ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
24-04-2024, 01:25
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ภาพการเมืองหลังไม่มีคนชื่อทักษิณจะเป็นอย่างไร? 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ภาพการเมืองหลังไม่มีคนชื่อทักษิณจะเป็นอย่างไร?  (อ่าน 1817 ครั้ง)
ฉลุหมื่นปทุม
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8


« เมื่อ: 13-04-2006, 13:18 »

[/img]
บันทึกการเข้า
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 13-04-2006, 14:48 »

ทรท พรรคแตก ก่อนอื่นเลยครับ

อย่างอื่นตามมาทีหลัง
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
Limmy
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,346


« ตอบ #2 เมื่อ: 13-04-2006, 15:46 »

ขอเรียนตอบทีละข้อครับ

- บ้านเมืองเราจะดีขึ้นอย่างไร ถ้าไม่มีคนชื่อทักษิณ ?

ตอบ

ด้านเศรษฐกิจ เศรษฐกิจดีขึ้นแน่นอน ต่างชาติเข้ามาลงทุนมากขึ้น เพราะไม่ต้องจ่ายหัวคิว 20% การลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น เพราะไม่ต้องวิ่งขอสัมปทานจากเจ๊ กลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ขยายการลงทุน เพราะเชื่อมั่นในความโปร่งใสตรวจสอบได้  ไม่ถูกครอบงำ
โดยกลุ่มธนกิจการเมือง โครงการของรัฐบาลดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและโปร่งใส ไม่ต้องจ่ายเปอร์เซ็นต์ค่าคอรัปชั่นให้นักการเมือง ตลาดหุ้นแข็งแกร่งสะท้อนการลงทุนจริง ๆ ไม่ถูกปั่นโดยฝรั่งหัวดำ ภาคประชาชนจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น เพราะจัดงานเลี้ยงฉลองขับไล่ผีเปรตทั่วประเทศ 7 วัน 7 คืน สรุปเศรษฐกิจดีขึ้นทุกภาคส่วนครับ

ประชาชนทุกภาค ทุกหมู่เหล่า กลับมาสมัครสมาน สามัคคี รักใคร่ เป็นพี่เป็นน้องกันเหมือนเดิม ต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกันเพราะทุกคนตาสว่างหมดแล้ว

- อยากให้ใครมาปกครองบ้านเมือง ?

ตอบ

อยากให้คนดีที่ยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนมาปกครองบริหารบ้านเมือง ใครก็ได้ ในเว็บนี้มีออกเยอะแยะ

- นโยบายของรัฐบาลควรเป็นอย่างไร ?

นโยบายที่ยึดเอาความสุขของประชาชนและผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง ไม่ต้องให้ความสำคัญกับตัวเลข GDP มากนัก ส่งเสริมประชาธิปไตย และมุ่งให้ความรู้กับประชาชนอย่างแท้จริง รับฟังเสียงประชาชนทุกหมู่เหล่า กล้ายืดอกยอมรับคำตำหนิและพร้อมจะแก้ไขข้อผิดพลาด และข้อสำคัญ ไม่หน้าด้าน

- เศรษฐกิจกับต่างชาติควรเป็นอย่างไร?

การดำเนินธุรกิจกับต่างชาติต้องเป็นไปอย่างรู้เท่าทัน นุ่มนวลแต่ไม่ยอมเสียเปรียบ คำนึงถึงผลกระทบต่อประเทศชาติ ประชาชนและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว สนับสนุนการลงทุนจากต่างชาติแต่ไม่ขายแผ่นดินให้แม้ตารางนิ้วเดียว เน้นการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี ที่สำคัญที่สุด ไม่เจรจาธุรกิจกับต่างชาติโดยให้ผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเองโดยเด็ดขาด

