุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ในฐานะเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ ซึ่งเป็นเจ้าของเรื่องของการสอบสวนจะทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ปล่อยให้รัฐมนตรีช่วยและข้าราชการชั้นสูงที่รับใช้ผลประโยชน์นักการเมืองมากกว่าปกป้องผลประโยชน์ของชาติละเลงกันจนกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวที่จะทำร้ายคนทั้งประเทศได้อย่างไร? http://www.bangkokbiznews.com/2006/08/28/u001_131598.php?news_idกท."พาณิชย์" ไม่กล้าดำเนินการ"นอมินี"หวั่นกระทบการลงทุนต่างด้าว....! นักกฎหมายแนะแก้นิยามต่างด้าวปกป้องธุรกิจไทยนักกฎหมายแนะปัดฝุ่นแก้นิยามต่างด้าว ป้องธุรกิจไทย บล็อกบริษัทลอกแบบ "กุหลาบแก้ว หลัง พาณิชย์ ไม่กล้าดำเนินการ อ้างกระทบบรรยากาศการลงทุน ขณะที่กรมพัฒนาธุรกิจเตรียมตรวจหลักฐานการเงินก่อนอนุมัติให้ต่างชาติตั้งบริษัท "เกียรติ" ตั้งข้อสังเกตกระทรวงพาณิชย์ถ่วงเวลาเปิดผลสอบนอมินี "กุหลาบแก้ว" เข้าข่ายพฤติกรรมผิดปกติ.................................................................................................................................... http://forum.serithai.net/index.php?topic=6167.01. เพราะเป็นแค่' แขนขาทักษิณ' พาณิชย์จึงไม่กล้าจัดการ ไทยเทียม/ นอมินี 2.รองปลัดฯ พาณิชย์ยรรยงอยาก' เชลียร์'ทักษิณ จึงรื้อเกณฑ์สอบกุหลาบแก้ว 3. ทนง'เด็กในบริษัทฯ'แค่ ปกป้อง"นาย" อ้างตรวจสอบ ไทยเทียม/นอมินี เป็นอุปสรรคการลงทุน ขอคาวระ นส.อรจิตสิงคาลวนิช อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่ไม่ยอมเป็นแขนขาทักษิณ เชลียร์และ ปกป้องนายทักษิณ.....
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-08-2006, 21:18 โดย ปุถุชน »
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 28-08-2006, 21:33 » |
|
วันนี้ความเชื่อถือทักษิณหมดสิ้น การไม่ยอมรับทักษิณแผ่กระจาย มนต์ดำ'เขมร'โสโครกเสื่อมคลาย
คนรักทักษิณ แขนขาทักษิณ อยากจะปกป้องทักษิณ เหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา
เหมือนมีส้วมหน้าบ้าน หมักหมมเกรอะกรังนาน เปิดปากเหม็นเน่าทุกที
คนมีภาพดี พลอยเลวร้าย คนมีภาพทราม เน่าถาวร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
HILTON (ปาล์มาลี)
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 28-08-2006, 21:57 » |
|
งานนี้ลงทุนหน้าตาขนาดนี้แล้ว ข่าวนี้กลบไม่มิด มันไม่ขาดทุนไปหน่อยหรือ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
HILTON (ปาล์มาลี)
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 28-08-2006, 22:00 » |
|
วันนี้ความเชื่อถือทักษิณหมดสิ้น การไม่ยอมรับทักษิณแผ่กระจาย มนต์ดำ'เขมร'โสโครกเสื่อมคลาย
คนรักทักษิณ แขนขาทักษิณ อยากจะปกป้องทักษิณ เหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา
เหมือนมีส้วมหน้าบ้าน หมักหมมเกรอะกรังนาน เปิดปากเหม็นเน่าทุกที
คนมีภาพดี พลอยเลวร้าย คนมีภาพทราม เน่าถาวร
ท้ากสินมันบอก มันก็ส้วมบ้านกูร
ปาก ก็ปากของกรู
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Metrosexual
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 28-08-2006, 22:16 » |
|
กลุ่มที่สนับสนุนสมคิด ก็คือกลุ่มทุนเช่นกันคับ
ถ้าสมคิดเกิดสะสางเรื่องนอมินีขึ้นมา
คิดว่าผลกระทบคงมีเป็นวงกว้างคับ
เลยกระดืบไปเรื่อย ๆ แบบนี้แหละ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
nuxvomica
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 28-08-2006, 23:33 » |
|
ยังมีกรณียิ่งลักษณ์ที่เทขายหุ้นก่อนดีลชินกับเทมาเส็กเพียงไม่กี่วัน ซึ่งน่าจะเข้าข่ายอินไซด์เดอร์ แต่เรื่องไม่เห็นคืบหน้า คงดึงเรื่องกันอีกตามฟอร์ม
สมุดปกขาวของสภาทนายความและสภาหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ก็ระบุว่าดีลชินกับเทมาเสกผิดกฎหมาย ผมว่าเรื่องจะดำเนินได้ต่อเมื่อหมดอำนาจแล้วเท่านั้น
เข้าทำนองน้ำลดตอผุด
น่าสงสารประเทศไทยที่อุตส่าห์มีนายกที่มาจากการเลือกตั้งที่คะแนนเสียงท่วมท้นแต่ ผู้นำประเทศกลับบกพร่องจริยธรรมที่ผู้คนในประเทศถามหา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 28-08-2006, 23:42 » |
|
ยังมีกรณียิ่งลักษณ์ที่เทขายหุ้นก่อนดีลชินกับเทมาเส็กเพียงไม่กี่วัน ซึ่งน่าจะเข้าข่ายอินไซด์เดอร์ แต่เรื่องไม่เห็นคืบหน้า คงดึงเรื่องกันอีกตามฟอร์ม
สมุดปกขาวของสภาทนายความและสภาหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ก็ระบุว่าดีลชินกับเทมาเสกผิดกฎหมาย ผมว่าเรื่องจะดำเนินได้ต่อเมื่อหมดอำนาจแล้วเท่านั้น
เข้าทำนองน้ำลดตอผุด
น่าสงสารประเทศไทยที่อุตส่าห์มีนายกที่มาจากการเลือกตั้งที่คะแนนเสียงท่วมท้นแต่ ผู้นำประเทศกลับบกพร่องจริยธรรมที่ผู้คนในประเทศถามหา
ยังมีกรณียิ่งลักษณ์ที่เทขายหุ้นก่อนดีลชินกับเทมาเส็กเพียงไม่กี่วัน ซึ่งน่าจะเข้าข่ายอินไซด์เดอร์ แต่เรื่องไม่เห็นคืบหน้า คงดึงเรื่องกันอีกตามฟอร์มผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์คนก่อนไม่เคยตอบคำถามกรณีนี้ เมื่อนักข่าวถามถึง....... ดีแล้วลาออกไปได้.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 28-08-2006, 23:55 » |
|
ทักษิณเดินไปสู่มุมอับฉุกเฉินอย่างนี้ ทักษิณจะเขียนจดหมายถึงนาย"พุ่มไม้น้อย"ฉบับต่อไป บรรยายสถานการณ์ปัจจุบันให้ทราบหรือไม่ ผมเชื่อว่านาย"พุ่มไม้น้อย"สนใจเรื่อง"ไทยเทียม"หรือ"นอมินี" มากกว่าสถานการณ์บ้านเมือง ระบอบทักษิณ และ ระบอบประชาธิปไตยของทักษิณ...
