ทุนสำรองพุ่ง ธปท.ชี้เงินร้อนไหลทะลัก แต่ฟาย o[

แนวโน้มการแข็งค่าของเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ที่เริ่มเห็นสัญญาณแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่หลังผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25 % โดยเมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์เคลื่อนไหวแข็งค่าที่สุดแล้วในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2543 โดยค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 37.34 - 37.37 บาทต่อดอลลาร์ และปิดตลาดที่ระดับ 37.38-37.41 บาทต่อดอลลาร์ ระหว่างวันค่าเงินบาทแข็งค่าที่สุดที่ระดับ 37.28 บาทต่อดอลลาร์

นอกจากนี้ แนวโน้มการแข็งค่าขึ้นของเงินสกุลในภูมิภาคเอเชียนั้นยังสะท้อนได้จากเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศตัวเลขเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ วันที่ 4 สิงหาคม 2549 อยู่ที่ 59.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากวันที่ 31 กรกฎาคม 2549 ซึ่งทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ 58.8 พันล้านดอลลาร์

สัญญาณร้ายบาทแข็งเร็วสุดในภูมิภาค

นางสาวนิตยา พิบูลย์รัตนกิจ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม เป็นเพราะมีเงินทุนที่ไหลเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งการลงทุนในระยะสั้นและระยะยาว แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเข้ามาลงทุนในส่วนใดบ้าง โดยยังเห็นเพียงแค่ตัวเลขการเทขาย

"ตอนนี้แบงก์ชาติต้องดูแลแบบสุดๆ เพราะถ้าไม่ดูจะส่งผลให้ค่าเงินแข็งกว่านี้ แต่ถ้าถามว่าจะแทรกแซงหรือไม่ ก็ต้องแทรกแซงเท่าที่จำเป็น ธปท.ไม่ต้องการให้ค่าเงินแข็ง แต่เพราะมีการอิงกับค่าเงินดอลลาร์มากเกินไป อย่างไรก็ตาม หากค่าเงินยูโรและเยนเริ่มอ่อนค่าลงอาจจะช่วยให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และช่วยให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงได้ในระยะต่อไป ส่วนสถานการณ์ความไม่แน่นอนในต่างประเทศนั้น โดยปกติหากเกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงขึ้น เงินมักไหลกลับไปที่สหรัฐ แต่ปัจจุบันสถานการณ์ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ซึ่งอาจเป็นเพราะความไม่เชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐ "นางสาวนิตยากล่าว พร้อมกับยอมรับว่าการแข็งค่าขึ้นของเงินสกุลในภูมิภาคขณะนี้ เงินบาทแข็งค่าที่สุด

แล้วดูไอ้โจรชั่วชินวัตร ....

"เศรษฐกิจที่แท้จริงดีกว่าความรู้สึกของคนไทยมาก ทุนสำรองระหว่างประเทศที่เพิ่มจาก 32,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเกือบ 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ความน่าเชื่อถือของประเทศดีขึ้น 2 อันดับ งบประมาณรายจ่ายเพิ่มจากไม่ถึง 1 ล้านล้านบาทเป็น 1.36 ล้านล้านบาทในปีงบประมาณปัจจุบัน (2549)"

ระวังเหอะ ตอนนี้เหลือแต่การส่งออกที่ยังพอจะไปได้ นั่นเป็นเพราะเขาพึ่งตัวเองกันทั้งนั้น การเพิ่มขึ้นของทุนสำรองไม่ได้เกิดจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่แท้จริง แต่เกิดจากการเก็งกำไร มันยัง "หน้าด้าน" มาคุยโวเป็นผลงานตัวเองอีก

จริงๆ ไอ้เหลี่ยมน้ำลายหกแล้ว โอกาสทอง เก็บเงินนอก