งั้นปัจจุบันเป็นไงครับ เพาะรุ่นเพื่อนผมมันนานมาแล้วะครับ
ยุคบ้าป่าเมืองเถื่อนนะครับ (คิดเอาเองรุ่นผมอะท่าน ฮ่าๆ)
ชีวิตในป่าของศิษย์เก่าวนศาสตร์ และศิษย์เก่าป่าไม้แพร่ ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงครับ เคยรักกันเข้มข้นเท่าไรในอดีต ปัจจุบันก็ยังคงรักกันเหมือนเดิมครับ เรื่องป่าไม้ที่ออกมาเกเรในช่วงนี้ คนป่าไม้เค้าก็ไม่ได้สบายใจอะไรนัก เพราะโดนเหมาโหลไปด้วย
เดิมเรามีกรมป่าไม้ขึ้นอยู่กับกระทรวงเกษตรฯ พูดคำว่าป่าไม้ ก็คือป่าไม้ทุกคน ตอนนี้กรมป่าไม้ถูกยกระดับขึ้นเป็นกระทรวงทรัพยากรฯ กองต่าง ๆ ก็พลอยได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นกรม กรมที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ตอนนี้คือกรมอุทยานฯ ซึ่งนายดำรง เป็นอธิบดีกรมฯ นายดำรงสืบต่อตำแหน่งจากนายปลอดประสพ จบ รร. ป่าไม้แพร่ ไม่ได้จบ วน.มก. ตามเส้นทางราชการน้อยคนนักที่จบป่าไม้แพร่จะไต่เต้าได้ขึ้นมาเป็นถึงอธิบดีกรม ส่วนใหญ่ตันอยู่ที่ผู้ช่วยป่าไม้จังหวัด หรือเต็มที่ก็ป่าไม้จังหวัด
จะบุญของนายดำรง หรือจะกรรมของคนป่าไม้ก็ไม่ทราบ นายดำรงได้มาเป็นป่าไม้จังหวัดเชียงราย ซึ่งนายยุทธตู้เย็นครองเมืองอยู่ พอนายยุทธตู้เย็นได้เป็น รมต.กระทรวงทรัพย์ ฯ ก็มีเหตุบังเอิญให้นายดำรงก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นอธิบดีกรมอุทยานฯ ซึ่งเป็นกรมที่มีกำลังพล และงบประมาณมากอันดับต้น ๆ ของกระทรวงทรัพย์ฯ เลยทีเดียว
คำว่าบุญคุญต้องทดแทนยังคงใช้ได้อยู่เสมอ ทุกยุคทุกสมัย อธิบดีดำรง เลยสนองนโยบาย รมต. อย่างถึงอกถึงใจ การขนกำลังคนมาเชียร์ ส่วนใหญ่ใช้กำลังคนในหน่วยพิทักษ์อุทยาน ซึ่งมีกำลังพลมาก มีการศึกษาน้อย และเป็นชายฉกรรณ์ทั้งหมด คนเหล่านี้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในป่า ไม่ค่อยได้เข้าเมืองไม่ค่อยได้รับรู้ข่าวสารบ้านเมืองสักเท่าไหร่ ทุกเรื่องทำตามคำสั่งหัวหน้าหน่วย คนเหล่านี้เชื่อมั่นในผู้บังคับบัญชาที่กินนอนในป่าร่วมกันมา นั่นคือสาเหตุที่ทำไมคนเหล่านี้จึงได้ดุดัน และไม่ฟัง และไม่เชื่อเหตุผลของฝ่ายพันธมิตร เพราะพวกเขารับรู้ข่าวสารข้างเดียวมาตลอด และเชื่อใจผู้บังคับบัญชา
ส่วนเรื่องเมาสุรานั้นต้องเห็นใจ เพราะในป่า ก็มีแต่ สรถ. เท่านั้นเป็นเพื่อน คนเหล่านี้จึงชอบดื่มสุรา จะห้ามอย่างไรก็คงจะยาก ตกเย็นมามือสั่นกันทุกคน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เมื่อมาชุมนุม ก็จะแอบนำสุรามาดื่มด้วย ผู้บังคับบัญชาจะรู้เห็นเป็นใจด้วยหรือไม่ก็สุดที่จะเดาครับ
ส่วนเรื่องการติดอาวุธของเจ้าหน้าที่ป่าไม้นั้น ที่จริงแล้วเป็นเรื่องผิดกฏหมาย แต่มีการอนุโลมให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้พกพาอาวุธได้เมื่ออยู่ในป่า อันสืบเนื่องมาจากปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า และการลักลอบจับสัตว์ป่า ซึ่งคนร้ายมักพกพาอาวุธ ในช่วงแรก ป่าไม้ใช้ปืนลูกซองปั้มแอ็กชั่น เป็นอาวุธประจำกาย แต่ผู้กระทำผิดก็พัฒนาใช้อาวุธที่รุนแรงขึ้น ป่าไม้เลยได้รับความอนุเคราะห์ให้อัพเกรดมาใช้ปืนเล็กยาว HK33 ที่ ตชด. ใช้กัน เป็นอาวุธประจำกายสำหรับบางหน่วย และบางหน่วยก็ยังคงใช้ปีนลูกซองอยู่เหมือนเดิม บางหน่วยก็มีปนกันไป แต่พอออกนอกพื้นที่ป่า ต้องเก็บอาวุธไว้ที่หน่วย นำออกจากที่ตั้งไม่ได้ครับ
ส่วนเรื่องการใช้อาวุธ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ยิงใครมั่วไม่ได้นะครับ ต้องมีการขออนุญาตใช้อาวุธเหมือนกับตำรวจ ยกเว้นมีการวางแผนเข้าจับกุมกันล่วงหน้าก็จะขออนุญาตกันเอาไว้ก่อนเลย หลักการส่วนใหญ่ก็เหมือนกับตำรวจ คือแม้กระทั่งถูกยิง ยังต้องขออนุมัติก่อนการยิงโต้ตอบ แต่ในความเป็นจริง ก็ยิงสวนแหละครับ โดยอ้างเหตุเฉพาะหน้า เมื่อป่าไม้ยิงใครตาย ก็จะตกเป็นผู้ต้องหาของตำรวจ ต้องมีการพิสูจน์หลักฐาน ส่งฟ้องศาล เนื่องจากเป็นเหตุวิสามัญฆาตกรรม ดังนั้นถ้าบังเอิญปืนลั่นไปถูกใครที่ไม่ใช่พวกเดียวกัน เค้าก็ฝังมันซะตรงนั้นแหละครับ ไม่ออกมาแจ้งความกันให้ยุ่งยาก ยกเว้นเหตุปะทะ มีการจับกุม นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เรื่องเจ้าแห่งป่าที่ว่าตำรวจทหารไม่กล้าเข้าป่า แต่ป่าไม้ไปได้ทุกป่านั้น เรื่องที่แท้จริงต้องดูว่าเป็นป่าของใครก่อนครับ ถ้าป่านั้นมีฐานของทหาร หรือฐานของตชด. ตั้งอยู่เราก็จะไม่เห็นหัวของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไปเดินเล่นแถวนั้นเหมือนกันครับ แต่ถ้าเป็นเขตอุทยานตามปกติ เป็นป่าของป่าไม้ เมื่อมีหน่วยทหารหรือตชด.เข้าไปในพื้นที่ก็จะมีการประสานงานกันในระดับหน่วย เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดกันครับ บ่อยครั้งก็มีการสนธิกำลังกันเข้าปราบปรามผู้กระทำความผิด
โดยสรุปต่อคำถามที่ว่าทำไมต้องเป็นป่าไม้ คำตอบคือ
1. เป็นชายฉกรรณ์ มีการศึกษาน้อย ไม่ค่อยได้รับรู้ข่าวสารเนื่องจากใช้ชีวิตอยู่ในป่าเป็นหลัก
2. เป็นกำลังพลขึ้นตรงต่ออธิบดีกรมอุทยาน ซึ่งมีบุญคุณต้องทดแทนกับรมต.ยุทธตู้เย็น
3. ระดมกำลังได้ง่าย และไม่ค่อยเกรงกลัวกฏหมายเนื่องจากไม่รู้กฏหมาย
4. ไม่มีกฏข้อบังคับห้ามเคลื่อนกำลังหยุมหยิมเหมือนตำรวจและทหาร ทำให้สั่งเคลื่อนย้ายกำลังได้ง่ายโดยอ้างเหตุการฝึกอบรม
5. ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน มีความยินดีที่จะได้รับเบี้ยเลี้ยงรางวัล
ปล. อธิบดีคนนี้กร่างมาก ถึงขั้นพยายามผลักดันเพื่อนร่วมรุ่นให้ขึ้นมาเป็นใหญ่ในกรมอื่น ๆ ของกระทรวงทรัพย์ฯ ด้วย ทั้งที่ตนเองก็มีตำแหน่งเป็นอธิบดีกรม โดยถือดีว่าเป็นเด็กสายตรงรมต. เรื่องนี้ถามคนในป่าไม้ดูได้ทุกกรมครับ เค้าเอือมระอากันไปทั่ว หมดยุคทรท. เมื่อไหร่โดนเด้งแน่นอนครับ
ปล. 1 เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ส่วนใหญ่ไม่ได้จบ วน. หรือป่าไม้แพร่ครับ เป็นลูกจ้างธรรมดา พวกหัวหน้าหน่วยถึงจะจบสูงหน่อย บางคนก็เรียนแค่ป.6 ก็มีครับ