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-08-2006, 23:58 โดย ปุถุชน »
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
|
ศก
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 29-08-2006, 04:48 » |
|
เอาลูกน้องมาตรวจสอบทุจริตของนาย ทั้งที่อยู่บริษัทเดียวกัน
แปลกๆ อย่างนี้ มีที่ไหน ถ้าไม่ใช่เมืองไทย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 29-08-2006, 11:06 » |
|
ผมว่านายพุ่มไม้น้อยคงต้องศึกษาความเป็นมาและเป็นไปของตระกูลที่สามารถทำให้เกิดนอมินี หรือ ไทยเทียมได้อย่างมหัศจรรย์พันลึกด้วยน่าครับ เอาลูกน้องมาตรวจสอบทุจริตของนาย ทั้งที่อยู่บริษัทเดียวกัน
แปลกๆ อย่างนี้ มีที่ไหน ถ้าไม่ใช่เมืองไทย
ถ้านาย"พุ่มไม้น้อย" เป็นลูกน้องคนพรรค์นั้น นาย"พุ่มไม้น้อย" ถูกคนในพรรคฯ และรัฐสภาให้มี impeachment ไปแล้ว....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
The Last Emperor
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 29-08-2006, 11:36 » |
|
ถามจขกท.ก่อนน๊ะครับว่าจะเอาจริงหรือเล่นๆกรณีการถอนรากถอนโคน 'นอมินี่' ? ข้อเท็จจริงก็คือ บริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์กว่าร้อยละ 70% ล้วนแล้วแต่มีบริษัทแฝง (นอมินี่) ที่ต่างชาติถือหุ้นทั้งนั้นโดยเฉพาะธนาคารต่างๆ หากให้มีการถอนรากถอนโคนจริง...คิดดูล่ะกันว่า หนึ่ง ต่างชาติที่ไหนจะหอบเงินมาลงทุนซื้อกิจการในไทย สอง บริษัทต่างๆที่มีนอมินี่อยู่หลายร้อยบริษัทจะมีความผิดและมีผลกระทบขนาดไหน? และ สาม ระบบการตรวจสอบของไทยเรามีมาตรฐานมากน้อยขนาดไหนในการตรอบสอบย้อนหลังบริษัทดังกล่าว เอาเบาะๆก่อนแค่นี้ครับ....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Şiłąncē Mőbiuş
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 29-08-2006, 11:44 » |
|
ถามจขกท.ก่อนน๊ะครับว่าจะเอาจริงหรือเล่นๆกรณีการถอนรากถอนโคน 'นอมินี่' ? ข้อเท็จจริงก็คือ บริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์กว่าร้อยละ 70% ล้วนแล้วแต่มีบริษัทแฝง (นอมินี่) ที่ต่างชาติถือหุ้นทั้งนั้นโดยเฉพาะธนาคารต่างๆ หากให้มีการถอนรากถอนโคนจริง...คิดดูล่ะกันว่า หนึ่ง ต่างชาติที่ไหนจะหอบเงินมาลงทุนซื้อกิจการในไทย สอง บริษัทต่างๆที่มีนอมินี่อยู่หลายร้อยบริษัทจะมีความผิดและมีผลกระทบขนาดไหน? และ สาม ระบบการตรวจสอบของไทยเรามีมาตรฐานมากน้อยขนาดไหนในการตรอบสอบย้อนหลังบริษัทดังกล่าว เอาเบาะๆก่อนแค่นี้ครับ.... แสดงว่าจ๊ะ จะยอมให้ต่างชาติ มาตั้งนอมินี่ ต่างๆเพื่อชื้อชาติไทยได้ตามใจชอบ ขอเพียงให้เค้าเอาเงินมาใส่ไว้ในระบบมากแค่นั้น ใช่ป่าว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.” . “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 29-08-2006, 12:14 » |
|
ถามจขกท.ก่อนน๊ะครับว่าจะเอาจริงหรือเล่นๆกรณีการถอนรากถอนโคน 'นอมินี่' ? ข้อเท็จจริงก็คือ บริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์กว่าร้อยละ 70% ล้วนแล้วแต่มีบริษัทแฝง (นอมินี่) ที่ต่างชาติถือหุ้นทั้งนั้นโดยเฉพาะธนาคารต่างๆ หากให้มีการถอนรากถอนโคนจริง...คิดดูล่ะกันว่า หนึ่ง ต่างชาติที่ไหนจะหอบเงินมาลงทุนซื้อกิจการในไทย สอง บริษัทต่างๆที่มีนอมินี่อยู่หลายร้อยบริษัทจะมีความผิดและมีผลกระทบขนาดไหน? และ สาม ระบบการตรวจสอบของไทยเรามีมาตรฐานมากน้อยขนาดไหนในการตรอบสอบย้อนหลังบริษัทดังกล่าว เอาเบาะๆก่อนแค่นี้ครับ.... แสดงว่าจ๊ะ จะยอมให้ต่างชาติ มาตั้งนอมินี่ ต่างๆเพื่อชื้อชาติไทยได้ตามใจชอบ ขอเพียงให้เค้าเอาเงินมาใส่ไว้ในระบบมากแค่นั้น ใช่ป่าว คุณ อะไรจ๊ะ ไม่พูดว่า ไทยเทียม/นอมินีเหล่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ การหลีกเลี่ยงภาษี และคุณธรรมของผู้นำประเทศทางการเมือง..... เหมือน ไทยเทียม/นอมินีกุหลาบแก้วและการซื้อขายมูลค่า 73,000ล้านบาทที่เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ดังนั้นป่วยการจะพูดถึง.................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-08-2006, 12:18 โดย ปุถุชน »
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 29-08-2006, 13:50 » |
|
นอมินีมันหนังเหนียวเคี้ยวยากนะเฮีย ยอมรับความจริงมั่งเหอะ ไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ การหลีกเลี่ยงภาษี และคุณธรรมของผู้นำประเทศทางการเมือง หรอก มันก็แค่ความคิดเห็นเท่านั้นเอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฟักแม้ว
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 29-08-2006, 14:01 » |
|
นอมินีมันหนังเหนียวเคี้ยวยากนะเฮีย ยอมรับความจริงมั่งเหอะ ไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ การหลีกเลี่ยงภาษี และคุณธรรมของผู้นำประเทศทางการเมือง หรอก มันก็แค่ความคิดเห็นเท่านั้นเอง
สมควรแล้วที่ใช้ชื่อ ชอบแถ แถไปเรื่อย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
รู้ไว้ซ่ะ!!! กูเป็นประชาชนคนธรรมดา ไม่มีใครหนุนหลัง ไม่มีพรรคพวก ไม่มีแอบแฝง ไม่มีใครจ้าง เงินซื้อกูไม่ได้ กูมีศักดิ์ศรีพอ มาด้วยใจ ใจสั่งมา
ขอสาปส่งพวกที่ถูกจัดตั้งมา ถูกจ้างมา มีเบื้องหลัง ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ตาม พวกนี้ขายชาติ ขายเกียรติยศ ศักดิ์ศรี เพื่อแลกกับเงินทอง ผลประโยชน์ ยศตำแหน่ง อำนาจ เงินมาอุดมการณ์เปลี่ยน สารเลวจริงๆ รู้ไปถึงไหน อายไปถึงนั้น เกิดมาทำห่าอะไรให้แผ่นดินประเทศชาติบ้าง สงสารโคตรเหง้า บรรพบุรุษบ้างหรือเปล่า ไหว้หมาดีกว่ายกมือไหว้ไอ้คนพวกนี้
|
|
|
The Last Emperor
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 29-08-2006, 14:17 » |
|
ถามจขกท.ก่อนน๊ะครับว่าจะเอาจริงหรือเล่นๆกรณีการถอนรากถอนโคน 'นอมินี่' ? ข้อเท็จจริงก็คือ บริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์กว่าร้อยละ 70% ล้วนแล้วแต่มีบริษัทแฝง (นอมินี่) ที่ต่างชาติถือหุ้นทั้งนั้นโดยเฉพาะธนาคารต่างๆ หากให้มีการถอนรากถอนโคนจริง...คิดดูล่ะกันว่า หนึ่ง ต่างชาติที่ไหนจะหอบเงินมาลงทุนซื้อกิจการในไทย สอง บริษัทต่างๆที่มีนอมินี่อยู่หลายร้อยบริษัทจะมีความผิดและมีผลกระทบขนาดไหน? และ สาม ระบบการตรวจสอบของไทยเรามีมาตรฐานมากน้อยขนาดไหนในการตรอบสอบย้อนหลังบริษัทดังกล่าว เอาเบาะๆก่อนแค่นี้ครับ.... แสดงว่าจ๊ะ จะยอมให้ต่างชาติ มาตั้งนอมินี่ ต่างๆเพื่อชื้อชาติไทยได้ตามใจชอบ ขอเพียงให้เค้าเอาเงินมาใส่ไว้ในระบบมากแค่นั้น ใช่ป่าว คุณ อะไรจ๊ะ ไม่พูดว่า ไทยเทียม/นอมินีเหล่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ การหลีกเลี่ยงภาษี และคุณธรรมของผู้นำประเทศทางการเมือง..... เหมือน ไทยเทียม/นอมินีกุหลาบแก้วและการซื้อขายมูลค่า 73,000ล้านบาทที่เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ดังนั้นป่วยการจะพูดถึง.................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า เอาความจริงพื้นๆครับคุณปุถุชน ความจริงที่ว่าหากบริษัทใดก็ตามที่อนุญาตให้ต่างชาติซื้อ-ขายหุ้นโดยการตั้งบริษัทบังหน้าโดยมีคนไทยเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทนั้นๆจักต้องมีความผิดตามกฎหมาย
ไม่ต้องไปบัญญัติกติกูให้มันยาวหรอกครับ....พื้นๆเนื้อๆไปเลยอ่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 29-08-2006, 20:18 » |
|
ถามจขกท.ก่อนน๊ะครับว่าจะเอาจริงหรือเล่นๆกรณีการถอนรากถอนโคน 'นอมินี่' ? ข้อเท็จจริงก็คือ บริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์กว่าร้อยละ 70% ล้วนแล้วแต่มีบริษัทแฝง (นอมินี่) ที่ต่างชาติถือหุ้นทั้งนั้นโดยเฉพาะธนาคารต่างๆ หากให้มีการถอนรากถอนโคนจริง...คิดดูล่ะกันว่า หนึ่ง ต่างชาติที่ไหนจะหอบเงินมาลงทุนซื้อกิจการในไทย สอง บริษัทต่างๆที่มีนอมินี่อยู่หลายร้อยบริษัทจะมีความผิดและมีผลกระทบขนาดไหน? และ สาม ระบบการตรวจสอบของไทยเรามีมาตรฐานมากน้อยขนาดไหนในการตรอบสอบย้อนหลังบริษัทดังกล่าว เอาเบาะๆก่อนแค่นี้ครับ.... แสดงว่าจ๊ะ จะยอมให้ต่างชาติ มาตั้งนอมินี่ ต่างๆเพื่อชื้อชาติไทยได้ตามใจชอบ ขอเพียงให้เค้าเอาเงินมาใส่ไว้ในระบบมากแค่นั้น ใช่ป่าว คุณ อะไรจ๊ะ ไม่พูดว่า ไทยเทียม/นอมินีเหล่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ การหลีกเลี่ยงภาษี และคุณธรรมของผู้นำประเทศทางการเมือง..... เหมือน ไทยเทียม/นอมินีกุหลาบแก้วและการซื้อขายมูลค่า 73,000ล้านบาทที่เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ดังนั้นป่วยการจะพูดถึง.................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า เอาความจริงพื้นๆครับคุณปุถุชน ความจริงที่ว่าหากบริษัทใดก็ตามที่อนุญาตให้ต่างชาติซื้อ-ขายหุ้นโดยการตั้งบริษัทบังหน้าโดยมีคนไทยเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทนั้นๆจักต้องมีความผิดตามกฎหมาย
ไม่ต้องไปบัญญัติกติกูให้มันยาวหรอกครับ....พื้นๆเนื้อๆไปเลยอ่ะ คุณ อะไรจ๊ะ จะคิดและยอมรับแค่ไหน ก็ตามใจเถอะ เพราะความเห็นของเราแตกต่างกันหลายประเด็นอยู่แล้ว เช่น... 1. ผมเห็นว่าการนำหวยใต้ดินขึ้นบนดินเป็นความคิดชั่วช้าของรัฐบาลทักษิณ... 2. ผมเห็นว่าคนไทย เดือดร้อน ไม่พอใจ ไทยเทียม/นอมินี ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ การเลี่ยงกฎหมาย การหลบภาษี เป็นต้น... 3. ฯลฯ คุณอะไรจ๊ะ อย่ากังวลเลย มีคนเห็นด้วยกับคุณอะไรจ๊ะ มากเหมือนกัน พวกที่บอกว่า โกงแต่ทำงาน หรือ นักการธุรกิจ ใคร ๆ ทำอย่างนั้นทั้งน้าน เป็นต้น....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 29-08-2006, 20:20 » |
|
นำหวยใต้ดินมาบนดินเป็นการเพิ่ม GDP ที่ฉลาดและเร็วครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 29-08-2006, 20:31 » |
|
นำหวยใต้ดินมาบนดินเป็นการเพิ่ม GDP ที่ฉลาดและเร็วครับ
การเพิ่ม GDP ที่ฉลาดและเร็วครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 29-08-2006, 20:33 » |
|
เก่งไม่เท่าเค้าใช่มั้ยเฮีย ถึงคิดไม่ออก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 29-08-2006, 23:35 » |
|
เก่งไม่เท่าเค้าใช่มั้ยเฮีย ถึงคิดไม่ออก
เขาและผมมีมโนธรรมและคุณธรรมแตกต่างกันครับ......
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 30-08-2006, 08:16 » |
|
ยอมรับความจริงบ้างเถอะเฮีย ไอ้เรื่อง GDP นี่แม้หลักการคิดจากข้อมูลต้นทาง มันจะค่อนข้างมั่ว แต่มันก็เป็นสากล ถ้าเฮียเป็นซีอีอวยหัววัวจริงน่าจะรู้ว่าทำกำไรทั้งปีได้ครึ่งเงินลงทุนก็หรูมากแล้ว แต่บังเอิญเอาบริษัทยัดเข้าไปในตลาดได้หุ้นขึ้นชนเพดานสามสี่วันก็กำไรเกินแล้วไม่ต้องเสียภาษี ด้วย มันก็บ่อนดีดีนี่เอง แต่มันดันเป็นสากลครับ ลองให้ process เอกสารเหมือนซื้อขายที่ซิครับ ใครจะมาลงทุน ตัวชี้วัดตัวหนึ่งที่สากลยอมรับและมีผลต่อความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจก็เริ่มจาก GDP ตอนนี้มันมาไกลมากแล้วครับ ถ้าสมมติว่าเฮียดันเก่งถอนรากถอนโคนนอมินี่ได้หมด GDP เมืองไทย จะเหลือแค่ไหน อย่าลืมว่าเงินฝรั่งเงินสิงคโปร์เอามาทำมาหากินในไทยก็เป็น GDP ไทยนะครับ เข้าไปอยู่ในเกมส์ของความเชื่อมั่นแล้วมันก็ต้องคิดหนักนะเฮีย เฮียแค่จะห้ามลูกเมียเฮียเข้า lotus คาร์ฟู บอกว่าเพื่อชาติยังยากกว่าบอกว่า รปภ ทะเลาะกันแล้ววางระเบิดในห้างเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 30-08-2006, 11:04 » |
|
ยอมรับความจริงบ้างเถอะเฮีย ไอ้เรื่อง GDP นี่แม้หลักการคิดจากข้อมูลต้นทาง มันจะค่อนข้างมั่ว แต่มันก็เป็นสากล ถ้าเฮียเป็น ซีอีอวยหัววัวจริงน่าจะรู้ว่าทำกำไรทั้งปีได้ครึ่งเงินลงทุนก็หรูมากแล้ว แต่บังเอิญเอาบริษัทยัดเข้าไปในตลาดได้หุ้นขึ้นชนเพดานสามสี่วันก็กำไรเกินแล้วไม่ต้องเสียภาษี ด้วย มันก็บ่อนดีดีนี่เอง แต่มันดันเป็นสากลครับ ลองให้ process เอกสารเหมือนซื้อขายที่ซิครับ ใครจะมาลงทุน ตัวชี้วัดตัวหนึ่งที่สากลยอมรับและมีผลต่อความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจก็เริ่มจาก GDP ตอนนี้มันมาไกลมากแล้วครับ ถ้าสมมติว่าเฮียดันเก่งถอนรากถอนโคนนอมินี่ได้หมด GDP เมืองไทย จะเหลือแค่ไหน อย่าลืมว่าเงินฝรั่งเงินสิงคโปร์เอามาทำมาหากินในไทยก็เป็น GDP ไทยนะครับ เข้าไปอยู่ในเกมส์ของความเชื่อมั่นแล้วมันก็ต้องคิดหนักนะเฮีย เฮียแค่จะห้ามลูกเมียเฮียเข้า lotus คาร์ฟู บอกว่าเพื่อชาติยังยากกว่าบอกว่า รปภ ทะเลาะกันแล้ววางระเบิดในห้างเลย
ถามจขกท.ก่อนน๊ะครับว่าจะเอาจริงหรือเล่นๆกรณีการถอนรากถอนโคน 'นอมินี่' ? ข้อเท็จจริงก็คือ บริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์กว่าร้อยละ 70% ล้วนแล้วแต่มีบริษัทแฝง (นอมินี่) ที่ต่างชาติถือหุ้นทั้งนั้นโดยเฉพาะธนาคารต่างๆ หากให้มีการถอนรากถอนโคนจริง...คิดดูล่ะกันว่า หนึ่ง ต่างชาติที่ไหนจะหอบเงินมาลงทุนซื้อกิจการในไทย สอง บริษัทต่างๆที่มีนอมินี่อยู่หลายร้อยบริษัทจะมีความผิดและมีผลกระทบขนาดไหน? และ สาม ระบบการตรวจสอบของไทยเรามีมาตรฐานมากน้อยขนาดไหนในการตรอบสอบย้อนหลังบริษัทดังกล่าว เอาเบาะๆก่อนแค่นี้ครับ.... แสดงว่าจ๊ะ จะยอมให้ต่างชาติ มาตั้งนอมินี่ ต่างๆเพื่อชื้อชาติไทยได้ตามใจชอบ ขอเพียงให้เค้าเอาเงินมาใส่ไว้ในระบบมากแค่นั้น ใช่ป่าว คุณ อะไรจ๊ะ ไม่พูดว่า ไทยเทียม/นอมินีเหล่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ การหลีกเลี่ยงภาษี และคุณธรรมของผู้นำประเทศทางการเมือง..... เหมือน ไทยเทียม/นอมินีกุหลาบแก้วและการซื้อขายมูลค่า 73,000ล้านบาทที่เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ดังนั้นป่วยการจะพูดถึง.................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า เอาความจริงพื้นๆครับคุณปุถุชน ความจริงที่ว่าหากบริษัทใดก็ตามที่อนุญาตให้ต่างชาติซื้อ-ขายหุ้นโดยการตั้งบริษัทบังหน้าโดยมีคนไทยเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทนั้นๆจักต้องมีความผิดตามกฎหมาย
ไม่ต้องไปบัญญัติกติกูให้มันยาวหรอกครับ....พื้นๆเนื้อๆไปเลยอ่ะ คุณ อะไรจ๊ะ จะคิดและยอมรับแค่ไหน ก็ตามใจเถอะ เพราะความเห็นของเราแตกต่างกันหลายประเด็นอยู่แล้ว เช่น... 1. ผมเห็นว่าการนำหวยใต้ดินขึ้นบนดินเป็นความคิดชั่วช้าของรัฐบาลทักษิณ... 2. ผมเห็นว่าคนไทย เดือดร้อน ไม่พอใจ ไทยเทียม/นอมินี ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ การเลี่ยงกฎหมาย การหลบภาษี เป็นต้น... 3. ฯลฯ คุณอะไรจ๊ะ อย่ากังวลเลย มีคนเห็นด้วยกับคุณอะไรจ๊ะ มากเหมือนกัน พวกที่บอกว่า โกงแต่ทำงาน หรือ นักการธุรกิจ ใคร ๆ ทำอย่างนั้นทั้งน้าน เป็นต้น.... คุณอะไรจ๊ะ ไม่พูดว่าไทยเทียม/นอมินีเหล่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ การหลีกเลี่ยงภาษี และคุณธรรมของผู้นำประเทศทางการเมือง..... เหมือนไทยเทียม/นอมินีกุหลาบแก้วและการซื้อขายมูลค่า 73,000ล้านบาทที่เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
ดังนั้นป่วยการจะพูดถึง.................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่าขอตอบคุณ ชอบแถด้วยวรรคนี้เช่น ถ้าเรามีความคิดเห็นแตกต่างกัน มีคุณธรรมในธุรกิจแตกต่างกัน ถ้าคุณ ชอบแถเห็นดี เห็นงามกับพฤติกรรมและการนโยบายการประกอบธุรกิจของทักษิณและครอบครัว ก็ตามใจคุณเถอะ...... ดังนั้นป่วยการจะพูดถึง................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ปล.1. ผมแปลกใจซีอีอวยหัววัวทักษิณไม่สั่งให้คนรักทักษิณอ่าน ศึกษาความรู้พื้นฐานคุณธรรม/จริยธรรมธุรกิจที่ดีบ้าง แม้ว่าทักษิณจะไม่มีในใจก็ตาม ก็ควรให้สิ่งดี ๆกับคนรักทักษิณบ้าง ปล.2. ในหลวงของเราประทาน ทางสว่างแก่ทักษิณและประชาชนแล้ว อยู่ที่ใครจะเป็น เวไนยสัตว์หรือไม่ ปล.3. ประเทศปูตาน/ภูฐานดำเนินกุศโลบายการบริหารประเทศ คำนึงถึงการดำรงชีวิตและประกอบสัมมาชีพอย่างผาสุกของพสกนิกรโดยไม่คำนึงถึง GDP เพื่อผลทางการเมืองและผลประโยชน์ส่วนตนเองและพรรคพวกร่วมลงทุนอย่างทักษิณ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
The Last Emperor
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 30-08-2006, 11:16 » |
|
คุณ อะไรจ๊ะ จะคิดและยอมรับแค่ไหน ก็ตามใจเถอะ เพราะความเห็นของเราแตกต่างกันหลายประเด็นอยู่แล้ว เช่น...
