ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
28-03-2024, 21:55
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  วิพากษ์นโยบายเศรษฐกิจพอเพียงของประชาธิปัตย์ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
วิพากษ์นโยบายเศรษฐกิจพอเพียงของประชาธิปัตย์  (อ่าน 2300 ครั้ง)
พระพาย
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679



« เมื่อ: 12-08-2006, 00:50 »


เห็นประชาธิปัตย์กำลังหยิบเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้หาเสียงเลือกตั้งคราวนี้แล้ว ทำให้ห่อเหี่ยวใจยิ่งนัก ... ไม่โดนเลยท่าน... ที่ว่าจะเชียร์เลยต้องคิดดูก่อน

จะว่าไปแล้วหลายปีก่อนแนวนโนบายเศรษฐกิจของประชาธิปัตย์ก็คือการเปิดเสรีแบบธารินทร์ ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่าแพ้ทางแนวนโยบายของไทยรักไทยคือ รัฐสวัสดิการ+ประชานิยม จำพวก 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน ฯลฯ... ล่าสุดเลยทำท่าว่าจะหยิบเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นนโยบายพรรค เป็นที่ปลาบปลื้มใจยิ่งนัก

ที่ไหนได้... รูปธรรมที่ฟังมากลับเป็นเรื่องรัฐสวัสดิการ+ประชานิยมหนักข้อเข้าไปอีก... รักษาฟรี เรียนฟรี ฯลฯ

ที่จริงแล้ว ในปัจจุบันแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ถือว่ากำลังอยู่ในขั้นปรับตัวที่น่าสนใจอย่างยิ่ง และสอดคล้องกับแนวเศรษฐกิจพอเพียงเป็นที่สุดจากหลายปัจจัยดังนี้

1.ความเป็นอนุรักษ์นิยม... เป็นคู่ขัดแย้งกับทุนใหญ่สมัยใหม่แบบทักษิณที่สุด
2.การลดหนี้ครัวเรือน... สอดคล้องกับเศรษฐกิจพอเพียงอย่างยิ่ง
3.สมัชชาประชาชน... เน้นพลังทางสังคมในการร่วมแก้ปัญหา ซึ่งสอดคล้องกับแนวทาง "ทฤษฎีใหม่ 3 ขั้น" ที่ใช้เป็นรูปธรรมหนึ่งในการผลักดันเศรษฐกิจพอเพียง การริเริ่มของอภิสิทธิ์เป็นต้นทุนที่ดีอย่างหนึ่ง แต่กลับถูกทิ้งไปเฉยๆ
4.เศรษฐกิจปัจจุบันมีความเสี่ยงสูง... แนวนโยบายเชิงอนุรักษ์น่าจะได้รับการยอมรับจากประชาชนมากที่สุด
5.แนวนโยบายเชิงอนุรักษ์มักมาพร้อมกับการเน้นเป้าหมายนามธรรมอื่นๆ ที่มิใช่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจแต่เพียงอย่างเดียว เช่น การเน้นคุณธรรม จริยธรรม ฯลฯ สอดคล้องกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างยิ่ง

ย้ำกันให้ช้ำใจกันอีกครั้ง... รูปธรรมที่ฟังมากลับเป็นเรื่องรัฐสวัสดิการ+ประชานิยมหนักข้อเข้าไปอีก... รักษาฟรี เรียนฟรี ฯลฯ

บทบาทภาคประชาชนที่ท่านเริ่มหายไปไหนแล้ว... กลายเป็นประชาชนเลือก-รัฐแจกแบบนี้ ... กองเชียร์เสียใจนะท่าน

รายละเอียดของเศรษฐกิจพอเพียง มิใช่แค่นามธรรม "พอมีพอกิน" หรือ "ต่างคนต่างพึ่งพาตนเองให้รอด" หรือ "ดุลรายรับรายจ่ายรายครอบครัว" หรือ "การลดหนี้-เพิ่มรายได้" เท่านั้นนะครับ... ถ้าเป็นแบบนั้นไม่ต้องมีนโยบายพรรคก็ได้ พวกผมทำเองได้อยู่แล้ว

สิ่งที่ผมต้องการฟังจากพรรคประชาธิปัตย์ก็คือ "รูปธรรม" ในการสนับสนุนเศรษฐกิจพอเพียง ที่จะเป็นแนวนโยบายต่อสู้กับรัฐสวัสดิการ+ประชานิยมที่สูสีกันหน่อย... ซึ่งก็ควรมีรายละเอียดตามหัวข้อเหล่านี้ครับ

1.เศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นรูปธรรมในระดับนโยบาย... ปัจจุบันนี้น่าจะมีเพียง 1 แบบเท่านั้นคือ "ทฤษฎีใหม่ 3 ขั้น" ของในหลวง แต่รูปธรรมนี้จำเป็นต้องให้ 1 ครอบครัวมีที่ดินอย่างน้อย 15 ไร่ เหมาะสมกับภาคเกษตรกรรมเท่านั้น แต่ภาคธุรกิจ(น่าจะเป็น SMEs) ภาคแรงงาน หรือคนเมือง จะประยุกต์เศรษฐกิจพอเพียงในระดับรูปธรรมได้อย่างไรครับ? ความพอเพียงของภาคส่วนต่างๆ ไม่น่าจะเหมือนกัน รูปธรรมเชิงนโยบายก็น่าจะแตกต่างกัน... ผมเห็นแต่การเพิ่มรายได้-ลดรายจ่ายที่เหมาะสมกับภาคแรงงาน แต่นั่นก็เป็นข้อเสนอที่ธรรมดามาก

2.ใครเป็นคนกำหนดแนวทางความพอเพียงครับ? รัฐเป็นคนกำหนดแบบคอมมิวนิสต์? สมัชชาประชาชนของอภิสิทธิ์? ปัจจัยสี่ในพุทธศาสนา? ประชาสังคม? อบต.? หรือทางใครทางมัน?

