*//อยากเก็บดาว กลอนจาก ลุงแคน/คุณอังศนา/น้องทิมมี่//*

[ทิมมี่]

แหม คนเรา ไม่เคย เห็นหน้ากัน จะปิ้ง กันได้อย่างไรละครับ

 จริงเหรอคะ ??

ไม่จริงครับ ปิ๊งกันได้ครับ

  
เพราะพบปะ จากกระทู้ อยู่เป็นนิจ
เริ่มสนิท จากอักษร ตอนประสาน
ต่อประเด็น ตอบถ้อย พลอยเบิกบาน
เกิดอาการ แอบปลื้ม ลืมไม่ลง

ยิ่งความคิด คล้ายกัน นั้นน่าคุย
อาจเคยลุย ประเด็นสู้ อยู่ไม่หลง
มิตรภาพ ต่อเติม เริ่มดำรง
เร้าใจส่ง สัมพันธ์ นั้นยาวไกล

พอมีคุย หลังไมค์ ได้ชิดเชื้อ
ซึ่งจะเกื้อ กูลกัน วันสดไส
เพียงไตร่ถาม สารทุกข์ สุขอย่างไร
กำแพงใจ เริ่มเปิดออก บอกเชิญมา

จึงเป็นเรื่อง พบรัก จากกระทู้
ทั้งที่อยู่ ห่างไกล ไม่เห็นหน้า
มิใช่กล่าว เลื่อนลอย พล่อยวาจา
ที่มีมา หลายคู่ อยู่กันยาว

หากว่าใช่ อย่างไร หนีไม่พ้น
กามเทพ คงดล คนหนุ่มสาว
ผูกใจรัก สมัครสมาน ผสานกาว
จับหัวใจ สองเรา เข้าด้วยกัน...

มองอีกมุม โอกาสที่เป็นไปได้ครับ

[ทิมมี่]

  

ฝากคิดถึง ใส่ซอง มอบน้องน้อย
ยังจำรอย ยิ้มแย้ม แก้มสดใส
นับหลายปี เลิกร้าง ห่างกันไกล
เป็นไฉน ใจเจ้า เราเหมือนเดิม

เพราะเงื่อนไข ไม่เป็น เช่นที่หวัง
รักจึงพัง เกินกว่า เก็บมาเสริม
เคยปลูกรัก ปักชำ นำมาเติม
จนรักเพิ่ม เต็มกระถาง วางเรียงราย

มิใช่ใคร ผู้ผิด บิดทางเห
รักจึงเร่ เปลี่ยนกระถาง ทางสลาย
เราจากกัน วันนั้น ฝันมลาย
น้ำตาชาย หญิงหล่น บนความเหงา

ขอไปดี  เถิดน้อง ร้องบอกให้
จากดวงใจ เคยรัก หักความเศร้า
แม้นอยู่สั้น มินาน กาลมันเยาว์
แต่น้องเจ้า ยังตราตรึง ซึ้งใจพี่......

[ทิมมี่]

  

เธอเอ่ยลา ว่าพี่ นี่น้องขอ
ชาติหน้ารอ เจอใหม่ ดังใจหวัง
หลายขวบปี  มีสุข บ้างทุกข์จัง
ขอจากทั้ง ยังรัก จักว่าดี

โอบปลอบน้อง ร้องรับ กับคำบอก
ทั้งช้ำชอก สลดใจ ให้หมองศรี
พี่รับปาก หากว่า ชาติหน้ามี
ตัวน้องนี้ คือคู่ใจ ใคร่ยืนยัน

เพราะมีบูญ หนุนนำ ทำมาน้อย
รักมิลอย เลื่อนใกล้ ไปสวรรค์
โดนเมฆฝน บนฟ้า มาลงทันฑ์
เราจากกัน ทั้งน้ำตา ฟ้ามืดมัว.......

[ทิมมี่]

ร้อยธรรมคำกลอน   ของท่าน พุทธทาส

สิ่งล่วงแล้ว แล้วไป อย่าใฝ่หา
ที่ไม่มา ก็อย่าพึง คนึงหวัง
อันวันวาน ผ่านพ้น ไม่วนวัง
วันข้างหน้า หรือก็ยัง ไม่มาเลย


ผู้ใดเฟ้น เห็นชัด ปัจจุบัน
เรื่องนั้นนั้น แจ่มกระจ่าง อย่างเปิดเผย
ไม่แง่นง่อน คลอนคลั่ง ดั่งเช่นเคย
รู้แล้วเลย ยิ่งเร้า ให้ก้าวไป

วันนี้เอง เร่งกระทำ ซึ่งหน้าที่
อันวันตาย แม้พรุ่งนี้ ใครรู้ได้
เพราะไม่อาจ บอกปัด หรือผัดไว้
ต่อความตาย และมหา เสนามัน


ผู้มีเพียร เวียนเป็น อยู่เช่นนี้
ทั้งทิพา ราตรี แข็งขยัน
นั่นแหละผู้*ภัทเท-กรัตต์*อัน
สัตบุรษ ผู้รู้,ท่าน กล่าวกันเอย

[ทิมมี่]

ร้อยธรรมคำกลอน ของท่านพุทธทาส


ยาระงับสรรพทุกข์

ต้น"ไม่รู้-ไม่ชี้"  นี่เอาเปลือก
ต้น"ช่างหัวมัน" นั้นเลือก เอาแก่นแข็ง
"อย่างนั้นเอง" เอาแต่ราก ฤทธิ์มันแรง
"ไม่มีกู-ของกู" แสวง เอาแต่ใบ


"ไม่น่าเอา-น่าเป็น" เฟ้นเอาดอก
"ตายก่อนตาย" เลือกออก ลูกใหญ่ใหญ่
หกอย่างนี้ อย่างละชั่ง ตั้งเกณฑ์ไว้
"ดับไม่เหลือ" สิ่งสุดท้าย ใช้เมล็ดมัน

หนักหกชั่ง เท่ากับ ยาทั้งหลาย
เคล้ากันไป เสกคาถา ที่อาถรรพณ์
"สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย" อัน
เป็นธรรมชั้น หฤทัย ในพุทธนาม
 