1. ผมเห็นว่าการนำหวยใต้ดินขึ้นบนดินเป็นความคิดชั่วช้าของรัฐบาลทักษิณ... แล้วคุณปุถุชนมีวิธีอื่นที่ดีกว่านำเสนอไหมครับ? อย่าลืมเป็นอันขาดว่ารัฐบาลต่างๆที่ผ่านมาหลายสิบคณะได้พยายามปราบหวยเถื่อนมาตลอด แต่ก็ไม่สำเร็จสักครั้งเดียวน๊ะครับ
2. ผมเห็นว่าคนไทย เดือดร้อน ไม่พอใจไทยเทียม/นอมินี ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ การเลี่ยงกฎหมาย การหลบภาษี เป็นต้น... ใครไม่พอใจครับ? สื่อมวลชนหรือว่ากลุ่มพันธมิตรฯที่ต้องการให้Shin & Temasek deal ล้มให้ได้? อย่างทีเรียนให้ทราบน๊ะครับว่าทุนจากต่างชาติเข้ามาซื้อกิจการต่างๆของประเทศไทยนานหลายสิบปีแล้ว ตัวอย่างง่ายๆครับ แบงค์ไทยต่างๆตอนนี้ล้วนแล้วแต่มีเงินจากสิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น อเมริกาซื้อหุ้นผ่านนอมินี่กันทั้งนั้น บริษัทอสังหาริมทรัพย์ต่างก็เช่นกัน
ประเด็นก็คือ คุณต้องการล้มdealกลุ่มชินโดยหยิบประเด็นนอมินี่ขึ้นมาเล่นใช่หรือไม่?
3. ฯลฯ
คุณอะไรจ๊ะ อย่ากังวลเลย มีคนเห็นด้วยกับคุณอะไรจ๊ะ มากเหมือนกัน พวกที่บอกว่า โกงแต่ทำงาน หรือ นักการธุรกิจ ใคร ๆ ทำอย่างนั้นทั้งน้าน เป็นต้น.... ไม่ทราบว่าท่านอื่นจะคิดยังไงครับ ส่วนตัวแล้วปฎิเสธการที่นักการเมืองโกงแม้จะทำงานเก่งแค่ไหนก็ตาม แต่หากมีแต่ข้อสันนิฐานและข้อมูลทางแหล่งข่าวโดยไม่มีการพิสูจน์จากศาลหรือปปช.ว่าใครโกง...ผมรังเกียจมากกว่าครับ!!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 30-08-2006, 11:34 » |
|
ขอตอบคุณ ชอบแถด้วยวรรคนี้เช่น ถ้าเรามีความคิดเห็นแตกต่างกัน มีคุณธรรมในธุรกิจแตกต่างกัน ถ้าคุณ ชอบแถเห็นดี เห็นงามกับพฤติกรรมและการนโยบายการประกอบธุรกิจของทักษิณและครอบครัว ก็ตามใจคุณเถอะ...... ดังนั้นป่วยการจะพูดถึง................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ปล.1. ผมแปลกใจซีอีอวยหัววัวทักษิณไม่สั่งให้คนรักทักษิณอ่าน ศึกษาความรู้พื้นฐานคุณธรรม/จริยธรรมธุรกิจที่ดีบ้าง แม้ว่าทักษิณจะไม่มีในใจก็ตาม ก็ควรให้สิ่งดี ๆกับคนรักทักษิณบ้าง ปล.2. ในหลวงของเราประทาน ทางสว่างแก่ทักษิณและประชาชนแล้ว อยู่ที่ใครจะเป็น เวไนยสัตว์หรือไม่ ปล.3. ประเทศปูตาน/ภูฐานดำเนินกุศโลบายการบริหารประเทศ คำนึงถึงการดำรงชีวิตและประกอบสัมมาชีพอย่างผาสุกของพสกนิกรโดยไม่คำนึงถึง GDP เพื่อผลทางการเมืองและผลประโยชน์ส่วนตนเองและพรรคพวกร่วมลงทุนอย่างทักษิณ... ถ้าคุณไม่สามารถกำจัด demand ในใจได้ (ด้วยหลักศาสนาหรือคุณธรรมที่ไม่ใช่ your own private) ก็อย่าได้ปิด supply ที่จะเกิดโดยธรรมชาติของกิเลสเลย ถ้าทุกอย่างมันมาถึงขนาดนี้แล้ว และมันก็ไม่ได้เริ่มจากรัฐบาลนี้ด้วย คุณจะหักดิบได้อย่างไร ไม่ใช่จะมายกตัวเองว่ามีคุณธรรมจริยธรรมเหนือมนุษย์ แต่ก็ยังมา post กระทู้เล่น น่าจะไปอยู่ในโลกความเพ้อฝันว่าจริงของคุณดีกว่านะเฮีย ไอ้การพนันมันก็อยู่คู่โลกมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถึงต้องมีศาสนาไงครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
RiDKuN
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 30-08-2006, 11:45 » |
|
อย่าสร้างความเชื่อผิดๆ เลยครับ คนที่จะมาเล่นการเมือง เป็นคนที่จะมีอำนาจมากกว่าคนอื่น จะต้องมีคุณธรรมจริยธรรมประกอบ ไม่ใช่ทำตัวเหมือนคนธรรมดาค่อนไปทางเลว เช่น เลี่ยงภาษี ออกนอกประเทศไปเล่นการพนัน เที่ยวอาบอบนวด แล้วก็มาอ้างว่าเป็นคน มีกิเลสมีความอยากเหมือนกัน.... ฟังแล้วเปรี้ยวปากอยากถ่มน้ำลายมากครับ คนธรรมดาทั่วไปเขายังรู้จักยับยั้งชั่งใจ ไม่ทำในสิ่งที่ไม่ถูกทำนองคลองธรรม ภาษาธรรมคงเรียกว่าหิริโอตตัปปะ แปลว่าความละอายเกรงกลัวต่อบาป ถึงอยากทำ มี demand จริง แต่ก็ไม่ทำ เพราะรู้ว่ามันไม่ถูกต้อง
แล้วเป็นถึงนักการเมือง มีตำแหน่งมีเกียรติมีศักดิ์ศรี ทำไมถึงทำเรื่องง่ายๆ ไม่ได้ครับ?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 30-08-2006, 11:51 » |
|
อย่าสร้างความเชื่อผิดๆ เลยครับ คนที่จะมาเล่นการเมือง เป็นคนที่จะมีอำนาจมากกว่าคนอื่น จะต้องมีคุณธรรมจริยธรรมประกอบ ไม่ใช่ทำตัวเหมือนคนธรรมดาค่อนไปทางเลว เช่น เลี่ยงภาษี ออกนอกประเทศไปเล่นการพนัน เที่ยวอาบอบนวด แล้วก็มาอ้างว่าเป็นคน มีกิเลสมีความอยากเหมือนกัน.... ฟังแล้วเปรี้ยวปากอยากถ่มน้ำลายมากครับ คนธรรมดาทั่วไปเขายังรู้จักยับยั้งชั่งใจ ไม่ทำในสิ่งที่ไม่ถูกทำนองคลองธรรม ภาษาธรรมคงเรียกว่าหิริโอตตัปปะ แปลว่าความละอายเกรงกลัวต่อบาป ถึงอยากทำ มี demand จริง แต่ก็ไม่ทำ เพราะรู้ว่ามันไม่ถูกต้อง
แล้วเป็นถึงนักการเมือง มีตำแหน่งมีเกียรติมีศักดิ์ศรี ทำไมถึงทำเรื่องง่ายๆ ไม่ได้ครับ?
เข้าใจอะไรคนละเรื่องแล้วมั้งคุณ ผ่าไปถึงเลี่ยงภาษี ออกนอกประเทศไปเล่นการพนัน อะไรกันเนี่ย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
RiDKuN
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: 30-08-2006, 11:59 » |
|
แค่ยกตัวอย่างเฉยๆ หรือจะให้ยกตัวอย่างการโกงเชค ซุกโพยเข้าห้องสอบ แอบดูข้อสอบเอนท์ ถึงจะพอใจ?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: 30-08-2006, 12:11 » |
|
เอาเรื่องแคบแคบที่อยู่ในหัวข้อกระทู้สิครับอย่าไปไกล นอมินี หนะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
จ้าวผิงกว่อ
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 30-08-2006, 12:20 » |
|
สิ่งที่ทำให้มนุษย์แตกต่างจากสัตว์.......คือการรู้จักยับยั้งชั่งใจ
ถ้าไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจจากกิเลสและตัณหา....มนุษย์ก็ไม่ต่างจากสัตว์เลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เราประกาศ ณ ที่นี้ว่าเรามีจุดยืนสนับสนุนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติเพื่อให้จัดการกับความผิดชั่วของระบอบทักษิณ เอาทรัพย์สมบัติชาติกลับคืน และถอนรากถอนโคนระบอบทักษิณให้ถึงที่สุด!...