3.กลไกในการจัดการความพอเพียงเน้นที่ใด? ตำบล? อำเภอ? จังหวัด? เครือข่ายประชาชน? กรมพัฒนาต่างๆ? สส.? หรือตัวใครตัวมันพูดให้่เป็นนามธรรมกว้างๆ ไว้? (ถ้าคิดแต่จะโฆษณาคำเศรษฐกิจพอเพียงแต่ไม่มีรูปธรรม ผมว่าอย่านำเสนอดีกว่า)

4.การวัดความพอเพียง ใช้อะไรวัดว่าประสบความสำเร็จครับ?

อยากได้ข้อมูลที่สูสีกับนโยบายพรรคไทยรักไทยที่เป็น "รูปธรรม" หน่อยหน่ะครับ... ไม่งั้นก็เตรียมแพ้เลือกตั้งได้เลยครับ ไทยรักไทยชนะแน่ แต่นายกฯ น่าจะเป็นคนอื่น... ทักษิณหน่ะพอเลือกตั้งเสร็จก็คงหมดประโยชน์ พรรคก็คงไม่แตกแล้วหลังเลือกตั้ง (นอกเสียจากถูกยุบ) นโยบายพรรคก็ไม่ใช่คนคิด คนมีฝีมือก็พอมีอยู่... ถูกทิ้งแน่

เหลือแต่ "นโยบาย" เท่านั้นที่สู้กันตรงๆ ครับ
บันทึกการเข้า

คลิป นปก บุกทำเนียบชนพันธมิตร
http://pirun.ku.ac.th/~g4685035/01mob.asf
กระทู้ขบวนการเสรีไทยในเวบบอร์ดร่วมคัดคัดกรณีปราสาทพระวิหาร นำโดยคุณ *bonny http://forum.serithai.net/index.php?topic=28065.0
และเอกสารยื่นคัดค้านกระทรวงต่างประเทศไทยและกัมพูชา  http://www.savefile.com/files/1629973
กระทู้สรุปประเด็นปราสาทพระวิหาร โดยคุณ Jerasak http://forum.serithai.net/index.php?topic=28392.0
ใบปลิวขนาด 2 หน้าสรุปประเด็นปราสาทพระวิหาร โดยคุณ Jerasak http://www.savefile.com/files/1626944

แม่น้ำร้อยสายล้วนต้นกำเนิดเดียวกัน... จากสายฝน จากภูเขา ที่ซึ่งคล้ายเจตนารมณ์แห่งฟ้า
เสรีไทยเวบบอร์ด http://forum.serithai.net/
We Open Mind http://www.weopenmind.com/board/index.php
อรุณสวัสดิ์ http://www.arunsawat.com/board/index.php
ที่ทำการเสี่ยวอีสาน[
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #1 เมื่อ: 12-08-2006, 01:03 »


เห็นประชาธิปัตย์กำลังหยิบเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้หาเสียงเลือกตั้งคราวนี้แล้ว ทำให้ห่อเหี่ยวใจยิ่งนัก ... ไม่โดนเลยท่าน... ที่ว่าจะเชียร์เลยต้องคิดดูก่อน

จะว่าไปแล้วหลายปีก่อนแนวนโนบายเศรษฐกิจของประชาธิปัตย์ก็คือการเปิดเสรีแบบธารินทร์ ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่าแพ้ทางแนวนโยบายของไทยรักไทยคือ รัฐสวัสดิการ+ประชานิยม จำพวก 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน ฯลฯ... ล่าสุดเลยทำท่าว่าจะหยิบเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นนโยบายพรรค เป็นที่ปลาบปลื้มใจยิ่งนัก

ที่ไหนได้... รูปธรรมที่ฟังมากลับเป็นเรื่องรัฐสวัสดิการ+ประชานิยมหนักข้อเข้าไปอีก... รักษาฟรี เรียนฟรี ฯลฯ

ที่จริงแล้ว ในปัจจุบันแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ถือว่ากำลังอยู่ในขั้นปรับตัวที่น่าสนใจอย่างยิ่ง และสอดคล้องกับแนวเศรษฐกิจพอเพียงเป็นที่สุดจากหลายปัจจัยดังนี้

1.ความเป็นอนุรักษ์นิยม... เป็นคู่ขัดแย้งกับทุนใหญ่สมัยใหม่แบบทักษิณที่สุด
2.การลดหนี้ครัวเรือน... สอดคล้องกับเศรษฐกิจพอเพียงอย่างยิ่ง
3.สมัชชาประชาชน... เน้นพลังทางสังคมในการร่วมแก้ปัญหา ซึ่งสอดคล้องกับแนวทาง "ทฤษฎีใหม่ 3 ขั้น" ที่ใช้เป็นรูปธรรมหนึ่งในการผลักดันเศรษฐกิจพอเพียง การริเริ่มของอภิสิทธิ์เป็นต้นทุนที่ดีอย่างหนึ่ง แต่กลับถูกทิ้งไปเฉยๆ
4.เศรษฐกิจปัจจุบันมีความเสี่ยงสูง... แนวนโยบายเชิงอนุรักษ์น่าจะได้รับการยอมรับจากประชาชนมากที่สุด
5.แนวนโยบายเชิงอนุรักษ์มักมาพร้อมกับการเน้นเป้าหมายนามธรรมอื่นๆ ที่มิใช่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจแต่เพียงอย่างเดียว เช่น การเน้นคุณธรรม จริยธรรม ฯลฯ สอดคล้องกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างยิ่ง

ย้ำกันให้ช้ำใจกันอีกครั้ง... รูปธรรมที่ฟังมากลับเป็นเรื่องรัฐสวัสดิการ+ประชานิยมหนักข้อเข้าไปอีก... รักษาฟรี เรียนฟรี ฯลฯ

บทบาทภาคประชาชนที่ท่านเริ่มหายไปไหนแล้ว... กลายเป็นประชาชนเลือก-รัฐแจกแบบนี้ ... กองเชียร์เสียใจนะท่าน

รายละเอียดของเศรษฐกิจพอเพียง มิใช่แค่นามธรรม "พอมีพอกิน" หรือ "ต่างคนต่างพึ่งพาตนเองให้รอด" หรือ "ดุลรายรับรายจ่ายรายครอบครัว" หรือ "การลดหนี้-เพิ่มรายได้" เท่านั้นนะครับ... ถ้าเป็นแบบนั้นไม่ต้องมีนโยบายพรรคก็ได้ พวกผมทำเองได้อยู่แล้ว

สิ่งที่ผมต้องการฟังจากพรรคประชาธิปัตย์ก็คือ "รูปธรรม" ในการสนับสนุนเศรษฐกิจพอเพียง ที่จะเป็นแนวนโยบายต่อสู้กับรัฐสวัสดิการ+ประชานิยมที่สูสีกันหน่อย... ซึ่งก็ควรมีรายละเอียดตามหัวข้อเหล่านี้ครับ

1.เศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นรูปธรรมในระดับนโยบาย... ปัจจุบันนี้น่าจะมีเพียง 1 แบบเท่านั้นคือ "ทฤษฎีใหม่ 3 ขั้น" ของในหลวง แต่รูปธรรมนี้จำเป็นต้องให้ 1 ครอบครัวมีที่ดินอย่างน้อย 15 ไร่ เหมาะสมกับภาคเกษตรกรรมเท่านั้น แต่ภาคธุรกิจ(น่าจะเป็น SMEs) ภาคแรงงาน หรือคนเมือง จะประยุกต์เศรษฐกิจพอเพียงในระดับรูปธรรมได้อย่างไรครับ? ความพอเพียงของภาคส่วนต่างๆ ไม่น่าจะเหมือนกัน รูปธรรมเชิงนโยบายก็น่าจะแตกต่างกัน... ผมเห็นแต่การเพิ่มรายได้-ลดรายจ่ายที่เหมาะสมกับภาคแรงงาน แต่นั่นก็เป็นข้อเสนอที่ธรรมดามาก

2.ใครเป็นคนกำหนดแนวทางความพอเพียงครับ? รัฐเป็นคนกำหนดแบบคอมมิวนิสต์? สมัชชาประชาชนของอภิสิทธิ์? ปัจจัยสี่ในพุทธศาสนา? ประชาสังคม? อบต.? หรือทางใครทางมัน?

3.กลไกในการจัดการความพอเพียงเน้นที่ใด? ตำบล? อำเภอ? จังหวัด? เครือข่ายประชาชน? กรมพัฒนาต่างๆ? สส.? หรือตัวใครตัวมันพูดให้่เป็นนามธรรมกว้างๆ ไว้? (ถ้าคิดแต่จะโฆษณาคำเศรษฐกิจพอเพียงแต่ไม่มีรูปธรรม ผมว่าอย่านำเสนอดีกว่า)

4.การวัดความพอเพียง ใช้อะไรวัดว่าประสบความสำเร็จครับ?

อยากได้ข้อมูลที่สูสีกับนโยบายพรรคไทยรักไทยที่เป็น "รูปธรรม" หน่อยหน่ะครับ... ไม่งั้นก็เตรียมแพ้เลือกตั้งได้เลยครับ ไทยรักไทยชนะแน่ แต่นายกฯ น่าจะเป็นคนอื่น... ทักษิณหน่ะพอเลือกตั้งเสร็จก็คงหมดประโยชน์ พรรคก็คงไม่แตกแล้วหลังเลือกตั้ง (นอกเสียจากถูกยุบ) นโยบายพรรคก็ไม่ใช่คนคิด คนมีฝีมือก็พอมีอยู่... ถูกทิ้งแน่

เหลือแต่ "นโยบาย" เท่านั้นที่สู้กันตรงๆ ครับ




ถ้าคุณพระพายอยากให้คนต่อต้านทักษิณ"รู้จัก"ทักษิณมากขึ้น ต้องนำผลงานของทักษิณมาโฆษณา ประชาสัมพันธ์ จึงจะถูกต้อง อย่าไปวิพากษ์วิจารณ์โครงการของพรรคประชาธิปัตย์เลย......

