เดี๋ยวเรื่องนี้จะซา เพราะระเบิด เลยเอาข่าวเพิ่มเติมมาให้อ่านกันครับ
จาก clip นี้
http://www.4shared.com/file/3204698/33e5c2f/central_world_-_police_bitch.html----------------------------------------------------------------------------------
ศูนย์ข่าวภาคอีสาน รายงาน
เปิดฉากหลัง "โอ๋สืบ 6"ผู้สั่งการ"3กุ๊ย"ล็อกคอชายชรากลุ่มไล่"แม้ว"หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ เผยสัมพันธ์ใกล้ชิด"เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์" หนุนส่งจนได้ดิบได้ดี จาก ผกก.สภอ.สูงเนิน เข้ามาเป็น"ผกก.สส.น.6" ระบุขณะกินตำแหน่งที่โคราช เป็นนายตำรวจจอมสร้างภาพ ขยันแถลงข่าว แถมเชี่ยวชาญกลยุทธมัดใจสื่อมวลชน
พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ เทพจันดา ผู้กำกับการ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 6 (ผกก.สส.บก.น. 6) หรือ “เดอะโอ๋” ของผองเพื่อนกลายเป็นนายตำรวจที่ถูกตั้งคำถามจากสังคมมากที่สุดในขณะนี้ หลังจากโทรทัศน์เผยแพร่ภาพเหตุการณ์กลุ่มอันธพาลจัดตั้งรุมสกรัมประชาชน โดยมี “ผู้กำกับโอ๋” คนนี้คอยยืนสั่งการในที่เกิดเหตุและพูดคุยสนิทสนมกับชายฉกรรจ์อย่างน้อย 3 คน ที่เข้าล็อกคอ กระชาก ทุบ ชกต่อยทำร้ายประชาชนอย่างป่าเถื่อนและไม่เกรงกลัวกฎหมาย ที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ เมื่อ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ นักเรียนนายร้อยตำรวจ น.บ.,รบ.รุ่น 15 เข้าฝึกในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ปี 2528 โดยมี ร.ต.อ.นิติภูมิ นวรัตน์ เป็นประธานรุ่น ปัจจุบันถือได้ว่าเป็นนายตำรวจดาวรุ่งของรุ่นอีกคนที่ได้ดิบได้ดี เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมรุ่นคนอื่นๆ เช่น พ.ต.อ.จำนงค์ รัตนกุล รองผบก.จว.ชลบุรี,พ.ต.อ.นิทัศน์ ลิ้มศิริพันธ์ รองผบก.ทพ.,พ.ต.อ.นิพนธ์ เจริญผล ผกก.บก.จราจร และ ตัวเขาที่ดำรงตำแหน่ง “ ผกก.สส.บก.น. 6”
ในวงการรู้กันดีว่า “พ.ต.อ.ฤทธิรงค์” เป็นนายตำรวจในสายของ “พล.ต.อ.บุญเพ็ญ บำเพ็ญบุญ” อดีต รอง ผบ.ตร. และเคยมาดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ที่โคราช ซึ่งได้ติดสอยห้อยตามกันมาตลอดจนถูกมองว่าได้ดีเพราะเดินตาม “นาย” และ “พล.ต.อ.บุญเพ็ญ” เพิ่งเกษียณอายุราชการไปเมื่อ ต.ค. 2548 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามอีกด้านหนึ่ง “ผู้กำกับโอ๋” ยังมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ “พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์” รองผบ.ตร. ว่ากันว่ามีส่วนอย่างมากกับการผลักดันหนุนส่งสู่ตำแหน่ง “ผกก.สส.บก.น.6” ในปัจจุบัน
เดิมที พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ รับตำแหน่งผกก. อยู่ที่ สภ.อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ระหว่างปี 2546-2547 จัดได้ว่าเป็น “ผู้กำกับ” ที่เล่นได้ทั้งบทบู๊และบุ๋น และขยันสร้างภาพเป็นจอมแถลงข่าวตัวยงไม่ว่าคดีเล็กน้อยหรือคดีใหญ่เขาจะตั้งโต๊ะแถลงข่าวกับสื่อมวลชนอยู่ตลอดเวลา พร้อมมีวิธีดึงดูดนักข่าวหลายรูปแบบนับตั้งแต่ เลี้ยงดูปูเสื่ออย่างเต็มที่ ให้คูปองเติมน้ำมันรถยนต์ ไปจนถึงซองปัจจัยและอื่น ๆ
ในคราวดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.อ.สูงเนิน เห็นทีจะเป็นเพราะผลงานโดดเด่นด้านปราบปรามอาชญากรรม-ยาเสพติดในยุค “ฆ่าตัดตอน” ของรัฐบาลทักษิณที่ฉาวโฉ่ไปทั่วโลก ประกอบกับการยืดทรัพย์สินผู้ค้ายาเสพติดต่างๆ เช่น กรณียืดทรัพย์ขายทอดตลาดรายใหญ่ของเครือข่าย “สุภาพ สีแดง"หรือ “ภาพ 70 ไร่” ที่พี่ชาย คือ “สมนึก สีแดง” ขนเงินมาสร้างคฤหาสน์สุดหรูกลางฟาร์มเกษตรขนาดใหญ่กว่า 92 ไร่ ในเขตรอยต่อ อ.สูงเนิน-ปักธงชัย จึงได้ส่งอานิสงส์ให้เขามีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วด้วยการกระโดดข้ามไปรับตำแหน่ง ผกก.สสส.บก.น. 6 ในปี 2548
ด้านสายสัมพันธ์ทางครอบครัว ซึ่งมีส่วนสำคัญผลักดันหนุนเสริมต่อตำแหน่งหน้าที่การงาน นั้น พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ แม้พื้นเพเป็นคนเพชรบูรณ์แต่เป็น “เขยโคราช” ของจริง โดยพ่อตา-แม่ยายเป็นนักการเมืองท้องถิ่นคนโตแห่งเมืองย่าโม ผูกขาดยึดครองเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา หลายสมัย คือ “นายบวร ศรีวิไลลักษณ์” อดีตนายกเทศมนตรีฯ 2 สมัย ระหว่าง 9 ก.พ. 2539 - 25 มิ.ย.2539, 24 ต.ค. 2540-9 ก.พ. 2543 และแม่ยาย คือ “นางชูศรี ศรีวิไลลักษณ์” อดีตนายกเทศมนตรีฯ ระหว่าง 25 ก.ย. 2535- 8 ก.พ. 2539
หากจำกันได้ ในยุคที่กลุ่มนายบวร บริหารเทศบาลฯ นั้นเป็นช่วงการดำเนินโครงการก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย ระยะ ที่ 1 (ปี 2540-2545 ) มูลค่า 580 ล้านบาท อันอื้อฉาว ของเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งเป็นนวัตกรรมโคตรโกงต่อเนื่องจากโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน 2 หมื่นล้าน จ.สมุทรปราการ
ทั้งนี้บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียโคราชระยะ ที่ 1 ก็คือบริษัทเดียวกับที่ได้รับประมูลก่อสร้างระยะที่ 2 มูลค่า 748 ล้านบาท ที่กำลังเร่งก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ ( 2548-2551) คือ บริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งผู้บริหารขณะนั้นคือ “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” ผู้ซึ่งเป็นนายทุนใหญ่สำคัญของ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นักการเมืองใหญ่เมืองโคราชแห่งพรรคชาติพัฒนา และนายสุวัจน์ เป็นคนผลักดันงบประมาณโครงการดังกล่าวลงมาด้วยตัวเอง เรียกได้ว่า “ชงเองกินเอง” ผ่านทาง“นอมินี” ชิโน-ไทยฯ
ก่อนที่ต่อมา นายอนุทิน จะแยกตัวออกมาเล่นการเมืองเอง ในพรรคไทยรักไทย (ทรท.) และรับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในปัจจุบัน
ส่วน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เมื่อครั้งเป็นหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ที่ประกาศว่าจะ “ยึดโคราชเป็นเรือนตาย” ได้กลับคำยุบทิ้งพรรคชาติพัฒนามารวมกับพรรคไทยรักไทย ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในที่สุด
จะเห็นได้ว่าทั้งตำรวจ และนักการเมืองในบริวารของระบอบทักษิณ นั้นล้วนเกี่ยวข้อง มีส่วนได้เสียในผลประโยชน์ต่างตอบพัวพันกันไปหมด ไม่ว่าเราจะแตะตรงไหนกรณีใดจะเห็นรูปแบบเช่นนี้เต็มไปหมด
แล้วประชาชนลูกชาวบ้านทั่วไป ที่ไม่มีเส้นสายเกาะเกี่ยวกับกลุ่มอำนาจใดในระบอบทักษิณอันชั่วร้ายนี้ จะมีสิทธิ์ลืมตาอ้าปากในบ้านนี้เมืองนี้ได้หรือ ตราบใดที่ยังปล่อยให้ผู้นำเลวๆ ขาดคุณธรรม จริยธรรมปกครองแผ่นนี้อยู่ต่อไป
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9490000107911