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: 30-08-2006, 15:34 » |
|
สิ่งที่ทำให้มนุษย์แตกต่างจากสัตว์.......คือการรู้จักยับยั้งชั่งใจ ถ้าไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจจากกิเลสและตัณหา....มนุษย์ก็ไม่ต่างจากสัตว์เลย
หนูเอ๊ย เรื่องแค่นี้ใครก็รู้ เค้าพูดถึง border line แบบว่า ฆ่าเชื้อโรคบาปมั้ย อะไรประมาณนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: 30-08-2006, 17:43 » |
|
สิ่งที่ทำให้มนุษย์แตกต่างจากสัตว์.......คือการรู้จักยับยั้งชั่งใจ ถ้าไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจจากกิเลสและตัณหา....มนุษย์ก็ไม่ต่างจากสัตว์เลย
หนูเอ๊ย เรื่องแค่นี้ใครก็รู้ เค้าพูดถึง border line แบบว่า ฆ่าเชื้อโรคบาปมั้ย อะไรประมาณนี้ รู้แล้วประพฤติตาม หรือ แค่อ่านหนังสือให้รู้........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: 30-08-2006, 21:35 » |
|
ปล.3. ประเทศปูตาน/ภูฐานดำเนินกุศโลบายการบริหารประเทศ คำนึงถึงการดำรงชีวิตและประกอบสัมมาชีพอย่างผาสุกของพสกนิกรโดยไม่คำนึงถึง GDP เพื่อผลทางการเมืองและผลประโยชน์ส่วนตนเองและพรรคพวกร่วมลงทุนอย่างทักษิณ...
จะคอยดูว่าจะหนีกระแสโลกได้นานแค่ไหน นโยบายของเราตอนนี้มี 2 แทร็กก็ยังดีกว่ามีแทร็กเดียว จะให้กระโดดลงจากแทร็กที่มี GDP เยอะเยอะทีเดียวมันจะคอหักตายนะเฮีย ค่อยค่อยปีนลงพอไหว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #34 เมื่อ: 31-08-2006, 00:07 » |
|
จะคอยดูว่าจะหนีกระแสโลกได้นานแค่ไหน นโยบายของเราตอนนี้มี 2 แทร็กก็ยังดีกว่ามีแทร็กเดียว จะให้กระโดดลงจากแทร็กที่มี GDP เยอะเยอะทีเดียวมันจะคอหักตายนะเฮีย ค่อยค่อยปีนลงพอไหว
คุณ ชอบแถ หัวใจของคุณทำด้วยอะไร วันนี้พระราชา ผู้ปกครองประเทศปูตาน/ภูฐาน มีนโยบายบริหารประเทศอย่างนั้น เช่นเดียวกับพระราขดำริของในหลวงของเรา ซึ่งเป็นแนวทางที่ดี ทำให้พสกนิกรถ้วนหน้ามีความสุข พอเพียง..... ประเทศปูตาน/ภูฐานดำเนินกุศโลบายการบริหารประเทศ คำนึงถึงการดำรงชีวิตและประกอบสัมมาชีพอย่างผาสุกของพสกนิกรโดยไม่คำนึงถึง GDP เพื่อผลทางการเมืองและผลประโยชน์ส่วนตนเองและพรรคพวกร่วมลงทุนอย่างทักษิณ ไม่ต้องอยู่ในวังน้ำวนของทุนนิยมของนักธุรกิจการเมืองที่พยายามให้คนไทยละโมภ บริโภคอย่างมุม เพื่อสร้างGDP หรือสร้างความมั่งคั่ง ความร่ำรวยแก่พรรคพวก และ สร้างหนี้สินให้ครอบครัวไทย... ในฐานะคนของโลก ไม่ต้องการพลเมืองของโลกอยู่ในสภาพแบบนั้นหรือ ความสุขกระจุกคนในศูนย์อำนาจทักษิณ ความทุกข์กระจายทั่วหน้าพลเมืองไทย หรือ รวยกระจุกกลุ่มนักธุรกิจการเมืองของทักษิณ ความจนกระจายถ้วนพลเมืองไทย.... ผมอยากจะรู้ว่าคนรักทักษิณ รับใช้นักธุรกิจการเมืองอย่างทักษิณ ที่ปกป้องธุรกิจของครอบครัวและพรรคพวกร่วมลงทุนตั้งพรรคไทยรักไทยนั้น พอใจเศษเดนผลประโยชน์ตลอดไปหรือ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2006, 00:16 โดย ปุถุชน »
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: 31-08-2006, 09:43 » |
|
เมื่อวานได้อ่าน "ประชาชาติธุรกิจ" ฉบับล่าสุด ในส่วนของ Special Issue แต่ทางมติชนยังไม่ได้นำลงเว็บ เช้านี้ขอนำมาลงเสริมในกระทู้ของท่านอาจารย์ปุถุชนค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #36 เมื่อ: 31-08-2006, 09:46 » |
|
จาก "ขบวนการคนรับใช้" ถึง "นอมินีข้ามชาติ" กรณีปัญหาการถือหุ้นแทน (นอมินี) ในบริษัทกุหลาบแก้ว จำกัด และบริษัทซีดาร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ของกลุ่มเทมาเส็กทุนยักษ์สิงคโปร์ที่กำลังมีปัญหาตีความอยู่ในขณะนี้ มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนจนยากที่คนทั่วไปจะเข้าใจได้โดยง่าย แต่เอาเข้าจริง ในสังคมไทยการเชิด "คนรับใช้" เป็นนอมินี เพื่อใช้ในทางธุรกิจเพื่ออำพรางข้อเท็จจริงบางอย่างเป็นที่นิยมอย่างมากของเศรษฐีนักธุรกิจและนักการเมืองมานานแล้ว อาจเป็นเพราะคนรับใช้เหล่านี้มีสภาพเหมือนลูกไก่ในกำมือ ไม่มีปาก ไม่มีเสียง และสามารถควบคุมได้ ทำให้ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะร้องโวยวายจนสร้างความเสียหายให้แก่ธุรกิจหรือกลายเป็นข่าวอื้อฉาว ตำนาน "ขบวนการคนรับใช้" เท่าที่สืบค้นพบหลักฐานค่อนข้างชัดเจนมีอยู่ด้วยกันหลายครั้งหลายหน "ประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์" อดีตบรรณาธิการประชาชาติธุรกิจ เคยรวบรวมไว้ดังนี้ (สนใจข้อมูลเพิ่มเติมอ่านได้จากหนังสือ ทักษิณกับพวก) ตัวอย่างแรกในคดีทุจริตธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ (บีบีซี) มูลค่า 80,000 ล้าน มีกรณีหนึ่งที่นักการเมืองเอาชื่อคนรับใช้ไปกู้เงินในช่วงเดือนมกราคม 2539 บริษัทในกลุ่มตระกูล "ตันเจริญ" (เป็นหนึ่งในหลายๆ กลุ่ม) กู้เงินจากบีบีซีรวมเป็นเงิน 4,020 ล้านบาท มีบริษัทหนึ่งที่ สุชาติ ตันเจริญ ส.ส. ฉะเชิงเทรา พรรคชาติไทย ขณะนั้น มิได้ถือหุ้น แต่เป็นผู้ค้ำประกันการกู้เงินคือ บริษัท ท่ายางคอมซูเมอร์ ครั้งนั้นหนังสือพิมพ์ "มติชน" พาดหัวข่าววันที่ 9 พฤษภาคม 2539 ว่า "แฉกลุ่ม 16 ตั้งคนขับรถเปิดบริษัทท่ายางคอมซูเมอร์กู้เงินจากบีบีซี 65 ล้านบาท" บริษัทท่ายางฯมีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท แบ่งเป็น 10,000 หุ้น ผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ นายบุญช่วย ม่วงนาค อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132 หมู่ 3 ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เป็นผู้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท นอกจากนั้นมีผู้ถือหุ้นอื่นอีกหลายคน มีการตรวจสอบพบว่า นายบุญช่วยเป็นคนสนิทและคนขับรถประจำตัวของ ธานี ยี่สาร ส.ส.พรรคชาติไทย จ.เพชรบุรี หนึ่งในนักการเมืองกลุ่ม 16 ปัจจุบันเป็น ส.ส.พรรคไทยรักไทย สำหรับผู้ถือหุ้นรายอื่นล้วนเป็นคนในบ้านนายธานีทั้งสิ้น ตัวอย่างที่สอง เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2540 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริหารบริษัท เงินทุนหลักทรัพย์ (บงล.) เจ้าพระยา ในข้อหาที่เรียกกันแบบชาวบ้านคือ ฉ้อโกงสถาบันการเงิน แม้ในที่สุดอัยการได้สั่งไม่ฟ้องในคดีดังกล่าว แต่รูปแบบการปล่อยกู้ของ บงล.เจ้าพระยากลายเป็นอีกตำนานหนึ่งกล่าวคือ ผู้บริหาร บงล.เจ้าพระยาให้เงินกู้ยืมแก่ ชูศรี สนธิรักษ์ 100 ล้านบาท เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2540 โดยอ้างว่า เพื่อนำไปใช้หมุนเวียนในกิจการฟาร์มเลี้ยงสุกรและฟาร์มโคเนื้อ อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงที่ ธปท.ตรวจพบคือ ชูศรีมีอาชีพรับจ้างทำงานรับใช้อยู่ในบ้านของ เยาวลักษณ์ ดลศรีชัย (นามสกุลเดิม ภัทรประสิทธิ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บงล.เจ้าพระยา) จึงไม่น่าอยู่ในฐานะที่จะกู้เงินจำนวนมากได้ จากการตรวจเส้นทางเงินยังพบว่าชูศรีนำเงินที่กู้ยืมไปชำระหนี้ของ โชคชัย ดลศรีชัย ที่มีต่อ บงล.วอลล์สตรีท โดยโชคชัยเป็นหลานของต้นตระกูลภัทรประสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม ก่อนถูกแจ้งความดำเนินคดีไม่กี่วัน มีการนำเงินจากแหล่งต่างๆ ของบริษัทในเครือตระกูลภัทรประสิทธิ์คืนให้แก่ บงล.เจ้าพระยาทั้งหมด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้อัยการสั่งไม่ฟ้องในคดีดังกล่าว นักการเมืองอีกรายที่ใช้บริการ "คนรับใช้" คือ พูนผล อัศวเหม อดีต ส.ส.สมุทรปราการ ที่ให้คนรับใช้และพนักงานบริษัทถือหุ้นแทนใน 19 บริษัท มูลค่ากว่า 435 ล้านบาท จนถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า มีความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 295 ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองนาน 5 ปี ข่าวนี้ทำให้ทีมข่าวประชาชาติธุรกิจได้รับรางวัลข่าวสืบสวนสอบสวนยอดเยี่ยม ประจำปี 2546 แต่พฤติกรรมที่นักธุรกิจและนักการเมืองนำชื่อ "ขบวนการคนใช้" ไปแสวงหาผลประโยชน์มหาศาลที่ฮือฮาที่สุดในรอบ 10 ปี คงไม่มีใครเกินคดีซุกหุ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่นำหุ้นหลายสิบบริษัททั้งที่มิได้จดทะเบียนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยใส่ไว้ในชื่อคนรับใช้ คนขับรถ และยาม การนำชื่อคนรับใช้เหล่านี้มาถือหุ้นนั้น เริ่มในราวปี 2534-2535 จากการถือหุ้นจำนวนเล็กน้อย มูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเป็นกว่า 11,000 ล้านบาท ในปี 2537 ช่วง พ.ต.ท.ทักษิณ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย ชัยรัตน์ เชียงพฤกษ์ ยาม เป็นผู้ถือหุ้นมูลค่าสูงที่สุดคือ บริษัทชินวัตร คอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ (ต่อมาเปลี่ยนเป็นชินคอร์ป), แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) และ ยูไนเต็ด คอมมูนิเกชั่น อินดัสตรี (ยูคอม) มีมูลค่ารวมกัน 5,042 ล้านบาท ตามด้วย ดวงตา วงศ์ภักดี คนรับใช้ ถือหุ้นบริษัทชินวัตรมูลค่า 3,348 ล้านบาท และ บุญชู เหรียญประดับ ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในหมู่คนรับใช้ด้วยกัน ถือหุ้นชินวัตรและยูคอมรวมกัน 2,904 ล้านบาท มูลค่าที่ทั้งสามถือมีรวมกันมากกว่าตระกูล "โสภณพนิช-เจียรวนนท์" รวมกันเสียอีก !! นอกจากทั้งสามคนแล้ว วิชัย ช่างเหล็ก คนขับรถประจำตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทในตระกูลชินวัตรหลายบริษัท อาทิ บริษัท อินโฟลิงค์ จำกัด บริษัท เอสซี แอสเสท จำกัด รวมถึงบริษัท อัลไพน์กอล์ฟ แอนด์สปอร์ตคลับ จำกัด มากถึง 24.89 ล้านหุ้น การเอาชื่อคนรับใช้ถือหุ้นจำนวนมหาศาล ส่งผลให้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องเดินขึ้นศาลรัฐธรรมนูญในข้อหาแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 295 แต่รอดหวุดหวิดด้วยเสียง 8 : 7 กลายเป็นประวัติศาสตร์การเมืองหน้าสำคัญและเป็นบาดแผลที่ติดตัว พ.ต.ท.ทักษิณไป ตลอดชีวิตขณะที่ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาสุดที่รัก ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ปรับเป็นเงิน 6.4 ล้านบาท ในข้อหาไม่รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้นทุกๆ 5% ในระหว่างปี 2538-2542 แต่คุณหญิงอ้อยังโชคดีที่รอดข้อหาการใช้ข้อมูลภายใน (อินไซเดอร์)ในการซื้อขายหุ้น สรุปแล้วจากกรณีเชิดขบวนการคนรับใช้ จนถึงกรณีนอมินี กุหลาบแก้ว ตอกย้ำว่า ทักษิณและพวกพฤติกรรมไม่เคยเปลี่ยน ...!!! หน้า 37 http://www.matichon.co.th/prachachart/prachachart_detail.php?s_tag=02spe03310849&day=2006/08/31
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #37 เมื่อ: 31-08-2006, 09:52 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: 31-08-2006, 12:10 » |
|
จะคอยดูว่าจะหนีกระแสโลกได้นานแค่ไหน นโยบายของเราตอนนี้มี 2 แทร็กก็ยังดีกว่ามีแทร็กเดียว จะให้กระโดดลงจากแทร็กที่มี GDP เยอะเยอะทีเดียวมันจะคอหักตายนะเฮีย ค่อยค่อยปีนลงพอไหว
คุณ ชอบแถ หัวใจของคุณทำด้วยอะไร วันนี้พระราชา ผู้ปกครองประเทศปูตาน/ภูฐาน มีนโยบายบริหารประเทศอย่างนั้น เช่นเดียวกับพระราขดำริของในหลวงของเรา ซึ่งเป็นแนวทางที่ดี ทำให้พสกนิกรถ้วนหน้ามีความสุข พอเพียง..... ประเทศปูตาน/ภูฐานดำเนินกุศโลบายการบริหารประเทศ คำนึงถึงการดำรงชีวิตและประกอบสัมมาชีพอย่างผาสุกของพสกนิกรโดยไม่คำนึงถึง GDP เพื่อผลทางการเมืองและผลประโยชน์ส่วนตนเองและพรรคพวกร่วมลงทุนอย่างทักษิณ ไม่ต้องอยู่ในวังน้ำวนของทุนนิยมของนักธุรกิจการเมืองที่พยายามให้คนไทยละโมภ บริโภคอย่างมุม เพื่อสร้างGDP หรือสร้างความมั่งคั่ง ความร่ำรวยแก่พรรคพวก และ สร้างหนี้สินให้ครอบครัวไทย... ในฐานะคนของโลก ไม่ต้องการพลเมืองของโลกอยู่ในสภาพแบบนั้นหรือ ความสุขกระจุกคนในศูนย์อำนาจทักษิณ ความทุกข์กระจายทั่วหน้าพลเมืองไทย หรือ รวยกระจุกกลุ่มนักธุรกิจการเมืองของทักษิณ ความจนกระจายถ้วนพลเมืองไทย.... ผมอยากจะรู้ว่าคนรักทักษิณ รับใช้นักธุรกิจการเมืองอย่างทักษิณ ที่ปกป้องธุรกิจของครอบครัวและพรรคพวกร่วมลงทุนตั้งพรรคไทยรักไทยนั้น พอใจเศษเดนผลประโยชน์ตลอดไปหรือ นี่เฮียผมก็อยากมีชีวิตอุดมคติแบบเฮียว่านะ แต่ความเป็นจริงมันไม่เป็นอย่างนั้น ปัญหามันเกิดมาแล้ว จะแก้หรือจะไปแบบไหนมันก็ต้องใช้เวลา ถ้าเฮียแก่แล้วคงรู้นะว่ามันนานแต่ก็ต้องมีทางไปของมัน ไม่มีใครเค้าจะโลภ จะเป็นคนเลวเหมือนในละครไทยไปตลอดหรอกเฮีย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #39 เมื่อ: 31-08-2006, 12:26 » |
|
จะคอยดูว่าจะหนีกระแสโลกได้นานแค่ไหน นโยบายของเราตอนนี้มี 2 แทร็กก็ยังดีกว่ามีแทร็กเดียว จะให้กระโดดลงจากแทร็กที่มี GDP เยอะเยอะทีเดียวมันจะคอหักตายนะเฮีย ค่อยค่อยปีนลงพอไหว
