ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 19:06
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  การเมืองตลบตะแลง กับ 2 นายกรัฐมนตรี 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
การเมืองตลบตะแลง กับ 2 นายกรัฐมนตรี  (อ่าน 968 ครั้ง)
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« เมื่อ: 13-04-2006, 00:11 »

สารส้ม: การเมืองตลบตะแลง กับ 2 นายกรัฐมนตรี

 คำว่า "ตลบตะแลง" ในพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน หมายความว่า "พลิกแพลงด้วยเล่ห์เหลี่ยมให้หลงเชื่อ, ปลิ้นปล้อน"

 การเมืองตลบตะแลง จึงหมายความถึง การเล่นการเมืองอย่างไม่ตรงไปตรงมา พลิกแพลงด้วยเล่ห์เหลี่ยม เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อ ไม่ว่าจะด้วยกลอุบาย การหลบเลี่ยงกฎหมาย การตะแบงตีความกฎหมาย การปลุกปั่นกระแสสังคมให้เคลิบเคลิ้มหลงใหล หรือการพูดอย่างแต่ทำอีกอย่าง ทำต่อหน้าอย่างแต่ทำลับหลังอีกอย่าง
 หรือ กระทำในสิ่งที่ขัดแย้งกันเอง แล้วบอกว่าถูกทั้งสองอย่าง ทั้งๆ ที่ หากอย่างหนึ่งถูก อีกหนึ่งอย่างก็จะต้องผิด หรือหากอย่างหนึ่งจริง อีกอย่างหนึ่งก็จะต้องเท็จ
 การเมืองในช่วงนี้ มีลักษณะอย่างนี้ให้เห็นอยู่จนชิน

 1) วันก่อน "ทักษิณ ชินวัตร" ไม่ยอมให้สัมภาษณ์นักข่าวถึงแนวทางการเมือง หลบเลี่ยงโดยบอกว่า "อย่ามาสัมภาษณ์คนตกงาน ให้ไปสัมภาษณ์คนมีงานทำ"
 ความหมายที่ต้องการจะบอก คือ ตนเองไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่แล้ว

 2) ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน "ทักษิณ ชินวัตร" กลับเชิญเอกอัครราชทูตของชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจหลายประเทศเข้าไปพบ ณ ที่ทำการพรรคไทยรักไทย ไม่ว่าจะเป็น ทูตสหรัฐ อังกฤษ ญี่ปุ่น รัสเซีย เป็นต้น
 อ้างว่า เชิญทูตมาพบ เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ!
 แสดงว่า ตนยังอยู่ในอำนาจหน้าที่ผู้นำประเทศ ทูตต่างประเทศจึงต้องเข้าพบ เข้ามาหาถึงที่ทำการพรรค ทั้งๆ ที่ โดยปกติในทางการทูต เขาจะต้องนัดทูตไปพบยังสถานที่ราชการ ไปทำเนียบรัฐบาล ไม่ใช่สถานที่ส่วนตัว เว้นแต่จะเป็นการเข้าเฝ้าฯประมุขของผู้นำประเทศเท่านั้น

 หากพิจารณาข้ออ้างตาม ข้อ 1) และ 2) จะเห็นว่า ข้ออ้างทั้งสองประการ จะเป็นจริงไปในคราวเดียวกันไม่ได้เด็ดขาด เพราะทั้งสองอย่างเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกันอยู่ในตัวเอง
 ถ้า "ทักษิณ ชินวัตร" ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ตามข้อ 1) ทูตก็จะต้องไม่เข้าไปพบตามข้อ 2)
 หรือถ้าทูตเข้าไปพบตามข้อ 2) แสดงว่า "ทักษิณ ชินวัตร" ยังอยู่ในอำนาจหน้าที่ ยังต้องรับผิดชอบในอำนาจหน้าที่ เท่ากับว่า ข้อ 1) เป็นการโกหก

 "ทักษิณ" จะหลบเลี่ยงความรับผิดชอบในอำนาจหน้าที่ โดยอ้างว่าไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่แล้ว แต่กลับยังใช้อำนาจหน้าที่ในการเชิญทูตต่างประเทศเข้าไปพบตนเองถึงที่ทำการพรรคเยี่ยงนี้ไม่ได้เด็ดขาด

 การเมืองที่พลิกแพลงด้วยเล่ห์เหลี่ยมให้หลงเชื่อ เป็นการเมืองที่ "ตลบตะแลง"
 เป็นการเมืองที่ใช้วิธีการตะแบงตีความกฎหมาย เพื่อทำให้ประเทศหนึ่งเดียวมีนายกรัฐมนตรีรักษาการพร้อมกัน ๒ คน
 คนหนึ่ง มีไว้เพื่อใช้ตำแหน่งอำนาจหน้าที่ปกป้องตัวเองจากความรับผิดชอบใดๆ
 อีกคนหนึ่ง มีไว้เพื่อใช้อำนาจหน้าที่บริหารราชการในทางนิตินัย

 โดยวิธีการนี้ "นายกรัฐมนตรีรักษาการผู้เป็นหัวหน้าพรรค" จึงได้ "ลอยตัว" อยู่เหนือความรับผิดชอบใดๆ
 เท่ากับว่า ยกระดับตัวเองขึ้นเป็น "นายกรัฐมนตรีผู้ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการอยู่ในอำนาจหน้าที่" หรือ "Can do no wrong"
 เพราะความรับผิดชอบทั้งหมด ถูกตัดตอน ปัดเป่า ดำเนินการ จัดให้ โดยน้ำมือของ "นายกรัฐมนตรีรักษาการผู้เป็นลูกน้องในพรรค"

 นึกถึงประเทศที่มีประธานาธิบดีเป็นผู้นำ แล้วก็มีนายกรัฐมนตรีทำหน้าที่บริหารราชการไปด้วย

 นึกถึง ความหมายของคำว่า "ตลบตะแลง"

 น่าเศร้าใจจริงๆ


สารส้ม

http://www.naewna.com/news.asp?ID=4023
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 13-04-2006, 04:33 »

ราษฎร์ดำเนิน : "ทักษิณ" can do no wrong ?

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า วันนี้ กระแสความไม่พึงพอใจ ที่มีต่อ "ท่านผู้นำ" จะขยายตัวออกไปวงกว้างอย่างยิ่ง

เป็นความจริงว่า ยังมีคนส่วนหนึ่ง ที่เอาใจช่วย "ท่านผู้นำ"

แต่ที่เป็นความจริงยิ่งกว่า ก็คือ มีคนอีกส่วนไม่น้อย ที่ไม่ต้องการ "ท่านผู้นำ"

โดยเฉพาะเมื่อมองผ่านพฤติกรรมทั้งส่วนตัว วงศ์ตระกูล พวกพ้อง ในมิติของ "ผลประโยชน์ทับซ้อน" ที่ "เอื้ออาทร" ผลประโยชน์ให้กับตัวเอง วงศ์ตระกูล และพวกพ้อง

วันนี้ เสียงของสังคม ที่เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนตัว "ท่านผู้นำ" ดังขึ้นเรื่อยๆ

ไม่ว่าจะเป็นการ ยุบสภา ลาออก หรือโดยวิธีการอื่นใดก็ตาม

เช่นเดียวกับ "CAN (ไทเมือง)" จาก "ราชดำเนิน" ที่นำเสนอบางมุมมอง ผ่านกระทู้หัวข้อ "ทักษิณ" ทำอะไรก็ไม่ผิด "ทักษิณ" แคน ดู โน รอง"

ขอเชิญทัศนา และแลกเปลี่ยนความเห็นได้โดยพลัน...

"หากจะถามกันว่า ประชาชนตอนนี้เขาคิดยังไงต่อทักษิณ โดยแสดงออกผ่านการจับกลุ่มคุยกัน สื่อต่างๆ แวดวงมหาวิทยาลัย นักธุรกิจ สื่อมวลชน

รวมทั้งคนสนใจ ปรากฏการณ์ทางการเมือง อย่างพวกเราใน "ราชดำเนิน"

คำตอบตรงเป้าที่สุดคือเรื่อง "ธรรมาภิบาล" ทั้งเรื่องของชิน และเรื่องของรัฐบาล ข้าราชการ นักการเมือง

ที่สุดแล้วเรื่องราวที่ร่ายเรียงกันมาตลอดเวลา ที่อยู่ในอำนาจ มันก็พิสูจน์ว่า

นายกฯ ยัง "ค้าขาย" โดยใช้ตำแหน่งหน้าที่

เปลี่ยนแปลงกฎหมาย เปลี่ยนแปลงรายละเอียดอื่นๆ อันมุ่งสู่ประโยชน์ของครอบครัว

ท่านนายกฯ จึงหมดความชอบธรรม ที่จะอยู่ในตำแหน่งแล้วครับ

การชี้แจงของโฆษกประจำตระกูล จึงเปรียบประดุจ "ไฟบรรลัยกัลป์" แผดเผา "ท่านผู้นำ" ให้ไหม้เป็นจุณในพริบตา เพราะมันยืนยันว่า

ท่านเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน มากกว่าประโยชน์ของประเทศชาติ อย่างเป็นรูปธรรมที่สุด

แม้มหาจำลอง ยังต้องออกมาพูด นักการเมืองต้องรู้จักให้ รู้จักเสียสละ เห็นประโยชน์ส่วนตน น้อยกว่าประโยชน์ของประเทศชาติ

หากอยากอ่านธาตุแท้ของคนผู้นี้ ลองหาอ่านคำวินิจฉัยส่วนตนของ ตุลาการเสียงข้างน้อย ของศาลรัฐธรรมนูญ คดี "ซุกหุ้น" จะเห็น "ลายแทง" ที่พิสูจน์แล้วว่า

ท่านวินิจฉัยให้ "ผิด" นั้น ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ท่านตุลาการมองคนได้ไม่ผิด มันพิสูจน์กันในเวลาไม่นานครับ