- เราจะสู้กับเพื่อนบ้านอย่างไรโดยไม่ทำ FTA

การทำ FTA สามารถทำได้โดยประเทศไทยไม่เสียเปรียบเลยถ้าทำด้วยสมองและหัวใจ ไม่ได้ทำด้วยผลประโยชน์ส่วนตนและความโลภ มุ่งเน้นความร่วมมือทั้งจากภายในและต่างประเทศ ถามความต้องการและศึกษาผลกระทบอย่างชัดเจนและทั่วถึง รู้เท่าทันว่าประเทศจะได้อะไรและจะเสียอะไร จากนั้นหารือในวงกว้างก่อนการเจรจา FTA  ความเคลื่อนไหวในการเจรจาต้องนำมาปรึกษาหารือกับประชาชนทุกขั้นตอนเพื่อความโปร่งใส ไม่งุบงิบเจรจาโดยเอากระเป๋าของตัวเองเป็นตัวตั้งแล้วให้ประชาชนกลายเป็นเหยื่อ

ไม่จำเป็นต้องคิดจะสู้กับเพื่อนบ้านเท่านั้น แต่ควรจับมือกับเพื่อนบ้านเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองทั้งภูมิภาค เวียดนาม เขมร แรงงานถูก ไทยมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ มาเลเซียมีวัตถุดิบ สิงค์โปร์เก่งเรื่องการตลาดและ Logistics ถ้าเพื่อนทุกคนในภูมิภาคจับมือกัน ใครก็เอาชนะพวกเราง่าย ๆ ไม่ได้ครับ
บันทึกการเข้า
ฉลุหมื่นปทุม
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8


« ตอบ #3 เมื่อ: 13-04-2006, 16:49 »

ขอบคุณ Limmy ครับ
คำตอบของพี่ยังเป็นอุดมคติเกินไปในความคิดของผม
อย่าได้คำตอบที่จับต้องได้ในความเป็นจริงที่ ประเทศเรามีหน่อยครับ

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
สาธุ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 244



« ตอบ #4 เมื่อ: 13-04-2006, 17:25 »

ถ้าเรามีภาพทักษินอยู่ในอุดมคติ  ทุกอย่างก็ดูเหมือนมืดมน

ผมผ่านมาแล้วหลายรัฐบาล ลองนึกถึงตอน สงครามโลก ญี่ปุ่นเต็มเมืองแล้วเรารอดมาอย่างไรช่วง IMF (บิกจิ๋ว)...ทักษินอยู่ที่ไหน  ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นทุกคนเรียกร้อง..ชวน

อย่าไปยึดติดกับตัวบุคคลเลยครับ

เอาเป็นว่า....เราจะต่อต้านพวกโกงบ้านกินเมืองกันอย่างไร............?

หมดพวกรัฐบาลที่โคตรโกงเมื่อไหร่  บ้านเมืองเราเจริญเมื่อนั้น

นึกหน้าพวก สส.  ในรัฐบาลดูดีๆครับ  มีทั้งคลองด่าน... BBC....และอีกมากมาย

ขอให้เราร่วมต่อสู่ในภาคประชาชนครับ
บันทึกการเข้า
จูล่ง_j
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,901



« ตอบ #5 เมื่อ: 13-04-2006, 17:53 »

ผมว่าแนวทางการตอบของคุณ Limmy นั้น เหมาะสมแล้วครับ
ถึงแม้บางจุดมันจะอดมคติไปหน่อย
แต่เราต้องช่วยกันผลักดัน ให้มันไปในแนวทางนั้นครับ
การเมืองภาคประชาชน น่าจะช่วยประคับประคองได้
บันทึกการเข้า

RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 13-04-2006, 17:55 »

ผมว่าคำตอบของคุณ Limmy ไม่ใช่อุดมคติแล้วนะครับ อุดมคติคืออะไรที่มันดีเกินที่จะเป็นจริงได้
แต่ที่คุณ Limmy พูดมาทั้งหมด สามารถทำให้เป็นจริงได้ครับ ถ้าผู้มีอำนาจคิดจะทำจริงๆ
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
HILTON (ปาล์มาลี)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,310



« ตอบ #7 เมื่อ: 13-04-2006, 18:27 »

