สุนทรียสนทนา
วิศิษฐ์ วังวิญญู : เขียน
พิมพ์ครั้งที่ ๑ ขนาด ๑๖ หน้ายกพิเศษ ๑๖๘ หน้า
ราคาปก : ๑๒๕ บาท
การสนทนาเป็นวิถีทางอันเป็นธรรมชาติที่มนุษย์ใช้สื่อสารถึงกัน ถ่ายทอดความคิดสู่กันและกันได้อย่างรวดเร็วทันท่วงที แต่การฟังเพียงถ้อยคำที่เปล่งออกมาและการมองจากภาพลักษณ์ภายนอกอาจไม่สามารถสรุปความหมายที่แท้ของ สาส์น
งานสุนทรียสนทนา ก็เช่นเดียวกับการปฏิบัติธรรม หากเราไม่ยึดในความคิดเกี่ยวกับตัวตนของเรา ไม่ยึดความคิดในเรื่องการปฏิบัติ ไม่ยึดความคิดเกี่ยวกับผลที่จะตามมา เราก็จะเดินเพื่อเดิน ทำสุนทรียสนทนาเพื่อสุนทรียสนทนา ไม่ว่าจะได้อะไรหรือไม่ แต่เราก็ได้ทำงานในปัจจุบันขณะได้อย่างงดงามสมชื่อสุนทรียสนทนานั้นแล้ว
เมื่อเกิดปัญญาจากการสนทนา คนที่เคยปฏิบัติธรรมก็จะเห็นได้ว่ามันเป็นวิปัสสนากรรมฐานในรูปแบบหนึ่งแน่ๆ เพราะเมื่อเข้าวงสนทนาและเริ่มฟังอย่างมีทัศนคติที่ถูกต้อง คือการฟังอย่างมีสมาธินั้นเอง
การฟังจึงเป็นทั้งศิลปะพื้นฐานและเป็นศิลปะชั้นสูง ที่เราอาจจะต้องฝึกฝนไปตลอดชีวิต เมื่อเทียบเคียงกับการปฏิบัติในพุทธศาสนาแล้ว เราจะต้องฝึกสมาธิเพื่อผ่อนคลายความว้าวุ่นของอารมณ์ต่างๆ ในใจเราให้สงบลง และถ้าฝึกได้ดีจะถึงจุดที่ ว่าง จากอารมณ์รบกวนทั้งหลาย และในเวทีสนทนา เราต้องฝึกปัญญาคือวิปัสสนาที่เราจะว่างจากความคิดของเราเอง เพื่อรับความคิดของผู้อื่นเข้ามา
Comment / ???????
จากสำนักพิมพ์
นับจากที่สำนักพิมพ์สวนเงินมีมาได้จัดพิมพ์งานเขียนเรื่อง มณฑลแห่งพลัง ของคุณวิศิษฐ์ วังวิญญู เมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ ไม่กี่เดือนต่อมาหนังสือเล่มนี้ก็หมดลงอย่างรวดเร็ว จึงต้องจัดพิมพ์ขึ้นใหม่เป็นครั้งที่สองในเดือนพฤษภาคม คือเพียงสองถึงสามเดือนต่อมา มณฑลแห่งพลัง ได้รับการบูรณาการเข้ากับการอบรมแลกเปลี่ยนเพื่อความเข้าใจชีวิต การงาน และการใช้เวลาว่าง รวมถึงอีกหลากหลายกรณีที่ผู้อ่านนำไปเผยแพร่ในแวดวงของตน หรือแม้กระทั่งอ่านเพื่อแรงบันดาลใจ ขณะที่คุณวิศิษฐ์ วังวิญญูทำงานเขียนเรื่อง มณฑลแห่งพลัง ก็ได้ลงมือเขียนต้นฉบับหนังสือเรื่อง สุนทรียสนทนา ในเวลาใกล้ๆ กัน
สุนทรียสนทนา จะนำเราไปสู่ประสบการณ์ใหม่ของการสนทนาและการฟังอย่างลึกซึ้ง ซึ่งมิใช่เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของการสนทนาเพียงอย่างเดียว แต่เพื่อความเข้าใจและค้นพบปัญญาร่วมกัน คุณวิศิษฐ์ วังวิญญูได้ศึกษาทั้งงานเขียนของนักคิดแนววิทยาศาสตร์ใหม่ที่เชื่อมโยงความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์กับจิตวิญญาณ ผนวกกับประสบการณ์ของตนเองที่ได้จากการฝึกอบรมเพื่อกระบวนการเรียนรู้ใหม่ๆ ทั้งในเรื่อง มณฑลแห่งพลัง และ สุนทรียสนทนา ดังนั้นผู้อ่านจะได้รับทั้งความรู้ในเชิงทฤษฎีและตัวอย่างประสบการณ์ของผู้ที่เคยร่วมวงสุนทรียสนทนาในแวดวงที่แตกต่างกันไป เนื้อหาสาระในหนังสือจะนำพาผู้อ่านไปสู่พื้นที่การสนทนาที่ลุ่มลึก และเริ่มตรึกตรองเรื่องการใช้ชีวิตให้ช้าลงเพื่อให้เวลากับการใคร่ครวญพิจารณารายละเอียดและปรากฏการณ์รอบตัวเรา บางที...เราอาจได้รู้จักการฟังอย่างลึกซึ้ง รู้จักการสนทนาด้วยความรัก รู้จักสื่อสารกันด้วยใจ เพื่อบรรลุสันติร่วมกัน
สำนักพิมพ์ฯ ขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการสรรค์สร้างหนังสือเล่มนี้ โดยเฉพาะทีมงานในโครงการจิตวิวัฒน์ที่สนับสนุนการจัดพิมพ์ โดยเฉพาะคุณวรพงษ์ เวชมาลีนนท์ที่ได้ให้ความเอื้อเฟื้อเป็นอย่างดีตลอดมา