บอกมาเถอะ การหาเสียง นโยบายของพรรคไทยรักไทย "เลิดสมันแตนด์" อย่างไร.... Question


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
พระพาย
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679



« ตอบ #2 เมื่อ: 12-08-2006, 01:15 »

คุณปุถุชนครับ... รู้ๆ กันอยู่ว่าไทยรักไทยนั้นมีแนวนโยบายที่เด่นมาหลายปีแล้ว ... และเราก็รู้กันดีว่าแนวทางนี้กำลังประสบกับปัญหาอย่างแน่นอน... หนี้ครัวเรือนเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน... การระดมทุนพยายามสร้างเมืองใหม่... การระดมทุนสร้างรถไฟฟ้าเมกะโปรเจคต์ทั้งหลายแหล่ ประชานิยมรากหญ้า...ฯลฯ

แต่จะเปลี่่ยนไปเลือกพรรคอื่นก็ขอทางเลือกทางนโยบายที่มัน "สูสี" หน่อยครับ... เห็นสปอตแต่ละอันของประชาธิปัตย์เนี่ยไม่โดนเลย...

อย่างไรก็ตาม ประชาธิปัตย์ก็มี "ต้นทุน" ที่ดีที่สุดดังที่ผมเขียนวิเคราะห์ไว้แล้ว... นี่ก็ยังเหลือเวลาอยู่พอสมควร ยังไงก็ฝากประชาธิปัตย์นำโจทย์กลับไปคิดด้วยนาครับคุณปุถุชน

สำหรับเพื่อนๆ มีอะไรนำเสนอประชาธิปัตย์ในเรื่องนี้ก็เชิญครับ
บันทึกการเข้า

คลิป นปก บุกทำเนียบชนพันธมิตร
http://pirun.ku.ac.th/~g4685035/01mob.asf
กระทู้ขบวนการเสรีไทยในเวบบอร์ดร่วมคัดคัดกรณีปราสาทพระวิหาร นำโดยคุณ *bonny http://forum.serithai.net/index.php?topic=28065.0
และเอกสารยื่นคัดค้านกระทรวงต่างประเทศไทยและกัมพูชา  http://www.savefile.com/files/1629973
กระทู้สรุปประเด็นปราสาทพระวิหาร โดยคุณ Jerasak http://forum.serithai.net/index.php?topic=28392.0
ใบปลิวขนาด 2 หน้าสรุปประเด็นปราสาทพระวิหาร โดยคุณ Jerasak http://www.savefile.com/files/1626944

แม่น้ำร้อยสายล้วนต้นกำเนิดเดียวกัน... จากสายฝน จากภูเขา ที่ซึ่งคล้ายเจตนารมณ์แห่งฟ้า
เสรีไทยเวบบอร์ด http://forum.serithai.net/
We Open Mind http://www.weopenmind.com/board/index.php
อรุณสวัสดิ์ http://www.arunsawat.com/board/index.php
ที่ทำการเสี่ยวอีสาน[
koo
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 550



« ตอบ #3 เมื่อ: 12-08-2006, 01:24 »

อ่า... คุณพระพาย จะถือว่าเรื่อง สวัสดิการ เรียนฟรี กับรักษาฟรี

ขัดกับ เศรษฐกิจพอเพียงหรือครับ

กะลังมึน ตอบว่าใช่หรือไม่ใช่พอนะครับ ผมจะได้พิมพ์ต่อ
บันทึกการเข้า
Coolly_Jade
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 318


ฉันจะบิน บิน บิน สู่เสรีภาพอันยิ่งใหญ่


« ตอบ #4 เมื่อ: 12-08-2006, 01:28 »

ส่วนผมว่า ปชป กำลังไม่เป็นตัวของตัวเอง อาจจะเป็นเพราะกังวลต่อนโยบายประชานิยมของ ทรท จนมากเกินไป
แต่ก็ไม่แปลกใจเพราะธรรมชาติของพรรคการเมืองต้องคิดถึงคะแนนเสียงคะแนนนิยม
ผมกลับเห็นว่า ปชป น่าจะเข้าทางของตัวเอง และเพิ่มการอธิบายกระจายข้อมูลให้ถึงประชาชนมากกว่า

สโลแกนเขางามดีนะครับ ประชาชนต้องมาก่อน
แต่ทำไม๊...ทำไม ไม่ขยายความอิตรงสโลแกนให้มันเป็นจุดแข็งก็ไม่รู้ มัวแต่ไปพะวงอยู่กับนโยบายของคู่แข่งมากเกินไปก็ไม่รู้
ภาพที่ออกมาเลย สุกๆดิบๆ อย่างที่เห็น
บันทึกการเข้า

ทักษิณาธิปไตย เสรีทางความคิด เผด็จการต่อการแสดงออก ใครเห็นด้วยเป็นคนดี ใครคัดค้านเป็นกุ๊ย
พระพาย
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679



« ตอบ #5 เมื่อ: 12-08-2006, 01:28 »

เรื่องเรียนฟรี รักษาฟรี เป็นเรื่องที่ "รัฐ" จัดให้... ยังไงก็ต้องจัดเป็น "รัฐสวัสดิการ" ครับ

แต่เศรษฐกิจพอเพียงแบบ "พอมีพอกิน" หรือทฤษฎีใหม่นั้น เน้นที่ภาคประชาชนเป็นหลักครับ

เริ่มจาก 1 ครอบครัว... อะไรคือความพอเพียง... ตามทฤษฎีใหม่คือ ที่ดิน 15 ไร่
1 ชุมชน.. อะไรคือความพอเพียง... ตามทฤษฎีใหม่คือการพึ่งพิงอิงกัน
1 ประเทศ ... อะไรคือความพอเพียง.. อันนี้รู้สึกว่าจะเป็นระบบจัดการสมัยใหม่+สหกรณ์+เครือข่าย

ผมเชื่อแบบที่คุณ ธ.ส.เชื่อในกระทู้โน้น... เศรษฐกิจพอเพียงต้องเน้นพลังประชาชน
บันทึกการเข้า

คลิป นปก บุกทำเนียบชนพันธมิตร
http://pirun.ku.ac.th/~g4685035/01mob.asf
กระทู้ขบวนการเสรีไทยในเวบบอร์ดร่วมคัดคัดกรณีปราสาทพระวิหาร นำโดยคุณ *bonny http://forum.serithai.net/index.php?topic=28065.0
และเอกสารยื่นคัดค้านกระทรวงต่างประเทศไทยและกัมพูชา  http://www.savefile.com/files/1629973
กระทู้สรุปประเด็นปราสาทพระวิหาร โดยคุณ Jerasak http://forum.serithai.net/index.php?topic=28392.0
ใบปลิวขนาด 2 หน้าสรุปประเด็นปราสาทพระวิหาร โดยคุณ Jerasak http://www.savefile.com/files/1626944

แม่น้ำร้อยสายล้วนต้นกำเนิดเดียวกัน... จากสายฝน จากภูเขา ที่ซึ่งคล้ายเจตนารมณ์แห่งฟ้า
เสรีไทยเวบบอร์ด http://forum.serithai.net/
We Open Mind http://www.weopenmind.com/board/index.php
อรุณสวัสดิ์ http://www.arunsawat.com/board/index.php
ที่ทำการเสี่ยวอีสาน[
แนวสกา
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 633



« ตอบ #6 เมื่อ: 12-08-2006, 01:34 »


1.เศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นรูปธรรมในระดับนโยบาย... ปัจจุบันนี้น่าจะมีเพียง 1 แบบเท่านั้นคือ "ทฤษฎีใหม่ 3 ขั้น" ของในหลวง แต่รูปธรรมนี้จำเป็นต้องให้ 1 ครอบครัวมีที่ดินอย่างน้อย 15 ไร่ เหมาะสมกับภาคเกษตรกรรมเท่านั้น แต่ภาคธุรกิจ(น่าจะเป็น SMEs) ภาคแรงงาน หรือคนเมือง จะประยุกต์เศรษฐกิจพอเพียงในระดับรูปธรรมได้อย่างไรครับ? ความพอเพียงของภาคส่วนต่างๆ ไม่น่าจะเหมือนกัน รูปธรรมเชิงนโยบายก็น่าจะแตกต่างกัน... ผมเห็นแต่การเพิ่มรายได้-ลดรายจ่ายที่เหมาะสมกับภาคแรงงาน แต่นั่นก็เป็นข้อเสนอที่ธรรมดามาก

เห็นด้วยครับที่ดินโดนคนยุให้ไปเข้าแบ๊งค์กันหมดแล้ว ต่อไปจะไม่มีที่ทำกินกัน

ส่วนภาคเศรษฐกิจ รัฐต้องเข้ามามีบทบาทในการกำหนดนโยบาย คนเก่งในประเทศมีเยอะต้องช่วยกันอย่าเพิ่งตั้งแง่


2.ใครเป็นคนกำหนดแนวทางความพอเพียงครับ? รัฐเป็นคนกำหนดแบบคอมมิวนิสต์? สมัชชาประชาชนของอภิสิทธิ์? ปัจจัยสี่ในพุทธศาสนา? ประชาสังคม? อบต.? หรือทางใครทางมัน?

ให้ประชาชนเป็นคนกำหนดครับ โดยการติดความรู้เข้าไปให้ประชาชน ให้รู้จักวิธีที่จะทำ มิใช่การยัดเยียด เหมือนกับการบังคับกระตุ้นการใช้จ่าย



3.กลไกในการจัดการความพอเพียงเน้นที่ใด? ตำบล? อำเภอ? จังหวัด? เครือข่ายประชาชน? กรมพัฒนาต่างๆ? สส.? หรือตัวใครตัวมันพูดให้่เป็นนามธรรมกว้างๆ ไว้? (ถ้าคิดแต่จะโฆษณาคำเศรษฐกิจพอเพียงแต่ไม่มีรูปธรรม ผมว่าอย่านำเสนอดีกว่า)

ผมว่าน่าจะเน้นที่การศึกษา ถ้าเข้าใจกันจริงๆทุกที่จะมีวิธีการจัดการ อาจจะไม่เหมือนกันทั้งหมด แต่ไปทิศทางเดียวกัน

4.การวัดความพอเพียง ใช้อะไรวัดว่าประสบความสำเร็จครับ?

ความรู้สึกว่าพอครับ คืออยู่ได้แล้ว ส่วนที่มีมากกว่านั้นค่อยนำมาขยับขยายแบบค่อยเป็นค่อยไป มิใช่ก้าวกระโดด

อยากได้ข้อมูลที่สูสีกับนโยบายพรรคไทยรักไทยที่เป็น "รูปธรรม" หน่อยหน่ะครับ... ไม่งั้นก็เตรียมแพ้เลือกตั้งได้เลยครับ ไทยรักไทยชนะแน่ แต่นายกฯ น่าจะเป็นคนอื่น... ทักษิณหน่ะพอเลือกตั้งเสร็จก็คงหมดประโยชน์ พรรคก็คงไม่แตกแล้วหลังเลือกตั้ง (นอกเสียจากถูกยุบ) นโยบายพรรคก็ไม่ใช่คนคิด คนมีฝีมือก็พอมีอยู่... ถูกทิ้งแน่

