ทำไมท่านนายก กลืนก็ไม่เข้า คายก็ไม่ออก ประกาศเว้นวรรคไม่ได้

อ่านบทวิเคราะห์นี้ แล้วต้องนั่งนิ่ง ตั้งสติ และถอนหายใจหลายรอบ
พร้อมกับแอบคิดในใจ ว่า เอ้อจริงถ้าเป็นเราก็คงตัดสินใจยากนะ จะเอาดี

กระทู้นี้ เลยไม่รู้จะจั่วหัวกระทู้ว่าไง ก็เลยเอาง่ายๆๆกลืนก็ไม่เข้า คายก็ไม่ออก รู้สึกว่ามันมองเห็นภาพชัดเจนดี

....................................................................................

ถ้าไม่อยู่ในอารมณ์เก็บกดจริงๆคงทำไม่ได้

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจเดินสายพบชาวบ้านตลอดทั้งวัน ช่วงค่ำคืนวันที่ 8 สิงหาคม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีคู่ใจบาง
ส่วน ได้โอกาสปลดปล่อย ชวนกันไปร้องคาราโอเกะในห้องอาหารใต้ถุนโรง
แรมที่พัก

โดยเฉพาะนายกฯทักษิณตามรายงานข่าวเห็นบอกว่า......

ยึดไมค์ร้องคนเดียว15 เพลงรวด ทั้งเพลงไทยเพลงสากล อาทิ 30
ยังแจ๋ว สั่งนาง ฯลฯ

แต่ที่น่าสนใจจริงๆก็คือเพลง “มายเวย์” ผลงานอมตะของ “แฟรงค์ ซิเนตรา” เป็น 1 ใน 15 เพลงที่ พ.ต.ท.ทักษิณเลือกขยับลูกคออัลบั้มพิเศษ

มันเข้ากันพอดีกับสถานการณ์

“ทักษิณ” เพิ่งเผยเบื้องลึกในจิตใจกำลังสับสนว้าวุ่นกับอนาคตทางการ
เมือง อยู่ในห้วงคิดไม่ตก จะเว้นวรรคหรือไม่เว้นวรรค

ถ้าวางแผนนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีต่อไป ฝ่ายต่อต้านก็ไม่มีความสุข “ทักษิณ”
ก็ต้องเหนื่อยกับแรงเสียดทาน

จะพาลกระทบไปถึงครอบครัวได้รับความกดดันหลายด้าน

หากถอดใจถอย ยอมเว้นวรรคเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ตามเสียงโห่ไล่ของฝ่าย
ตรงข้าม กองเชียร์ก็แย่ แม่ยกพ่อยกก็ไม่ยอม

อยู่ในห้วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางความคิด

แต่ทั้งหมดทั้งปวงจะเว้นวรรคหรือสู้ต่อไป ถึงที่สุดแล้ว การตัดสินใจขั้นสุดท้าย
ก็คงไม่มีใครกำหนดแทนได้มันอยู่ที่ “ทักษิณ” จะเลือกเส้นทางของตัวเอง

และ “ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐ” ก็เชื่อว่า มาถึงวันนี้มีคำตอบอยู่ในใจกันบ้างแล้ว
อย่างน้อยก็ชั่งใจเกินกว่า 80 เปอร์เซ็นต์

ส่วนจะเปิดปากฟันธงกันเมื่อไหร่ จะดึงเกมกั๊กไปถึงไหน จากทัวร์อีสานทริปล่า
สุด คำตอบมันก็ชัดเจนในตัว พ.ต.ท.ทักษิณก็ยอมรับตรงๆ

“ถ้าบอกว่าผมสู้ คนที่โจมตีอยู่มันก็จะบ้าตาย แต่ถ้าบอกว่าไม่สู้ กองเชียร์ก็แย่”

นี่แหละเงื่อนไขที่มันค้ำคออยู่

ถ้า “ทักษิณ” ประกาศลุยโต้งๆ เอาใจกองเชียร์ ฝ่ายตรงข้ามก็ต้องดาหน้าถล่ม
ทั้งแนวร่วมพันธมิตรม็อบไล่ ฝ่ายค้านพรรคประชาธิปัตย์

แท็กทีมอัดเละแน่

ไทยรักไทยหาเสียงฝ่าแรงเสียดทานในสถานการณ์ขาลง มันก็ยิ่งเหนื่อย

แต่หาก “ทักษิณ” ประกาศถอย แสดงอาการถอดใจเว้นวรรคกันตั้งแต่ยังไม่เริ่ม โปรแกรมหาเสียงเลือกตั้ง กองเชียร์ได้ยินก็สับสน

ฐานเสียงแตก คุมคะแนนไม่ได้

เจ๊งทั้งขึ้นทั้งล่อง

จากเงื่อนไขความจำเป็นที่ว่ามา มันก็น่าจะเป็นอะไรที่ประเมินได้

จากวันนี้ไปจนกว่าจะถึงเวลา 15.00 น. ของวันหย่อนบัตรเลือกตั้ง รอจนเริ่มต้น
นับคะแนน ลุ้นจนกว่าจะรู้ผลเอ็กซิทโพล

โน่นแหละค่อยได้ลุ้นกัน

แต่ก่อนหน้านั้น “เว้นวรรคหรือไม่เว้นวรรค” อย่างไรเสียก็ไม่มีทางได้คำตอบ
ที่ชัดเจนจากปาก “ทักษิณ” แน่

ก็ของมันพูดไม่ได้

อย่างไรก็ตาม มันน่าจะเป็นอะไรที่สอดคล้องกันกับคิวทัวร์อีสานที่เพิ่งจบไปหมาดๆ และทริปต่อไปเตรียมโปรแกรมไว้ที่การเดินสายในพื้นที่ภาคเหนือ

น่าจะมีอะไรมากกว่าวาระแฝงหาเสียงล่วงหน้า

ขนาดยอมเสี่ยงเป็นเป้าล่อให้โดนด่าก็ยอม แสดงว่าผลที่ได้กลับมาต้อง
คุ้มค่า เป้าหมายหลักของ “ทักษิณ” คงต้องการหยั่งกระแส สำรวจต้นทุนหลัก
ของพรรคไทยรักไทย

ถ้าเหนือยังปึ้ก อีสานยังแน่น ยังไงก็อุ่นใจกว่า

ดึงเกมให้ชัวร์ มั่นใจว่าพรรคไทยรักไทยได้กลับมาเป็นรัฐบาลแน่ๆ

ถึงตอนนั้น “ทักษิณ” ก็ตัดสินใจง่ายขึ้น.

http://www.thairath.co.th/news.php?section=politics&content=15762