คุณ ชอบแถ หัวใจของคุณทำด้วยอะไร วันนี้พระราชา ผู้ปกครองประเทศปูตาน/ภูฐาน มีนโยบายบริหารประเทศอย่างนั้น เช่นเดียวกับพระราขดำริของในหลวงของเรา ซึ่งเป็นแนวทางที่ดี ทำให้พสกนิกรถ้วนหน้ามีความสุข พอเพียง..... ประเทศปูตาน/ภูฐานดำเนินกุศโลบายการบริหารประเทศ คำนึงถึงการดำรงชีวิตและประกอบสัมมาชีพอย่างผาสุกของพสกนิกรโดยไม่คำนึงถึง GDP เพื่อผลทางการเมืองและผลประโยชน์ส่วนตนเองและพรรคพวกร่วมลงทุนอย่างทักษิณ ไม่ต้องอยู่ในวังน้ำวนของทุนนิยมของนักธุรกิจการเมืองที่พยายามให้คนไทยละโมภ บริโภคอย่างมุม เพื่อสร้างGDP หรือสร้างความมั่งคั่ง ความร่ำรวยแก่พรรคพวก และ สร้างหนี้สินให้ครอบครัวไทย... ในฐานะคนของโลก ไม่ต้องการพลเมืองของโลกอยู่ในสภาพแบบนั้นหรือ ความสุขกระจุกคนในศูนย์อำนาจทักษิณ ความทุกข์กระจายทั่วหน้าพลเมืองไทย หรือ รวยกระจุกกลุ่มนักธุรกิจการเมืองของทักษิณ ความจนกระจายถ้วนพลเมืองไทย.... ผมอยากจะรู้ว่าคนรักทักษิณ รับใช้นักธุรกิจการเมืองอย่างทักษิณ ที่ปกป้องธุรกิจของครอบครัวและพรรคพวกร่วมลงทุนตั้งพรรคไทยรักไทยนั้น พอใจเศษเดนผลประโยชน์ตลอดไปหรือ นี่เฮียผมก็อยากมีชีวิตอุดมคติแบบเฮียว่านะ แต่ความเป็นจริงมันไม่เป็นอย่างนั้น ปัญหามันเกิดมาแล้ว จะแก้หรือจะไปแบบไหนมันก็ต้องใช้เวลา ถ้าเฮียแก่แล้วคงรู้นะว่ามันนานแต่ก็ต้องมีทางไปของมัน ไม่มีใครเค้าจะโลภ จะเป็นคนเลวเหมือนในละครไทยไปตลอดหรอกเฮีย แต่พฤติกรรมที่นักธุรกิจและนักการเมืองนำชื่อ "ขบวนการคนใช้" ไปแสวงหาผลประโยชน์มหาศาลที่ฮือฮาที่สุดในรอบ 10 ปี คงไม่มีใครเกินคดีซุกหุ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่นำหุ้นหลายสิบบริษัททั้งที่มิได้จดทะเบียนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยใส่ไว้ในชื่อคนรับใช้ คนขับรถ และยาม การนำชื่อคนรับใช้เหล่านี้มาถือหุ้นนั้น เริ่มในราวปี 2534-2535 จากการถือหุ้นจำนวนเล็กน้อย มูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเป็นกว่า 11,000 ล้านบาท ในปี 2537 ช่วง พ.ต.ท.ทักษิณ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย ชัยรัตน์ เชียงพฤกษ์ ยาม เป็นผู้ถือหุ้นมูลค่าสูงที่สุดคือ บริษัทชินวัตร คอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ (ต่อมาเปลี่ยนเป็นชินคอร์ป), แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) และ ยูไนเต็ด คอมมูนิเกชั่น อินดัสตรี (ยูคอม) มีมูลค่ารวมกัน 5,042 ล้านบาท ตามด้วย ดวงตา วงศ์ภักดี คนรับใช้ ถือหุ้นบริษัทชินวัตรมูลค่า 3,348 ล้านบาท และ บุญชู เหรียญประดับ ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในหมู่คนรับใช้ด้วยกัน ถือหุ้นชินวัตรและยูคอมรวมกัน 2,904 ล้านบาท มูลค่าที่ทั้งสามถือมีรวมกันมากกว่าตระกูล "โสภณพนิช-เจียรวนนท์" รวมกันเสียอีก !! นอกจากทั้งสามคนแล้ว วิชัย ช่างเหล็ก คนขับรถประจำตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทในตระกูลชินวัตรหลายบริษัท อาทิ บริษัท อินโฟลิงค์ จำกัด บริษัท เอสซี แอสเสท จำกัด รวมถึงบริษัท อัลไพน์กอล์ฟ แอนด์สปอร์ตคลับ จำกัด มากถึง 24.89 ล้านหุ้น การเอาชื่อคนรับใช้ถือหุ้นจำนวนมหาศาล ส่งผลให้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องเดินขึ้นศาลรัฐธรรมนูญในข้อหาแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 295 แต่รอดหวุดหวิดด้วยเสียง 8 : 7 กลายเป็นประวัติศาสตร์การเมืองหน้าสำคัญและเป็นบาดแผลที่ติดตัว พ.ต.ท.ทักษิณไป ตลอดชีวิตขณะที่ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาสุดที่รัก ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ปรับเป็นเงิน 6.4 ล้านบาท ในข้อหาไม่รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้นทุกๆ 5% ในระหว่างปี 2538-2542 แต่คุณหญิงอ้อยังโชคดีที่รอดข้อหาการใช้ข้อมูลภายใน (อินไซเดอร์)ในการซื้อขายหุ้น สรุปแล้วจากกรณีเชิดขบวนการคนรับใช้ จนถึงกรณีนอมินี กุหลาบแก้ว ตอกย้ำว่า ทักษิณและพวกพฤติกรรมไม่เคยเปลี่ยน ...!!! หน้า 37 http://www.matichon.co.th/prachachart/prachachart_detail.php?s_tag=02spe03310849&day=2006/08/31[/quote] color=blue] สรุปแล้วจากกรณีเชิดขบวนการคนรับใช้ จนถึงกรณีนอมินี กุหลาบแก้ว ตอกย้ำว่า ทักษิณและพวกพฤติกรรมไม่เคยเปลี่ยน ...!!! [/color]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #40 เมื่อ: 31-08-2006, 16:21 » |
|
ตอนนั้นลูกแกยังเล็กอยู่ ก็ศาลว่างั้นผมก็ต้องเชื่อศาล สุจริตคาบเส้นก็ยังเป็นสุจริต อย่าว่าหัวใจผมทำด้วยอะไรอีกนะเฮีย ส่วนกรณีนอมินี่มันยังไม่ชัดว่ามีใครเอี่ยวบ้าง ต้องใช้เวลาหน่อย เฮียอย่าเพิ่งตัดสินเอง เอาเป็นว่าตอนนั้นศาลว่าสุจริตแบบค้าน สายตาเฮียแต่คราวนี้ยังไม่สรุป ข้อมูลมันก็เลยยังไม่พอให้ผมสรุปว่านายกทักษิณเลว แบบตัวโกงละครช่องเจ็ดนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพนกวินน้อยนักอ่าน
|
|
« ตอบ #41 เมื่อ: 03-09-2006, 06:50 » |
|
จีดีพี อ่ะ เกี่ยวอะไรกับบนดินใต้ดิน เพ้อเจ้อครับ คนอื่นทำธุรกิจกันหนักหนาสาหัส กัดฟันสร้างเนื้อสร้างตัว จนจีดีพีประเทศไทยขยับ กลายเป้นผลงาน ทักษิณคนเดียวซะงั้น พูดจาได้อุบาทว์ เอาดีเข้าทักษิณ เอาชั่วใส่คนอื่นมากๆ จำได้ว่าชอบแถ เชียร์ ให้ไอทีวีไม่ต้องจ่ายค่าสัมปทานเต็มเม็ดเต็มหน่วยนี่นา จะมาอ้างว่าเพื่อประเทศชาติอะไร๊ แค่ผลประโยชน์ชาติยังมองบิดเบือนได้ขนาดนั้น เอาเถอะครับ ขอให้ทักษิณโยนเศษกระดูกให้บ้างนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #42 เมื่อ: 03-09-2006, 09:05 » |
|
ไปอ่านนิยามของจีดีพีแล้วนั่งคิดใหม่ว่า บนดินเกี่ยวกับจีดีพีอย่างไร ไม่เข้าใจก็ให้มาถามใหม่ คิดมั่งนะครับไม่ใช่เป็นนักอ่านอย่างเดียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพนกวินน้อยนักอ่าน
|
|
« ตอบ #43 เมื่อ: 03-09-2006, 09:39 » |
|
ขอโทษนะครับ คุณเป็นบ้าอะไรครับ ค่าจีดีพี ที่มันมีมาก ส่วนนึงเพราะตัวเลขการลบกัน ของ ส่งออก-นำเข้า ประเทศเราส่งออกกระจายขนาดนี้ หรือว่าเราส่งออกหวยบนดินด้วยครับ? ผลผลิตมวลรวมประชาชาติ เกี่ยวกับหวยบนดิน ไปให้ใครเขาสวมเขามาล่ะครับ การใช้จ่ายภาครัฐ การลงทุนจากต่างประเทศ มีน้ำหนักน้อยกว่าหวยบนดินขนาดนั้นเลยเหรอครับ หรือจะบอกว่า ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของแต่ละคนที่ไปซื้อหวยบนดิน เป็นการสร้างผลผลิตอย่างหนึ่ง อย่ามั่วให้มันมากนักนะครับ แถไปเรื่อยๆ จะเป็นผลเสียต่อความน่าเชื่อถือของตนเองซะมากกว่าครับ พูดความจริงบ้างนะครับ อย่าเอาแต่บิดเบือน เพื่อเศษกระดูก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #44 เมื่อ: 03-09-2006, 20:54 » |
|
เป็นตัวอย่างของคนที่คิดไม่ทันรัฐบาลครับ เรื่อง GDP เป็นตัวหนึ่งที่ใช้เป็นตัวชี้วัดสำหรับ สร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ รัฐบาลพยายามทำให้ GDP มัน ขึ้นในอัตราที่มากกว่าปีที่แล้ว ดังนั้นไอ้สินค้าและบริการที่มีอยู่จริงแต่ไม่สามารถวัดได้เป็น GDP เพราะมันอยู่นอกระบบตลอด ไม่มีการบันทึกในเอกสารราชการ เช่น ขายของไม่มีใบ กำกับภาษี หวยใต้ดิน
ถ้าสามารถนำเข้าระบบได้ ก็จะเพิ่ม GDP ได้ทันทีโดยไม่ต้องทำอะไรมาก สังเกตจากรัฐบาล พยายามให้ธุรกิจเข้าระบบออกใบกำกับภาษีถูกต้อง ถึงกับต้องให้ผู้บริโภคสุดท้ายขอใบกำกับ ภาษีเพื่อนำไปชิงโชค คุณคิดว่าสิ่งที่อยู่นอกระบบ แล้วนำเข้ามาในระบบมันเป็นสัดส่วนนิดเดียว เทียบกับการส่งออกลบนำเข้าหรือครับ อ่านน้อยไปหรือเปล่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #45 เมื่อ: 03-09-2006, 21:59 » |
