นายยรรยง พวงราช รองปลัดกระทรวงพาณิชย์(ของต่างด้าว)
ในฐานะประธานคณะกรรมการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบการถือหุ้นแทน(นอมินี)
ตาม พรบ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พศ.2542
ของบริษัทกุหลาบแก้วจำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้น
บริษัท ชินคอร์ปฯจำกัดว่า....
ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปชี้ชัดถึงความผิดปกติได้ ต้องตรวจสอบเพิ่มเติมอีก
ทั้งผู้ตรวจสอบบางรายเพิ่งส่งข้อมูลมาให้พิจารณาเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา
และเอกสารทั้งหมดหนากว่า 800 หน้า คาดว่าจะต้องใช้เวลา 2-3 เดือน
กว่าจะหาหลักฐานผูกมัดแน่นก่อนส่งตำรวจ ยันไม่มีสิทธิ์ชี้ขาดความเป็นนอมินี
แค่ชี้มูลเข้าข่ายหรือไม่เท่านั้น...1. เรื่องบริษัทกุหลาบแก้วจำกัดเข้าข่าย"นอมินี" หรือไม่ ต้องใช้เวลา 2-3 เดือน จึงจะตรวจสอบได้ เพราะเอกสารมากกว่า 800 หน้า
2. กรมพัฒนาธุรกิจและคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ไม่มีสิทธิ์ชี้ขาดว่าเป็น"นอมินี"หรือไม่
3. การชี้ขาดต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชี้ขาดเท่านั้น
4. เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่รู้แน่ชัดว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีสิทธิ์หน้าที่ชี้ขาดหรือไม่
5. ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีสิทธิ์ชี้ขาด จะต้องใช้เวลาอ่านผลการตรวจสอบ
และเอกสารอ้างอิงกว่า 800 หน้านานเท่าใด
6. หน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์(ของคนต่างด้าว) ไม่มีสิทธิ์ตรวจสอบ ชี้ขาดจริงหรือไม่
7. การชี้แจงพรรค์นี้ เป็นการช่วยเหลือ เอื้อประโยชน์ ถ่วงเวลาการตรวจสอบหาความผิด
ของบริษัทชินคอร์ปและบริษัทกุหลาบแก้วหรือไม่
8. การถ่วงเวลาตรวจสอบ 2-3 เดือนมีผลดี ผลประโยชน์ต่อการลงสมัครรับเลือกตั้ง
ของทักษิณและผู้สมัครพรรคไทยรักไทยหรือไม่
9. หากเปรียบเทียบ"ประสิทธิภาพ"ระหว่าง
3กกต.(หนา)ที่ตรวจสอบเอกสารวินิจฉัย
พรรคประชาธิปัตย์มีความผิด ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน
ก็อ่านเอกสารสรุปว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความผิดจริง กับ การตรวจสอบของ
หน่วยงาน
กระทรวงพาณิชย์(ของคนต่างด้าว)นั้น สามารถบอกว่าต่างกันระหว่างหน้ามือกับหลังเท้า
(ภาษาสุภาพ)หรือไม่
ถ้าเอกสารหนากว่า 800 หน้านั้นเป็นภาษาไทยไม่ใช่ภาษาต่างด้าวหรือภาษาสัตว์อื่นๆ ผมเชื่อว่าผมสามารถสรุปวินิจฉัยได้ว่าบริษัทกุหลาบแก้วจำกัด เป็น"นอมินี"หรือไม่ คุณที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ มีความซื่อสัตย์สุจริต เที่ยงธรรม ไม่คิดช่วยเหลือผู้กระทำความผิด คิดเหมือนผมหรือไม่