....ศีลธรรม เพียงคำเดียว.... สามารถแก้วิกฤตการเมืองได้ ...จริงมั๊ย

[คำตัดพ้อของใบไม้]

...  ได้ไปอ่านเจอบทความนี้ในมติชน ...มีความรู้สึกว่า
เขากล่าวได้ตรงประเด็นของปัญหาในปัจจุบันทีเดียว
หัวใจของปัญหา  อยู่ที่ศีลธรรมของคน  ศีลธรรมของ
ผู้ปฏิบัติ แทบทั้งนั้น  มิว่าจะเป็นผู้นำของประเทศ
นักการเมือง  ประชาชนทั่วไป .....ทุกคนต้องยึดหลัก
ของศีลธรรมมาสร้างความเที่ยงธรรม  ความชอบธรรม
ให้เกิดขึ้นในประเทศให้ได้  ไม่ต้องคิดหลบเลี่ยง  หรือ
หลบคำนี้ไปเลย  เพราะในธรรมชาติที่แท้จริง  ตั้งแต่เรา
ลืมตาตื่นนอน  จนกระทั่งเข้านอนในเวลากลางคืน  มิว่า
จะ  นั่ง  จะยืน  จะเดิน จะทำงาน  จะขับรถ  จะประชุม
จะเจรจากับลูกค้า  จะปะทะสัมพันธ์กับคนในสังคม  คน
รอบข้าง  คนในครอบครัว  เราต่างก็ต้องใช้หลักศีลธรรม
แทบทั้งสิ้น  เพียงแต่ว่าเราแต่ละคนจะเข้าใจ  จะนำคำว่า
ศีลธรรม  คำนี้มาใช้มากน้อยแค่ไหน  ตามความเข้าใจ
ของแต่ละคนที่ไม่เท่ากันเท่านั้นเอง .....

   พูดตรงๆ  ขอฟันธง   ว่า  ตราบใด...ที่เรายังไม่ยอมรับ
คำว่า ... ศีลธรรม  ว่าเป็นหัวใจของสิ่งทั้งปวง  การเมืองเมือง
ไทยก็วนเวียน  เวียนว่ายตายเกิดอยู่ที่  ผลประโยชน์  อำนาจ
ชิงไหวชิงพริบ กันเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง  อำนาจ
เงินตรา   เช่นนี้ตลอดไป

....และผลสุดท้าย  คนที่เสียคือใครถ้ามิใช่ประชาชน.ในประเทศ
 ....  เมื่อไหร่ล่ะ  เราประชาชนชาวไทยจะตื่นตัวเรื่อง ...  ศีลธรรม
สักที ....

   ถามหน่อย ... ถ้าไม่เอา  ศีลธรรม ...มาแก้ปัญหาทั้งปวง
แล้วจะเอาอะไรมาแก้ไข  ...ช่วยตอบหน่อย....


**********************************************


   คำถามหนึ่งซึ่งไม่เคยมีคำตอบ ไม่ว่าจากรัฐบาลคณะไหนก็คือ ......จะพัฒนาเศรษฐกิจให้ก้าวหน้าไปขนาดไหน ทำไม หากความร่ำรวยไปตกอยู่ที่คนหยิบมือเดียว ทิ้งให้สังคมที่เหลือเต็มไปด้วยปัญหา ตั้งแต่ประเด็น

.... อาชญากรรมที่แพร่ขยายรูปแบบร้ายแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงเรื่องศีลธรรมที่เสื่อมทรามลง กระทั่งประชาชนประสบแต่สิ่งเลวร้ายเป็นข่าวประจำวันอยู่ตลอดเวลา สังคมแบบนี้จะมีอยู่เพื่ออะไร จะมีอยู่ทำไม และจะมีอยู่ให้บรรดานักเลือกตั้งแต่ละคณะรัฐบาล แสวงประโยชน์ไปอีกนานขนาดไหน......


 หากประชาชนไม่ช่วยกันแสดงปฏิกิริยาทุกๆ ด้านออกมาให้สังคมรับรู้ร่วมกันว่า ทนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ในการผลักดันให้เกิดรัฐบาลที่บริหารประเทศเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนจริงๆ


    เราชาวบ้านประชาชนทั้งหลายจะอยู่นิ่งเฉยได้อย่างไร เมื่อโรงเรียนที่เราส่งลูกหลานเด็กทารกไปเรียนหนังสือ ไม่อาจรู้ได้ว่า เป็นโรงเรียนที่มีอาชญากรหื่นกามในคราบครูแฝงอยู่หรือเปล่า

   อาชญากรซึ่งแน่นอนว่าไม่มีศีลธรรมจรรยากำกับจิตใจแล้ว ที่สามารถขืนใจได้กระทั่งทารก 7-8 ขวบ ยังอาจมีพรรคพวกคอยสนับสนุนให้พ้นผิดเสียอีกด้วย ในยุคที่รัฐบาลเองไม่ตอบปัญหาศีลธรรมนี้ แม้จนวัดที่เราเข้าไปกราบไหว้รำลึกคุณพระรัตนตรัย ก็อาจมีกาฝากผ้าเหลืองแฝงตัวกินนอนเสพกามอยู่ครึกครื้น ความเสื่อมทรามของปัญหาสังคมเหล่านี้ ที่ตัวแทนจริยธรรมซึ่งคนกราบไหว้สองประเภทมาเป็นเสียเอง ไม่เคยเห็นมีความเคลื่อนไหวใดๆ จากรัฐบาลไหน ว่า.... เป็นสัญญาณความล่มสลายของสังคมที่ต้องแก้ไข
.......

[คำตัดพ้อของใบไม้]

 นอกจากไม่คิดแก้ไขปัญหาสังคมซึ่งหมักหมมมากเข้าทุกทีแล้ว

   ...รัฐบาลปัจจุบันที่ไม่ตอบปัญหาจริยธรรม ยังไม่เคยสนใจราก
เหง้าของปัญหาที่มาจากหลายๆ สาเหตุ นอกจากความรุนแรงที่พยา
ยามใช้กำจัดปัญหายาเสพติด ซึ่งดูเป็นการหาเสียงเสียยิ่งกว่าการคิด
ตอบโต้ทั้งป้องกันและปราบปรามปัญหาอย่างต่อเนื่อง





   ความไม่จริงใจต่อปัญหาสังคมอันเป็นปัญหาที่แท้ ที่ประชาชนทุก
คนประสบอยู่เป็นประจำวันนี้ เห็นได้ชัดเจนว่าการพัฒนาเศรษฐกิจที่
ใช้หาเสียงนั้น แท้แล้วก็คือ ...


  ..การแสวงประโยชน์ทั้งทางตรงทางอ้อม ที่บรรดานายทุนนักธุร
กิจซึ่งเข้าสู่ศูนย์อำนาจบริหารทั้งหลาย กระทำไปเพื่อตัวเองทั้งสิ้น เงิน
งบประมาณแผ่นดินที่ดูเหมือนทำงาน ที่หว่านไปทั้งหมดก็เพื่อหาเสียง
ให้อยู่แสวงประโยชน์ได้ยาวนานเท่านั้นเอง ..

[คำตัดพ้อของใบไม้]

เราชาวบ้านประชาชนต้อง...

เรียกร้องนโยบายที่ชัดเจนในการสะสาง
ปัญหาสังคม และต้องติดตามตรวจสอบการ
ทำงานของรัฐบาลให้ได้ หากรัฐบาลใดก็ตาม
คอยหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ หรือแทรกแซง
การตรวจสอบ ก็ต้องตอบโต้รัฐบาลดังกล่าว
ด้วยการประท้วงตามสิทธิให้รับรู้ให้ได้ อย่ายอม
ให้นักเลือกตั้งเหล่านั้นหลบเลี่ยง...

 หลังจากกอบโกยเอาทรัพยากรแผ่นดินที่
เป็นของประชาชนไปซึ่งๆ หน้าแล้ว เราชาว
บ้านต้องเรียนรู้กันเสียทีว่า

 เงินเรานั่นเองที่ถูกใช้หว่านเพื่อซื้อเสียงในรูปแบบ
ต่างๆ มิใช่เงินของนักเลือกตั้งที่เข้ามากอบโกยเลย
 การเห็นแก่เงิน 500 บาท 1,000 บาท กับการยก
แผ่นดินให้นักเลือกตั้งเสวยสุข เป็นเรื่องที่หากเรียน
รู้ไม่ได้เร็วแล้ว ฝ่ายที่ตกทุกข์ก็คือพวกเราทั้งหลาย
เองมิใช่ผู้ใดอื่น ขณะที่ปล่อยให้กากเดนการเมือง
เหล่านั้นลอยนวลไปแล้ว

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01edi01190849&day=2006/08/19

[Coolly_Jade]

ง่า...ขอค้านนิดนะครับ
เพราะผมมองว่าลำพังศีลธรรมอย่างเดียว ไม่ใช่แน่ๆครับ
นอกจากศีลธรรมแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การมองถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติครับ

แต่ถ้าโดยพื้นฐานที่เป็นปัจเจกบุคคลแล้ว ศีลธรรมสมควรเป็นตัวนำในการดำรงค์ชีวิต
และเมื่อถึงส่วนรวมแล้ว แค่ศีลธรรมไม่พอครับ
โดยเฉพาะในยุคนี้ด้วยแล้ว ประเทศชาติต้องมาก่อน ไม่งั้นก็เตรียมมีชาติแต่เพียงในบัตรประชาชนเท่านั้นแหละ
มีชาติไทยหลอกๆบนแผนที่ หลอกๆในความรุ้สึกของคนไทย แต่วัฒนธรรมถูกกลืนหาย
ตัวตนคนไทยถูกห่อหุ้มด้วยวัฒนธรรมต่างๆที่ไม่ใช่ของไทย แม้แต่ภาษาก็ผิดเพี้ยนไป
เอาไหมครับ

[พรรณชมพู]

ศีล คือข้อห้าม
ธรรม คือข้อปฎิบัติ

เมื่อมีศีลธรม ดำเนินทุกอย่างไปบนศีลธรรม ประเทศอยู่ได้ค่ะ

การนำพาประเทศชาติให้รอดปลอดภัยบนฐานของศีลธรรมนั้นทำได้ค่ะ  แต่มันอาจจะไม่สนองความต้องการของคนบางกลุ่มได้ คนโลภพวกนายทุน จะไม่ชอบซีลธรรม เพราะหากมีศีลธรรม เขาก็ไม่สามารถกดขี่แรงงาน คดโกงในการค้า เอาเปรียบโกงภาษีประเทศชาติ อย่างที่กำลังทำอยู่ได้

วัฒนธรรม ภาษา ย่อมเปลี่ยนไปตามยุคสมัยค่ะ  วัฒนธรรมสมัน สุโขทัย อยุธยา หรือรัตนโกสินทร์ตอนต้น ปัจจุบัญเราก็ไม่ได้รักษาไว้แล้ว ภาษาก็เช่นกัน แม้เพียงถอยหลังไปแค่รัชกาลที่ห้า ภาษาในยุคนั้นก็ต่างกับภาษาในยุคนี้  อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่มีอะไรยั่งยืนค่ะ ทุกอย่างเกิดแล้วดับ

แม่แต่พระพุทธศาสนาเอง ท่านก็ชี้ไว้แล้วว่า วันหนึ่งจะดับสิ้นไป ตามกฎ  ดังนั้นประเทศไทยของเรา ไม่ว่าจะรักษากันไว้ด้วยวิธีอะไร ในที่สุดก็ต้องหมดไปค่ะ

นำศีลธรรมกลับมา ทุกอย่างจะดีขึ้นเองค่ะ

[Coolly_Jade]

ศีลธรรมกับชาติเป็นเรื่องที่ดีครับ แต่การดำเนินนโยบายระหว่างประเทศเราจะยึดแต่ศีลธรรมไม่ได้
เราต้องมองผลประโยชน์ของชาติมาก่อน ยกตัวอย่างง่ายๆอย่างเจรจาสัญญาเปิดเสรีทางการค้า
เราต้องดูข้อได้เปรียบเสียเปรียบ และการไปลงทุนในนานาชาติ บางครั้งศีลธรรมก็สู้เสือสิงห์กระทิงแรดไม่ได้แน่ๆ
ยิ่งถ้าจะพูดถึงความมั่นคง ถ้าเรายึดแค่ศีลธรรม เราก็ต้องถามตัวเองด้วยครับ ว่าที่เป็นศีลธรรมของเรากับศีลธรรมของ
อีกฝ่ายหรืออีกหลายๆฝ่ายในโลกกลมๆใบนี้ เป็นศีลธรรมเดียวกันหรือไม่ ด้วยเหตุอย่างนี้คือที่ผมโยงประเด็นในส่วนเพื่อส่วนรวมด้วยครับ

[แนวสกา]

ศีลธรรม เพียงคำเดียว ไม่สามารถแก้วิกฤตการเมืองได้ แต่เป็นกรอบกำหนดทิศทาง

สำหรับการใช้องค์ประกอบอื่นเข้ามาช่วยส่งเสริมผลักดันในการแก้วิกฤต

[ภูพาน]

มุมมองผมสอดคล้องกับมุมมองของ จขกท. และคุณพรรณชมพู
เรื่องให้ ยึดหลักศีลธรรม เป็นหลัก....

เราต้องถามตัวเองว่าเราอยากให้ประเทศไทยเราพัฒนาไปแบบใด
เราอยากได้สังคมเงินตรา  หมุนเวียนเงินตรา บัตรเครดิตมากมาย
ใช้จ่ายกัน เกินบัญชี  แล้วจะใช้คืนให้ในอนาคต

หรือเราจะเลือก หลักศีลธรรมเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ
เราไม่รวยเงิน แต่เรารวยน้ำใจ  มีศิลปวัฒนธรรมที่งดงาม
กิน "อยู่อย่างพอเพียง" ในวิถีแห่งสันติสุข

เรื่องผลประโยชน์ชาติหรือการดำเนินนโยบายระหว่างประเทศ
ก็ต้องยึดศีลธรรมเหมือนกัน  คงไม่มีประเทศไหนเขาจะยอมคบ
กับประเทศที่คอยยึดแต่ประโยชน์ของประเทศตัวเองเป็นหลัก
โดยไม่คำนึงถึงศีลธรรม

ประเทศที่ร่ำรวยทรัพยากร  ช่วยประเทศที่ขาดแคลน
ประเทศที่ขาดแคลนทรัพยากร  แต่มีแรงงานมาก ก็ตอบแทนโดยใช้แรงงาน
ยึดหลักศีลธรรม  คิดถึงอกเขาอกเรา  ทุกคนรักชาติตัวเองเหมือนกัน
แต่อย่างไรก็ตามขอให้รัก "ความเป็นมนุษย์" ของทุกคนด้วย
โลกทั้งโลกก็จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขร่มเย็น

[p]

ศีลและธรรมเป็นสิ่งประเสริฐสุดครับ
ถ้าประพฤติและปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดและบริสุทธิ์ใจ
โลกทั้งโลกจะมีแต่ความสงบและสันติสุขครับ

 

[พรรณชมพู]

ศีลธรรมกับชาติเป็นเรื่องที่ดีครับ แต่การดำเนินนโยบายระหว่างประเทศเราจะยึดแต่ศีลธรรมไม่ได้
เราต้องมองผลประโยชน์ของชาติมาก่อน ยกตัวอย่างง่ายๆอย่างเจรจาสัญญาเปิดเสรีทางการค้า
เราต้องดูข้อได้เปรียบเสียเปรียบ และการไปลงทุนในนานาชาติ บางครั้งศีลธรรมก็สู้เสือสิงห์กระทิงแรดไม่ได้แน่ๆ
ยิ่งถ้าจะพูดถึงความมั่นคง ถ้าเรายึดแค่ศีลธรรม เราก็ต้องถามตัวเองด้วยครับ ว่าที่เป็นศีลธรรมของเรากับศีลธรรมของ
อีกฝ่ายหรืออีกหลายๆฝ่ายในโลกกลมๆใบนี้ เป็นศีลธรรมเดียวกันหรือไม่ ด้วยเหตุอย่างนี้คือที่ผมโยงประเด็นในส่วนเพื่อส่วนรวมด้วยครับ

ทำความเข้าใจกันก่อนนะคะ เราคุยกันในสาระ เหตุผล ไม่ได้มาหักล้างความเห็นกัน

การคบค้าสมาคมกับใครก็ตาม เราควรจะยึดหลักศีลธรรมค่ะ เราเจรจาเปิดเสรีทางการค้า เราก็ต้องมีหลักยึดมั่งในศีลธรรม เราต้องไม่หลอก ไม่เอาปรียบเขา และในขณะเดียวกันเราก็ต้องไมยอมให้เขาเอาเปรียบ ศีลธรรมไม่ได้สอนให้เราเสียเปรียบค่ะ หากการตกลงนั้นเดินอกนอกศีลธรรม เราก็ดึงกลับเข้ามาค่ะ จนกว่าจะตกลงกันได้บนพื้นฐานของศีลธรรม

ส่วนความแตกต่างระห่าง ศีล และ ธรรม ของแต่ละศาสนาหรือความเชื่อนั้น ยอมรับค่ะ เพราะมันแตกต่างกันจริงๆ ดังนั้นในส่วนที่ขัดกันจนตกลงปรองดองกันไม่ได้ ไม่ไม่ต้องไปคบค้ากันค่ะ ตัวอย่างเช่นถ้าประเทศของเราจะห้ามขายสุรา แต่ประเทศคู่ค้าอย่างสหรัฐเขาจะไม่คบค้ากับเราถ้าเราไม่ยอมให้นำสุรเข้ามาขาย เราพิจารณาแล้วเห็นว่า เราไม่ได้ผิดศีลธรรมของเรา ถ้าเขาจะไม่คบค้ากับเราเพราะเราไม่ตามใจเขา เราก็ต้องยอมรับค่ะ เลิกคบค้ากันไป แล้วเราก็รักษาศีลธรรมของเราไว้ได้ค่ะ

[Coolly_Jade]

กำ + + ไม่ได้ชวนทะเลาะง่ะ เพียงแต่ส่วนตัวผมเห็นว่าเพียงแค่ศีลธรรมยังไม่พอ
ถูกครับจะอยู่ร่วมกันในสังคมศีลธรรมถือเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวให้สามารถอยู่ร่วมกันได้
แต่เมื่อสังคมใหญ่ขึ้น ในความหมายนี้คือเมื่ออกไปสู่เวทีโลกซึ่งเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว
ผมจึงเห็นว่าแค่ศีลธรรมไม่น่าจะพอครับ ผมพอเข้าใจที่คุณพรรณว่ามาครับ
เพียงแต่ผมเห็นว่าถ้ามีศีลธรรมชนิดที่ยึดมั่นศีลจนไม่เห็นประโยชน์รวมก็ไม่ไหว
หรือเห็นแก่ศีลธรรมจนต้องเสียเปรียบนานาประเทศในภาวะต่างก็ชิงความได้เปรียบนี่ก็ไม่ไหว

ไม่ได้ชวนทะเลาะจริงน๊า-*- เพียงแค่เห็นว่าบางทีก็ไม่จำเป็นต้องยึดศีลธรรมสักเท่าไหร่จะว่าไปก็คล้ายๆ
The Prince ที่ผมว่ามานะครับ แนวทางใกล้เคียงแต่หลักไม่ใช่นะครับ

[stromman]

กำหนดสีตัวอักษร แทรกไป แทรกมา ทำไงครับ ทำไม่ได้เเลย

[คำตัดพ้อของใบไม้]

กำหนดสีตัวอักษร แทรกไป แทรกมา ทำไงครับ ทำไม่ได้เเลย

  ใช้เมาว์ลากคลุมตัวอักษรทุกตัว  แล้วไปคลิ๊กที่  ช่องคำว่า เปลี่ยนสี
ด้านขวามมือค่ะ  มีสีให้เลือกตามใจชอบจ๊ะ

[คำตัดพ้อของใบไม้]

กำ + + ไม่ได้ชวนทะเลาะง่ะ เพียงแต่ส่วนตัวผมเห็นว่าเพียงแค่ศีลธรรมยังไม่พอ
ถูกครับจะอยู่ร่วมกันในสังคมศีลธรรมถือเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวให้สามารถอยู่ร่วมกันได้
แต่เมื่อสังคมใหญ่ขึ้น ในความหมายนี้คือเมื่ออกไปสู่เวทีโลกซึ่งเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว
ผมจึงเห็นว่าแค่ศีลธรรมไม่น่าจะพอครับ ผมพอเข้าใจที่คุณพรรณว่ามาครับ
เพียงแต่ผมเห็นว่าถ้ามีศีลธรรมชนิดที่ยึดมั่นศีลจนไม่เห็นประโยชน์รวมก็ไม่ไหว
หรือเห็นแก่ศีลธรรมจนต้องเสียเปรียบนานาประเทศในภาวะต่างก็ชิงความได้เปรียบนี่ก็ไม่ไหว

ไม่ได้ชวนทะเลาะจริงน๊า-*- เพียงแค่เห็นว่าบางทีก็ไม่จำเป็นต้องยึดศีลธรรมสักเท่าไหร่จะว่าไปก็คล้ายๆ
The Prince ที่ผมว่ามานะครับ แนวทางใกล้เคียงแต่หลักไม่ใช่นะครับ

   เห็นด้วยกับน้องพรรณชมพู  นะคะ ....แม้จะเป็นเรื่องการ เมือง
การค้ากับต่างประเทศ  ก็มีความจำเป็นต้องใช้หลักศีลธรรมยึดถือ
ยกตัวอย่างนะคะ.....

...ในเรื่องการค้ากับต่างประเทศเมื่อการค้ากับต่างประเทศ  ถ้า
เรายึดความได้เปรียบไว้ก่อนก็ผิดหลักศีลธรรมแล้ว  ในขณะเดียวกัน
ก็ควรให้รู้เท่าทันโดยไม่เสียเปรียบเขา  ก็ถือว่า  มีวิชชา  มีปัญญา
ในเรื่องการค้าต่างประเทศแล้วนี่คะ.... ไม่มีอะไรเสียหาย  และไม่มี
อะไรที่ไปเอารัดเอา
เปรียบคนอื่นเขา

[อนัตตา (ไร้สี ไร้กลิ่น ไร้ฝ่าย)]

ทุกวิธีที่แก้ปัญหา


ถ้าไม่มีศีลธรรมประกอบ  แก้ไม่ได้ แก้ไม่สำเร็จ

[คำตัดพ้อของใบไม้]

ทุกวิธีที่แก้ปัญหา


ถ้าไม่มีศีลธรรมประกอบ  แก้ไม่ได้ แก้ไม่สำเร็จ

 ***  เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ   ...

[Coolly_Jade]

อ่าครับ เอาเป็นว่าเสียงส่วนใหญ่ว่าอย่างนั้น ผมก็คงต้องลองทบทวนความคิดผมหน่อยซะแล้ว
ว่ามีอะไรผิดปกติกะชาวบ้านเขาป่าว -*-

ขอผมทบทวนความคิดหน่อยละกันครับ อิอิ

[ฮอยล้อ]

 ม่ายใช่แก้วิกฤติบ้านเมืองนะครับ     .....ถ้าทุกคนในโลก ยึดถือและปฏิบัตการอย่างจริงจัง    .....โลกนี้จะสงบร่มเย็น   ไม่ต้องมีกฏหมาย   ตำรวจ  ทหาร  หรือ หน่วยงานด้านความปลอดภัย....โลกนี้ก็อยู่ได้  ถ้าทุกคน....ข้อย้ำ  ทุกคน  ยึดมั่นในศีลธรรม  จริธรรม  เหมือนกันหมด

[คำตัดพ้อของใบไม้]

 ม่ายใช่แก้วิกฤติบ้านเมืองนะครับ     .....ถ้าทุกคนในโลก ยึดถือและปฏิบัตการอย่างจริงจัง    .....โลกนี้จะสงบร่มเย็น   ไม่ต้องมีกฏหมาย   ตำรวจ  ทหาร  หรือ หน่วยงานด้านความปลอดภัย....โลกนี้ก็อยู่ได้  ถ้าทุกคน....ข้อย้ำ  ทุกคน  ยึดมั่นในศีลธรรม  จริธรรม  เหมือนกันหมด

  จ๊ะ  ขอบคุณมากค่ะ  ที่มาเน้นย้ำให้กระจ่างขึ้นอีกครั้ง
เห็นด้วยทุกประการค่ะ