|
เป็นตัวอย่างของคนที่คิดไม่ทันรัฐบาลครับ เรื่อง GDP เป็นตัวหนึ่งที่ใช้เป็นตัวชี้วัดสำหรับ สร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ รัฐบาลพยายามทำให้ GDP มัน ขึ้นในอัตราที่มากกว่าปีที่แล้ว ดังนั้นไอ้สินค้าและบริการที่มีอยู่จริงแต่ไม่สามารถวัดได้เป็น GDP เพราะมันอยู่นอกระบบตลอด ไม่มีการบันทึกในเอกสารราชการ เช่น ขายของไม่มีใบ กำกับภาษี หวยใต้ดิน
ถ้าสามารถนำเข้าระบบได้ ก็จะเพิ่ม GDP ได้ทันทีโดยไม่ต้องทำอะไรมาก สังเกตจากรัฐบาล พยายามให้ธุรกิจเข้าระบบออกใบกำกับภาษีถูกต้อง ถึงกับต้องให้ผู้บริโภคสุดท้ายขอใบกำกับ ภาษีเพื่อนำไปชิงโชค คุณคิดว่าสิ่งที่อยู่นอกระบบ แล้วนำเข้ามาในระบบมันเป็นสัดส่วนนิดเดียว เทียบกับการส่งออกลบนำเข้าหรือครับ อ่านน้อยไปหรือเปล่า
ถ้านำค่านายหน้าจากพ่อค้าแม่ค้าที่ติดต่อค้าขายกับโครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ เข้าในระบอบ เชื่อว่า GDP ของประเทศไทยจะโต จะเพิ่มขึ้นอีก.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #46 เมื่อ: 03-09-2006, 22:15 » |
|
joint กำไรมาก เสียภาษีมาก แต่เงินกำไรเข้าผู้ลงทุนต่างชาติมากกว่า joint กำไรน้อย เสียภาษีน้อย เงินกำไรไปผู้ลงทุนต่างชาติก็น้อยลง ถ้ามีบริษัทมารับงานกับ joint เป็นบริษัทไทย กำไรก็จะแบ่งไปตก กับบริษัทนั้น บริษัทนั้นก็เสียภาษีแทน แต่เงินกำไรยังอยู่ในไทย
บริษัทรับเหมาถ้าเค้าจ่ายค่านายหน้าหรือไม่ก็ค่าฮั้ว โดยไม่ลงบัญชี กำไรก็จะบานเบิก เค้ามีวิธีอยู่แล้วครับ ไม่ต้องห่วง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #47 เมื่อ: 04-09-2006, 01:37 » |
|
นายเกียรติ สิทธิอมร ประธานคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำหนังสือของพรรคประชาธิปัตย์ลงนามโย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคถึง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รักษาการรองนายกฯและรักษาการ รมว.พาณิชย์ เรื่องการสอบสวนการกระทำผิดตาม พรบ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พศ.2542 ไปยื่นที่กระทรวงพาณิชย์ โดยมี ปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นตัวแทนรับหนังสือ กรณีใช้บริษัทตัวแทนต่างด้าวหรือนอมินีซื้อหุ้นชินคอร์ป...
นายเกียรติ ได้ชี้แจงว่าการอ้างว่าการตรวจสอบกรณีกุหลาบแก้วครั้งนี้ จะทำให้เกิดการสับสนการลงทุนของต่างชาตินั้น ตนขอยืนว่าเป็นคนละกรณีกัน การตรวจสอบครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทต่างชาติอื่น ดังนั้นกระทรวงพาณิชย์จึงควรจะเปิดเผยข้อมูล และดำเนินการตามกฏหมายโดยเร็ว
นายเกียรติ ยังกล่าวอีกว่า ในฐานะที่เคยทำงาน และเกี่ยวข้องกับกฏหมายฉบับนี้เห็นว่าประเทศอื่นๆ กว่า 20 ประเทศ ไม่มีประเทศใดกำหนดนิยามคำว่า"นอมินี" และในฐานะที่เคยเป็นนักธุรกิจอยู่ในแวดวงธุรกิจ ก็ไม่เคยเห็นว่าบริษัทใดที่ถือหุ้น 51 % แต่ยอมรับส่วนแบ่งแค่ 3%.....
ส่วนการสอบที่มาของเงินลงทุนก็ทำได้ไม่ยาก แค่ให้กรมสรรพากรไปตรวจสอบดูว่าเงิน 2,700ล้านบาท ที่มีการโอนเข้ามานั้นมีการเสียภาษีถูกต้องหรือไม่หรือ หากจะบอกว่าเสียภาษีในต่างประเทศแล้ว ก็ไปตรวจดูว่าประเทศนั้น ๆ มีสนธิภาษีซ้อนกับไทยหรือไม่ ตรวจกันได้ง่าย....
คัดลอกจากกรุงเทพธุรกิจ วันเสาร์ 2 กันยายน...
ผมก็ไม่เคยเห็นหรือคิดว่า บริษัทใดที่ผู้ถือหุ้น 51 % แต่ยอมรับส่วนแบ่งแค่ 3% และยอมถูกจำกัดสิทธิต่าง ๆ รวมทั้งการทำสัญญา ตกลงใดไม่ได้ เว้นแต่ได้รับการยินยอมจากผู้ถือหุ้นรายเล็ก......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #48 เมื่อ: 04-09-2006, 01:53 » |
|
นายยรรยง รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ชักเข้า ชักออกขอความช่วยเหลือจากธนาคารแห่งประเทศไทย..... นายยรรยง บอกว่า "เดิมนั้นตนจะขอความร่วมมือแบงค์ชาติในเรื่องตรวจสอบการชำระค่าหุ้นและหากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการปกปิดข้อมูลการซื้อหุ้นหรือข้อมูลลูกค้าซึ่งธนาคารต้องปิดเป็นความลับ และธนาคารบางแห่งไม่เต็มใจจะเปิดเผย ก็จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากธนาคารแห่งประเทศไทย แต่เมื่อดูข้อมูลที่มีอยู่พบว่าไม่มีธนาคารใด ไม่เต็มใจให้ความร่วมมือแม้แต่ธนาคารเดียว..." เมื่อเห็นว่าข้อมูลที่มีความชัดเจนก็เลยไม่ได้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการไปขอข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย แต่ฝากบอกเพื่อนที่รู้จัก มรว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าฯ ธนาคารแห่งประเทศไทยว่า อาจจะต้องขอความช่วยเหลือในกรณีพิเศษบางกรณีที่ต้องการข้อมูล จะขอข้อมูลอย่างนี้อีกในอนาคต... นายยรรยงที่ถูกสังคมมองว่า พยายามประวิงเวลา ผลัดผ่อนการวินิจฉัยกรณีบริษัทกุหลาบแก้ว ทั้งที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้วินิจฉัยแล้วว่า บริษัทกุหลาบแก้วเป็น นอมินี/ไทยเทียมแล้ว ครั้งต่อไปนายยรรยงแสร้งกลัวไม่ได้รับความร่วมมือจากธนาคารใด ก็ขอความร่วมมือจาก ปปง. ก็ได้ครับ.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2006, 01:55 โดย ปุถุชน »
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
ตาย่าน
|
|
« ตอบ #49 เมื่อ: 04-09-2006, 02:05 » |
|
เป็นตัวอย่างของคนที่คิดไม่ทันรัฐบาลครับ เรื่อง GDP เป็นตัวหนึ่งที่ใช้เป็นตัวชี้วัดสำหรับ สร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ รัฐบาลพยายามทำให้ GDP มัน ขึ้นในอัตราที่มากกว่าปีที่แล้ว ดังนั้นไอ้สินค้าและบริการที่มีอยู่จริงแต่ไม่สามารถวัดได้เป็น GDP เพราะมันอยู่นอกระบบตลอด ไม่มีการบันทึกในเอกสารราชการ เช่น ขายของไม่มีใบ กำกับภาษี หวยใต้ดิน
ถ้าสามารถนำเข้าระบบได้ ก็จะเพิ่ม GDP ได้ทันทีโดยไม่ต้องทำอะไรมาก สังเกตจากรัฐบาล พยายามให้ธุรกิจเข้าระบบออกใบกำกับภาษีถูกต้อง ถึงกับต้องให้ผู้บริโภคสุดท้ายขอใบกำกับ ภาษีเพื่อนำไปชิงโชค คุณคิดว่าสิ่งที่อยู่นอกระบบ แล้วนำเข้ามาในระบบมันเป็นสัดส่วนนิดเดียว เทียบกับการส่งออกลบนำเข้าหรือครับ อ่านน้อยไปหรือเปล่า
ต้องเอาเงินไปหว่านรากหญ้า ก็เลยต้องการรายได้เพิ่ม อันนี้เข้าใจ การรณรงค์เกี่ยวกับใบกำกับภาษีเป็นสิ่งที่ดี เห็นด้วย แต่ที่ตะกละอยากได้ตังค์เพิ่ม อยากเร่ง GDP ให้สูงๆโดยการยอมให้เอาหวยขึ้นมาบนดิน อันนี้ทุเรศ เหมือนสมภารจนปัญญาที่จะสั่งสอนให้ศิษย์วัดเลิกกินเหล้า เลยตัดสินใจขายเหล้าแม่งซะเอง เงินทองจะได้ไม่รั่วไหลออกนอกวัด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|