จัดลงหม้อ ใส่น้ำ พอท่วมยา
เคี่ยวไฟกล้า เหลือได้ หนึ่งในสาม
หนึ่งช้อนชา สามเวลา พยายาม
กินเพื่อความ หมดสรรพโรค เป็นโลกอุดรฯ

[ทิมมี่]

 :mrgre

ท่านเนติ บริกร ลาจรแล้ว
คู่กฎหมาย น้าแม้ว แจวหันหลัง
ร่วมพายเรือ เมื่อก่อน ตอนท่านดัง
ก็เอวัง! ลามุ้ง มิยุ่งเกี่ยว


อันสัตว์โลก ย่อมเป็น เช่นตามกรรม
ใครกระทำ กรรมไว้ ให้นึกเสียว
โกงบ้านเมือง เรื่องบาป ขอสาปเชียว
มิตรเริ่มเลี้ยว หายวับ ไม่กลับมา


ส่วนที่อยู่ รู้แก่ใจ หรือคล้ายทาส
นายตวาด เว้ย !วะ จะรนหา
มีแต่รับ ครับนาย ได้จ๊ะ/จ๋า
แทบเลียแข้ง เลียขา น่าละอาย

ท่านจะรู้ หรือไม่ ใครต่างหนี
ถึงเศรษฐี มีเงินให้ ใช้เหลือหลาย
จริยธรรม มาสกิด มิตรร่วมตาย
จึงเร้นหาย ที่ละคน บนทางเดิน

ต่างสาปส่ง การเมือง เรื่องอดีต
คงถึงขีด ทะลุ ดั่งพลุเหิน
ท่านหัวหน้า บ้าอำนาจ ประหลาดเกิน
อย่าหลงเพลิน สัตว์โลก โศกตามกรรม...

[ทิมมี่]

  

เจอนักเลง เก็งหวย หวังรวยเลข
ถูกเหมือนเสก  935 โกลาหล
ให้สงสัย นัยว่า มาจากคน
วันมงคล ตีเลขเก้า มีเข้าชัวร์


ท่านยกหัตถ์ ตีเป็นห้า มาสามครั้ง
จับมาตั้ง 935 มาเหนือหัว
ผลสลาก ฝากให้ ใจระรัว
ยิ้มถ้วนทั่ว ตัวปลิว ลอยลิ่วลม

558 เลขดัง พังสนิท
คนที่ฟิต ทุ่มหมดใจ เป็นไข้-สม    (น้ำหน้า)
หวังลาภลอย พลอยเกลี้ยง กินเพียงลม
หัวอกตรม งวดหน้า ขุดหาใหม่...

[ทิมมี่]

    

1*โอ้ยอดรัก ทิมมี่ ที่สุดหล่อ
น้องจะขอ เป็นแฟนพี่ นี้ได้ไหม
หนูชอบคน แบบพี่ นี่ยังไง
อย่าปล่อยให้ หนูอกหัก หนูรักจริง

2*เคยอ่านกลอน วอนเว้า กระเซ้าเล่น
เหมือนจะเห็น พี่มาเต้น เล่นสุงสิง
หากได้เคียง เป็นคู่ กับหนูจริง
จะพาซิ่ง พาราก้อน ซักค่อนวัน

3*เห็นเขาว่า พี่ร้องเพลง วังเวงแว่ว
เสียงคล้ายแก้ว เจียระนัย ใครสร้างสรรค์
โอ้ยิ่งนึก ก็ยิ่งฝัน พัลวัน
อยากเจอกัน เร็วรี่ จริงซีเรา


4*อย่าไปคิด แบบนี้ นี่ซิน้อง
เขาคงลอง อำเจ้าไป มิให้เหงา
ตัวของพี่ มิได้หล่อ หงออีกเรา
เริ่มเหล่าเหลา เก๋ากึ๋ก นึกอายใจ

5*น้องไปหา หนุ่มแน่น เป็นแฟนเถอะ
อาจจะเจอะ แบบดารา หน้าสดใส
เทียบแล้วเหมือน เทวดา นางฟ้าไทย
ไปไหนไหน มีคนชม สมคู่ควง

6*เดินกับพี่ เหมือน-อาหลาน มันขวยเขิน
อายุเกิน หลักสี่ มิมีหวง
อีกไม่นาน สังขาร มันคงล่วง
ถึงจะห่วง ฝืนอย่างไร มันไปเอง

7*นี่คือเรื่อง  ความฝัน คืนวันก่อน
พอเข้านอน บนเตียง เอียงเขนง
เหมือนมีสาว เย้าหยอก บอกครื้นเครง
มาเล่าเอง ยังขำ จำติดตา


8*ชีวิตจริง ผมเหงา เหมือนเฉาก๊วย
พอลงถ้วย สีดำ คล้ำหนักหนา
ผลไม้ ชอบแห้ว แล้วน้อยหน่า
ส่วนระกำ ได้มา ก็คว้ากิน

9*ทั้งลูกท้อ รอให้ ใครมาฝาก
ขนมจาก อร่อย สอยจนสิ้น
หนังชีวิต คิดชอบ เรื่องโอชิน
คงเคยยิน นางเอกเศร้า หงอยเหงาใจ


10*ชีวิตอยู่ แบบนี้ มิมีเถียง
แบบพอเพียง เยี่ยงนี้ ดีไหนไหน
นึกจะเที่ยว เดินเล่น ก็เป็นไป
จะแอบรัก ใครใคร ทำได้เลย.....    

[ทิมมี่]

 

ตื่นดึกดึก นึกมานั่ง กันอย่างนี้
รอชมคู่ อิตาลี่ ที่ใฝ่ฝัน
ดวลเจ้าบ้าน ถูกใจเกลอ เยอรมัน
เข้าโรมรัน ขันแข่ง แย่งเข้าชิง

เป็นเจ้าภาพ ได้เปรียบ เฉียบเสียงเชียร์
ไม่มีเพลีย ตะโกนไว้ ทั้งชายหญิง
ส่วนผลแข่ง อย่างไร ไม่เกรงกริ่ง
เชียร์กันจริง กันจัง ไม่ยั้งคอ


ทนอีกหน่อย ค่อยรู้ ใครอยู่ไป
ส่วนผมไม่ รักทีมใด ที่ไหนหนอ
ถ้าหากว่าง อย่างนี้ มิมีท้อ
ถ่างตารอ สองฝ่าย ไล่เตะบอลล์


แฟนอังกฤษ บราซิล เหมือนสิ้นใจ
มองทางไหน รันทด หมดสลอน
ต่างกับไก่ ฝรั่งเศส เกรดบารอน
ทีมทีร้อน เพราะตัวเก่า เขาเก๋าเกมส์


เชิญท่านลุ้น ทีมที่รัก และมักชอบ
หรือจะมอบ ใจรุก สุขเกษม
มั่นใจว่า ทีมของเรา เข้าปรีเปรม
จะเริ่มเกม แล้วหนอ ขอไปดู.....

ตอนนี้ทั้ง 2 ทีมลงสนามแล้ว   ขอไปชมก่อนครับ

[ทิมมี่]

 

1*ฝากบอกข่าว มาให้ สหายเก่า
พรุ่งนี้เรา มีมีตติ้ง จริงดังฝัน
ได้แต่เคย เขียนตอบ ชอบพอกัน
คงถึงวัน เจอร่าง อย่างเคยรอ


2*อาจกังวล กลัวมิตร เขาผิดหวัง
ว่าเธอตั้ง สเปคไว้ สูงไหมหนอ
เพื่อนมิเคย พบเรา ที่เฝ้ารอ
งามละออ เรี่ยมเร้ เท่ห์เกินใคร


3*เจอตัวจริง เป็นงง แหม !หลงปลื้ม
เห็นแล้วลืม กินข้าว เศร้าไฉน
โอ้ตาบ้า คนนี้ นี่คือใคร
ทิมมี่ไง รู้หรือเปล่า เจ้าคนดี


4*ก็ใส่แว่น หนาเตอะ เยอะตาสั้น
แถมใส่ฟัน เลี่ยมทอง เป็นสองสี
จมูกก็ โด่งใน อะไรนี่
เบื่อตรงที่ ขี้มูกไหล ให้รำคาญ


5*ชอบดื่มเหล้า เมายา มาตลอด
ใครเผลอกอด งอดเง้า เข้าประสาน
สาวหลายคน บ่นเรา ไม่เข้าการ
ก็ชำนาญ เรื่องบ้าบ้า เขาว่ากัน


6*หรือหลังพบ เห็นหน้า ในครานี้
ทั้งน้องพี่ เศร้าสร้อย พลอยเสียขวัญ
รู้อย่างนี้ นะเร้อะ อย่าเจ้อะกัน
พบในฝัน อย่างเก่า คงเข้าที


7*ตัดสินใจ เกียร์ห้า เดินหน้าโลด
แล้วกระโดด ขึ้นอีแต๋น แทนแท๊กซี่
จากเมืองกาญจน์ ตอนโพล้เพล้  เย้! เร็วรี่
สู่มีตติ้ง งานเสรี นี้โดยพลัน.....

[ภูพาน]

คุณน้องทิมมี่...มางานนี้อาจไม่ได้กินแห้วแล้ว...

[ทิมมี่]

สวัสดีครับคุณภูพาน

มิได้พบกันนานเลย  กำลังคิดถึงท่านอยู่

วันนี้ผมต้องเดินทางไปเรื่องงานที่กาญจนบุรีค้าง 1 คืน  เลิกงานพรุ่งนี้ตอนเย็น

ถ้าไม่มีอะไรขัดข้อง  คงมางานมีตติ้งได้ ตอนค่ำๆ 

หวังว่าคงจะเจอคุณภูพานและเพื่อนๆนะครับ

[ทิมมี่]

 

ผ่านไปแล้ว มีตติ้ง จริงใช่ฝัน
มาเจอะกัน ตัวเป็นๆ เช่นนี้หนอ
ทั้งสาวสวย มากมาย ชายรูปหล่อ
ต่างหัวร่อ เฮฮา ภาษาใจ


ความเป็นเพื่อน มีมา จากหน้าเวป
ได้เกี่ยวเก็บ มิตรสัมพันธ์ อันสดใส
เมื่อเห็นหน้า วาจา พาชื่นใจ
คนนี้ใคร คนนั้นเอง เพ่งมองดู


เห็นท่านปุถุชน คนมีมาด
แสน-องอาจ อยู่ใกล้ ให้สุดหรู
ท่านใจดี มีข้อคิด จิตเหมือนครู
ส่วนน้องหนู wadoฯ โอ้!เก่งจริง


varada น้องแอน แสนคล่องแคล่ว
ส่งเสียงแจ้ว คุยดัง ยังหนุงหนิง
ส่วนน้องเอ้ ! ต้อนรับ ขับสู้จริง
วิ่งเป็นลิง ประทับใจ ใครทุกคน

cameron เงียบขรึม ซึมตาหวาน
คงรับทาน แอลกอฮอ ก็ท่านสน
ส่วนภูพาน เรียบร้อย พลอยแย้มยล
มีแต่คน อยากดูนก วิหคกัน


หนุ่มสุดหล่อ ปีกซ้าย ใครต่างมอง
สมส่วนต้อง เต๊ะตา พาหญิงหัน
ส่วนจูล่ง ก็หล่อ ไม่แพ้กัน
ลูกหินนั้น เคราครึ้ม ลืมโกนมา .........

[ทิมมี่]

 
ส่วนน้องเดือน  ยิ้มหวาน ปานน้ำผึ้ง
พอมาถึง นั่งเขิน เกินใครเขา
ได้แต่นั่ง กินลม สมใจเรา
คนอื่นเขา นั่งหม่ำ เดือนช้ำใจ

เธอบอกว่า ผิดที่ หนูนี้แย่
เหมือนจะแพ้ ทานไม่ลง คงไม่ไหว
โอ้! โรคนี้ ขาดทุน  คุณว่าไง
เจอครั้งใหม่ ให้กินฟรี ดีไหมเธอ


นั่งคุยกัน ยันเที่ยงคืน ถึงฝืนกลับ
บางคนรับ ข้าวต้มต่อ ขออย่าเผลอ
กลับตีสาม ตามเวลา ท่าจะเบลอ
ทั้งเราเธอ ง่วงเหงา ถึงหาวนอน


หลายคนบ่น อดร้อง จ้องเพลงแล้ว
คุยเสียงแจ้ว ลั่นดัง ฟังสลอน
ไว้ครั้งหน้า แก้ตัว ไม่มั่ววอน
ให้ไมค์-ร่อน  บรรเลง ร้องเพลงกัน......

http://forum.serithai.net/index.php?topic=4156.0

[ทิมมี่]

 

สะพานหิน บินมา น่านับถือ
แถมยังยื้อ ขอจ่ายมาก ฝากได้ไหม
ต้องขอร้อง บอกท่าน หารกันไป
เธอจึงได้ ถอยให้ คนใจดี


ไม่เสียที มาประสบ พบเพื่อนๆ
คงย้ำเตือน คืนวัน อันสุขี
เคยร่วมเล่น ตอบถ้อย ร้อยวจี
เวปเสรี สื่อสัมพันธ์ ฉันพบเธอ........

 

[ทิมมี่]

 

[ทิมมี่]

ขออภัยขัดข้องทางเทคนิคครับ

[ทิมมี่]

 

ยิ้ม...แย้มสุข สมหวัง อย่างเบิกบาน

รับ...คำศาล สามหนา พาร่วงผลอย

วัน...สว่าง วันนี้ ที่รอคอย

ใหม่...เป็นรอย ตอกย้ำ กรรมตามทัน


ชื่น...ชมท่าน เป็นหลัก ปักฐานไว้

ใจ...มอบให้ ความทุ่มเท ยากเหหัน

ฟ้า...ฝากไว้ แก้ปัญหา คราตีบตัน

เปิด...ฟ้านั้น สว่างโล่ง จรรโลงไทย....

[ดอกเข็มขาว]

ตามมาอ่านคำกลอนที่ไพเราะ
ได้แต่อ่านแต่งไม่เป็นค่ะ..  อิอิ

[ThailandReport]

ลองสิครับ คุณดอกเข็ม

กลอนง่ายสุดแล้วครับ สัมผัสนอก สัมผัสในบังคับ จับให้อยู่ก่อน
เด๋วคล่องค่อยใช้สัมผัสสระ สัมผัสอักษร หรือสัมผัสคำ
เก่งมากๆเข้าก็ เล่นคำ ไล่คำ เรียงคำ แล้วหาคำมาผูก เช่นคำคล้องจอง คำตรงข้าม คำผวน
คำขาด คำคม คำทู่ คลำไปเรื่อยๆ นะครับ คุณน้อง ฮิๆ

[Wadoiji]

มาแบบเดียวกับคุณดอกเข็มเลยค่ะ ^^" เคยลองแล้ว ไม่ไหวจริงๆ เฮ้อ...

เพราะจริงค่ะ ช่างแต่ง ช่างเจรจา ช่างร้องเพลงจริงๆ คุณพี่น้องทิมมี่เนี่ย >w<

[สะพานหิน]

วันหน้าขอให้คุณน้องทิมมี่ช่วยสอนวิธีสะเดาะกลอน..เอ๊ย...แต่งกลอนให้ด้วยน๊ะครับ

ผมเคยฟังคุณน้องทิมมี่แต่งกลอนสดๆให้ฟังในงานมิตติ้งที่ผ่านมายอมรับว่า...ยอดเยี่ยมจริงๆครับ

[ภูพาน]

...ได้แต่อ่านและให้กำลังใจนักกลอน
เอ!! แล้วเพื่อนนักกลอนอื่นล่ะ...หายไปไหน 

[komyen]

คิดใคร่ตรวญครวญใคร่คิดพินิจชอบ
ระบอบตามตามระบอบตอบตนได้
ระวังให้ให้ระวังจงชั่งใจ
ใดสิ่งทำทำสิ่งใดทำให้ดี

ด่วนรีบอย่าอย่ารีบด่วนหาควรไม่
ใจใส่จงจงใส่ใจให้ควรที่
เอื้อใจจงจงใจเอื้อเมื่อมั่งมี
นี้เช่นการการเช่นนี้ดีนักเอย (คมในฝัก)

[ทิมมี่]

 

[ทิมมี่]

ขอนำกลอน ขอบคุณเพื่อนๆ และน้องๆ

ที่อวยพร วันคล้ายวันเกิดผม เมื่อวันที่ 1 ส.ค มาลงไว้

 
ขอขอบคุณ น้องพี่ ที่มาครับ
ผมน้อมรับ พรใว้ ใจแจ่มใส
1สิงหา ผ่านมา พาเร็วไว
อายุไป อีกปี นี่แล้วเรา


ตอนเป็นเด็ก อยากหนุ่ม กระชุ่มกระชวย
หวังเจอสาว สุดสวย ช่วยหายเหงา
พอเริ่มมี ตีนกา ว้า!ตัวเรา
ไม่อยากเอา ไม่อยากแก่ แย่จริงๆ

ก็โชคดี มีสหาย หลายวงการ
ทุกๆท่าน จริงใจ ทั้งชายหญิง
หากผมทุกข์ อย่างไร หวังไปอิง
โปรดอย่าทิ้ง ผมละห้อย คอยเดียวดาย


ขอโทษที่ ไม่ขยัน เหมือนท่านอื่น
เดี๋ยวมายืน เดี๋ยวไม่พบ หลบหนีหาย
เอกลักษณ์  ผมนี้ ที่น่าอาย
เดินลอยชาย หลายตำบล คนชอบจร


ขอพรดี ที่ท่าน ปันให้ผม
โปรดอุ้มสม สะท้อนกลับ รับคำสอน
มีความสุข สมหวัง ดังว่าวอน
ขอเขียนกลอน จากใจ ให้ทุกคน......

[ทิมมี่]

 

กลับมาตอบ อีกครั้ง ยังเป็นปลื้ม
ท่านมิลืม ตัวเรา เพื่อนเก่าหนอ
ทั้งอวยพร หยอกเย้า เข้าใจล้อ
ยิ้มละออ เปื้อนหน้า  อย่าว่าเรา

ก็อวยพร ให้เพื่อน ถูกหวยบ้าง
ดันกลับข้าง มาผมนี้ ที่หายเหงา
ถูก54 ข้างบน อย่างเบาๆ
ก็ซัดเอา หลายพัน มันส์จริงๆ


แสดงว่า ปีนี้ ดวงเริ่มเฮง
จึงครื้นเครง กระดีด้า ดั่งบ้าสิง
จะจัดงบ เผื่อเพื่อนไว้ ทั้งชายหญิง
ตอนมีตติ้ง กลุ่มย่อย ค่อยหม่ำกัน


ขอยืนยัน กับเพื่อน เตือนใจว่า
จะรักษา มิตรภาพ ตราบอาสัญ
มิตรจิตร มอบให้ ใจผูกพัน
เราคบกัน นานนาน ท่านว่าไง...

http://forum.serithai.net/index.php?topic=4991.0

[ทิมมี่]

กลอนอวยพรให้น้อง see_you  วันคล้ายวันเกิด

   4 สิงหา มาสะกิด ชิดsee_you
ตัวน้องหนู เริ่มสาว พราวสดใส
อายุเพิ่ม อีกปี มิมีไร
ยังสวยให้ ใครชม มิ-ตรมตรอม

ขอให้มี เพื่อนรัก มากทุกหน
มีแต่คน จริงใจ ใคร่ถนอม
เห็นน้องเอ้ ! เท่ห์มาก หนุ่มอยากยอม 
มาห้อมล้อม ให้หนมจีบ รีบแซงกัน

จงเป็นเอ้ คนเก่า หายเศร้าโศก
ห่างจากโรค ใดใด ใจสุขสันต์
มีแต่ความ จริงใจ ให้แก่กัน
เป็นหญิงมั่น เปิดเผย อย่างเคยมา


ก็อวยพร จากใจ ให้น้องรัก
หากยังหนัก เรื่องใด ให้โทรหา
พร้อมรับฟัง ดังเป็นพี่ ที่เคยมา
ถ้าคบหา คบกันยาว คงเข้าที

ขอร่างกาย แข็งแรง แฝงสมส่วน
เรื่องความอ้วน ห่างไว้ ให้หลบหนี
จะดื่มเบียร์ ขอเล็กน้อย พลอยเข้าที
ซัดเต็มที่ เดี๋ยวอ้วน กวนใจเรา


ก็เขียนมา มากมาย ใคร่ขอจบ
หวังน้องพบ สิ่งดีๆ มิมีเหงา
จากญาติมิตร พี่น้อง เพื่อนพ้องเรา
มอบให้เจ้า เป็นของขวัญ ทุกวันเอย.....
.
http://forum.serithai.net/index.php?topic=5145.0

 

[สเลเต]

เข้ามาอ่านค่ะ
ยังไม่กล้าจะลองแต่งกลอน
ไว้ใจกล้าเมื่อไหร่จะลองดูนะคะ

ป.ล.
ม.ศ.5
อะจึ๋ยยยยยยยยยย
ข้าผู้น้อยขอคารวะ

 

[ทิมมี่]

 

[ภูพาน]

...

[คำตัดพ้อของใบไม้]

สอนให้ดี

คนเมืองลิง


อุทาหรณ์สอนใจในปริศนา
ทำทีท่าหวังดีมีจุดหมาย
แต่เบื้องหลังร้ายลึกไม่นึกอาย
ซ่อนแผนร้ายเล่ห์กลคนหวังดี

กระดังงาลนไฟให้ความหอม
ภมรพร้อมดอมดมสมวิถี
แมลงหรือควรคู่หมู่มาลี
ดั่งสตรีคู่เคียงเพียงชายชาญ

หญิงสูงศักดิ์รักคนบนศักดิ์ศรี
รักความดีมั่นคงตรงหลักฐาน
เป็นสุภาพบุรุษสุดเปรียบปาน
ทั้งดวงมาลย์ให้เขาได้ครอบครอง

เรื่องหัวนอนปลายเท้าเล่าไม่เสร็จ
ความสำเร็จอันดีอยู่ที่สมอง
จะดูคนไม่ยากหากตรึกตรอง
เพียงหยั่งลองสำนึกรู้สึกดี

อย่าเอาตนริบัญญัติบรรทัดฐาน
อย่ากล่าวขานคำอสัตย์ให้บัดสี
จงวางตัวให้ห่างอเวจี
จะเป็นศรีแก่ตนบนโลกา

เป็นบทกลอนสอนใจให้อีกเรื่อง
หวังปลดเปลื้องดวงจิตริษยา
เพื่อประเทืองสติและปัญญา
เพื่อรักษากมลพ้นทางมาร



 ...   ขอคัดลอกบทกลอน
นี้มาร่วมด้วยค่ะ  ชอบความหมายของ
กลอนนี้ค่ะ

[สเลเต]

เข้ามาทักอย่างงงงงคงไม่แก่
จะให้แน่จริงแท้ต้องเฉลย
มศ.5กี่ปีแล้วที่ผ่านเลย
แน่จริงเอยก็ต้องบอกตัวเลขมา

555

ฝากกลอนประตูมาให้1บทค่ะ

[ดอกเข็มขาว]

เนี่ย..ขนาดบอกว่าแต่งไม่เป็นนะเลเต
ยังเก่งกว่าพี่อีก จะบอกว่าวันนี้ไปนับต้นอัญชัน
งอกมาอีก 3 ต้นแล้วละจ๊ะ

ตามมาอ่านกลอนของน้องทิมมี่ เพราะเช่นเคยค่ะ

[เก็ดถวา]

ม.ศ.5      

คือไรเหรอ.. ไม่เห็นเคยได้ยิน

[ทิมมี่]

 

[ทิมมี่]

 

คำตัดพ้อ ของใบไม้ กรายมาเยี่ยม
เหมือนกับเรียม พบขวัญ พลันหายเหงา
เคยได้อ่าน กระทู้ อยู่นานเนาว์
ตัวสาวเจ้า ตั้งไว้มาก หลากหลายอัน


มีกลอนเด่น เป็นข้อคิด จากมิตรใหม่
มาฝากไว้ ให้ด้วย ช่วยสร้างสรร
หากว่างเชิญ จิบน้ำชา มาคุยกัน
ร่วมสัมพันธ์  เวปเสรี ที่นี่เอย...

[ทิมมี่]

กลอนไพเราะ จาก เนาวรัตน์   พงษ์ไพบูลย์


ฝัน
กับแสงจันทร์ กระจ่าง ในกลางหาว
เจ้าพระยา เลื่อมระยับ วะวับวาว
ยิ้มกับดาว พราวพริบ วิบแวมวอม

ลมสะอื้น อ้อนเพลง วังเวงแผ่ว
จะหลับแล้ว หรือยัง มาฟังกล่อม
ฝากมาลัย มะลิร่วง พวงพยอม
แนบถนอม ฝันสนิท เมื่อนิทรา

น้ำค้าง
หยาดลงกลาง กลีบแก้ว ดูแพรวพร่า
แวววิเชียร เฉกฉัน พรรณผกา
งามเหมือนตา เธอฉาย ประกายวาว

เกรงเหลือเกิน เกรงฝัน จะพลันดับ
เลือนไปกับ ทิวา ในหน้าหนาว
คิดถึงเธอ ทุกวัน ฝันทุกคราว
อยากจะกล่าว รำพัน ก็หวั่นใจ

คนคนนี้ มีเพียง เสียงอักษร
แทนคำวร บอกจิต พิศมัย
เขาเปิดปาก ไม่เป็น เช่นใครใคร
รักก็ได้ แต่พร่ำ เป็นคำกลอน


วานเสียงเพลง นี้เตือน ถึงเพื่อนฝัน
อย่ายิ้มหยัน เย้ยวจี ที่ออดอ้อน
วานอย่ามี ทีท่า ไม่อาทร
เขาจะร้อน ใจร้าว หนาวคะนึง

สุมามาลย์ หวานฉ่ำ กับน้ำค้าง
ก็อ้างว้าง เพราะพิษ ความคิดถึง
ใจนั้นหวั่น ปั่นป่วน และอวลอึง
เพ้อรำพึง เหมือนมิเคย ใจเอ๋ยใจ


จะให้ลืม ปลื้มได้ อย่างไรเล่า
เพียงเงาเงา เฝ้าฝัน ยังหวั่นไหว
กำซาบซึ้ง เสน่หา มาไรไร
เกินจะไข คำแล้ว นะแก้วตา

อารมณ์เอ๋ย รัญจวน ลวนลามนัก
เร่งแต่รัก  รัก รัก เสียหนักหนา
ความคิดถึง รึงรุก ทุกเวลา
ทั้งใบหน้า คิ้วคาง ต่างมาเตือน

ใจจะขาด สวาทหวิว ละลิ่วลิบ
ลมกระซิบ สั่งเสียง สำเนียงเหมือน
จะหันห่าง อย่างนี้ กี่ปีเดือน
หรือจะเลือน ลอยร้าง ไปอย่างเคย

หนาวจากฟ้า มาคว้าง อยู่กลางอก
สั่นสะทก สะท้านไหว แล้วใจเอ๋ย
ฝันถึงเดือน เพื่อนฟ้า น่าชื่นเชย
ก็เกินเลย ลำนำ จะคร่ำครวญ


ขอโทษแทน วารี ที่เผลอพร่ำ
ฝันที่ก้ำ เกินเลย ระเหยหวน
วานอภัย เสียงเพลง เกรงจะกวน
นอนเถิดนวล เสน่หา อย่าอาลัย

[สเลเต]

ไพเราะเพราะพริ้ง
สมกับเป็นฝีมือของกวีซ๊ไรท์จริงๆค่ะ
ไปก่อนดีก่า....
งานท่วมหัวเอาตัวไม่รอดแล้วยังดอดมาเล่นเนทอีก
อิอิอิ

[ทิมมี่]

ขอนำบทกลอน ของ ประยอม  ซองทอง นักกลอนอาวุโสรุ่นพี่ เนาวรัตน์ฯ  ซึ่งแต่งเมื่อปี 2503 มาให้อ่านครับ

+------+-----+------+------+

สงสารเดือน
ที่ขาดเพื่อน เคว้งคว้าง อยู่กลางหาว
มีเพียงแสง รุบหรู่ ของหมู่ดาว
เป็นเพื่อนคราว เดือนฉาย อยู่ดายเดียว


ยิ่งฟ้าหม่น มืดทะมึน เหมือนคืนนี้
อ้อมสรวงมี เดือนเศร้า อยู่เปล่าเปลี่ยว
เห็นเหงาหงอย ห้อยหาว รูปยาวเรียว
สีซีดเซียว เกี่ยวฟ้า ว้าเหว่ใจ

เคยฟ้าแผ้ว แวววาว ดาวประดับ
บัดนี้ลับ เร้นลี้ ไปที่ไหน
ปล่อยทุกห้อง หาวหน หม่นหมองไว้
ทิ้งเดือนให้ แขวนคว้าง กลางโพยม


ฟ้าคร่ำครืน ครวญคราง ออกอย่างนี้
หน่อยจะมี พายุ พัดพรูโหม
น้ำตาฟ้า จะพร้อยพรั่ง ลงหลั่งโลม
สงสารโคม คู่ฟ้า จะมืดมิด

คิดถึง"เดือน"
ผู้เสมือน เพื่อนใจ อันไพจิตร
เพื่อนเคยอยู่ คู่ขวัญ เป็นเพื่อนชิด
เป็นคู่คิด คู่ขวัญ ร่วมกันมา


"เดือนเอ๋ย"
ไม่โกรธเลย ที่เธอทำ ช้ำหนักหนา
ยังห่วงถึง ซึ้งสนิท ติดตรึงตรา
รอเธอมา ร่วมความหลัง อยู่อย่างมิตร

เธอหลงไหล ไฟเปลว ดิ่งเหวลึก
กว่าเมื่อใด  เธอรู้สึก สำนึกผิด
ไร้ใครอื่น หมื่นผู้ เชิดบูชิต
ขอให้คิด มิตรอย่างฉัน มั่นห่วงเดือน

สวัสดีครับคุณ สเลเต ถ้าพอมีเวลาบ้าง

กรุณานำกลอนที่ไพเราะๆ มาฝากบ้างนะครับ

เห็นท่าน เป็นนักเขียน และนักอ่านตัวยง

[ทิมมี่]

บทกลอน  ของท่านพุทธทาส


หมดศัตรู...

อันศัตรู คือผู้จู่ มาสอบไล่
ให้รู้ได้ ว่าเรามี ดีเท่าไหน
หรือดีแต่ จะโกรธยืน เป็นฟืนไฟ
บังคับใจ ไว้ไม่อยู่ สักครู่เดียว

อันศัตรู คือผู้สรร สวรรค์ให้
ตรงที่ได้ มีจิต คิดเฉลียว
ว่าอดกลั้น นั่นแหละนะ เป็นพระเทียว
ไม่ลดเลี้ยว ไปเป็นมาร พล่านนรก

อันศัตรู คือผู้สอน สัจจธรรม
ว่าอาฆาต นั้นคือ น้ำสกปรก
อย่าเก็บไว้ ในใจ ให้ใจฟก
จะเวียนวก ว่ายสงสาร นานนักเอย

เหตุฉะนั้น ศัตรู คือผู้ให้
แต่กลายเป็น ผู้ร้าย เหตุไรเหวย ?
เพราะผู้รับ รับไม่เป็น อย่างเช่นเคย
ถ้ารับเป็น พวกเราเอ๋ย หมดศัตรู !

[ภูพาน]

ขอบคุณครับคุณน้องทิมมี่ ที่เอากลอนท่านพุทธทาสมาเผยแพร่
โดยเฉพาะท่อนสุดท้าย  น่าสนใจมากๆ...

เหตุฉะนั้น ศัตรู คือผู้ให้
แต่กลายเป็น ผู้ร้าย เหตุไรเหวย ?
เพราะผู้รับ รับไม่เป็น อย่างเช่นเคย
ถ้ารับเป็น พวกเราเอ๋ย หมดศัตรู !

ว่าแต่...รับเป็น รับอย่างไร ช่วยบอกที...

[ทิมมี่]

 

เหตุฉะนั้น  ศัตรู คือผู้ให้

ฝึกเราไว้ ให้อดกลั้น นั่นซิเหวย
หากมิทน ทานได้ ไปสวนเลย
เราคงเคย เห็นทะเลาะ ไม่เหมาะความ


หากเรารับ รู้ว่า อย่าไปโกรธ
หรือถือโทษ ไปประจัน บีบคั้นถาม
ปล่อยดั่งสาย ลมพริ้ว ปลิวไปตาม-
-กระแสหาม พัดไป ในทิศใด

เพียงแต่ขอ  อโหสิ  ริ-ปล่อยวาง
รู้ตัว ! อย่าง จิตแจ้ง แฝงแจ่มใส
ศัตรูนี้ ที่มา ไม่ว่าใคร
ยากจะไป ทำร้าย ที่ใจเรา


เป็นคำสอน ชี้ธรรม นำวิถี
คิดแต่ดี ฝึกไว้ ห่างไกลเขลา
พุทธทาสฯ ท่านผู้รู้ ครูของเรา
กราบแทบเท้า ผู้หลุดพ้น คนครองธรรม....

สวัสดีครับคุณภูพาน
ผมก็ลองตีความ  ตามที่ปัญญาน้อยนิด ที่พอจะมีละครับ

[ทิมมี่]

       ตัวกู กับ ตัวสู กลอนของท่านพุทธทาสฯ

.
อัน"ตัวกู" "ตัวสู" มิได้มี
แต่พอโง่ มันเป็นผี โผล่มาได้
พอหายโง่ "กู" "สู" ก็หายไป
พอโง่ใหม่ โผล่ใหม่ ดูให้ดี


.แต่ละข้าง ต่างยึด ว่าตัวกู
จึงเกิดการ ต่อสู้ กันอย่างผี
ต่างหมายมั่น แก่กัน ฉันไพรี
ทั้งเปิดเผย ลับลี้ มีทั่วไป

. ที่ด้อยกว่า สู้ว่ากู ก็มีดี
ที่เด่นกว่า ข่มขี่ เขาเข้าไว้
ที่พอกัน กันท่า ไม่ว่าใคร
ล้วนแต่ใคร่ โด่งเด่น เป็นธรรมดา


.เอาพระธรรม กวาดล้าง อย่างไม้กวาด
สำหรับฟาด หัวสัตว์ ที่ข้างฝา
ตกประเด็น เป็นเหยื่อ แก่ไก่กา
ที่เก่งกว่า คืออย่าโง่ ให้โผล่เอย ฯ

[ดอกเข็มขาว]

มาคอยอ่านบทกลอนเพราะๆของน้องทิมมี่ค่ะ

[ทิมมี่]

 

สวัสดีครับ คุณดอกเข็มขาว และเพื่อนๆ
พอดีผมไป ต.จ.ว.หลายวัน  ขอฝากกลอน
อวยพร วันคล้ายวันเกิดน้องเดือน   ให้อ่านก่อนนะครับ

1*ที่ 11  สิงหา มาย้ำเตือน
ถึงคราว" เดือน"  เกิดแล้ว น้องแก้วจ๋า
เธอเคยตั้ง กระทู้ให้ ใครเรื่อยมา
คราวนี้จ้า ถึงคราวเดือน เพื่อนใครกัน

2*มีลูกเล่น ในชื่อ คือน่ารัก
คนรู้จัก อ่านไป ให้ขำขัน
พอเอ่ยนาม ตามด้วยสร้อย ร้อยติดกัน
ก็รู้พลัน เดือนน่ารัก จากชื่อเอง


3*อายุน้อง เท่าไหร่ ใครทราบบ้าง
เดาว่าย่าง  24  นี้ตรงเผง
อาจจะผิด หรือเปล่า เพราะเดาเอง
เห็นครื้นเครง เฮฮา น่าจะเยาว์


4*ขอให้มี เพื่อนมาก หลากหลายล้น
มีแต่คน สนับสนุน วุ่นไม่เหงา
อายุเพิ่ม แต่หน้าอ่อน เหมือนตอนเยาว์
ความสุขเข้า  มาอยู่ คู่ประจำ

5*บ่อน้ำตา อย่าตื้น จงฝืนไว้
ชอบร้องไห้ ตอนพวกพี่ ตีกระหน่ำ
โถ ! น้องเดือน น่าสงสาร พาลรับกรรม
ก็หนูช้ำ  รักเสรี  นี่ซิคะ


6*จงเป็นคน จริงใจ ไปแบบนี้
มิมีที่  แอบแฝง  แคลงใจฮะ
รักหรือเกลียด ก็พูดไป ให้จะจะ
แต่อย่าวะ  หรือเว้ย เฉยดีกว่า

7*น้องเป็นคน ยิ้มง่าย ใครก็ชอบ
เป็นคำตอบ มนุษย์สัมพันธ์  นั้นหนักหนา
เกิดวันนี้  ไร้โรคภัย อย่าใกล้มา
ขอเงินตรา  เต็มกระเป๋า เข้าทุกวัน.....

[ทิมมี่]

     ไก่    กลอนของเนาวรัตน์   พงษ์ไพบูลย์

ไก่ข้างบ้าน ขันปลุก ทุกก่อนเช้า
เคยนอนเฝ้า ฟังซ้ำ จนจำได้
มันบอก  ต้นสาเกโค่น  ตะโกนไกล
รับกันไป ต่อต่อ โก่งคอร้อง


ต้นสาเก บ้านใคร ที่ไหนโค่น
เฝ้าตะโกน โพนทะนา หาเจ้าของ
หรือฝันเกาะ กิ่งหัก เสียหลักรอง
ตกใจต้อง ตื่นตะโกน ต้นสาเก

เพลินฟังเสียง ฟังซ้ำ จนจำได้
ช่างกระไร ไก่เอ๋ย ไม่เคยเห
เฝ้าขันยาม ตามควร ไม่รวนเร
เหมือนบอกเวลาวัน เปลี่ยนผันไป


นอนคอยเสียง สาเกโค่น จนรุ่งเช้า
หูยังเฝ้า เฟือนหวัง ฟังเสียงไก่
แต่ใยหนอ เงียบสนิท จนผิดใจ
เงียบอย่างไม่ เคยมี เช่นนี้เลย


แล้วเสียงเขียง จากครัว ก็รัวถี่
ทำหน้าที่ สุดท้าย หรือไก่เอ๋ย
เลือดติดมีด กรีดกระเซ็น เหมือนเช่นเคย
หลั่งสังเวย เหล้าหวาน วันมงคล


ผมขอพักไปเที่ยว เขาค้อ 2 วัน
กลับมา อาจจะมีกลอนบรรยากาศที่โน่นมาฝากครับ

[ทิมมี่]

                      แด่เสรีไทย


รวม...คนเกลียดท่านแม้ว.................ยกโขยง
กัน...ท่าพวกโคตรโกง.....................ทั่วบ้าน
ทำ...เวปไล่เปิดโปง.......................พวกชั่ว
ไม...เล่าหุ้นหมื่นล้าน.......................จ่ายให้จิ้บจ๊อย

แล้ว...เวลาผ่านพ้น.............................ไม่นาน
ไง...ครับอุดมการณ์.............................ว่าไว้.
วัน...คล้อยเคลื่อนโปรดวาน....................มองหน่อย
นี้...พวกเราสู้ได้..................................เกือบร้อยยังครับ

ที่...บ้านหลังใหม่นี้.........................มากคน
เรา...ต่างยกเหตุผล.........................ตอบถ้อย
ลุย...พวกอย่างสับสน.......................ชักบ่อย
กัน...บ่ได้เพื่อนน้อย..........................หลีกลี้แรมไกล

[ทิมมี่]

กลอนของ ประยอม   ซองทอง

ชีวิตเราถ้าเหมือนเรือ  (พ.ศ 2502)

--------------------------------------------

ชีวิตเรา ถ้าเหมือนเรือ เมื่อออกท่า
ไม่รู้ว่า ค่ำนี้ นอนที่ไหน
จะลอยล่ม จมน้ำ คว่ำลำไป
หรือสมใจ จอดฝั่ง ..ก็ยังแคลง


ได้แต่ดื่ม น้ำตา เมื่อฟ้าร่ำ
ยิ่งยามย่ำ สายัณห์ ยิ่งกรรแสง
ถูกลมหวน หอบข่ม ระดมแรง
จึงรู้แล้ง หมดแล้ว น้ำแก้วตา


เพราะหากมัว มาร่ำ กำสรวลอยู่
ไหนจะรู้ ทรงเรือ บ่ายเมื่อหน้า
ต้องตักพาย หมายขืน ฝืนลมฟ้า
ไร้เวลา อาดูร พอกพูนใจ


สติตรง ตาแน่ว ดูแนวน้ำ
ไม่ลอยลำ ขวางเรือ เมื่อน้ำไหล
ถ้าไม่ล่อง ก็ท่องทวน สวนทันใด
เรือจึ่งได้ แนวดิ่ง ไม่ทิ้งทาง

ในโลกนี้ มีสิ่ง ต้องวิ่งแข่ง
ถ้าหย่อนแรง ราข้อ ต่อเข้าบ้าง
ก็จะแพ้ แย่ยับ ถึงอัปปาง
อย่าหมายร่าง เราจะอยู่ สู้หน้าใคร

ชีวิตเรา ถ้าเหมือนเรือ เมื่อออกท่า
ต้องรู้ว่า ค่ำนี้ นอนที่ไหน
ต่อรุ่งเช้า ก้าวอีกขั้น มรรคาลัย
กว่าวันชัย สมประสงค์ ถือธงชู..

[อธิฏฐาน]

เก็บดวงดาวพราวไสวส่งให้เพื่อน
ได้มาเยือนเยี่ยมใหม่ใช่ร้างหนี
อยู่แห่งไหนความจริงใจยังคงมี
ถ้อยกวีร่วมด้วยช่วยขับขาน


บางเวลาอักษรอ่อนความคิด
ไม่มีจิตร่ายกลอนพรหวานหวาน
จะเหลือไว้รอยย่ำเป็นตำนาน
รอวันลบจากกาลเมื่อผ่านไป

 


สวัสดีค่ะคุณน้องทิมมี่ ช่วงนี้เขียนไม่ค่อยจะออกเลย