จะได้ผู้ใหญ่ที่น่านับถือ  เกิดขึ้นมากมาย

จะได้ดูรายการที่มีสาระมากขึ้น

จะได้ออกความเห็นอย่างเสรี

จะได้มีกฎกติกาอย่างแท้จริง

จะได้เห็นคนหน้าเหลี่ยมติดคุก  ( สาธุ )
บันทึกการเข้า
Limmy
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,346


« ตอบ #8 เมื่อ: 13-04-2006, 19:36 »

ขอบคุณทุกท่านครับ

อุดมคติกลายเป็นความเป็นจริงได้แน่นอนครับ ถ้าทุกคนช่วยกัน ไม่ท้อแท้และไม่ยอมก้มหัวให้กับความไม่ถูกต้อง

ตรรกกะที่ไม่ค่อยสวยงามในความเห็นของผมได้แก่ "ใครเข้ามาเป็นรัฐบาลต่อจากนี้มันก็โกงกินอีก", "ไม่เอาทักษิณแล้วจะเอาใคร" เป็นต้น
ตรรกกะเหล่านั้น มันทำลายคุณค่าความเป็นมนุษย์ทั้งเสรีภาพทางความคิดและการแสดงออก เราไม่ควรยอมแพ้ให้กับกรอบเหล่านั้นครับ

ขอเสนออะไรที่อาจจะเป็นอุดมคติแล้วกันนะครับ

ใครจะมาเป็นรัฐบาลต่อจากนี้ พวกเราทุกคนจะเป็นฝ่ายตรวจสอบและเสนอแนวทางให้ครับ

ประชาชนจะเป็นผู้กำหนดนโยบายและกติกาภาคการเมือง นักการเมืองเอานโยบายจากประชาชนไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมตามกรอบกฎหมายและรัฐธรรมนูญครับ แนวคิดนี้จะกลับกันการเมืองไทยที่เป็นมาในอดีต  

อุดมคติไหม ผมไม่ทราบครับ หลายประเทศทำสำเร็จแล้ว หลายประเทศกำลังทำอยู่

เมื่อก้าวพ้นกรอบได้ การพัฒนาจะตามมาทันที
บันทึกการเข้า
ฉลุหมื่นปทุม
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8


« ตอบ #9 เมื่อ: 14-04-2006, 03:31 »

บันทึกการเข้า
ลูกไทย หลานไทย
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,196


วันนี้วันดี วันที่เป็นไท


« ตอบ #10 เมื่อ: 14-04-2006, 09:56 »

ส่วนผมก็สุดจะเดากับภาพต่อไปในอนาคตหากไม่มีคุณทักษิณ (เข้าใจว่าหมายถึงไม่มีคุณทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี)

หลายๆอย่างเช่นผลงานด้านเศรษฐกิจ ผมก็มองว่าจริงๆแล้วเศรษฐกิจที่ดีขึ้นนอกจากความสามารถของทีมคุณทักษิณแล้ว ก็ยังมีเรื่องปัจจัยช่วยเหลือจากเศรษฐกิจภายนอกประเทศรอบข้างที่อยู่ในช่วงฟื้นฟูด้วย

ผมว่ามันก็ไม่ถึงกับสิ้นหวังนักสำหรับใครบางคนที่เสียดายเป็นพิเศษกับคุณทักษิณ ชินวัตร หากเขาจะไม่มาเป็นนายกฯนะครับ
บันทึกการเข้า

Ŋēmŏ mē ĩmρưŋē ĺдċęşšįҐ
::วิญญาณห้อง2::
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 656



เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 14-04-2006, 11:44 »

วันหนึ่งจะมีใครคิดว่า คนจะบินได้

วันหนึ่งจะมีใครคิดว่า คนจะมีไฟฟ้าใช้

วันหนึ่งจะมีใครคิดว่า คนจะท่องอวกาศได้

วันหนึ่งจะมีใครคิดว่า คนจะกินยา 1 เม็ด ก็อิ่มได้

การเมืองก็เช่นเดียวกัน

หากแต่ระยะเวลาที่จะนำพาไปสู่สังคมอุดมคตินั้นจะมากน้อยแค่ไหน และขึ้นอยู่กับคนในสังคมนั้นๆทุกคน