กรรมยุคดิจิทัล มันพิสูจน์กันเร็ว

มิไยประโยคเด็ด "บกพร่องโดยสุจริต" จะทำให้เรียกเสียงให้ชนะ ด้วยผลประโยชน์อื่นใดหรือไม่ คนมีปัญญาย่อมคิดเองได้

สุดท้าย ความเป็นเจ้าของชิน เจ้าของประเทศ มันก็ตกแก่ "ท่านผู้นำ" ทั้งทางนิตินัยและพฤตินัย

และแล้วแม้วจึงดับอนาถด้วย "กฎแห่งกรรม" และหลักกฎหมายที่บอกว่า

กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา

การเป็นนักการเมือง ทำไมต้องให้แจ้งบัญชีทรัพย์สิน

ก็เพราะมันเป็นเรื่อง จริยธรรม เรื่องธรรมาภิบาล

สมัยก่อนมันมีเรื่องเข้าหลังบ้าน สมัยนี้ไม่ใช่แล้ว หลังบ้านออกมาเปิดร้านค้าขายซะเลย

ผมสมมติง่ายๆ ให้เห็นเช่นนี้อยากบอกว่า นั่งทูลกับนอนทูล มันต่างกัน

ถ้าหากยอมรับกันว่า รัฐธรรมนูญใหม่ต้องการให้ป้องกัน "ผลประโยชน์ทับซ้อน" ไม่ให้ประเทศชาติเสียผลประโยชน์

กรณี "ภาษี" เป็นเพียงปลายเหตุนะครับ เมื่อมีช่องเขาก็ออกช่อง "เสียน้อย" หรือ "ไม่เสีย" หรือไม่มีช่องให้เสีย

ผมกลับไปสนใจประเด็น "รวยมาได้ยังไง" มากกว่า

ถ้าจะคุยประเด็นภาษี มันก็ซ้ำๆ คนมีเงินจ้างผีมาโม่แป้งยังได้เลย

คุณจะโยกโย้ยังไงก็ตาม ทุกองคาพยพที่ออกมาดิ้นตลอดเวลาที่ผ่านมา

ทั้งนักการเมืองในสภา รมต.ที่มีและไม่มีตำแหน่ง องค์กรอิสระ ข้าราชการที่กำกับดูแล ตลอดจน "โฆษกประจำตระกูล" (ฟังยังกะอยู่บนเกาะอังกฤษยังไงไม่รู้ )

มันบอกสังคม ให้ทราบว่า ทักษิณ ควบคุมทุกอย่างไว้หมดแล้ว

ทำอะไรก็ไม่ผิด "ทักษิณ แคน ดู โน รอง"

มองไปทางไหนก็ว้าเหว่เพราะ "ต่างชาติ" กลายมาเป็นเจ้าประเทศไทยไปซะหลายธุรกิจ

ท่านนายกฯ ครับลาออกซะเถอะครับ เหลือประเทศไทยไว้ให้ลูกๆ หลานๆ ผมบ้าง"

นี่เป็นอีกบางความเห็น ที่ถูกนำเสนอผ่าน "โลกเสมือนจริง" ในชุมชนออนไลน์ อย่าง "ราชดำเนิน"

ทว่า ! "ท่านผู้นำ" ยังคงหัวเราะ และบอกว่า "ไว้ชาติหน้าตอนสายๆ ถึงจะลาออก"

เอวัง ก็คงมีด้วยประการฉะนี้เองแล !!!


นักข่าวหมายเลข ๗

http://www.darknews.net/2006/02/03/newsp4_250.php (แอบมาแก้ link ให้ครับ : ridkun)
บันทึกการเข้า

sofar...sogood
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 278


=ไอ้ลิ่วล้อสิงกาโปโตก..มันจะตกนรกกะลาหัวไม่เจียม=


« ตอบ #2 เมื่อ: 13-04-2006, 08:13 »

เป็นไงล่ะนายกันตธีร์ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่านายกฯ ให้ทูตประเทศต่างๆ เข้าพบเรื่องการเดินทาง เรื่องวีซ่า

แล้ววันนี้ข่าวออกจากสำนักข่าวเอพี ยืนยันจากทูตอังกฤษว่านายกขอเข้าพบโทนี่ แบลร์

เหลี่ยมสะตออีกตามเคย สันดอนขุดง่าย แต่สันดานนี่สิ
บันทึกการเข้า
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 13-04-2006, 09:19 »

ผมว่าที่เหลี่ยมทำมันละม้ายคล้ายกับ ระบบประธานาธิปดี
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
Prometheus, The Titan
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 406



« ตอบ #4 เมื่อ: 13-04-2006, 10:52 »

ประธานาธิบดี?!?

ถ้างั้นไอ้เหลี่ยมมันสำคัญตนผิดอย่างแรงแล้วหละครับ
บันทึกการเข้า

Only the brave enjoy noble and glorious death.

- Dyonysus

หน้า: [1]
    กระโดดไป: