นายท้ายเรือ
|
|
« ตอบ #50 เมื่อ: 01-05-2006, 18:33 » |
|
เห็นหน้าลูกสาวสวย ลูกชายหล่อเหลาเอาการ นึกหน้าพ่อและแม่ ของลูก คงเหมือนพระเอกและนางเอก ในหนังเรื่องไหนสักเรื่อง ....น่าจะได้เน๊าะ ... อยากเห็นหน้าพ่อและแม่ของลูก นะครับ .. หมายเหตุ...เอารูปปัจจุบัน ชัดๆ ด้วย นะ ( กันลิ้งไว้ก่อน อิอิอิ )
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย แต่จะเหลืออะไรไว้ให้แผ่นดิน
|
|
|
100600
|
|
« ตอบ #51 เมื่อ: 01-05-2006, 18:50 » |
|
เห็นหน้าลูกสาวสวย ลูกชายหล่อเหลาเอาการ นึกหน้าพ่อและแม่ ของลูก คงเหมือนพระเอกและนางเอก ในหนังเรื่องไหนสักเรื่อง ....น่าจะได้เน๊าะ ... อยากเห็นหน้าพ่อและแม่ของลูก นะครับ .. หมายเหตุ...เอารูปปัจจุบัน ชัดๆ ด้วย นะ ( กันลิ้งไว้ก่อน อิอิอิ ) มาตามคำขอเลยครับคุณพี่ท้ายเรือ ... แม๋ๆๆๆๆๆ นานๆจะได้รับโอกาสงามๆเสนอหน้าอย่างนี้ ฮ่าฮ่า
|
100600
|
|
|
ประกายดาว
|
|
« ตอบ #52 เมื่อ: 01-05-2006, 18:53 » |
|
โอ๊ะ โอ ลุงแสนหก ไหง๋ ทำมาด เสน่ห์ศิลป์ สุดๆ แบบนั้น ไม่เชื่อเด็ดขาด ไม่สอดคล้องกับ ลีลา ภาษา สำนวน ลูกเล่น หารูป มาใหม่ดีกว่า ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายท้ายเรือ
|
|
« ตอบ #53 เมื่อ: 01-05-2006, 18:56 » |
|
เอ...ผมว่าผมกันกลิ้งไว้แล้ว นะเนี่ย... หรือ เป็นรูปของพ่อและแม่ของเด็กๆ ใน คห. ก่อนหน้านี้ไป 2-3 คห. จริงๆ หรือ ผมเปิดช่องไหนไว้ให้กลิ้งได้อีก ละเนี่ย..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย แต่จะเหลืออะไรไว้ให้แผ่นดิน
|
|
|
|
เสลา
|
|
« ตอบ #55 เมื่อ: 02-05-2006, 13:36 » |
|
สวัสดีค่ะคุณอังฯ วันก่อนแอบไปอ่านกระทู้ถวายพระพรของคุณอังฯที่พันทิพ ประทับใจมาก มานั่งจับปากกา พยายามหัดเขียนโคลง 4 อย่างคุณอังฯดูบ้าง ก็ไม่สำเร็จเลยค่ะ *************** ขอต่อเรื่องตามกระทู้ สมาชิกท่านต่อไป คุณ KoKa
นึกถึงโคคา โคล่า เครื่องดื่มน้ำดำยอดฮิท
ไปค้นเจอข้อมูลที่น่าสนใจในสาระแนดอทคอม พฤศจิกายน 2002
สูตรลึกลับของเครื่องดื่ม โคคา-โคล่า
บริษัท ทรัสต์ คอมพานี แห่งรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐฯ เป็นที่เก็บสูตรลับของเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง ที่มีชื่อว่าโคคา-โคล่า หรือคนทั่วไปเรียกว่า โค้ก สูตรลับนี้มีผู้ที่สามารถเปิดดูได้เพียงคนเดียวเท่านั้นคือผู้อำนวยการบริษัท
ถึงแม้จะมีผู้จัดจำหน่ายอยู่หลายแห่งทั่วโลก แต่ไม่มีสักรายที่ล่วงรู้ส่วนผสมที่แท้จริง เพราะบริษัทจะจัดส่งหัวเชื้อซึ่งเป็นน้ำเชื่อมและส่วนผสมอื่นๆ ให้ผู้แทนจำหน่ายไปผสมกับน้ำโซดา แม้กระทั่งรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ไม่สามารถล่วงรู้สูตรลับของโคคา-โคล่า ได้
ปี ค.ศ.1983 นักเขียนอเมริกัน วิลเลียม พาวน์สโตน ตีพิมพ์ผลงานที่มีความยากลำบากในการค้นคว้าชื่อว่า Top Secret เขาบอกว่า ส่วนผสมหลักของโค้ก บริษัทจะกำหนดเป็นส่วนผสมหมายเลข 1-9 และเรียกว่าเป็นสินค้านั้น มีดังนี้คือ
1.น้ำตาล 2.น้ำตาลไหม้ 3.กาเฟอีน(ไร้กาเฟอีน) 4.กรดฟอสฟอริก 5.สารสกัดจากใบโคคา(สกัดเอาโคเคนออกแล้ว) และสารสกัดจากเมล็ดโคลาปริมาณเล็กน้อย 6.กรดน้ำส้ม และโซเดียมไซเทรต 7X.มะนาวฝรั่ง ส้ม มะนาว แคสเซีย(cassia คืออบเชยชนิดหนึ่ง) น้ำมันลูกจันทร์เทศ และสารอื่นๆ 8.กลีเซอรีน 9.วานิลลา
การวิเคราะห์สารเคมีทำให้รู้ส่วนผสมบางอย่าง แต่ส่วนที่ค้นพบยากที่สุดคือส่วนที่เป็นหัวน้ำมันหอมระเหยใน สินค้าหมายเลย 7X (ไม่มีคำอธิบายความหมายของ X) การนำเอาหัว เชื้อเหล่านี้มาผสมกันใช่ว่าจะได้กลิ่นและรสชาติตามสูตรของโคคา-โคล่า
เพราะน้ำมันเหล่านี้จะทำปฏิกิริยากันเกิดเป็นกลิ่นและรสชาติอื่นๆ ได้อีก การที่จะลอกเลียนแบบต้องรู้ส่วนผสมและสัดส่วนที่แท้จริง ซึ่งยากในการวิเคราะห์ ด้วยเหตุนี้ส่วนผสมก็ยังคงเป็นความลับสุดยอดของโคคา-โคล่า จนถึงทุกวันนี้
เครื่องดื่มที่ติดปากของคนทั่วโลก ดร.จอห์น เอส เพมเบอร์ตัน เป็นผู้คิดค้นสูตรดั้งเดิมของโคคา-โคล่า เขาเป็นเภสัชกรที่แอตแลนตา จอร์เจีย ในปี ค.ศ.1885 เขานำเอาเครื่องดื่มที่ผสมเหล้าองุ่นแดงมาดัดแปลโดยผสมใบโคคาลงไปด้วย ซึ่งโคคามีสารที่กระตุ้นประสาทที่เรียกว่าโคเคนแต่กลับขายไม่ดี
เขาจึงปรับปรุงสูตรอีกโดยเอาลูกโคลามาแทนเหล้าองุ่นแดง ซึ่งโคลานี้เป็นโคลาพันธุ์แอฟริกา มีสารประตุ้นประสาทที่เรียกว่า กาเฟอีน เขาได้เติมน้ำตาลและแต่งกลิ่นไม่ให้ขม
สัญลักษณ์โคคา-โคล่า เป็นการออกแบบของหุ้นส่วนที่ชื่อว่า แฟรงค์ เอ็ม โรบินสัน เมื่อปี 1887 เพมเบอร์ตันขายสูตรนี้ให้ วิลลิส อี เวเนเบิลและ จอร์จ เอส ลอนเดส
และอีก 5 เดือนต่อมาก็ขายต่อให้ วูลโฟล์ค วอล์เคอร์ และ เอ็ม ซี โดเซียร์ และต่อมาอีก 1 ปี ก็ขายให้ เอซา จี แคนด์เลอร์ ซึ่งเพมเบอร์ตันก็ถึงแก่กรรมในปีนั้น แคนด์เลอร์ได้ผสมส่วนผสมนี้กับน้ำโซดา
และคิดว่าต้องเป็นเครื่องดื่มที่คนนิยมอย่างมาก จึงได้เก็บสูตรนี้ไว้เป็นความลับ แคนด์เลอร์ได้ปรับปรุงสูตรใหม่อีก และรับแฟรงค์ เอ็ม โรบินสัน เข้าเป็นหุ้นส่วน
ได้ก่อตั้งบริษัทโคคา-โคล่า ในปี 1892 จนถึงปี 1903 ก็มีเพียง 2 คนเท่านั้นที่รู้สูตรของเครื่องดื่มชนิดนี้ และมีสิทธิ์ในการผสมน้ำเชื่อมในห้องลับ
เขาได้แกะฉลากส่วนผสมต่างๆ ออกและชำระเงินด้วยตัวเอง เพื่อไม่ให้ฝ่ายบัญชีรู้ว่าซื้อส่วนผสมอะไรมา เมื่อบริษัทเติบโตขึ้น เขาทั้งสองคนไม่สามารถผสมส่วนผสมต่างๆ ได้ด้วยตัวเองอีก เขาจึงกำหนดหมายเลข 1-9 เพื่อใช้เรียกชื่อส่วนผสม ผู้จัดการสาขาจะรู้เพียงสัดส่วนและวิธีผสมเท่านั้น
เมื่อปี 1909 รัฐบาลสหรัฐฯ ยื่นฟ้องบริษัทว่าใช้ส่วนผสมที่มีโคคาอยู่ด้วย ซึ่งอาจจะมีโคเคนผสมอยู่ คดียืดเยื้อกว่า 10 ปี แต่ก็ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่า ในส่วนผสมพบโคเคนอยู่ในสารสกัดโคคาหรือโคลาแม้แต่น้อยนิด
วิลเลียม พาวน์สโตน กล่าวในหนังสือ Top Secret ว่า ในโคคา-โคล่า มีส่วนผสม โคคา หรือ โคลา เพียงนิดเดียว ซึ่งไม่มีผลต่อรสชาติสักเท่าใด
ในสงครามโลกครั้งที่ 2 กองกำลังฝ่ายพันธมิตรในแอฟริกา ได้สั่งซื้อโคคา-โคล่า จำนวนถึง 3 ล้านขวด ส่วนโคคา-โคล่าที่เป็นกระป๋องพึ่งมีในปี 1955 นี้เอง....
********************* หมายเหตุเพิ่มเติม
โคเคน เป็นสารที่สกัดได้จากใบของต้นโคคา มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท มีลักษณะเป็นผงสีขาวผลึกเป็นก้อนใส รสขมไม่มีกลิ่น ต้นโคคาจะมีลักษณะพิเศษคือ เส้นกลางใบจะเป็นสันนูนออกมาให้เห็นทั้งด้านหน้า และด้านหลังของใบ การผลิตโคเคนจะต้องนำใบโคเคนไปแปรสภาพ โดยอาศัยอุปกรณ์และน้ำยาเคมีต่าง ๆ สำหรับโคเคนที่แพร่ระบาดพบว่าเป็นโคเคนที่อยู่ในรูปของโคเคนไฮโดรคลอไรด์ มีลักษณะผลึกสีขาวและละลายน้ำได้ดี เสพโดยการสูดเข้าไปในโพรงจมูกให้เข้าสู่เส้นเลือดฝอย ซึ่งจะมีฤทธิ์ในการกระตุ้นประสาทอย่างรวดเร็ว
อาการของผู้เสพโคเคน ในระยะแรกที่เสพ โคเคนจะกระตุ้นประสาททำให้เกิดอาการไร้ความรู้สึก ดูเหมือนมีกำลังมากขึ้น มีความกระปรี้กระเปร่าไม่รู้สึกเหนื่อย เมื่อหมดฤทธิ์ยาร่างกายจะอ่อนเพลียและเมื่อยล้าขึ้นทันที เซื่องซึม ถ้าเสพถึงขั้นติดยาจะมีผลทำให้หัวใจเต้นแรง ความดันโลหิตสูง ตัวร้อนมีไข้ตลอดเวลา นอนไม่หลับ
(ข้อมูลจาก:-http://www.obec.go.th/news/_develop_media/news12/pitsanulok/08/sec02p03.html)
ดอกโคคา
ผลและใบโคคา
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-05-2006, 09:20 โดย เสลา »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เก็ดถวา
|
|
« ตอบ #56 เมื่อ: 02-05-2006, 15:02 » |
|
ไม่เข้าใจตัวเองเลยค่ะ เก็ดถวาอ่านชื่อคุณ KoKa ว่า คาโค มาโดยตลอดค่ะคุณป้าเสลา ทำให้เก็ดถวาคิดถึง "ตือคาโค" และอยากกินมากๆ มาโดยตลอด เพิ่งสังเกตว่าจริงๆ คือ KoKa = โค คา แหม.. พลาดได้ไงนี่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Avada Kedavra!!!!!!!
|
|
|
500
|
|
« ตอบ #57 เมื่อ: 02-05-2006, 15:44 » |
|
"ตือคาโค" ที่เชียงใหม่อร่อยมาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เก็ดถวา
|
|
« ตอบ #58 เมื่อ: 02-05-2006, 16:05 » |
|
"ตือคาโค" ที่เชียงใหม่อร่อยมาก
แหม... คุณ 500 เอา ตือคาโค เชียงใหม่ มาบลั๊ฟซะอย่างงั้นเลย ไม่ไปหรอกเชียงใหม่ กลัว!! อ้าว เอ๊ะ โยงไปเรื่องอะไรนี่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Avada Kedavra!!!!!!!
|
|
|
Zta
น้องใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 13
|
|
« ตอบ #59 เมื่อ: 02-05-2006, 16:31 » |
|
ชอบจัง สาระอัดแน่นบนความบันเทิง อ่านไปยิ้มไป ขอบคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
โขงหลง
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
ออฟไลน์
กระทู้: 48
|
|
« ตอบ #60 เมื่อ: 02-05-2006, 20:08 » |
|
แอบดูอยู่ ทนสงสัยไม่ไหว...ตือคาโค...คืออิหยังน๊อออออ????
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
R O S #41
|
|
« ตอบ #61 เมื่อ: 02-05-2006, 22:18 » |
|
อ่านกระทูนี้มาตลอดคะ แต่ไม่ได้เข้ามาตอบ แต่ทนไม่ได้ที่ ชื่อคุณ KOKA นี้แหละคะ และขอบขอบคุณคุณป้าเสลามักมาก นะคะ ที่ให้ความกระจ่างแก่ดิฉัน เรื่อง โคคา โคล่า (โค๊ก) เพราะดิฉันติดโค๊กคะ ต้องโค๊กกระป๋องนะคะ เพราะ โค๊กอันอื่น มันไม่ซ่าส์คะ ดื่มแล้ว เสียอารมณ์55555 เมื่อก่อน ดื่มเช้ากลางวันเย็นคะ วันใหนดื่มไม่ครบโด๊ส หงุดหงิดคะ แต่ตอนนี้ มาอยู่ต่างจังหวัด ดื่ม แค่วันหละกระป๋องคะ ถ้าได้ดื่มแล้วมันรูสึก เลือดลม วิ่งดีคะ แต่ไดรับข้อมูลจากคุณป้าแล้ว ดิฉัน คงต้อง ลดปริมาณลงอีกคะ คง วันเว้นวันนะคะ เพราะ เท่าที่อ่าน มีทั้ง โคคา(โคเคน) และ คาเฟอีนคะ มิน่า เวลา ซึมๆเมื่อได้โค๊กเย็นเจี๊ยบหนึ่งกระป๋อง แล้ว โห้ เหมือนมันหายหมดสิ้นคะ ดังนั้นสมควรพิจารณา ว่า ลดลงดีแน่นอนเรา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไม่มีอะไรที่ จะทำไม่ได้ และไม่ได้มา นอกจากเราจะท้อแท้ และยอมแพ้กับมัน
|
|
|
เสลา
|
|
« ตอบ #62 เมื่อ: 02-05-2006, 22:40 » |
|
เมื่อปี 1909 รัฐบาลสหรัฐฯ ยื่นฟ้องบริษัทว่าใช้ส่วนผสมที่มีโคคาอยู่ด้วย ซึ่งอาจจะมีโคเคนผสมอยู่ คดียืดเยื้อกว่า 10 ปี แต่ก็ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่า ในส่วนผสมพบโคเคนอยู่ในสารสกัดโคคาหรือโคลาแม้แต่น้อยนิด
วิลเลียม พาวน์สโตน กล่าวในหนังสือ Top Secret ว่า ในโคคา-โคล่า มีส่วนผสม โคคา หรือ โคลา เพียงนิดเดียว ซึ่งไม่มีผลต่อรสชาติสักเท่าใด
===================
คุณRos คิดว่าคงไม่น่ากังวลมากนัก เพราะที่ฟ้องร้องกันตามข่าว ผลออกมาคือ"ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่า ในส่วนผสมพบโคเคนอยู่ในสารสกัดโคคาหรือโคลาแม้แต่น้อยนิด"
แต่พูดถึงว่าการดื่มน้ำอัดลมมากๆ ไม่ค่อยดีนะ ลองหันมาดื่มน้ำผลไม้หรือน้ำสมุนไพรหลายๆชนิดก็น่าสนใจ
วันหลังป้าเสลาจะหามาแนะนำว่า มีน้ำสมุนไพรชนิดใหนมีสรรพคุณแก่เราอย่างไรบ้าง . .ดีใหม..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Suraphan07
|
|
« ตอบ #63 เมื่อ: 02-05-2006, 22:50 » |
|
อ่านเพลิน ได้สาระความรู้ดีครับ ขอบพระคุณ คุณป้าเสลา ที่นำมาฝากครับ... รอดู เอกลักษณ์ ของท่านอื่นๆต่อครับ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายท้ายเรือ
|
|
« ตอบ #64 เมื่อ: 03-05-2006, 07:52 » |
|
ที่มาของ " นายท้ายเรือ " เพราะประสบการณ์จากอดีต แม้นานกว่า 20 ปี แล้ว แต่ยังไม่ลืม .. ชีวิตวัยเด็กผูกพันกับเรือ ก่อน รถ ตามที่เล่าไว้ เรื่อง ควาย ในกระทู้ของ แสนหก และ เรื่องชายทะเล ในกระทู้ ชะอำ ของ ป้าเสลา ..และความผูกพันของผมที่เกี่ยวกับทะเล .. จำไม่ได้แล้ว ผมว่ายน้ำเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ พายเรือ เป็น ตั้งแต่ ป.ไหน ..เคยพายเรือ รับจ้างคนข้ามปากน้ำ(ปากน้ำปากดวด) ตั้งแต่ อยู่ ป.3-4 โน้นนนน...ได้ค่าจ้างครั้งละ 1 สลึง เป็นเรือพายเล็กๆ บรรทุกได้ 2-3 คน แต่วันหนึ่ง มีคนใช้บริการ เพียง 4-5 คน เท่านั้น ครับ.. ... ตอนอยู่ ม.ปลาย ช่วงเข้า มหาลัยปีแรกๆ พี่ชายสร้างเรือประมงขนาดเล็ก ซึ่งน้าชาย (น้องของพ่อ) เป็นคนต่อเรือเอง เสียดายน้าชายเสียชีวิตแล้ว โดยไม่มีใครรับช่วงต่อ ในวิธีการต่อเรือประมงขนาดเล็ก รูปเรือประมงขนาดเล็ก ที่มีลักษณะคล้ายกับของพี่ชายที่ผมกล่าวถึง ผมภูมิใจกับเรือประมงลำนี้ของพี่ชายมาก เพราะเป็นคนทาสีเรือเอง ( ขึ้นอู่ที่ปากน้ำสิชล ) ต่อมาช่วงปิดเทอม ก็ไปร่วมออกหาปลาลงเรือของพี่ชาย ... เรือลำนี้เป็นเรือขนาดเล็ก - > ขนาดกลาง มีพี่ชาย ผม และ ชาวบ้านอีก 2 คน ร่วมออกจากปากน้ำตอนเย็นๆ แล้ว รุ่งเช้าก็กลับมา ผมอาสาเป็นคนขับเรือ ครึ่งหนึ่งของเวลา ( 5-6 ชั่วโมง ) กลางคืน กล่าวคือว่า เมื่อเรือ วิ่งออกไป 5-6 กม. ก็ลงตาข่าย ( อวน ) กลางดึกก็กู้ขึ้นมา และ วางกลับไปอีกครั้ง แล้วมากู้ตอนเช้า.. .. ผมถือท้ายเรือ (พวงมาลัย) บางทีก็ช่วงแรก บางทีก็ช่วงหลัง แต่ ประสบการณ์ที่ไม่รู้ลืม นั้น เกิดขึ้นมา ในคืนหนึ่ง พายุฝนฟ้าคะนอง ผมถือพวงมาลัยด้วยความตื่นตระหนก และยึดให้มั่น เพราะคลื่นและลม จะพัดเรือซึ่งลากอวนอยู่ให้เอียงไป มองไปที่พี่ชายและชาวบ้านอีก 2 คน ก็หลับสนิท ไม่รู้เรื่องอะไร ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง คลื่นลม ก็สงบ ตอนเช้า กลับเข้าฝั่ง........ตะลึง เมื่อมีชาวประมงพูดกัน ว่า " เมื่อคืน พายุ พัด เรือ จมไป 2-3 ลำ " ใจหายแว็บบบบ.............นึกถึงตอนที่ผมถือท้ายเรือ ว่า ถ้าเผลอหรือหลับใน สักนิด เรือของพี่ชายนั้นก็คงจมไปเหมือนกัน....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย แต่จะเหลืออะไรไว้ให้แผ่นดิน
|
|
|
R O S #41
|
|
« ตอบ #65 เมื่อ: 03-05-2006, 08:03 » |
|
ดีมักคะคุณป้า รออ่านอยู่นะคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไม่มีอะไรที่ จะทำไม่ได้ และไม่ได้มา นอกจากเราจะท้อแท้ และยอมแพ้กับมัน
|
|
|
นายท้ายเรือ
|
|
« ตอบ #66 เมื่อ: 03-05-2006, 08:03 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย แต่จะเหลืออะไรไว้ให้แผ่นดิน
|
|
|
เก็ดถวา
|
|
« ตอบ #67 เมื่อ: 03-05-2006, 08:57 » |
|
เรียนพี่ท้ายเรือคะ อ่านที่มาของชื่อของพี่ท้ายเรือแล้ว เก็ดถวาคิดถึงน้าของเก็ดถวามากค่ะ.. น้าของเก็ดถวาตอนเด็กๆ ขายไอติม แบบที่เดินสะพายถังไอติมขายน่ะค่ะ ไม่เกี่ยวอะไรเลยกับที่มาของชื่อนายท้ายเรือ.. แต่ไม่รู้สิคะ ก็มันอ่านแล้วได้อารมณ์ที่คิดถึงน้าขึ้นมาเหลือเกินค่ะ น้าของเก็ดถวา อายุ 45 ปี (ใกล้เคียงพี่ท้ายเรือด้วย) เก็ดถวาคิดว่าชีวิตวัยเด็กของพี่ท้ายเรือ คล้ายๆ น้าของเก็ดถวาเลยน่ะค่ะ แต่เป็นสิ่งที่เก็ดถวารู้สึกดีมากๆ นะคะ เก็ดถวานึกไม่ออกจริงๆ กับเด็กสมัยนี้ ว่าเมื่อเขาโตขึ้น จนล่วงเข้าสู่วัยพ่อแม่ เขาจะเอาเรื่องราววัยเด็กของตัวเอง เล่าให้ลูกหลานฟังว่ายังไงบ้าง มันจะมีเรื่องราวคลาสสิค เหมือนเรื่องของพี่ท้ายเรือ อีกไหมหนอ...??
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Avada Kedavra!!!!!!!
|
|
|
มีคณา
|
|
« ตอบ #68 เมื่อ: 03-05-2006, 09:34 » |
|
เข้าเวบนี้เรื่อยๆ แม๊ ..... ตกกระทู้นี้ไปได้ยังไง้นะ อ่านแล้วฮาดี 100600 - - ถ้าในรูปตามลิงค์เป็นรูปคุณและแม่ของเด็กน่ารัก 2 คนนั้น....... แหะ ๆ .......สร้างความร้าวฉาน เป็นงานของเดี๊ยน แน่นอน (ป๊งมาตั้งแต่เด็ก)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ป้าแจ๋วแหวว
|
|
« ตอบ #69 เมื่อ: 03-05-2006, 10:45 » |
|
แคน กับ แคน แคน ความหมายต่างกันลิบลับเลยนะคะป้าเสลา นานมาแล้ว เคยไปดูโชว์ระบำ Can Can ที่กังหันสีแดง นักเต้นเขาประหยัดเสื้อผ้ากว่าข้างบนค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เก็ดถวา
|
|
« ตอบ #70 เมื่อ: 03-05-2006, 19:27 » |
|
แอบดูอยู่ ทนสงสัยไม่ไหว...ตือคาโค...คืออิหยังน๊อออออ????
คุณโขงหลงคะ คุณป้าเสลาไปตามมาตอบคำถามค่ะ
ขอตอบเท่าที่ประสบการณ์ของเก็ดถวาเคยทานมานะคะ ไม่แน่ใจว่าถูกต้องไหม..
ตือคาโค เป็นของว่างประเภทหนึ่งค่ะ (หวังว่าคงไม่มีใครทานเป็นของจริงนะคะ)
เป็นเผือกที่หั่นชิ้นเล็กๆ เป็นเส้นๆ ผสมกับแป้งสาลี แป้งข้าวเจ้า และกะทิค่ะ
เมื่อนำส่วนผสมดังกล่าวข้างต้นไปทอดแล้ว ก็จะนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ พอดีคำค่ะ
รับประทานร่วมกับ เต้าหู้ทอด และมีน้ำจิ้มด้วยนะคะ
ส่วนประกอบของน้ำจิ้ม มีน้ำมะขามเปียก น้ำตาลทราย เกลือเล็กน้อย น้ำ
ที่นำมาเคี่ยวรวมกันจนเหนียว เวลาจะรับประทานก็เอาน้ำจิ้มผสมกับพริกขี้หนูตำ
แล้วก็ใส่ถั่วลิสงคั่วที่ป่นพอสมควร เติมผักชีไปหน่อยก็สวยและหอมนะคะ
ว้า.. อยากกินจังเลยค่ะ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-05-2006, 19:34 โดย gedtawa »
|
บันทึกการเข้า
|
Avada Kedavra!!!!!!!
|
|
|
duen_narak
|
|
« ตอบ #71 เมื่อ: 03-05-2006, 19:30 » |
|
เอื๊อกกกก ( กลืนน้ำลาย ) ง่ะ อ่านแล้วหิวเลยค่ะ พี่เก็ตถวา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ทิมมี่
|
|
« ตอบ #73 เมื่อ: 03-05-2006, 21:04 » |
|
ขอบคุณป้าที่นำข้อมูลดีๆมาฝากครับ อ่านแล้วเพลินดีครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ดอกเข็มขาว
|
|
« ตอบ #74 เมื่อ: 03-05-2006, 21:18 » |
|
พี่เสลาคะ ได้ความรู้มากเลยแถมสนุกอีกด้วย
ลูกคุณ100600 น่ารักจัง ของคุณ นายท้ายเรือรูปเท่มากคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เสลา
|
|
« ตอบ #75 เมื่อ: 03-05-2006, 23:26 » |
|
สมาชิกท่านนี้ชื่อเป็นผู้หญิง Cameron DZแต่แน่ใจว่าเป็นชายโดยดูจากข้อความที่โพสท์ ในกระทู้ไว้อาลัย ปราโมทยา อนันตา ตูร์ "ไม่รู้ตั้งถูกห้องหรือเปล่า เพราะไม่ใช่เรื่องเฮฮาสบาย ๆ เป็นเรื่องเศร้า แต่เกี่ยวข้องกับวรรณกรรมครับ เลยเอามาลงห้องนี้ ****************** เข้าใจว่าชื่อ Cameron DZ คงจะตั้งขึ้นตามชื่อดารา ที่ชื่อ Cameron Diaz
ชื่อ : Cameron Diaz วันเกิด : 30 สิงหาคม 1972 ปัจจุบันอายุ 34 สถานที่เกิด : San Diego, CA
เริ่มอาชีพถ่ายแบบตั้งแต่อายุ 16 ปี โดยเซ็นสัญญากับ Elite Modeling Agency ในช่วงต้นยุค 90 เธอปรากฏบนปกนิตยสารหลายฉบับ และในโฆษณาอีกหลายชิ้น
ครอบครัว : มารดา เป็นตัวแทนส่งออก บิดา เป็นโฟร์แมนบริษัทน้ำมัน พี่สาว ชื่อ Chimene
หมั้นกับ Matt Dillon ตั้งแต่ปี 1996 ถึง 1998 รางวัล : 1996 NATO/ShoWest Female Star of Tomorrow จาก National Association of Theater Owners
การศึกษา : Long Beach Polytechnic High School ใน Long Beach, California รูปร่าง : ส่วนสูง 5 ฟุต 9 นิ้ว สัดส่วน 34B - 23 - 32 ร่างกาย : ผม สีบลอนด์ธรรมชาติ ตา สีฟ้า หน้า รูปไข่ เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของเธอ
ผลงานภาพยนตร์
Charlie's Angels (2000) รับบท Natalie Shrek (2000) (เสียง) Any Given Sunday (1999) รับบท ผู้จัดการทีมอเมริกันฟุตบอล Fear and Loathing in Las Vegas (1998) รับบท นักข่าวโทรทัศน์ Being John Malkavich (1998) รับบท Lotte Schwartz ภรรยา ที่เพิ่งรู้ตัวว่า เป็นเลสเบี้ยน Very Bad Things (1998) รับบท Luara Garrety There's Something About Mary (1998) รับบท Mary สาวรวยเสน่ห์ A Life Less Ordinary (1997) รับบท Celine ลูกสาวเศรษฐี
ใน My Best Friend's Wedding My Best Friend's Wedding (1997) รับบท Kimmy Wallace ลูกสาวเศรษฐี (อีกแล้ว) Keys to Tulsa (1997) รับบท Trudy Head Above Water (1996) รับบท Nathalie Feeling Minnesota (1996) รับบท Freddie
ใน She's the One She's the One (1996) รับบท Heather The Last Supper (1995) รับบท Jude The Mask (1994) รับบท Tina Carlyl
หากคุณได้เดินเข้าไปในห้องที่ Cameron Diaz นั่งอยู่ สิ่งแรกที่คุณจะมองเห็นก็คือ รอยยิ้มที่อบอุ่นที่สุดในโลก มันคือรอยยิ้ม ที่ทุกคนหลงรัก รวมทั้งนัยน์ตาสีฟ้าใสคู่นั้น ใบหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ และผมสีบลอนด์สลวย บุคลิกที่โดดเด่น ตามแบบฉบับนางแบบ ทำให้เธอเป็นที่ต้องการ ในทุกแห่งของฮอลลีวู้ด
เธอปรากฏตัวในฮอลลีวู้ดครั้งแรก เมื่อปี 1994 กับการประกบ Jim Carrey ใน The Mask เธอใช้ชีวิตอีก 5 ปีต่อมาในการข้ามทวีปไปมา "ออสเตรเลีย, โมรอคโค, ปารีส, เม็กซิโก, ที่นี่, ที่นั่น, ทุกๆ ที่" และก็มาอยู่อพาร์ตเม้นท์ในฮอลลีวู้ด กับโปรดิวเซอร์วีดิโอ Carlos de La Torre ความสัมพันธ์ทั้งคู่ ยั่งยืนมาถึง 5 ปี
ก่อนหน้าที่จะเข้าสู่วงการแสดง อาชีพนางแบบของเธอ ทำรายได้ให้เธอมากมาย โดยเธอเป็นนางแบบให้กับนิตยสารต่างๆ เช่น Mademoiselle, Seventeen รวมทั้งในโฆษณาของ Calvin Klien, Levi's และ Coca-Cola
Diaz ได้จบความสัมพันธ์อันยาวนานกับ de La Torre ในปี 1995 และจบความสัมพันธ์ที่หวานฉ่ำนาน 3 ปี กับ Matt Dillon
เมื่อครั้งยังหวานกับ Matt Dillon ซึ่งเธอเล่นประกบใน 'There's Something About Mary ในปี 1998 หลังจากนั้นเธอก็ควงกับนักแสดงหนุ่ม Jared Leto และกับ Justin Timberlake. ในช่วงหลังนี้ Cameron Diaz มีรายได้จากการแสดงภาพยนตร์ เรื่องละประมาณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณเรื่องละ 800 ล้านบาท เท่านั้นเองจ้า.....
กับนักร้องหนุ่ม Justin Timberlake.
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-05-2006, 23:28 โดย เสลา »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
bobo
|
|
« ตอบ #76 เมื่อ: 03-05-2006, 23:40 » |
|
เผลอเว้นวรรค คุณนายท้ายเรือ อ่านเว้นวรรคนี่เปลี่ยนเพศไปเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
you are beautiful 2006
|
|
|
นายท้ายเรือ
|
|
« ตอบ #77 เมื่อ: 04-05-2006, 07:56 » |
|
เผลอเว้นวรรค คุณนายท้ายเรือ อ่านเว้นวรรคนี่เปลี่ยนเพศไปเลย
คุณ คนจรฯ ครับ เรียกผม นายท้ายเรือ เฉยๆ ก็ได้ครับ ไม่ต้องใส่ " คุณ " .. เพื่อนผองน้องพี่.. เรียกผม ไม่ต้องใส่ " คุณ " นำหน้าก็ได้นะครับ รับทราบแล้วเปลี่ยนด้วยครับ....ผมไม่ถือสา..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย แต่จะเหลืออะไรไว้ให้แผ่นดิน
|
|
|
|
นายท้ายเรือ
|
|
« ตอบ #79 เมื่อ: 04-05-2006, 10:00 » |
|
ตอบคุณน้อง gedtawa คำว่า นายท้ายเรือ กับ ท้ายเรือ มีความหมายต่างกันมากครับ .. นายท้ายเรือ คือ คนขับเรือ ครับ คนถือพวงมาลัยเรือ คอยบังคับให้เรือ วิ่งไปในทิศทางที่ต้องการ ซึ่งอาจจะนั่งอยู่ตรงส่วนไหนของเรือก็ได้ เรือบางลำ นายท้ายเรือ นั่งอยู่ด้านหน้า ( หัวเรือ ) ก็ได้ครับ แต่เรียกว่า นายท้ายเรือ ส่วน ท้ายเรือ เป็นเพียงบริเวณพื้นที่ส่วนหนึ่งของเรือ ที่อยู่ด้านท้าย ครับ .. ดังนั้น นายท้ายเรือ จึง ไม่ยอมเปลี่ยนเป็น ท้ายเรือ นะครับ........ แต่ให้เรียกโดยไม่ต้องใส่ คุณ ครับ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย แต่จะเหลืออะไรไว้ให้แผ่นดิน
|
|
|
|
นายท้ายเรือ
|
|
« ตอบ #81 เมื่อ: 04-05-2006, 10:30 » |
|
อิอิอิ...ขอบคุณที่เข้าใจนายท้ายเรือ ครับ ขอต่ออีกนิด คือ นายหัวเรือ.. นายหัวเรือ หรือ ไต้ก๋ง เป็นหัวหน้าลูกเรือทั้งหมด อาจจะเป็นคน ถือท้ายเรือด้วยก็ได้ แต่ถ้าเรือใหญ่ๆ ก็จะให้คนอื่นเป็น นายท้ายเรือ นายหัว.....ภาษาปักษ์ใต้ ใช้เรียกหัวหน้า ..เช่น นายหัวชวน หมายถึงเป็นผู้นำกลุ่ม ครับ ......อิอิอิ...เขียนจากความรู้สึกครับ...ไม่ได้ค้นคว้าอะไร ผิดพลาดไปขออภัยด้วยนะครับ......
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย แต่จะเหลืออะไรไว้ให้แผ่นดิน
|
|
|
500
|
|
« ตอบ #82 เมื่อ: 04-05-2006, 13:23 » |
|
เอามาฝากนายท้ายเรือ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2006, 21:36 โดย 500 »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายท้ายเรือ
|
|
« ตอบ #83 เมื่อ: 04-05-2006, 13:34 » |
|
ขอบคุณ คุณ 500 อิอิอิ...วาดมาเองหรือเปล่าละเนี่ย สวยมากครับ อ้อ....ใครยังไม่เคยขับเรือบ้าง....เรือที่ผมขับนั้น มีเกียร์ 3 เกียร์เท่านั้นครับ คือ ไปหน้า ว่าง และ เกียร์ถอยหลัง ครับ ส่วนเรือใหญ่ๆ ผมไม่รู้ อิอิอิ จากรูป ที่คุณ 500 ส่งมาให้นั้น ด้านซ้ายมือ น่าจะเป็น คันเร่ง ครับ คันเร่งของเรือ ไม่เหมือนรถ มีการล็อคไว้ได้ เพราะ บางที วิ่งเป็นชั่วโมง โดย ไม่ต้องเปลี่ยนความเร็วรอบเครื่อง ต่างกับรถหลายอย่าง...
( อ้อ.. ขออภัยป้าเสลาด้วยนะครับ...รู้สึกว่า กระทู้นี้ผมบรรเลงมากไปแล้ว อิอิอิ )
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย แต่จะเหลืออะไรไว้ให้แผ่นดิน
|
|
|
500
|
|
« ตอบ #84 เมื่อ: 04-05-2006, 13:41 » |
|
เอารูปมาทำ photoshop ให้เข้าบรรยากาศ ....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
โขงหลง
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
ออฟไลน์
กระทู้: 48
|
|
« ตอบ #85 เมื่อ: 05-05-2006, 00:21 » |
|
แอบดูอยู่ ทนสงสัยไม่ไหว...ตือคาโค...คืออิหยังน๊อออออ????
คุณโขงหลงคะ คุณป้าเสลาไปตามมาตอบคำถามค่ะ
ขอตอบเท่าที่ประสบการณ์ของเก็ดถวาเคยทานมานะคะ ไม่แน่ใจว่าถูกต้องไหม..
ตือคาโค เป็นของว่างประเภทหนึ่งค่ะ (หวังว่าคงไม่มีใครทานเป็นของจริงนะคะ)
เป็นเผือกที่หั่นชิ้นเล็กๆ เป็นเส้นๆ ผสมกับแป้งสาลี แป้งข้าวเจ้า และกะทิค่ะ
เมื่อนำส่วนผสมดังกล่าวข้างต้นไปทอดแล้ว ก็จะนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ พอดีคำค่ะ
รับประทานร่วมกับ เต้าหู้ทอด และมีน้ำจิ้มด้วยนะคะ
ส่วนประกอบของน้ำจิ้ม มีน้ำมะขามเปียก น้ำตาลทราย เกลือเล็กน้อย น้ำ
ที่นำมาเคี่ยวรวมกันจนเหนียว เวลาจะรับประทานก็เอาน้ำจิ้มผสมกับพริกขี้หนูตำ
แล้วก็ใส่ถั่วลิสงคั่วที่ป่นพอสมควร เติมผักชีไปหน่อยก็สวยและหอมนะคะ
ว้า.. อยากกินจังเลยค่ะขอบคุณครับคุณป้าเฉลา ขอบคุณครับคุณเก็ดถวา สำหรับความกรุณาและความกระจ่างแจ้ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Soft Heart True love!
|
|
« ตอบ #86 เมื่อ: 05-05-2006, 12:46 » |
|
กระทู้ทำนายเอกลักษณ์จากนามแฝง น่าสนใจมากครับ บางทีอาจจะบอกความในใจของเจ้าของชื่อได้!! คุณป้าเสลาทำนายทายทักประกอบความรู้ทางประวัติศาสตร์ สนุกมาก โหวตให้เลยครับ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
พุทธบุตรทุกคนไม่มีกังวลในการรักษาชื่อเสียง มีกังวลแต่การทำความบริสุทธิ์เท่านั้น: พุทธทาสภิกขุ
|
|
|
(-O-)Koka
|
|
« ตอบ #87 เมื่อ: 06-05-2006, 13:49 » |
|
555 ไม่ได้เข้ามาสองสามวัน โดนป้าจับวิเคราะห์ซะแล้ว ดีใจจังที่ชื่อเราก็กลายเป็นเกร็ดความรู้ให้เพื่อนๆได้แฮะ แต่ระวังอย่าดื่มโคล่ามากนะครับ เคยฟังนักโภชนาการบอกว่าของพวกนี้(น้ำอัดลม)ขวดเดียว มีน้ำตาลเยอะมากๆ อิอิ แต่ชื่อผมตั้งใจจะตั้งให้ไม่มีความหมายน่ะครับ คล้ายๆ ชื่อเพลง Radio GaGa ของวงควีน พอไปถามคนแต่งว่า GaGa หมายถึงอะไร เค้าตอบว่า พอดีได้ยินลูกของเค้ากะลังหัดพูด ก้าก้าก้า เค้าก็เลยเอามาตั้งเป็นชื่อเพลง ..ซะงั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
| อหิงสาคือความเข้มแข็ง ไม่ใช่ความขี้ขลาด
|
|
|
|
|
|
ทิมมี่
|
|
« ตอบ #90 เมื่อ: 07-05-2006, 13:03 » |
|
ตามมาอ่านข้อเขียนป้าครับ
ส่วนชื่อผม ขอเล่าสู่กันฟัง ในกระทู้ป้านี้ครับ พอดีหลายชาย อายุ 6 ขวบ มาจากลอนดอน มาพักที่เมืองไทยเป็นเดือน
ซนมาก อยากชกมวยไทย ผมซื้อกระสอบทรายเด็ก และ นวมให้ ขยันชกทุกวันจริงๆ
พูดไทยกับฝรั่ง สลับไปมาได้เก่งมาก
ผมเลยขอยืมชื่อมาใช้ ส่วนคำนำหน้า บางชื่อใช้ลุงบ้าง ป้าบ้าง ผมเลยหลบมาใช้น้อง ก็ผมยังวัยรุ่นจริงๆนี่ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายชด(หนุ่ม)
|
|
« ตอบ #91 เมื่อ: 07-05-2006, 16:00 » |
|
แวะมาอ่านและขอบคุณ คุณป้า เสลา ที่ให้เกียรติ อย่างมากๆ เอ่ยถึง shane ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ฤทธี สีหจักร ลักษณ์ซ่อนเงื่อน เถื่อนกำบัง พังภูผา ม้ากินสวน พวนเรือโยง โพงน้ำบ่อ ล่อช้างป่า ฟ้างำดิน อินทร์พิมาน ผลาญศัตรู ชูพิษแสลง แข็งให้อ่อน ยอนภูเขา เย้าให้ผอม จอมปราสาท ราชปัญญา ฟ้าสนั่นเสียง เรียงหลักยืน ปืนพระราม
|
|
|
Prometheus, The Titan
|
|
« ตอบ #92 เมื่อ: 07-05-2006, 21:09 » |
|
เนื่องจากป้าเสลา ขอมาในกระทู้ของผม ขออนุญาติเล่านิทาน(แบบรวบรัด) ให้ฟังเรื่องนึงครับ นานมาแล้ว โลกนี้ดูสวยงาม มีต้นไม้สิงสาราสัตว์ แต่ไม่ยักจะมีมนุษย์ จะมีก็แต่บรรดาเทพเจ้า "ไททันส์"เผ่าพันธุ์ ที่พ่ายแพ้ศึกต่อจอมเทพ หลายองค์ถูกจับโยนลง ทาทะรัส(ก็นรกขุมลึกที่สุดน่ะแหละ) สำหรับไททันส์ บางองค์ที่ยอมสวามิพักต์ ก็ได้อยู่ ณ โอลิมปัส คอยรับใช้เหล่าทวยเทพ เรื่องราวในแต่ละวันคงจะดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ถ้าไททันส์องค์หนึ่ง ไม่คิดอุตริ สร้างสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายทวยเทพขึ้นมา "เอาเหอะ อยากทำอะไรก็ทำ ช่างแมร่งเต๊อะ" จอมเทพคิด ไม่เพียงแต่สร้างสิ่งมีชีวิตนามมนุษย์(Martal)ขึ้นมา ไททันส์องค์นั้น ได้ขอยืมแรงบุตรีของจอมเทพ มอบความรู้ และวิทยาการต่างๆ ให้มนุษย์ "เมิง สร้างไอ้พวกตัวจ้อยนี่ขึ้นมา ก็ควรจะสอนให้พวกมันรู้ด้วยว่า คนที่พวกมันควรยำเกรงคือใคร" จอมเทพกล่าว การสอนให้มนุษย์รู้จักบูชาทวยเทพจึงได้เริ่มขึ้น ไททันส์ องค์นั้น ท่านคิดอะไรก็ไม่ทราบ ถึงคราวบูชาเทพ ได้แบ่งเนื้อเป็นสองกอง กองหนึ่ง เป็นกระดูกปกปิดด้วยมัน จึงแลดูน่าทาน อีกกองคือเนื้อปกปิดด้วยเครื่องใน จึงแลดูน่าสะอิดสะเอียน พร้อมกับบอกให้จอมเทพเลือกไปซักกอง เป็นของกำนัลจากมวลมนุษย์ จะด้วยแกล้งทำป็นไม่รู้หรือไม่รู้จริงๆ จอมเทพได้กองกระดูกไปเสวย ส่วนมนุษย์ ได้เนื้อเก็บไว้กินกันอย่างชื่นมื่น จอมเทพทรงกริ้วจนหนวดกระดิก สั่งลงโทษมนุษย์ โดยการริบแสงสว่างและไฟไปจากโลกนี้ เอาหล่ะสิ ทีนี้ มืดก็มืด แถมยังต้องกินเนื้อดิบๆอีก ไททันส์ไม่รอช้าที่จะทำอะไรบางอย่าง เพื่อไม่ให้มนุษย์ต้องทนทุกข์นานเกินไป จึงตรงดิ่งไปวิมานโอลิมปัส จึงได้เจอกับคบเพลิงศักดิ์สิทธิ์ สว่างโร่ตั้งตระหง่านอยู่ จิ๊กมันมาทันใด ไททันส์รีบกลับมายังโลกมนุษย์พร้อมคบเพลิงในมือ บุตรีมหาเทพที่เห็นอยู่ก็แกล้งทำเป็นไม่เห็น ก็ด้วยเนื่องป็นพระสหาย มนุษย์ล้วนยินดีปรีดากับแสงสว่างที่หวนกลับมา และไฟอันอบอุ่น แต่อนิจจัง สว่างโร่ซะขนาดนั้น มีเหรอจอมเทพจะไม่รู้ "โพรมีธีอุส!!"จอมเทพตวาด"ที่กรูทำเป็นให้อภัยเมิงไปคราวที่แล้ว เมิงไม่ได้สำนึกอะไรเลยใช่มั้ย!!" ฉับพลัน โซ่อันมหึมาลากไททันส์ไปจนถึงหุบเขาแห่งหนึ่ง แล้วตรึงพระองค์อยู่ที่นั่น ยังไม่พอ จอมเทพทรงนิมิตอีแร้งไซ้ส์ XL มาหาไททันส์ พร้อมกับจิกทะลวงร่างไททันส์ไปยังตำแหน่งของตับ แล้วคาบออกมาโซ้ยอย่างโอชะ ตกค่ำยามทิวา ตับนั้นไซร้ งอกมาใหม่ รอวันพรุ่ง ได้เข้าไปอยู่ในปากอีแร้งอีกรอบ วนเวียนเช่นนี้ทุกวัน ถึงกระนั้นไททันส์ผู้ทรนง ไม่คิดแม้แต่จะอ้อนวอนขอความเมตตาจากจอมเทพ ยังคงกัดฟันยืนหยัดต่อสู้กับชะตากรรมของตน ด้วยมั่นใจว่า สิ่งที่ตนเองทำไปนั้นถูกต้องแล้ว และไม่มีวันจะคิดเสียใจย้อนหลัง สืบเนื่องจากนิทานเรื่องนี้ ยังมีเรื่องราวต่อไปอีกมากครับ แต่เรื่องที่ล้วงลึกไปมากกว่านี้ผมขออนุญาตไม่กล่าวต่อ เพราะแค่นี้ก็เยอะพอแล้ว ไว้ใครอยากรู้อะไรถามมาได้ทีหลังครับ ตอนนี้ขอตัวก่อน (พิมพ์จนเหนื่อยครับ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Only the brave enjoy noble and glorious death. - Dyonysus
|
|
|
เสลา
|
|
« ตอบ #93 เมื่อ: 07-05-2006, 23:34 » |
|
ขอบคุณมาก Titan น่าจะมีภาพประกอบด้วยนะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
บุรุษไร้นาม
|
|
« ตอบ #94 เมื่อ: 08-05-2006, 00:13 » |
|
เสียดาย เพิ่งจะได้เข้ามา สวัสดีครับ คุณนาย ท้ายเรือ อิอิ กำลังรอฟัง ประวัติ บุรุษไร้นาม อยู่ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เงินยิ่งใช้ ยิ่งหมด บุญ ยิ่งทำ ยิ่งได้ .......กูจะสู้แม้รู้ว่าพวกกูน้อย สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย กูสุดอายหากเสียทีไพรีครอง ใครบ้างเหวยจะร่วมสู้กับกูบ้าง ใครบ้างเหวยจะอยู่ข้างไทยใจหาญ ใครบ้างเหวยจะละสุขสนุกสำราญ ใครบ้างเหวยยอมวายปราณเพื่อไทยคง
|
|
|
เสลา
|
|
« ตอบ #95 เมื่อ: 08-05-2006, 01:40 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-05-2006, 09:09 โดย เสลา »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายท้ายเรือ
|
|
« ตอบ #96 เมื่อ: 08-05-2006, 08:19 » |
|
เข้ามาอ่านต่อ.. แล้วขอแซวหน่อย Shane..comeback..Shane..... ผมอยากเห็นตัวจริงซะแล้ว ได้ข่าวว่าหล่อไม่เบา แค่เสียงก็ทำให้สาวๆ หลงแล้ว ขอบคุณ คุณ Prometheus, The Titan ที่นำเรื่องตำนานเล่าขานมาเล่าสู่กันฟัง ส่วน ที่ป้าเสลาเอา Hero มาลง นั้นถูกใจผมอีกแล้ว แต่ไม่รู้ โดนใจท่านบุรุษไร้นาม หรือเปล่า ผมดูหนังเรื่องนี้แล้ว ยัง งง นิดๆ มันคล้ายๆ กับ การยอมเสียสละชีวิตที่ยิ่งใหญ่ ที่ลึกซึ้งเกินกว่า ที่คนทั่วไปจะเข้าใจ .. ขอร่วมแซว นามแฝง บุรุษไร้นาม สักกะหน่อย ตอนที่ผมอ่านการ์ตูนญีปุ่น สมัยโน้นนน...มีเรื่องหน้ากากเสือ หรือ หนังในปัจจุบัน เช่น ซุปเปอร์แมน สไปเดอร์แมน หรือ นินจา ....เป็นลักษณะของ ผู้ทำดีแต่ไม่แสดงตัว เหมือนปิดทองหลังพระ ...แล้ว มีความสุขใจเมื่อได้ทำดี เป็นความภูมิใจอย่างหนึ่งของเขา ... อ้อ..ยังมีอีกเรื่อง เกี่ยวกับหนังบู้ลิ้ม ที่ผมชอบสะสม DVD ซึ่งมีอยู่หลายเรื่อง เมื่อคนดีมีคุณธรรม เข้าช่วยเหลือคนอื่น แล้วผู้ได้รับความช่วยเหลือนั้น ขอบคุณและ อยากจะจดจำชื่อไว้..แต่ เขากลับไม่บอกชื่อของเขา ... ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย แต่จะเหลืออะไรไว้ให้แผ่นดิน
|
|
|
ภูพาน
|
|
« ตอบ #97 เมื่อ: 08-05-2006, 09:24 » |
|
ชื่อนั้นสำคัญไฉน........ ที่มาของชื่ออาจแตกต่าง ที่มาส่วนใหญ่ได้รับมา บ้างจากพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ บางทีเพื่อน อื่นๆ....... เมื่อได้ยินชื่อ ผู้ฟังย่อมคิดถึงที่มาตามพื้นหลังที่ตนมี แง่บวก แง่ลบ.......ถึงขั้นสรุปความเป็นตัวตนของเจ้าของชื่อ
ชื่อเป็นเครื่องตัดสินความเป็นตัวตนของคนนั้นหรือ ? บุรุษไร้นาม....... กำลังประกาศก้องให้โลกรู้ว่า ไม่ใช้ชื่อของข้าที่ข้าเป็น การกระทำ และจุดมุ่งหมาย......นั่นแหละคือตัวข้า...........
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขอกันข้าให้ไกลห่างจากคนที่กล่าวว่า "ข้าเป็นดวงเทียนที่นำความสว่างให้หนทางของประชาชน" หากแต่ผู้ที่แสวงหาหนทางของตนจากแสงแห่งประชาชนนั้น ขอจงนำข้าเข้าไปใกล้ชิดด้วยเถิด ~ คาลิล ยิบราน
|
|
|
บุรุษไร้นาม
|
|
« ตอบ #98 เมื่อ: 08-05-2006, 10:22 » |
|
ขอบคุณครับ ป้าเสลา ที่กรุณา นำประวัติมาลงให้อ่านกัน ถูกใจครับ การกระทำ และจุดมุ่งหมาย......นั่นแหละคือตัวข้า...........ขอขโมย วลีจากคุณภูพาน ด้วยครับ ของ คุณนายท้ายเรือ ก็โดนครับ อยากเป็นฮีโร่ โดยแอบๆ อิอิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เงินยิ่งใช้ ยิ่งหมด บุญ ยิ่งทำ ยิ่งได้ .......กูจะสู้แม้รู้ว่าพวกกูน้อย สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย กูสุดอายหากเสียทีไพรีครอง ใครบ้างเหวยจะร่วมสู้กับกูบ้าง ใครบ้างเหวยจะอยู่ข้างไทยใจหาญ ใครบ้างเหวยจะละสุขสนุกสำราญ ใครบ้างเหวยยอมวายปราณเพื่อไทยคง
|
|
|
In The Name Of Justice.
|
|
« ตอบ #99 เมื่อ: 09-05-2006, 14:29 » |
|
สวัสดีทุกท่าน สำหรับชื่อของผม In The Name Of Justice. (ขวางขวาง) นั้น ต้องแยกออกเป็น 2 ตัวครับ (ขวางขวาง) ก็ด้วยความที่เป็นคนขวางโลก ไม่ค่อยเหมือนมนุษย์คนอื่นเท่าไรครับ... ส่วน In The Name Of Justice. นั้น ผมเอามาจากเกมส์ Dynasty Warrior 5 ครับ ที่มาก็คือ เมื่อเดือน สิงหา ถึง ธันวาคม 2548 นั้น ผมได้ทำงานอยู่ที่ร้าน 7-11 ครับ (ชีวิตผกผัน) แล้วก็ได้ต่อสู้ทางการเมืองในร้านกับคนที่ไม่ซื่อสัตย์ ชอบมาขโมยเงินจากเครื่องคิดเงินครับ แต่ในที่สุดการต่อสู้ของผมก็ต้องจบลง เพราะไม่มีใครสู้ร่วมกับผม ต่างคนต่างเอาตัวรอด ตัดช่องน้อยแต่พอตัวเท่านั้น และด้วยเดิมที ผมเข้ามาทำงานที่ 7-11 เพราะรองานที่การนิคมอุตสาหกรรมอยู่ แต่ว่ารอมานานแล้ว น่าจะออกไปหางานอื่นทำ ผมเลยถือโอกาสตอนรับปริญญา ลาออกซะเลย แล้วก็ไปตกงานอยู่สักพัก ก็ได้งานทำซะที
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"มนุษย์มักต้องการในสิ่งที่ตนเองไม่มี..."
"I Fight In The Name Of Justice."
|
|
|
|