ดร.บวรศักดิ์ ไปพูดเรื่องการวิจัยเมืองเพื่อพัฒนาประชาธิปไตยให้สถาบันปกเกล้า เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดร.บวรศักดิ์ได้ยกตัวอย่างผลงานวิจัยของผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันปกเกล้า ซึ่งได้ศึกษาเรื่อง "การวัดระดับความเป็นประชาธิปไตยและการเมืองของประเทศ" ผลการศึกษาพบว่า
คนที่มีการศึกษาต่ำ มีสถานะทางสังคมต่ำ จะเลือก พรรคไทยรักไทย
และคนไทยยังยอมรับและอดทนต่อทุจริตคอรับชั่น ได้มากขึ้น เมื่อเทียบระหว่างปี 2544 กับ 2548
บทศึกษาข้างบนนี้ได้บ่งบอกบางสิ่งบางอย่างกับเราหรือไม่ เช่น
1.คนที่มีการศึกษาน้อย มีโอกาสที่จะโดนนักการเมืองหลอก ได้ง่ายกว่า เพราะเขาไม่สามารถวิเคราะห์ในเชิงลึกว่า ผลกระทบต่างๆทีจะตามมาในอนาคตกับประเทศชาติจะเป็นอย่างไร จากนโยบาย ลด แลก แจก แถม ของพรรคการเมือง ที่เอาวัตถุหรือเงินมาล่อ
2.คนที่อยู่ในชั้นสังคมที่ต่ำ จะไม่คำนึงถึงคุณธรรมใดๆ ขอเพียงให้นักการเมือง คนใดก็ได้ พรรคใดก็ได้ก็ได้ที่ หยิบยื่น ผลประโยชน์ให้ แม้ว่านักการเมืองคนนั้นจะโกงมา
ประชาชนคนไทยทั้งประเทศคงต้องร่วมแรงร่วมใจกันที่จะยกระดับการศึกษาให้ดีขึ้นจนเทียบเท่านานาอารยะประเทศทั้งหลาย และเมื่อนั้นเราก็คงจะได้นักการเมืองที่มีจิตวิญญานที่จะเข้ามาเพื่อช่วยกันร่วมพัฒนาชาติไทย ไม่แสวงหาผลประโยชน์เหมือนที่ผ่านๆมา
จะเป็นปได้ไหมครับ
ถ้าจะสรุปอะไรซักอย่าง คงไม่ใช่ คนมีการศึกษาน้อย โง่ และโดนหลอกหรอกครับ
แต่น่าจะเป็นเพราะว่า นโยบาย ทรท ให้ประโยชน์กับคนพวกนี้ ในความรู้สึกของเค้ามากกว่า
เพราะ GDP การขยายตัวทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ หนี้สาธารณะ เอาเข้าจริงๆแล้ว
ยังมีคนจำนวนมาก ที่แทบจะไม่มีผลกระทบกับตัวเลขพวกนี้ ไม่ว่าตัวเลขจะสูงขึ้นหรือต่ำลง หรือที่เรียกกันว่า คนจนถาวรน่ะครับ
เรื่องคุณธรรมไม่เกี่ยวหรอกครับ เพราะส่วนใหญ่ เป็นโครงสร้างอำนาจปิระมิด แบบเครือข่ายอุปถัมน์มากกว่า
และโครงสร้างนี้ ไม่เอื้อให้สร้างคำถามใดๆ กับผู้ที่อยู่ในโครงสร้างอำนาจที่เหนือกว่า
ถ้าวัฒนธรรมอำนาจไม่เปลี่ยน การตั้งคำถามเรื่องคุณธรรมคงยาก