แต่หากมองดูตอนนี้ ผมก็ยังว่า พวกเรายังห่างไกลกับสังคมอุดมคตินั้น

หากคิดดูให้ดีๆ พระองค์ท่าน เคยกล่าวถึงหนทางของทางไปสังคมอุดมคตินั้นมานานมากแล้ว คือพระราชดำรัสที่ว่าให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม

สรุปคือหนทางมีแต่สังคมจะนำพารึเปล่าก็เป็นอีกเรื่องนึง
บันทึกการเข้า

--------this is the world-------
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 14-04-2006, 18:35 »

ผมคิดว่าคำตอบก็อยู่ในคำขวัญของเราแล้วนะครับคุณฉลุฯ
"สร้างบรรทัดฐานให้การเมืองไทย" สิ่งที่เราจะทำ ไม่ใช่การเอาคนที่น่านับถือมาเพื่อหนุนหลัง
แต่เป็นการ "สร้างบรรทัดฐาน" เสนอและสนับสนุนแนวความคิดของเราให้กว้างขวาง
ให้เป็นที่ยอมรับจนกลายเป็น "บรรทัดฐาน" ถ้ามันกลายเป็นบรรทัดฐานแล้ว "กระบวนการ" ก็จะตามมาเอง
มันจะไม่ใช่กระบวนการที่ชัดเจน เป็นกระบวนการแบบกลายๆ
เช่นการออกกฎหมาย ต่อไปเราก็หวังว่าจะต้องมีบรรทัดฐานที่ดีกว่านี้ ฟังประชาชนให้มากกว่านี้ คิดถึงส่วนรวม
และเพื่อเผยแพร่แนวคิดนี้ เราจะต้องใช้เหตุผลและตัวอย่างที่ชัดเจนเพื่อสนับสนุนแนวคิดของเรา
ว่าเหตุใดรัฐจึงต้องฟังเสียงประชาชน (ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่คิดว่ารัฐบาลคือผู้ปกครอง และเคยชินกับการไม่ขัดขืนแม้ว่าไม่ถูกต้อง)
หากแนวคิดนี้เป็นที่ยอมรับกันโดยแพร่หลาย ถามว่ารัฐจะสามารถออกกฎหมายแหกคอกจากบรรทัดฐานที่ประชาชนคิดได้หรือ
นั่นแหละครับคือสิ่งที่เราจะทำ มันอาจจะฟังน่าขำและดูเกินตัวไปหน่อย แต่เราก็เชื่อว่าเราต้องทำได้ครับ  Cool
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
Limmy
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,346


« ตอบ #13 เมื่อ: 16-04-2006, 12:41 »

ยินดีรับใช้คุณฉลุหมื่นปทุมครับ

ก่อนอื่นต้องขอโทษที่มาตอบช้าครับ ไปเล่นน้ำสงกรานต์มาสองวัน

คำถามแรกครับ ตัวบุคคลและกระบวนการที่เราจะใช้ในการพํฒนาระบอบการเมืองไทย

ตัวบุคคลคือคนไทยทุกคนครับ เริ่มจากพวกเราทุกคนในที่นี้ รวมทั้งคุณฉลุ ฯ ด้วย เริ่มกันเลยครับ

แค่เราตื่นตัวและรับรู้ว่าการเมืองเป็นเรื่องใกล้ตัว และมีผลกระทบกับชีวิตของเราทุกคน ก็นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้วครับ
เมื่อตื่นตัวแล้วก็ต่อยอด โดยการหาความรู้เพิ่มเติมให้รอบด้านทั้งความรู้จากในประเทศและความรู้จากสากล

เปิดกว้างรับฟังทุกสื่อ จากนั้นนำมาวิเคราะห์และแยกแยะครับ อย่าถึงขนาดปิดรับสื่อทั้งหมดแบบคนบางกลุ่ม อย่างนั้นมันมืดบอกครับ อ่าน ฟัง คิด วิเคราะห์ ให้เป็นนิสัย ใครก็มาหลอกเราไม่ได้

เมื่อได้องค์ความรู้แล้วกระบวนการต่อไปคือเผยแพร่ครับ เราต้องนำความรู้ที่ได้ไปเผยแพร่ในวงกว้าง ไม่จำเป็นต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนักวิชาการเพียงฝ่ายเดียว เพราะเราทุกคนถ้าผ่านกระบวนการแรกอย่างเข้มข้นมาแล้วเราก็กลายเป็นนักวิชาการกันได้ทุกคน ดีมั๊ยครับ

เมื่อองค์ความรู้เกิดการขยายตัวในระดับหนึ่งแล้วก็เข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนแปลงแล้วครับ เมื่อประชาชนรู้เท่าทันนโยบายและระบบของการเมืองแล้ว จะไม่มีใครครอบงำประชาชนได้อีกต่อไป ประชาชนก็พร้อมที่จะกำหนดบทบาทของตนเองผ่านระบบการเมืองที่โปร่งใสและเปิดเผย และประชาชนจะเป็นคนถ่วงดุลย์อำนาจการเมืองอย่างเต็มตัว


ผมขออณุญาตยกตัวอย่างจากประเทศที่ผมคุ้นเคยนะครับ เกาหลีใต้ในอดีตที่ผ่านมาต้องเผชิญกับปัญหาการคอรัปชั่นของนักการเมืองอย่างรุนแรงมาโดยตลอด จนมาถึงจุดหนึ่งประชาชนไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างอีกต่อไป จึงมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายการเมืองอย่างต่อเนื่อง จนการเมืองของเกาหลีใต้เข้าสู่ระบบการตรวจสอบโดยภาคประชาชนอย่างเต็มที่

ล่าสุดก็คือการลาออกของนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้จากข้อหาไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ ไปเล่นกอล์ฟกับผู้บริหารเอกชนในขณะที่มีการประท้วงของพนักงานการรถไฟ

ผมโชคดีที่อยู่ในเกาหลี ณ ช่วงเวลานั้นพอดีเลยมีโอกาสได้พูดคุยกับผู้บริหารหลายท่านที่นั่น ได้รับทราบว่าหลังจากการปฏิรูปการเมืองของเกาหลีภายหลังการนำอดีตท่านผู้นำไปขึ้นศาลและติดคุกแล้ว นักการเมืองเกาหลีจะข้องเกี่ยวกับธุรกิจอะไรไม่ได้เลยครับ พวกเขาข้องใจมากว่า นายก ฯ ของไทยทำธุรกิจได้อย่างไร ผมก็เลยต้องอธิบายไปแบบยิ้ม ๆ ดังนั้นเหตุการที่นายก ฯ ของเขาไปตีกอล์ฟกับนักธุรกิจที่เคยมีอดีตที่ไม่สู้ดีจึงเป็นสิ่งที่คนเกาหลีรับไม่ได้โดยเด็ดขาดครับ

ผมถามว่าถ้านายก ฯ ไม่ลาออกจะโดนมาตรการอะไรบ้าง เขาตอบว่า อย่างแรกเลยคือ ส.ส. ในพรรคทุกคนจะกดดันและถอนตัวจากพรรคทันที ถ้ายังยืดเยื้อประชาชนและข้าราชการจะนัดหยุดงานทั่วประเทศ ไม่มีนายก ฯ คนไหนกล้างัดข้อกับประชาชนชนเกาหลีแน่นอนหลังจากที่เห็นบทเรียนมาแล้ว ผมได้แต่อมยิ้มครับ (ดีไม่โดนยึดเหมือนใน รดน.)

ผมถามต่อว่านายก ฯ ลาออกแล้วมีผลกระทบอะไรบ้างกับประชาชนและประเทศเกาหลี เขาตอบว่าไม่มีครับ เนื่องจากนโยบายหลักของประเทศเดินต่อไปตามปรกติ รัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายงานทำงานตามนโยบาย มี Mission Plan และ Action Plan อยู่แล้ว เอาใครมาเป็นนายกก็ได้ ผมอมยิ้มแล้วถามต่อว่าตัวบุคคลไม่สำคัญหรือครับ เขาตอบว่าไม่มีความสำคัญครับ ทุกอย่างอยู่ที่นโยบายพรรคที่ประชาชนเป็นคนออกแบบให้ รัฐบาลมีหน้าที่ดำเนินนโยบายที่ประชาชนนำเสนอผ่านระบบพรรคการเมือง