เหลือแต่ "นโยบาย" เท่านั้นที่สู้กันตรงๆ ครับ

อันนี้ผมแสดงความคิดเห็น ไม่เกี่ยวกับพรรค ประชาธิปปัตย์ นะครับ อาจมีผิดพลาดบ้างเพราะเป็นความคิดเห็นส่วนตัว
บันทึกการเข้า

ทุกคนล้วนมักมีอำนาจวาสนา ตัวข้าต้องการเพียงเสพดื่มกิน
พระพาย
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679



« ตอบ #7 เมื่อ: 12-08-2006, 01:43 »

เห็นด้วยกับความคิดของคุณ Cooly_Jade สโลแกนเขางามจริงๆ ... วาระประชาชน ประชาชนต้องมาก่อน... เป็นแนวคิดสู้กับ "รัฐสวัสดิการ" ได้อย่างแน่นอน

แต่รายละเอียดกลับหายไปเฉยๆ แบบนั้น... กลายเป็นรัฐสวัสดิการแบบเดียวกันไปซะนี่
บันทึกการเข้า

คลิป นปก บุกทำเนียบชนพันธมิตร
http://pirun.ku.ac.th/~g4685035/01mob.asf
กระทู้ขบวนการเสรีไทยในเวบบอร์ดร่วมคัดคัดกรณีปราสาทพระวิหาร นำโดยคุณ *bonny http://forum.serithai.net/index.php?topic=28065.0
และเอกสารยื่นคัดค้านกระทรวงต่างประเทศไทยและกัมพูชา  http://www.savefile.com/files/1629973
กระทู้สรุปประเด็นปราสาทพระวิหาร โดยคุณ Jerasak http://forum.serithai.net/index.php?topic=28392.0
ใบปลิวขนาด 2 หน้าสรุปประเด็นปราสาทพระวิหาร โดยคุณ Jerasak http://www.savefile.com/files/1626944

แม่น้ำร้อยสายล้วนต้นกำเนิดเดียวกัน... จากสายฝน จากภูเขา ที่ซึ่งคล้ายเจตนารมณ์แห่งฟ้า
เสรีไทยเวบบอร์ด http://forum.serithai.net/
We Open Mind http://www.weopenmind.com/board/index.php
อรุณสวัสดิ์ http://www.arunsawat.com/board/index.php
ที่ทำการเสี่ยวอีสาน[
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #8 เมื่อ: 12-08-2006, 09:24 »

หนูคงจะยังไม่วจารณ์นโยบายของประชาธิปัตย์ แต่อยากจะทำความเข้าใจกับคุณพนะพายก่อนเรื่องแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง

อ้างถึง
เศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นรูปธรรมในระดับนโยบาย... ปัจจุบันนี้น่าจะมีเพียง 1 แบบเท่านั้นคือ "ทฤษฎีใหม่ 3 ขั้น" ของในหลวง แต่รูปธรรมนี้จำเป็นต้องให้ 1 ครอบครัวมีที่ดินอย่างน้อย 15 ไร่ เหมาะสมกับภาคเกษตรกรรมเท่านั้น

เข้าใจผิดแล้วค่ะ เศรษฐกิจพอเพียง รากฐานของระบบ คือการรู้จักคำว่าพอ

เกษตรกร จะมีพื้นที่เท่าไหร่ก็ตาม การผลิตนั้นจะต้องคำนึงถึงการเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของคนในครอบครัวก่อน เมื่อผลผลิตเหลือจึงนำไปขาย ส่วนการแบ่งที่ดินออกเป็นส่นๆนั้น เป็นแนวทางตัวอย่างที่สอนให้เห็นว่า ทำแล้วผลจะเป็นอย่างไร

เกษตรกรปัจจุบัญ เป้าหมายการผลิตอยู่ที่การนำไปขายไม่ใช่บริโภค จึงผิดหลักเศรษฐกิจพอเพียงไป เพราะปลูกพืชหวังแลกเป็นตัวเงิน แม้แต่ชาวอีสานก็ไม่ปลูกข้าวเหนียวไวไกน กลับมาปลูกข้าวหอมมะลิซึ่งมีราคาแพง เมื่อขายแล้วจึงเอาเงินที่ได้ไปซื้อข้าวเหนียวกิน อย่างนี้ผิดหลักค่ะ  อีกอย่าง การปลูกพืชแบบต้องไปกู้เงินมาซื้อพันธุ์ซื้อปุ๋ย จ้างรถไถ จ้างคนเก่ยว นับว่าหลุดไปจากแนวทาง เพราะเศรษฐกิจพอเพียงสอนให้พึ่งตนเองก่อนค่ะ

ส่วนภาคการผลิต ระบบทุนนิยมสอนไว้ว่า เมื่อสินค้าขายดี ก็กู้เงินมาขยายกิจการ และหาทางกระจายสินค้าให้ครอบคลุมไปให้มากที่สุด กดค่าแรงให้ต่ำสุด ลดค่าใช้จ่ายของวัตถุดิบ เรียกว่าลดต้นทุนให้ต่ำสุด ขายให้ได้ราคาสูงสุด เพื่อผลกำไรสูงสุด นี่ขัดกับระบบเศรษฐกิจพอเพียง เพราะไม่รู้จักพอ

ชุมชนต้องรู้จักผลิตเพื่อตอบสนองคนในชุมชน (ไม่เหมือนโอท็อป ซึ่งหลอกให้ชาวบ้านมาเจ๊งจากการลงทุน) ชุมชนหนึ่งต้องการใช้สบู่ คนในชุมชนควรผลิตสบู่กันเอง ในระบบผลิตใดก็ได้ เมื่อผลิตได้เท่าที่หาวัตถุดิบในท้องถิ่นมาทำได้แล้ว ถ้าเหลือก็ส่งออกมาขายนอกพื้นที่ของตนบ้าง แต่ถ้าขายดีแล้วเริ่มซื้อวัตถุดิบจากส่วนที่ขาดเพราะหาไม่พอในชุมชน เริ่มจ้างแรงงานมากมาย ตั้งโรงงาน กู้เงินมา เพื่อจะผลิตสบู่ไปขายให้ได้มากๆ หวังจะรวยว่างั้นเหอะ ก็หลุดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงไปแล้ว กลายเป็นทุนนิยมไป

SME อะไรนั่น เป็นกลไกสั่วๆของทุนนิยม อย่าเอามาใช้ในระบบนี้เลยค่ะ มันหลุดแล้ว

เมื่อทำได้ดังนี้ เริ่มที่ครอบครับช่วยเหลือตัวเองได้ ถัดมา ชุมชนเช่นหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ ช่วยเหลือและเลี้ยงตนเองได้แล้ว มันก็จะช่วยให้ระดับใหญ่อย่าง จังหวัด และประเทศ ช่วยเหลือตนเองได้ เป็นระบบเศรษฐกิจพอเพียงอย่างแท้จริง

ประเทศของเราอาจจะ ไม่มีตัวเลขการส่งออกอย่างมหาศาล ไม่มีตัวเลขจีดีพีสวยหรู แต่ประชาชนทุกคนอยู่ได้อย่างพอเพียง มีปั๗๗ยสี่ในการดำรงชีวิตไม่ขาดแคลน เราจะได้ตัวเลขใหม่ที่เขากำลังฮือฮากัน  นั่นคือดัชนีวัดความสุขของประเทศ เราจะมีความสุขกันมากค่ะ

อยากทำความเข้าใจในระบบเศรษกิจพอเพียง ต้องล้างความคิดเดิมที่เคยรับรู้มาเกี่ยวกับวิถีทางการดำเนินเศรษฐกิจทุนนิยมให้ออกไปก่อนนะคะ ไม่งั้นมันหลงวนเหมือนพายเรือในอ่างค่ะ
บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #9 เมื่อ: 12-08-2006, 09:34 »

นายพระพายนี่ดูลำดับความคิดแล้วต้องเป็นสายวิทย์แน่นอน มีเหตุผลและหลักการ
ตอนนี้เศรษฐกิจพอเพียงมันยังไม่มี criteria ชัดว่า แค่ไหนพอ แค่ไหนขาด
ถ้าจะนำมาเป็นนโยบายก็ควรจะมีเอกสารประกอบที่ชัดเจนในการปฏิบัติ
ไม่ใช่แบบคำว่าจริยธรรมให้คนเข้าใจเอาเอง ลองไปถามหาจริยธรรมของ
คนกินเนื้อหมาที่ท่าแร่สกลนครซิ

ส่วนการประเมินผลนโยบายรัฐเป็นตัวเลข โดยเฉพาะผลที่ได้จากเศรษฐกิจ
พอเพียงในขณะนี้ต้องใช้ความรู้สึกครับ

ส่วนเจ๊ 1000 ชมพู่นี่ถ้าจะคุยกับคุณพระพาย ผมคงต้องให้ยืมชื่อ
บันทึกการเข้า
วินท์
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 176


« ตอบ #10 เมื่อ: 12-08-2006, 09:52 »

ผมเองไม่คิดว่าระบบรัฐสวัสดิการจะมีความขัดแย้งกับระบบเศรษฐกิจพอเพียงนะครับ

บังเอิญได้อ่านอีกหัวข้อของ จขกท. โต้ตอบกับคุณ Mini เกี่ยวกับ Social Liberalism
ตามความเข้าใจของผม ความแตกต่างระหว่าง Social Liberalism กับ  Classic Liberalism หรือ
(บางทีเรียกว่าพวก Libertarian) คือ Social Liberalism จะให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมกัน
(Equality) ในขณะที่ Libertarian จะเน้นเรื่องของสิทธิและเสรีภาพ

การที่จะนำระบบใดมาใช้ในการบริหารปกครองประเทศ น่าจะดูสภาพความเป็นอยู่ของประชากร
ในประเทศนั้นๆเป็นหลัก เช่น ในประเทศที่ยังไม่พัฒนา ประชากรส่วนใหญ่ยังมีฐานะยากจน
รัฐสวัสดิการน่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนส่วนใหญ่มากกว่า

ในขณะที่ประเทศที่พัฒนาแล้ว ประชากรส่วนใหญ่อยู่ดี กินดี มีการศึกษาดี คงพอใจที่จะใช้
แบบ Classic Liberalism มากกว่า เพราะรัฐจะมายุ่งเกี่ยวกับชีวิตพวกเขาน้อยมาก

การมีรัฐสวัสดิการจึงน่าจะเหมาะสมกับประเทศไทยในขณะนี้ พร้อมกับการส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียง
ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นให้ประชาชนมีความรู้และเข้าใจในการดำเนินชีวิตที่เหมาะสมในขณะเดียวกัน
เพื่อจะได้มีโอกาสพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้ เหมือนเวลาเราเลี้ยงเด็ก จะให้เขาทำอะไรเองทุกอย่างคงเป็น
ไปไม่ได้ ในเรื่องของปัจจัยพื้นฐานบางอย่างก็ต้องจัดหาไว้ให้ แต่อย่าให้มากเกินไป ในขณะเดียวกัน
ก็ต้องสอนให้ทำอะไรด้วยตัวเองให้เป็นด้วย

 

บันทึกการเข้า
แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 12-08-2006, 11:27 »

http://forum.serithai.net/index.php?topic=5479.0

เอาเทปมาฝากเฉยๆ  แต่ไม่มีรายละเอียดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเท่าไหร่อ่ะ
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #12 เมื่อ: 12-08-2006, 12:57 »

http://www.sufficiencyeconomy.org/
เศรษฐกิจพอเพียง
บันทึกการเข้า
O_envi
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 495



« ตอบ #13 เมื่อ: 12-08-2006, 13:11 »

รักษาฟรีมันอยู่ใน กม อยู่แล้วหนิครับ
ส่วนเรื่องการศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอยุ่แล้วครับ

เราจะเข้าใจเศรษฐกิจพอเพียงได้ก็ต้องมีความรู้ครับ
ยกตัวอย่างครับตอนนี้มีแต่คนเล่นหวยถ้าเขามีการศึกษามากขึ้น
เขาจะเข้าใจครับว่าเลขล็อคแบบที่พระเจ้าให้มาน่ะไม่มีหรอก
มันมีแต่เลขล็อคโดยคนกับเลขที่ออกแบบสุ่มซึ่งซื้อไปก็ขาดทุน
ถ้าจะเข้าใจแบบนี้ได้ก็ควรจะเรียนซัก ม.6 ครับ
แต่ว่าควรจะยกระดับการสอนด้วยไม่ใช่จบม. 6 แล้วคิดอะไรไม่เป็นเลย
บันทึกการเข้า

The change musts come one by one.It has to start with you
enjoylife
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 114



« ตอบ #14 เมื่อ: 12-08-2006, 16:44 »

รักษาฟรีมันอยู่ใน กม อยู่แล้วหนิครับ
ส่วนเรื่องการศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอยุ่แล้วครับ
มาเห็นด้วยกับคุณ O_envi
ผมว่าลองวางเฉย ปล่อยคุณ มาร์ค ทำการบ้านมาอีกนิด อาจจะมีชัดๆขึ้น
มิใช่ว่า pro ปชป นะ แต่อ่านนโยบายเขาแล้วยังดีใจกับท้องใส้ของตัวเองมากกว่า
ของ o[ ]o ที่ว่า One LapTop per one child น่ะ
แค่เรียนฟรีจริงๆยังมิสำเร็จ ยังจะโม้โน่นนี่...
บันทึกการเข้า
morning star
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,119


don't let them make up your mind


« ตอบ #15 เมื่อ: 12-08-2006, 16:50 »

จริง ๆ แล้วชอบกระทู้นี้ครับ Mr. Green

นโยบายแบบประชานิยม

เช่นหนึ่งรถไถ หรือ เครื่องพ่นยาฆ่าแมลงประจำหมู่บ้าน ผมก็เขียนเป็นนโยบายได้ครับ เพียงแค่บอกว่า ให้สิ่งเหล่านั้นเป็นของ อบต และ ใช้ประจำตามหมู่บ้านต่าง ๆ มีการให้งบจัดจ้างกับ อบต ทั่วประเทศ และ นำไปใช้ให้กับชาวบ้านฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพียงแต่ต้องใช้สิทธิ์ในการใช้งานเพียงปีละครั้งเท่านั้น..รวมทั้งต้องเป็นพื้นที่ที่มี สค 1 หรืออะไรก็ตามแต่..เพียงแต่ถ้าได้ผลผลิตมาจึงจะมีการจ่ายสิ่งเหล่านั้นในราคาค่าใช้จ่ายที่เป็นธรรม...

หรือไม่ก็ หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งธุรกิจ..ให้แต่ละหมู่บ้านลงทุนทำธุรกิจไปเลยด้วยความช่วยเหลือจากรัฐบาลมีทุกคนในหมู่บ้านเป็นหุ้นส่วนร่วมกัน ให้ยื่นแผนธุรกิจให้รัฐพิจารณา..ผลกำไรก็นำมาแบ่งปันกัน หรือรวมเป็นกองทุน โดยแต่ละธุรกิจจะไม่แข่งขันกันกับหมู่บ้านอื่นมากนัก

เอาอีกอัน คือ..หนึ่งตำบล หนึ่งโรงสี..ดีมั้ยครับ...สีข้าวกันฟรี ทุกโรงสีของตำบล

สารพัดจะเขียนเป็นนโยบายครับ..ในเรื่องประชานิยม

แต่วิธีที่จะไปถึงนโยบายเหล่านั้นต่างหากที่สำคัญกว่า...นโยบายที่ผมยกมาข้างต้นคงจะมีปัญหามากทีเีดียวในทางปฏิบัติ แต่ใครจะแคร์ครับเมื่อผมทำมันจริง ๆ จะมีปัญหาก็เป็นเรื่องที่ อบต หรือ คณะกรรมการหมู่บ้านต้องรับผิดชอบไป ผมไม่เกี่ยว(เหมือนหมอต้องรับผิดในโครงการสามสิบบาทไป รัฐไม่เกี่ยว)

มองนโยบาย ปชป มันคล้าย ๆ กับ ทรท ก็จริงครับ..แต่รายละเอียดและวิธีปฏิบัติมันจะเหมือนกันหรือไม่ คงยังไม่มีใครรู้

บันทึกการเข้า

อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
หน้า: [1]
    กระโดดไป: