จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจาก พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ว่าจะตัดสินใจอย่างไรกับอนาคตทางการเมืองของตนเอง เพราะในขณะที่ปากบอกว่าคิดจะเว้นวรรค แต่เมื่อได้สัมผัสกับประชาชนในต่างจังหวัดโดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ก็มีความรู้สึกว่าไม่อยากปฏิเสธความหวังดีของประชาชนที่อยากให้ตนอยู่ต่อเพื่อช่วยเหลือพวกเขาต่อไป ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้เกิดความคลุมเครือ แม้จะไม่ถึงกับทำให้พรรคไทยรักไทยระส่ำระสาย แต่ก็เกิดความลังเล หลายคนที่เคยเป็น ส.ส.พื้นที่คิดขยับขยายขอลงในระบบบัญชีรายชื่อพรรคแทน
ล่าสุดขณะลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนในภาคเหนือ พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่แสดงความชัดเจนออกมาให้ปรากฏ โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ สอบถามเรื่องนี้ว่า อย่าเพิ่งรู้เลย ยังไม่ถึงเวลาอยากรู้ไปทำไม ตนเองยังอยากรู้ตัวเองเหมือนกัน กำลังค้นหาตัวเองอยู่ ทำสำรวจอยู่ และเมื่อถามว่าปัจจัยหลักในการตัดสินใจอนาคตทางการเมืองคืออะไร พ.ต.ท.ทักษิณก็ตอบว่า เป็นเรื่องของประเทศชาติ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ถ้าประเทศชาติจะได้ประโยชน์จากตนก็พร้อมจะทำทันที แต่ถ้าคิดว่าไม่ได้ประโยชน์ และมีคนอื่นทำหน้าที่ได้เหมือนกันหรือดีกว่า ตนก็จะไม่ขอเป็น เพราะเหนื่อยมามากแล้ว พร้อมทั้งบอกว่าสมาชิกพรรครู้ความชัดเจนของตนเองแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผลจากความไม่ชัดเจนของ พ.ต.ท. ทักษิณ บวกกับสถานการณ์การเมืองที่มีกระแสต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณสูง จึงทำให้สมาชิกพรรคระดับแกนนำเกิดความลังเลขึ้นมาด้วย อย่างน้อยที่สุดที่แสดงตัวออกมาคือนายพินิจ จารุสมบัติ ที่ประกาศขอเว้นวรรคไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรีอีก หากพรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง โดยจะขอหลีกทางให้นักการเมืองรุ่นน้อง แล้วตัวเองอยู่ห่างคอยทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาเท่านั้น อาจจะยังมีคนอื่น ๆ อีกแต่ยังไม่พร้อมจะเปิดเผยตัวในขณะนี้ ดังเช่น ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ซึ่งนายพินิจออกมาระบุว่าจะขอเว้นวรรคด้วย แต่ภายหลังนายพินิจได้ออกมาขอโทษที่ออกมาพูดแทนทั้งที่เจ้าตัวยังสงวนท่าที
การที่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่แสดงความชัดเจนออกมา ผู้อยู่ในแวดวงการเมืองมองว่าเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ
ไม่ต้องการให้เกิดความระส่ำระสายในพรรคไทยรักไทย หากบอกเว้นวรรคตั้งแต่ตอนนี้พรรคไทยรักไทยอาจแตกได้ แม้ในที่สุด พ.ต.ท.ทักษิณจำเป็นต้องเว้นวรรค แต่ก็ยังต้องการให้พรรคไทยรักไทยอยู่เป็นรัฐบาลบริหารประเทศต่อโดยตนเองอยู่ข้างหลัง เพราะหากฝ่ายอื่นมาเป็นรัฐบาลก็ไม่แน่ใจว่าจะถูกคิดบัญชีย้อนหลังหรือไม่ เนื่องจากโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลที่ผ่านมาถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่โปร่งใส มีการทุจริตคอร์รัปชันที่รอการสะสางอยู่มาก.
http://www.dailynews.co.th/dailynews/pages/front_th/popup_news/Default.aspx?ColumnId=26504&NewsType=2&Template=1