คราวนี้ผมไม่อมยิ้มแล้วครับ....ได้แต่ถอนใจ เมื่อไหร่การเมืองไทยจะไปถึงจุดนั้นเสียที

วันหลังจะมาเล่าเรื่อง OTOP แบบเกาหลี ว่าเขาทำอย่างไรถึงประสบความสำเร็จไปทั่วโลก จากปากคำคนเกาหลีเพื่อนผมเองครับ
บันทึกการเข้า
จูล่ง_j
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,901



« ตอบ #14 เมื่อ: 16-04-2006, 15:01 »

อ่านความเห็นของคุณ Limmy  แล้ว รู้สึกปลื้มใจแทนคนเกาหลีครับ
ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า มาตรฐานการศึกษา ความรู้ ประชากร เกาหลี นั้นสูงกว่าเรา
ปัจจุบัน เกาหลี เค้าเน้นการศึกษา มากจริงๆครับ
เด็กๆเลิกเรียน มักจะไม่กลับบ้านกันทันที จะเข้าห้องสมุด ศึกษา ทำการบ้าน จนดึกครับค่อยกลับบ้าน
ผมเห็นข่าวประมาณว่า เด็กเกาหลีขยันเรียน ที่สุดในเอเซียครับ
ของไทยเรา ต้องพัฒนาอีกเยอะ โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา
ถ้าทำได้ มันเป็นประโยชน์ ระยะยาวจริงๆครับ
บันทึกการเข้า

narong
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 654



เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 16-04-2006, 15:16 »

อย่าไปเครียดกับอนาคตมากเกินไป Exclamation

ปัจจุบันคือต้องให้ทักษินวางมือจากทุกอย่างจริงๆก่อนไม่ไปแทรกแซงใครอีก
หลังจากนั้นก็จะค่อยๆมีคำตอบออกมาจากสังคมไทยเอง

ที่สำคัญตอนนี้ต้องให้คนไทยทั้งประเทศตื่นตัวมาสนใจปัญหาอย่างจริงจัง
และช่วยกันหาวิธีแก้ปัญหาไม่ใช่เรื่องอะไรๆ
ก็บอกว่าข้าเป็นกลางปัญหามันก็ยังซุกอยู่ใต้พรมไม่ได้แก้สักที
บันทึกการเข้า

ผู้ที่ไม่สามารถจะใช้คนดี
ก็ย่อมจะใช้คนไม่ดีหรือคนเลว
ถ้าไม่เชื่อผู้ซื่อสัตย์หวังดีต่อตน
ก็จะต้องไปเชื่อคนประจบสอพลอ
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #16 เมื่อ: 16-04-2006, 15:20 »

ของบ้านเรา มีคนอยากทำให้เหมือนของสิงคโปร์ค่ะ

ขออนุญาต copy & paste ที่เขียนอ้างอิงไว้ในอีกกระทู้
http://www.serithaiwebboard.org/forum/viewtopic.php?p=5788#5788

นายโภคิน กล่าวว่า สำหรับกรณีการโอนหุ้นของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น ตนมองว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเขียนไว้ในทางที่ไม่ยุติธรรม โดยห้ามไม่ให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทำธุรกิจ หรือมีหุ้น ทำให้ก่อนเข้ารับตำแหน่งก็ต้องโอนหุ้นให้ลูก ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ดีกว่าโอนให้กับคนใช้หรือคนรถ จึงอยากให้อยู่ในโลกของความจริง เพราะในประเทศสิงคโปร์ ที่อนุญาตให้มีหุ้นได้อย่างเปิดเผย

ที่มา คมชัดลึก วันพุธที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2549
http://www.komchadluek.net/news/2006/03-08/p1--68368.html

ทิศทางอย่างนี้ งามไหมล่ะคะ ท่านผู้ชม
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
หน้า: [1]
    กระโดดไป: