ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 23:11
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  คน"รักทักษิณ"ใหม่ใน"เสรีไทยฯ" สุภาพ อ้างอิง กึ่งเท็จ กึ่งจริง มากกว่าเดิม....? 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: 1 [2]
คน"รักทักษิณ"ใหม่ใน"เสรีไทยฯ" สุภาพ อ้างอิง กึ่งเท็จ กึ่งจริง มากกว่าเดิม....?  (อ่าน 4668 ครั้ง)
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #50 เมื่อ: 06-08-2006, 18:09 »

เสวนากับตุณปุฯหน่อย

สังเกตุมาหลายทีละ พวกนี้มันชอบเกาะกระทู้ของพวกผู้หญิง พอพวกเราเข้าไปตอบ มันก็ลากให้เราชนกับจขกท. ว่ามะคุณปุฯ



ฮืมม์...............ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #51 เมื่อ: 06-08-2006, 18:23 »

สูตรยกไป เป็นเพียงการใช้อธิบาย กฎกำลังสองผกผัน ไม่จำเป็นต้องแทนค่า แล้วอีกอย่าง สูตรนั้นไม่ได้ใช้เฉพาะกับพวกดาว สำหรับคนที่ไม่เข้าใจพื้นฐานของฟิสิกสืคงไม่ต้องพูดอะไรมาก ฟิสิกส์ไม่ใช่คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์เพียงแต่เอาคณิตศาสตร์มาช่วยอธิบาย เอาแค่แรง ไหนลองบอกสิว่าคืออะไร มีกี่ประเภท
หนังสือนี่ผมคงไม่อ่านหรอก เปลืองเวลาทำมาหากิน และนอกประเด็นไปไกล
ตอนต้นแค่บอกว่าผู้สังเกตเคลื่อนที่ด้วยความเร่งจะทำให้มุมมองผิดเพี้ยนหมด
เปรียบเทียบกับการเมืองว่า ผู้รับรู้จากอายตนะภายนอกเจออคติจะทำให้พิสูจน์กฎที่เคยถูกต้องเป็นผิด
ถ้าจะลองกับกฎนิวตันทั้งสามข้อ ให้คุณจินตนาการว่าเช่าเครื่องบินแล้วให้ทิ้งดิ่งแบบ free fall
ตอนนี้คุณจะพิสูจน์กฎของนิวตันมันก็จะเพี้ยน ทีนี้คุณจะเล่นเรื่องแรงดึงดูดระหว่างมวลด้วยสูตร
คณิตศาสตร์ผมคงไม่มีเวลาลงลึกในรายละเอียดแล้วหละ สรุปข้อ 3 ของกฎนิวตันว่า
กรูทำกรรม=กรูรับกรรม ครับ
แรง คือ สิ่งที่สามารถเร่งให้วัตถุเคลื่อนที่ได้ครับ เป็นเวคเตอร์
นิวตันคงไม่ได้แยกประเภทเองเพราะไม่มีในกฎสามข้อ รวมทั้งแรงดึงดูดระหว่างมวลด้วย

กฏข้อหนึ่งให้ความคิดเกี่ยวกับ กรอบอ้าอิงเฉื่อย
กฏข้อสองต้องอาศัยแนวความคิดเรื่องกรอบเฉื่อย ถึงรู้ได้ว่าอะไรคือความเร่ง และอะไรคือการเคลื่อนที่ จึงนิยามได้ว่า แรงคืออัตราการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัม ในทฤษฏีสัมพันธภาพพิเศษ F=ma ไม่สามารถใช้ได้ แต่เรื่องที่ F = dp/dt ยังใช้ได้อยู่ ส่วน dp/dt จะเท่ากับ ma หรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง
กฏข้อสาม เมื่อรู้ว่าแรงคืออะไร ก็จะสรุปเป็นกฏข้อนี้ได้ แล้วก็พัฒนาเป็นแรงดึงดูดระหว่างมวล(อันนี้นิวตันก็คิด Newton's law of universal gravitation) ที่วัตถุทั้งสองต่างดึงดูดซึ่งกันและกันด้วยแรงที่เท่ากัน และรวมทั้งการอนุรักษ์โมเมนตัมด้วย

สำหรับกฏนิวตันนี้นำไปใช้ได้ทั้งสัมพันธภาพและควอนตัมแต่ต้องประยุกต์กฏก่อนโดยเรียกว่า Galilean Transformation
บันทึกการเข้า
ไทมุง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,543



« ตอบ #52 เมื่อ: 06-08-2006, 18:27 »


ไม่มีอะไรหรอก  ไม่มีอะไรจะสนทนา  ไม่มีความรู้เรื่องฟิสิกส์  ก็อบแบบจำลองมาให้ดูเล่นๆ กะลังทำวิจัยอยู่  พิมพ์ถึงตอนนี้พอดี
                           k
          vt   =   + t + DT*() + avt-1 + Σcj Δ vt - j + t       (3)
                          j = 1
   
บันทึกการเข้า
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #53 เมื่อ: 06-08-2006, 19:03 »

คนบางคนไม่ใช่มีจริยธรรมแตกต่างไปหรอกครับ แต่เขาเรียกว่า "ไม่มีจริยธรรม" ครับ
สังเกตได้ง่าย จะเป็นคนจำพวกที่พอพูดถึงจริยธรรม ก็จะบอกว่าจริยธรรมของคนเรามันต่างกัน
แต่พอถามว่า แล้วจริยธรรมของคุณเป็นยังไง คนที่ไม่มีจริยธรรมก็จะอึ้ง แล้วแถไปเรื่องอื่นต่อไป
เพราะเขาไม่มีจริยธรรมจึงตอบไม่ได้ว่าจริยธรรมในความหมายของเขาคืออะไร  Mr. Green
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #54 เมื่อ: 06-08-2006, 20:29 »

กฏข้อหนึ่งให้ความคิดเกี่ยวกับ กรอบอ้าอิงเฉื่อย
กฏข้อสองต้องอาศัยแนวความคิดเรื่องกรอบเฉื่อย ถึงรู้ได้ว่าอะไรคือความเร่ง และอะไรคือการเคลื่อนที่ จึงนิยามได้ว่า แรงคืออัตราการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัม ในทฤษฏีสัมพันธภาพพิเศษ F=ma ไม่สามารถใช้ได้ แต่เรื่องที่ F = dp/dt ยังใช้ได้อยู่ ส่วน dp/dt จะเท่ากับ ma หรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง
กฏข้อสาม เมื่อรู้ว่าแรงคืออะไร ก็จะสรุปเป็นกฏข้อนี้ได้ แล้วก็พัฒนาเป็นแรงดึงดูดระหว่างมวล(อันนี้นิวตันก็คิด Newton's law of universal gravitation) ที่วัตถุทั้งสองต่างดึงดูดซึ่งกันและกันด้วยแรงที่เท่ากัน และรวมทั้งการอนุรักษ์โมเมนตัมด้วย

สำหรับกฏนิวตันนี้นำไปใช้ได้ทั้งสัมพันธภาพและควอนตัมแต่ต้องประยุกต์กฏก่อนโดยเรียกว่า Galilean Transformation
พูดถึงนิวตันก็อย่าพูดถึงทฤษฎีสัมพันธภาพเพราะเป็นคนละยุคครับ
ส่วนเรื่องกฎข้อสามถ้าคุณอยู่ในเครื่องบินที่ตกลงด้วยความเร่ง g
แล้วใช้กิโลแบบสปริงวัดน้ำหนักดึงและกิโลแบบดิจิตอลวัดแบบกด
จะเห็นว่าไม่เท่ากัน แสดงว่ากฎผิดครับ (ในมุมของผู้สังเกต)
กฎกับทฤษฎีต่างกันนะครับ แค่นี้คงกระจ่างแล้วนะครับ
อีกอย่างอเมริกันไม่ใช่พ่อ อย่าพูดเรื่องทฤษฎีสัมพันธภาพครับ
บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #55 เมื่อ: 06-08-2006, 20:31 »

ศาสนาไม่ได้ให้ความสำคัญจริยธรรมหรอกหรือ Question
มีความสำคัญทั้งคู่ครับ
ศาสนากับจริยธรรมเหมือนวงกลมสองวงซ้อนกันอยู่
(ถ้ามีหลายศาสนาก็จะมีหลายวง)
สังคมไหนที่อิงหลักศาสนามากส่วนที่ซ้อนทับก็จะมาก
ความต่างคือการอ้างอิงด้วยตัวหนังสือครับ
ศาสนาจะชัดเจนกว่าเพราะมีผู้ชำระตามยุคสมัย
ถ้าจะอ้างด้วยจริยธรรมจะทำให้แถง่ายกว่า
แม้แต่หลักศาสนาเองก็ใช่ว่าจะแถไม่ได้
ผมเคยเถียงกับท่านทิดคนหนึ่งเรื่องปาณาติบาต
ว่าสัตว์ประเภทไหนฆ่าแล้วบาป บางสายว่ามีวิญญาณ
แล้วจะดูอย่างไรว่าสัตว์ไหนมีวิญญาณไหนไม่มี
กะว่าจะต้อนท่านทิดให้จนมุมเพราะในศีล 5 บอกแค่สั้นๆ
ท่านตอบกลับมาว่าคุณไปนั่งสมาธิจนจิตใจมีเมตตาแล้ว
คุณจะบอกกับตัวเองได้ ผมเถียงไม่ออกแต่ก็ไม่เคยลอง

อยากจะให้พรรคปชปเน้นเรื่องศาสนาก่อนการศึกษา
เพราะศาสนาเข้าถึงประชาชนได้ง่ายกว่าปัจจุบันปัญหา
เรื่องศาสนากับการปกครองนับเป็นเรื่องใหญ่ที่แก้ยาก
แต่ถ้าเปรียบเทียบกับประเทศภูฏานที่อิงศาสนาเป็นหลัก
จะเห็นว่าประชาชนมีความสุข(จากภาพข่าว) โดยไม่ต้อง
มีการศึกษาที่สูงมาก(แต่ก็ต้องมีระดับหนึ่ง) เพียงแต่ว่า
ฐานเสียงพรรคนี้อยู่ทางใต้เสียส่วนหนึ่ง จะเน้นเฉพาะศาสนา
เดียวเป็นเรื่องที่ทำยาก เน้นทุกศาสนายิ่งยากมาก

ส่วนเรื่องที่ว่าศาสนาพุทธเข้าถึงยากในเยาวชน บางท่าน
ก็ว่าทำไมไม่แปลเป็นภาษาไทยอย่างในศาสนาคริสต์
ผมก็ลองอ่านดู มรรคข้อ 1 สัมมาทิฏฐิ แปลว่า ความเห็นชอบ
คุณว่ามันน่าเข้าใจไหม ถ้าแปลเป็นภาษาไม่ใช่พ่อว่า
right preception กลับเข้าใจง่ายกว่า ตรงนี้ต้องใช้ผู้
เชี่ยวชาญแล้วครับ
บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #56 เมื่อ: 06-08-2006, 20:33 »

อยากพูดเรื่องการปกครองคณะสงฆ์อีก แต่กลัวมันจะมากเกินไปครับ
บันทึกการเข้า
999
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,022



« ตอบ #57 เมื่อ: 06-08-2006, 20:47 »





ออกมาไกลหัวข้อกระทู้ แต่ก็ว่าไปได้

ก็เรื่องเดิม สิ่งที่ทักษิณเลือกทำ เช่นตระบัดสัตย์ สำหรับคนช่างคิดก็คิดไปไม่จบ

ทักษิณเลือกจะไม่ตอบตรงๆ ตลอดมาและตลอดไป เพราะเขาเองก็ตอบไม่ได้และไม่คิดจะตอบคำถามตรงๆกับตัวเอง

ดังนั้นที่พูดไม่จริงหรือไม่หมด ก็มีทั้งที่จงใจและไม่รู้ แต่เจตนาในการพูดนั้นๆคือเพื่อยกมาเป็นข้ออ้างต่อสิ่งที่เขาไม่ตอบโดยตอบเลี่ยงๆโดยไม่มีเหตุอันควรนั้นแหละ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-08-2006, 21:06 โดย 999 » บันทึกการเข้า

Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #58 เมื่อ: 06-08-2006, 20:53 »

กฏข้อหนึ่งให้ความคิดเกี่ยวกับ กรอบอ้าอิงเฉื่อย
กฏข้อสองต้องอาศัยแนวความคิดเรื่องกรอบเฉื่อย ถึงรู้ได้ว่าอะไรคือความเร่ง และอะไรคือการเคลื่อนที่ จึงนิยามได้ว่า แรงคืออัตราการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัม ในทฤษฏีสัมพันธภาพพิเศษ F=ma ไม่สามารถใช้ได้ แต่เรื่องที่ F = dp/dt ยังใช้ได้อยู่ ส่วน dp/dt จะเท่ากับ ma หรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง
กฏข้อสาม เมื่อรู้ว่าแรงคืออะไร ก็จะสรุปเป็นกฏข้อนี้ได้ แล้วก็พัฒนาเป็นแรงดึงดูดระหว่างมวล(อันนี้นิวตันก็คิด Newton's law of universal gravitation) ที่วัตถุทั้งสองต่างดึงดูดซึ่งกันและกันด้วยแรงที่เท่ากัน และรวมทั้งการอนุรักษ์โมเมนตัมด้วย

สำหรับกฏนิวตันนี้นำไปใช้ได้ทั้งสัมพันธภาพและควอนตัมแต่ต้องประยุกต์กฏก่อนโดยเรียกว่า Galilean Transformation
พูดถึงนิวตันก็อย่าพูดถึงทฤษฎีสัมพันธภาพเพราะเป็นคนละยุคครับ
ส่วนเรื่องกฎข้อสามถ้าคุณอยู่ในเครื่องบินที่ตกลงด้วยความเร่ง g
แล้วใช้กิโลแบบสปริงวัดน้ำหนักดึงและกิโลแบบดิจิตอลวัดแบบกด
จะเห็นว่าไม่เท่ากัน แสดงว่ากฎผิดครับ (ในมุมของผู้สังเกต)
กฎกับทฤษฎีต่างกันนะครับ แค่นี้คงกระจ่างแล้วนะครับ
อีกอย่างอเมริกันไม่ใช่พ่อ อย่าพูดเรื่องทฤษฎีสัมพันธภาพครับ
ไอสไตน์เป็นยิว ไม่ใช่อเมริกาอย่ามั่วสิ กฏเป็นจริงเสมอ แต่ทฤษฏีนี้มีข้อยกเว้น และผมไม่ได้พูดถึงนิวตัน เรื่องนี้พูดถึงกฏนิวตัน ปัจจุบันต่างจากสมัยนิวตันนะ จำสับสนรึเปล่าครับ อ่อส่วนที่วัดนั้นเท่ากันครับ จะผิดพลาดนั้นเป็นเพราะเครื่องมือเอง อย่าลืมนะไม่ว่าจะวัดแบบไหนถ้าตกแบบอิสระ มันก็อยู่สภาพไร้น้ำหนักตามทฤษฏีของไอสไตน์ แต่มวลคงเดิม จำสับกันอีกรึเปล่าครับ และทุกสิ่งทุกอย่างก็เข้ากฏแรงดึงดูดระหว่างมวล เหมือนคุณหล่นจากตึกสูงแบบตกอิสระ คุณกับโลกก็ดึงดูดซึ่งกันและกันด้วยแรงที่เท่ากันตามกฏข้อสาม แต่เนื่องจากขนาดโลกใหญ่กว่ามากๆจึงเหมือนอยู่นิ่ง แต่คุณพุ่งเข้าหาโลก
บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #59 เมื่อ: 06-08-2006, 21:16 »

ไอสไตน์เป็นยิว ไม่ใช่อเมริกาอย่ามั่วสิ กฏเป็นจริงเสมอ แต่ทฤษฏีนี้มีข้อยกเว้น และผมไม่ได้พูดถึงนิวตัน เรื่องนี้พูดถึงกฏนิวตัน ปัจจุบันต่างจากสมัยนิวตันนะ จำสับสนรึเปล่าครับ อ่อส่วนที่วัดนั้นเท่ากันครับ จะผิดพลาดนั้นเป็นเพราะเครื่องมือเอง อย่าลืมนะไม่ว่าจะวัดแบบไหนถ้าตกแบบอิสระ มันก็อยู่สภาพไร้น้ำหนักตามทฤษฏีของไอสไตน์ แต่มวลคงเดิม จำสับกันอีกรึเปล่าครับ และทุกสิ่งทุกอย่างก็เข้ากฏแรงดึงดูดระหว่างมวล เหมือนคุณหล่นจากตึกสูงแบบตกอิสระ คุณกับโลกก็ดึงดูดซึ่งกันและกันด้วยแรงที่เท่ากันตามกฏข้อสาม แต่เนื่องจากขนาดโลกใหญ่กว่ามากๆจึงเหมือนอยู่นิ่ง แต่คุณพุ่งเข้าหาโลก
ไม่ยอมจบอีกคุณ ไอสไตน์เป็นยิวไปอยู่อเมริกา แล้วพวกจีนมาอยู่ไทยไม่เรียกเป็นคนจีนเหรอ แถกว่าเราอีกวุ้ย
ก็จะพิสูจน์กฎนิวตันแล้วมาพูดเรื่องทฤษฎีสัมพันธภาพหาอะไรครับ ผมไม่ได้พิสูจน์ทฤษฎีสัมพันธภาพซักหน่อย
แล้วก็เรื่องเอากิโลสองอันมาต่อกันบนเครื่องบินที่กำลังตกด้วยแรง g ผู้สังเกตจะเห็นน้ำหนักที่ชั่งบนสองกิโล
มันต่างกัน ละเอียดแบบนี้เข้าใจหรือยังครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-08-2006, 21:18 โดย ชอบแถ » บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #60 เมื่อ: 06-08-2006, 21:25 »

ว่าแต่คุณ solidus ไม่คิดจะคุยเรื่องจริยธรรมต่อบ้างเหรอ ชักคันมือ
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #61 เมื่อ: 06-08-2006, 21:38 »

ไอสไตน์เป็นยิว ไม่ใช่อเมริกาอย่ามั่วสิ กฏเป็นจริงเสมอ แต่ทฤษฏีนี้มีข้อยกเว้น และผมไม่ได้พูดถึงนิวตัน เรื่องนี้พูดถึงกฏนิวตัน ปัจจุบันต่างจากสมัยนิวตันนะ จำสับสนรึเปล่าครับ อ่อส่วนที่วัดนั้นเท่ากันครับ จะผิดพลาดนั้นเป็นเพราะเครื่องมือเอง อย่าลืมนะไม่ว่าจะวัดแบบไหนถ้าตกแบบอิสระ มันก็อยู่สภาพไร้น้ำหนักตามทฤษฏีของไอสไตน์ แต่มวลคงเดิม จำสับกันอีกรึเปล่าครับ และทุกสิ่งทุกอย่างก็เข้ากฏแรงดึงดูดระหว่างมวล เหมือนคุณหล่นจากตึกสูงแบบตกอิสระ คุณกับโลกก็ดึงดูดซึ่งกันและกันด้วยแรงที่เท่ากันตามกฏข้อสาม แต่เนื่องจากขนาดโลกใหญ่กว่ามากๆจึงเหมือนอยู่นิ่ง แต่คุณพุ่งเข้าหาโลก
ไม่ยอมจบอีกคุณ ไอสไตน์เป็นยิวไปอยู่อเมริกา แล้วพวกจีนมาอยู่ไทยไม่เรียกเป็นคนจีนเหรอ แถกว่าเราอีกวุ้ย
ก็จะพิสูจน์กฎนิวตันแล้วมาพูดเรื่องทฤษฎีสัมพันธภาพหาอะไรครับ ผมไม่ได้พิสูจน์ทฤษฎีสัมพันธภาพซักหน่อย
แล้วก็เรื่องเอากิโลสองอันมาต่อกันบนเครื่องบินที่กำลังตกด้วยแรง g ผู้สังเกตจะเห็นน้ำหนักที่ชั่งบนสองกิโล
มันต่างกัน ละเอียดแบบนี้เข้าใจหรือยังครับ
น้ำหนักเป็นศูนย์เท่ากันครับ ไม่เชื่อไปลองดู ส่วนทฤษฏีสัมพันธภาพนั้นไอสไตนืคิดได้ก่อนไปอเมริกาอีกนะ เอาเป็นว่าสรุปให้ละกัน

กฏของนิวตันใช้ไม่ได้ี่เมื่อการเคลื่อนที่นั้นมีความเร็วเข้าใกล้ความเร็วแสง หรือวัตถุอยู่ใกล้กับสนามแรงโน้มถ่วงที่แรงมากๆ แต่แนวคิดเกี่ยวกับว่าแรงคืออะไรยังคงมีอยู่ ไอสไตน์ก็ใช้แนวคิดนี้พัฒนาต่อยอดอุดช่องว่างของกฏนี้ เป็นทฤษฎีสัมพันธภาพที่คลอบคลุมกว่า

ในฟิสิกส์ยุคใหม่อาจมองว่ากฎนิวตันเป็นการประมาณออกมาจากกฎพื้นฐานอื่นที่มีขอบเขตกว้างกว่าครับ เช่น
ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ที่มองว่ากฎนิวตันเป็นการประมาณกฎการเคลื่อนที่สัมพัทธภาพในขอบเขตที่ความ เร็วของวัตถุน้อยกว่าความเร็วแสงมากๆ ครับ
ทฤษฎีควอมตัม (แบบไม่สัมพัทธภาพ) มองว่ากฎนิวตันได้จากการประมาณจากกลศาสตร์ควอนตัมว่าค่านิจของแพลงค์มีค่า น้อยกว่าค่าแอกชันของระบบที่กำลังศึกษามากๆ
ในแง่นี้ถือเอาตามมาตรฐานว่า "พิสูจน์ได้" ส่วนวิธีการอย่างไรเป็นเทคนิคการคำนวณที่ยาวครับ อันนี้ลองศึกษาจากตำราด้านทฤษฎีสัมพัทธภาพและกลศาสตร์ควอนตัมดูครับ

ทฤษฎีสัมพัทธภาพมีสัจพจน์ 2 ข้อ
1. การแปลงโลเร็นซ์ เป็นสมบัติเรขาคณิตของ อวกาศ-กาล ที่ทำให้แสงมีอัตราเร็วคงที่ในทุกกรอบอ้างอิงเฉื่อย
2. กฎฟิสิกส์ไม่แปรเปลี่ยนในการแปลงโลเร็นซ์
เราก็สร้างกลศาสตร์สัมพัทธภาพขึ้นโดยสร้าง "สมการนิวตันแบบสัมพัทธภาพ" ที่ไม่แปรเปลี่ยนในการแปลงโลเร็นซ์ ใน approach นี้ดูเหมือนเป็นการพิสูจน์กฎนิวตันในกลศาสตร์สัมพัทธภาพ
เช่นเดียวกันกับกฎนิวตันธรรมดา ถ้าเราตั้งสัจพจน์ว่า
1. การแปลงกาลิเลียนและการหมุน เป็นสมบัติเรขาคณิตของอวกาศและกาลแบบไม่สัมพัทธภาพ นั่นคือเรขาคณิตของอวกาศแบบยุคลิคและเรขาคณิตของเวลาเป็นแบบแกนเดียวที่ ดำรงอยู่ด้วยตัวมันเองโดยสมบูรณ์
2. กฎฟิสิกส์ไม่แปรเปลี่ยนในการแปลงกาลิเลียนและการหมุนพิกัด เราก็นั่งหาความเป็นไปได้ทั้งหมดของสมการการเคลื่อนที่ของอนุภาคที่ไม่แปร เปลี่ยนในการแปลงกาลิเลียนและการหมุนของพิกัดอวกาศนี้ เราพบว่าความเป็นได้หนึ่งคือ กฎนิวตัน นี่เอง นี่ดูเหมือนว่าเป็นการพิสูจน์กฎนิวตันครับ

ทีนี้มาดูเรื่อง Inertial Frame of Reference
กฏข้อแรกที่ให้ความหมายของ Inertial Frame of Reference อ้างถึงแรงที่คิดว่าก็ไม่รู้ว่าคืออะไร แล้วกฏข้อสองก็มาบอกว่าแรงคืออะไร โดยใช้ Inertial Frame of Reference ฟังดูแล้วงูกินหางแบบนี้ก็สมเหตุสมผลเพราะจำกัดความซึ่งกันและกัน เพียงปัญหาอยู่ที่ว่ากฏข้อสองนั้นต้องอาศัยแนวความคิดเรื่องกรอบเฉื่อย ถึงรู้ได้ว่าอะไรคือความเร่ง และอะไรคือการเคลื่อนที่ ตกลงแล้วก็เลยกินกันเองจนแยกไม่ออกว่าอันไหนควรจำกัดความก่อน แล้วควรมีอะไรเสริมเพื่อให้มันสมบูรณ์ แลวกฏข้อสาม แสดงให้เห็นว่ามันใช้ผลต่อจากกฏข้อสองอีกที
สรุป เราไม่รู้ว่าอะไรคือ inertia อะไรคือกรอบเฉื่อย อะไรคือแรง อะไรคือความเร่ง อะไรคืออะไรเลย เพราะทุกอย่างอ้างอิงซึ่งกันและกัน เหมือนกับมันไม่มีมาก่อน

ี่กรอบอ้างอิงเฉื่อย หรือ กรอบที่กฏนิวตันเป็นจริง การที่บอกว่ากรอบหยุดนิ่ง หมายถึงนิ่งเทียบกับอะไร เพราะตามธรรมชาติเราไม่มีอะไรที่หยุดนิ่งโดยสัมบูรณ์ นิวตันเชื่อว่ามีมาตลอด จนไอสไตน์เสนอความคิดเกียวกับการเคลื่อนที่แบบสัมพัทธ์ การที่บอกว่าวัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร่งในจักวาล แล้วเราหากรอบนั้นไม่ได้ เพราะเราไม่มีกรอบที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงที่จริงๆ ไม่ใช่เพราะว่าทุกที่ในอวกาศมความเร่ง แต่เพราะว่า เราไม่รู้ว่ามันจะคงที่เทียบกับอะไรมากกว่า เหมือนกับบอกว่า กรอบที่ k เคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงที่เทียบกับ k+1 สมมติสามารถเขียนทฤษฎีออกมาได้และเหมือนกันในแต่ละกรอบ แต่ค่าไม่ต้องเท่ากันระหว่างกรอบ โดย induction แล้วคุณมีแต่ induction step แต่ไม่มี base case เพราะว่าคุณไม่รู้ว่า เมื่อ k เท่ากับ 0 มันคือกรอบไหน เนื่องจากเราไม่อาจรู้ว่าอะไรเป็นกรอบสัมบูรณ์ เราเกิดมาในโลกที่เราเริ่มต้นจากสิ่งหนึ่ง แล้วเราก้าวเดินต่อไป โดยเราไม่อาจมองกลับไปก่อนหน้านั้นว่าเกิดอะไรขึ้นได้ บางทีอาจมีบางสิ่งบางอย่างที่เป็นจุดเริ่มจริงๆ และผลจากการเริ่มมานี้เดินทางไปเรื่อยๆ และเราก็สัมผัสกับมันได้เพียงบางส่วน เหมือนกับธรรมชาติอาจมีกฏของมันที่ตายตัวรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน แต่เรามองออกมาจากส่วนหนึ่งของมันเลยเห็นเป็นอีกอย่าง ผมไม่รู้จะยกตัวอย่างอะไรดี ตัวอย่างนี้อาจพอใช้ได้มั้งครับ ผิดก็บอกละกัน ตัวอย่างเช่น taylor serie ของฟังก์ชั่น F(x) สมมติว่าธรรมชาติดมีเพียงสมการเดียวที่บรรยายตั้งแต่ระดับอะตอมถึงระดับ จักรวาล เราที่อยู่ในโลกอดีต มองเห็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง เราก็บอกว่า เทอมแรกๆของ taylor expansion มันเป็นเช่นนี้ และเมื่อเราพัฒนามาเรื่อยๆ เราก็พบเทอมต่อๆ ไป อาจไม่จำเป็นต้องตามลำดับ บางทีที่เราเคยพบว่าว่าเทอมนี้น่าจะเป็นอย่างนี้อาจผิด ยิ่งเราพบมากเท่าไหร่ เรายิ่งสามารถ บรรยายธรรมชาติได้มากขึ้น และถูกต้อง แต่อย่าลืมว่าเราไม่ใช่คนสร้างกฏ แม้เราจะรู้จำนวนเทอมมากเท่าไหร่มันก็ต้องเอา แต่ละอันมารวมกันเพื่อให้บรรยายธรรมชาติได้ ผิดกับธรรมชาติที่รู้ว่ามันเองต้องทำอะไร ใส่เข้าสมการออกมาเป็นคำตอบ แต่เราต้องหาทั้งหมด และความสามารถเราไม่อาจหาเทอมไปจนถึง infinity ได้ ผมจึงหวังว่าสักวันจะมีคนรู้ว่าธรรมจริงๆแล้วมีกฏเช่นไร หรือใครสักคนออกมาพิสูจน์ว่าตราบใดที่เรายังอยู่ในส่วนหนึ่งของระบบ เราไม่อาจบอกได้ว่าระบบเป็นเช่นไร นอกจากเราจะออกจากระบบ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ จะได้นำไปสู่ข้อยุติสักทีว่าเราไม่อาจบรรยายธรรมชาติได้จริง

ปล.สงสัยอย่างหนึ่ง ถ้าเราไม่รู้จักว่าแรงคืออะไร เราจะวัดน้ำหนักออกมาเป็นค่าได้ยังไงครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-08-2006, 21:47 โดย solidus » บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #62 เมื่อ: 06-08-2006, 21:52 »

งั้นเอาเป็นคนขึ้นลิฟท์หนักไม่เท่ากับคนลงลิฟท์แล้วกันนะ
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #63 เมื่อ: 06-08-2006, 22:02 »

งั้นเอาเป็นคนขึ้นลิฟท์หนักไม่เท่ากับคนลงลิฟท์แล้วกันนะ
ก็ถูกแล้วนี่ เนื่องจากมีแรงมากระทำไม่เท่ากัน ข้อสอบชอบถามบ่อยๆ
บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #64 เมื่อ: 06-08-2006, 22:08 »

งั้นเอาตาชั่งสองแขนที่ใช้ตุ้มน้ำหนักต่อกับตาชั่งดิจิตอลบนเครื่องบินตกก็แล้วกันนะ
พอเอาน้ำหนักใส่จะไม่เท่ากัน ไปคุยเรื่องจริยธรรมกันเถอะ
บันทึกการเข้า
GN-001 Exia
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 809


Celestial Being...


« ตอบ #65 เมื่อ: 06-08-2006, 22:09 »

แหมตรงใจจื้ด...ใช่มะไอ้หื่น

แสดงว่าที่กูพูดไปมันจริงทุกอย่าง...

เอ็งว่ากูเลียเกือกสนธิ กูเคยชมสนธิตอนใหนมิทราบ!??

ตอบมาดิ คำพูดใหนที่กูชมสนธิ พันธมิตร หา หา...

เห็นลูกผู้ชายหน่อย...จะด่าใครอย่างน้อยก็คิดเองบ้าง ตอนเอาเมียจะให้ทำให้ดูเป็นตัวอย่างก่อนด้วยมะ

แล้วที่เอ็งว่าเค้าป้ายสีนายเอ็งน่ะ รู้ไว้ว่าถ้าเอ็งปากดีใส่ใครพล่อยๆเอ็งย่อมเจอดี

เอ็งบอกว่าเค้าป้ายสีเอ็งก็ไปแจ้งความจับสนธิซะสิวะ

กูรู้ หน้าตัวเมียอย่างเอ็งไม่กล้าหรอกว่ะ ถุยย

นักลงทุนฝรั่งหัวแดง เจ๊กบก เจ๊กสำเภาพวกนั้นมันเป็นใครวะ อ้อนซะแทบกราบ

รากมันอ่อนแอขายอะไรกับเขาก็เจ๊งฉิบหายหมด ไอ้พวกรวยๆไป ไอ้พวกจนก็งมนารอเศษเงินหาเสียง

ซื้ออะไรก็แพงเกินจริงระยับ ต้นทุนก็แพงแล้ว มันจะไปได้กำไรจากเขาได้ยังไง ถ้าไม่เป็นเพราะไอ้นักการเมืองเฮงซวย

ฮุบเอาเงินต้นทุนพวกนี้ไปทำแต่โปรเจคเอาหน้า สุวรรณภูมิ ไนท์ซาฟารี แทนที่จะเอามาลดต้นทุนให้ภาคเกษตร อุตสาหกรรม

นี่อะไรของมึง เอาแต่หน้า ทำห่าอะไรเคยสำเร็จบ้างวะ

กูของขึ้นแล้ว

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-08-2006, 22:19 โดย IMPLUZE » บันทึกการเข้า


พวกที่เอาคำว่า "เสรีภาพ" มาบังหน้าเพื่อเบียดเบียนคนอื่นนี่มันเลวที่สุด
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #66 เมื่อ: 06-08-2006, 22:25 »

งั้นเอาตาชั่งสองแขนที่ใช้ตุ้มน้ำหนักต่อกับตาชั่งดิจิตอลบนเครื่องบินตกก็แล้วกันนะ
พอเอาน้ำหนักใส่จะไม่เท่ากัน ไปคุยเรื่องจริยธรรมกันเถอะ
ช้าก่อน การลงหรือขึ้นลิฟต์ ไม่ใช่การตกอิสระ แต่เรื่องเครื่องบินนั้นตกอิสระ ทำให้วัตถุที่อยู่ในเครื่องบินอยู่ในสภาพไร้น้ำหนัก พวกนักบินอวกาศก็ใช้เรื่องนี่ซ้อมกัน
บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #67 เมื่อ: 06-08-2006, 22:33 »

งั้นเอาตาชั่งสองแขนที่ใช้ตุ้มน้ำหนักต่อกับตาชั่งดิจิตอลบนเครื่องบินตกก็แล้วกันนะ
พอเอาน้ำหนักใส่จะไม่เท่ากัน ไปคุยเรื่องจริยธรรมกันเถอะ
ช้าก่อน การลงหรือขึ้นลิฟต์ ไม่ใช่การตกอิสระ แต่เรื่องเครื่องบินนั้นตกอิสระ ทำให้วัตถุที่อยู่ในเครื่องบินอยู่ในสภาพไร้น้ำหนัก พวกนักบินอวกาศก็ใช้เรื่องนี่ซ้อมกัน
น่าจะไปเป็นฝ่ายตรวจสอบภายในนะเนี่ย
บังเอิญว่าตาชั่งดิจิตอลมันไปแปะกับเครื่องบินอีกลำหนึ่งซึ่งไม่ตกด้วย
แล้วตาชั่งแขน มันดันติดกับเครื่องบินลำที่ตกพร้อมกับผู้สังเกต
และในเสี้ยววินาทีนั้นเองผู้สังเกตก็เอามือแม่นาคไปกดแบบดันขึ้นบนตาชั่งที่ติดกันทั้งสอง
ก็จะเห็นว่าน้ำหนักไม่เท่ากัน ผู้สังเกตก็จะสรุปว่ากฎผิด และเครื่องบินก็ตกผู้สังเกตก็ตาย จบ
บันทึกการเข้า
999
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,022



« ตอบ #68 เมื่อ: 06-08-2006, 22:38 »








จริงแล้ว บางคนเนียนมาก คือซ่อนความเท็จไว้ ไม่เอาออกมาแสดง

นี่แหละพวกบิดเข้าหาทักษิณ จนขนาดนี้ยังไม่มีปัญญาจะบิดได้เลย บอกได้เลยว่าผิด เพราะไม่ใช่ทางรอดของทักษิณ!!
บันทึกการเข้า

Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #69 เมื่อ: 06-08-2006, 22:49 »

งั้นเอาตาชั่งสองแขนที่ใช้ตุ้มน้ำหนักต่อกับตาชั่งดิจิตอลบนเครื่องบินตกก็แล้วกันนะ
พอเอาน้ำหนักใส่จะไม่เท่ากัน ไปคุยเรื่องจริยธรรมกันเถอะ
ช้าก่อน การลงหรือขึ้นลิฟต์ ไม่ใช่การตกอิสระ แต่เรื่องเครื่องบินนั้นตกอิสระ ทำให้วัตถุที่อยู่ในเครื่องบินอยู่ในสภาพไร้น้ำหนัก พวกนักบินอวกาศก็ใช้เรื่องนี่ซ้อมกัน
น่าจะไปเป็นฝ่ายตรวจสอบภายในนะเนี่ย
บังเอิญว่าตาชั่งดิจิตอลมันไปแปะกับเครื่องบินอีกลำหนึ่งซึ่งไม่ตกด้วย
แล้วตาชั่งแขน มันดันติดกับเครื่องบินลำที่ตกพร้อมกับผู้สังเกต
และในเสี้ยววินาทีนั้นเองผู้สังเกตก็เอามือแม่นาคไปกดแบบดันขึ้นบนตาชั่งที่ติดกันทั้งสอง
ก็จะเห็นว่าน้ำหนักไม่เท่ากัน ผู้สังเกตก็จะสรุปว่ากฎผิด และเครื่องบินก็ตกผู้สังเกตก็ตาย จบ

ยิ่งอ่านยิ่งขำในความมั่วอย่างไร้หลักการ ต่อให้คุณทำแบบนี้มันก็เกิดโมเมนต์คุ่ควบทำให้น้ำหนักที่วัดได้เท่ากันอยุ่ดี ความผิดพลาดนี้เกิดจากผู้สังเกตที่ไม่มีความรู้หรือเข้าใจในกฏดีพอ ก็เลยสรุปออกมาแบบมั่วๆ สักสงสัยแล้วสิว่าคุณได้เรียนฟิสิกส์จริงๆรึเปล่า ถ้าเรียน เรียนฟิสิกส์ระดับไหน เพราะดูแล้วไม่น่าเกินม.ปลาย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-08-2006, 04:18 โดย solidus » บันทึกการเข้า
Tam-mic-ra
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 603


« ตอบ #70 เมื่อ: 07-08-2006, 03:12 »

หยาบโลน โสโครก เจ้าของบอร์ดปล่อยไว้ได้ยังไง  ส่งกลับไปเล่นตุ๊กตายอดมนุษย์ที่อื่นเถอะ
ประกาศ   มีเด็กหนุ่มอายุ 18  เพิ่งหัดกินเหล้า เมาแล้วแซว
บันทึกการเข้า
morning star
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,119


don't let them make up your mind


« ตอบ #71 เมื่อ: 07-08-2006, 06:15 »

หยาบโลน โสโครก เจ้าของบอร์ดปล่อยไว้ได้ยังไง  ส่งกลับไปเล่นตุ๊กตายอดมนุษย์ที่อื่นเถอะ
ประกาศ   มีเด็กหนุ่มอายุ 18  เพิ่งหัดกินเหล้า เมาแล้วแซว


...ถ้าเขาโดนคุณก็น่าโดนด้วย กลับไปดูคำพูดที่ใช้่กันก่อนแล้วค่อยมาบอกว่าใครบ้างเป็นฝ่ายผิด
บันทึกการเข้า

อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #72 เมื่อ: 07-08-2006, 09:13 »

ยิ่งอ่านยิ่งขำในความมั่วอย่างไร้หลักการ ต่อให้คุณทำแบบนี้มันก็เกิดโมเมนต์คุ่ควบทำให้น้ำหนักที่วัดได้เท่ากันอยุ่ดี ความผิดพลาดนี้เกิดจากผู้สังเกตที่ไม่มีความรู้หรือเข้าใจในกฏดีพอ ก็เลยสรุปออกมาแบบมั่วๆ สักสงสัยแล้วสิว่าคุณได้เรียนฟิสิกส์จริงๆรึเปล่า ถ้าเรียน เรียนฟิสิกส์ระดับไหน เพราะดูแล้วไม่น่าเกินม.ปลาย
คิดตั้งแต่สี่ทุ่มถึงตีสี่เลยหรือครับนี่
มันจะเท่ากันได้อย่างไรล่ะครับลองคิดดูอีกทีเอ้า
ก็ทั้งกิโลทั้งคนกดมันอยู่ในสภาพไร้น้ำหนักกันหมด
คุณใส่น้ำหนักถ่วงตัวล่างเข้าไป 100 กก. มันก็เป็นไร้น้ำหนักแต่อ่านได้ 100 กก.
ใส่ไป 1 ตันมันก็อ่านได้ 1 ตัน เพราะว่าทั้งกิโลและน้ำหนักถ่วงเคลื่อนที่ไปพร้อมกันด้วยความเร่ง g
ส่วนตัวบนแปะที่ไม่เคลื่อนเมื่อใช้แรงกดยังไงก็ไม่ได้ 100 กก.
คราวนี้ลองไปคิดถึงตีห้าแล้วค่อยมาว่ากันใหม่นะ
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #73 เมื่อ: 07-08-2006, 09:26 »

แหมตรงใจจื้ด...ใช่มะไอ้หื่น

แสดงว่าที่กูพูดไปมันจริงทุกอย่าง...

เอ็งว่ากูเลียเกือกสนธิ กูเคยชมสนธิตอนใหนมิทราบ!??

ตอบมาดิ คำพูดใหนที่กูชมสนธิ พันธมิตร หา หา...

เห็นลูกผู้ชายหน่อย...จะด่าใครอย่างน้อยก็คิดเองบ้าง ตอนเอาเมียจะให้ทำให้ดูเป็นตัวอย่างก่อนด้วยมะ

แล้วที่เอ็งว่าเค้าป้ายสีนายเอ็งน่ะ รู้ไว้ว่าถ้าเอ็งปากดีใส่ใครพล่อยๆเอ็งย่อมเจอดี

เอ็งบอกว่าเค้าป้ายสีเอ็งก็ไปแจ้งความจับสนธิซะสิวะ

กูรู้ หน้าตัวเมียอย่างเอ็งไม่กล้าหรอกว่ะ ถุยย

นักลงทุนฝรั่งหัวแดง เจ๊กบก เจ๊กสำเภาพวกนั้นมันเป็นใครวะ อ้อนซะแทบกราบ

รากมันอ่อนแอขายอะไรกับเขาก็เจ๊งฉิบหายหมด ไอ้พวกรวยๆไป ไอ้พวกจนก็งมนารอเศษเงินหาเสียง

ซื้ออะไรก็แพงเกินจริงระยับ ต้นทุนก็แพงแล้ว มันจะไปได้กำไรจากเขาได้ยังไง ถ้าไม่เป็นเพราะไอ้นักการเมืองเฮงซวย

ฮุบเอาเงินต้นทุนพวกนี้ไปทำแต่โปรเจคเอาหน้า สุวรรณภูมิ ไนท์ซาฟารี แทนที่จะเอามาลดต้นทุนให้ภาคเกษตร อุตสาหกรรม

นี่อะไรของมึง เอาแต่หน้า ทำห่าอะไรเคยสำเร็จบ้างวะ

กูของขึ้นแล้ว

 



ว้าว....พวกAnti-Thaksin นี่เค้าสื่อสารกันแบบนี้โดยไม่ถูกลบ โอ้วววว...เสรีไทยช่างเที่ยงตรงและไม่มีอคติดีแท้  Shocked
บันทึกการเข้า
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #74 เมื่อ: 07-08-2006, 09:53 »

ถ้าเปรียบคุณ Killer คุณอะไรจ๊ะ คุณภิเพกฯ เป็นต้น เป็นคน"รักทักษิณ" รุ่นเก่า


กร๊ากกกกก....'อะไรจ๊ะ'เพิ่งเข้ามาในบอร์ดนี้ไม่ถึง 2 เดือน โดนเหมายกเข่งมาเป็นรุ่นเก่าซะแล้ว  ขออนุญาตประท้วงและฟ้องร้องดำเนินคดีคุณปุถุชนข้อหาหมิ่นศักดิ์ศรีครับ

กรุณาขอให้คุณปุช่วยถอนคำพูดด้วยฮ่ะ  Rolling Eyes


เจ้เอ้(see_ya)ก๊าบบบบบ....ช่วยน้องจ๊ะด้วยฮับ Crying or Very sad

ผมไม่แก้ตัวครับ
ขอให้ผู้ดูแลให้ความเป็นธรรมกับคุณ"อะไรจ๊ะ" ดีกว่า ว่าคุณ"อะไรจ๊ะ"เป็นคน"รักทักษิณ" หรือไม่
เหตุที่ผมแยกคุณ"อะไรจ๊ะ"ให้เป็นรุ่นเก่า เพราะมาก่อนพวกรุ่นใหม่
ระยะเวลาแตกต่างกันและบุคลิกภาพด้วย....

คุณ"คนในวงการ" จะเป็นทนายให้คุณ"อะไรจ๊ะ" ก็ได้น่ะ
ผมจะสู้เต็มที่หา"ทนาย"เหมือนกัน............ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า




 


เพิ่งจะเห็น กระทู้ นี้..................

ขอถามหน่อย... อะไรจ๊ะ .. ทำไมถึงชอบมาเกาะแข้งเกาะขา..ดิฉัน 

แล้วมา มั่วนิ่ม อ้างชื่อหลาย กระทู้..แล้วนะ

ดิฉัน..ไปเห็นดีเห็นงามอะไร กะ คุณตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

การที่ ดิฉัน ... เฉยๆ ไม่ได้ติงคุณที่เอาชื่อ ดิฉัน มาอ้างอิงบ่อยๆ

ไม่ได้หมายความว่า.. ดิฉัน จะมาเป็นเกราะกำบังให้คุณ

ข้อความที่คุณเขียนใน กระทู้ ...ที่ คุณTam-mic-ra ลามปาม..ดิฉัน

ดิฉัน.......... อ่านนะคะ

บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
GN-001 Exia
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 809


Celestial Being...


« ตอบ #75 เมื่อ: 07-08-2006, 13:56 »

รู้ใจไง อยากให้ตอบแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ...

น่าจะดีใจนะ...เราก็อุตส่าห์ปั้มยอดให้

เห็นใจน่ะ...ต้องทำงานเลี้ยงลูกเมีย สู้ๆนะ...

ก็เห็นวอนหาสำนวนแบบนี้บ่อยๆ เลยจัดให้ไง

ทั้งพวงนั่นแหละ
บันทึกการเข้า


พวกที่เอาคำว่า "เสรีภาพ" มาบังหน้าเพื่อเบียดเบียนคนอื่นนี่มันเลวที่สุด
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #76 เมื่อ: 07-08-2006, 19:36 »

ยิ่งอ่านยิ่งขำในความมั่วอย่างไร้หลักการ ต่อให้คุณทำแบบนี้มันก็เกิดโมเมนต์คุ่ควบทำให้น้ำหนักที่วัดได้เท่ากันอยุ่ดี ความผิดพลาดนี้เกิดจากผู้สังเกตที่ไม่มีความรู้หรือเข้าใจในกฏดีพอ ก็เลยสรุปออกมาแบบมั่วๆ สักสงสัยแล้วสิว่าคุณได้เรียนฟิสิกส์จริงๆรึเปล่า ถ้าเรียน เรียนฟิสิกส์ระดับไหน เพราะดูแล้วไม่น่าเกินม.ปลาย
คิดตั้งแต่สี่ทุ่มถึงตีสี่เลยหรือครับนี่
มันจะเท่ากันได้อย่างไรล่ะครับลองคิดดูอีกทีเอ้า
ก็ทั้งกิโลทั้งคนกดมันอยู่ในสภาพไร้น้ำหนักกันหมด
คุณใส่น้ำหนักถ่วงตัวล่างเข้าไป 100 กก. มันก็เป็นไร้น้ำหนักแต่อ่านได้ 100 กก.
ใส่ไป 1 ตันมันก็อ่านได้ 1 ตัน เพราะว่าทั้งกิโลและน้ำหนักถ่วงเคลื่อนที่ไปพร้อมกันด้วยความเร่ง g
ส่วนตัวบนแปะที่ไม่เคลื่อนเมื่อใช้แรงกดยังไงก็ไม่ได้ 100 กก.
คราวนี้ลองไปคิดถึงตีห้าแล้วค่อยมาว่ากันใหม่นะ
คงไม่ต้องอธิบายอะไรแล้วกระมัง เพราะอธิบายไปมันก็เป็นเหมือนการสีซอให้...ฟัง เพราะคนมันไม่ได้มีความรู้้เกี่ยวกับกฏนิวตันเลยแม้แต่น้อย และดูแล้วท่าทางจะไม่ได้เรียนฟิสิกส์มาเลย แต่ดันอวดรุ้เหมือนว่าตัวเองรุ้ วิธีนี้อาจใช้ได้ผลสำหรับคนที่ไม่มีความรุ้เหมือนกัน เหมือนวิธีที่หัวปีีปทำบ่อยๆ ถ้าคุณจะอ้างอีกก็ยกแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้ทางวิชาการมาด้วยล่ะ ถ้าไม่ม ีผมถือว่าโม้ขึ้นมานะ ส่วนเรื่องตกอิสระทำไมน้ำหนักเป็นศูนย์ หนังสือเกี่ยวกับกลศาสตร์นิวตันก็มีบอก ลองไปศึกษามาก่อนแล้วกัน ยกตัวอย่างหนังสือให้ละกัน ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 ว026 โครงสร้าง 3 ของสำนักพิมพ์ภูมิบัณฑิต แต่งโดย ผศ.อดิชาต บ้วนกียาพันธุ์ เก่าหน่อย หรือจะยกตัวอย่างบางส่วนก็ได้
ΣF=dp/dt = ma = T - W
เมื่อ Tคือแรงปฏิกิริยาที่กระทำต่อวัตถุ
     W คือน้ำหนักวัตถุ
T - W = ma
T = ma - W
เมื่อวัตถุตกอิสระ จะลงด้วยความเร่ง a = g
T = mg - mg = 0 N
ไม่จำเป็นต้องแทนค่าตัวเลขใดๆก็คิดได้ ขนาดเด็ก ม.4 ยังคิดได้เลย เหตุผลว่าทำไมน้ำหนักเป็น 0
บันทึกการเข้า
999
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,022



« ตอบ #77 เมื่อ: 07-08-2006, 20:07 »

ยิ่งอ่านยิ่งขำในความมั่วอย่างไร้หลักการ ต่อให้คุณทำแบบนี้มันก็เกิดโมเมนต์คุ่ควบทำให้น้ำหนักที่วัดได้เท่ากันอยุ่ดี ความผิดพลาดนี้เกิดจากผู้สังเกตที่ไม่มีความรู้หรือเข้าใจในกฏดีพอ ก็เลยสรุปออกมาแบบมั่วๆ สักสงสัยแล้วสิว่าคุณได้เรียนฟิสิกส์จริงๆรึเปล่า ถ้าเรียน เรียนฟิสิกส์ระดับไหน เพราะดูแล้วไม่น่าเกินม.ปลาย
คิดตั้งแต่สี่ทุ่มถึงตีสี่เลยหรือครับนี่
มันจะเท่ากันได้อย่างไรล่ะครับลองคิดดูอีกทีเอ้า
ก็ทั้งกิโลทั้งคนกดมันอยู่ในสภาพไร้น้ำหนักกันหมด
คุณใส่น้ำหนักถ่วงตัวล่างเข้าไป 100 กก. มันก็เป็นไร้น้ำหนักแต่อ่านได้ 100 กก.
ใส่ไป 1 ตันมันก็อ่านได้ 1 ตัน เพราะว่าทั้งกิโลและน้ำหนักถ่วงเคลื่อนที่ไปพร้อมกันด้วยความเร่ง g
ส่วนตัวบนแปะที่ไม่เคลื่อนเมื่อใช้แรงกดยังไงก็ไม่ได้ 100 กก.
คราวนี้ลองไปคิดถึงตีห้าแล้วค่อยมาว่ากันใหม่นะ
คงไม่ต้องอธิบายอะไรแล้วกระมัง เพราะอธิบายไปมันก็เป็นเหมือนการสีซอให้...ฟัง เพราะคนมันไม่ได้มีความรู้้เกี่ยวกับกฏนิวตันเลยแม้แต่น้อย และดูแล้วท่าทางจะไม่ได้เรียนฟิสิกส์มาเลย แต่ดันอวดรุ้เหมือนว่าตัวเองรุ้ วิธีนี้อาจใช้ได้ผลสำหรับคนที่ไม่มีความรุ้เหมือนกัน เหมือนวิธีที่หัวปีีปทำบ่อยๆ ถ้าคุณจะอ้างอีกก็ยกแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้ทางวิชาการมาด้วยล่ะ ถ้าไม่ม ีผมถือว่าโม้ขึ้นมานะ ส่วนเรื่องตกอิสระทำไมน้ำหนักเป็นศูนย์ หนังสือเกี่ยวกับกลศาสตร์นิวตันก็มีบอก ลองไปศึกษามาก่อนแล้วกัน ยกตัวอย่างหนังสือให้ละกัน ฟิสิกส์ ม.4 เล่ม 2 ว026 โครงสร้าง 3 ของสำนักพิมพ์ภูมิบัณฑิต แต่งโดย ผศ.อดิชาต บ้วนกียาพันธุ์ เก่าหน่อย หรือจะยกตัวอย่างบางส่วนก็ได้
ΣF=dp/dt = ma = T - W
เมื่อ Tคือแรงปฏิกิริยาที่กระทำต่อวัตถุ
     W คือน้ำหนักวัตถุ
T - W = ma
T = ma - W
เมื่อวัตถุตกอิสระ จะลงด้วยความเร่ง a = g
T = mg - mg = 0 N
ไม่จำเป็นต้องแทนค่าตัวเลขใดๆก็คิดได้ ขนาดเด็ก ม.4 ยังคิดได้เลย เหตุผลว่าทำไมน้ำหนักเป็น 0


Solidus อย่าไปเสียเวลาตอบเลยครับ พวกอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์แต่เลือกใช้กฎพื้นฐานมาอ้างอิงยังไม่เป็น ตั้งกระทู้ใหม่ลองภูมิได้เลยรับรองว่าไม่กล้าตามไปหรอก รู้ไม่จริง ผมเข้ามาเพราะเป็นห่วงคนที่ฟิสิกส์ไม่แข็งแรงมาอ่านเจอ จะเอาอย่าง  จะใช้จินตนาการ กฎพื้นฐานต้องแม่นที่ละกฎ ถูกต้องแล้ว...
บันทึกการเข้า

Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #78 เมื่อ: 07-08-2006, 20:35 »

Solidus อย่าไปเสียเวลาตอบเลยครับ พวกอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์แต่เลือกใช้กฎพื้นฐานมาอ้างอิงยังไม่เป็น ตั้งกระทู้ใหม่ลองภูมิได้เลยรับรองว่าไม่กล้าตามไปหรอก รู้ไม่จริง ผมเข้ามาเพราะเป็นห่วงคนที่ฟิสิกส์ไม่แข็งแรงมาอ่านเจอ จะเอาอย่าง  จะใช้จินตนาการ กฎพื้นฐานต้องแม่นที่ละกฎ ถูกต้องแล้ว...
ก็คงไม่ตอบแล้วแหละครับ เพราะแค่ลองกฏพื้นฐานยังไม่เข้าใจคงไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นเลย จะหาว่ากฏผิดตรงไหนต้องรู้เรื่องกฏนั้นอย่างช่ำชองก่อน แบบไอนสไตน์ที่หาจุดบกพร่องของนิวตัน แต่ก็ไม่ได้บอกว่าผิด แต่กลับแต่งเสริมให้สามารถใช้ได้ครอบคลุมได้มากกว่าเดิม จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ แต่ถ้าไม่มีความรู้เลยมันจะจินตนาการไปแบบไหนหว่า
บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #79 เมื่อ: 07-08-2006, 21:15 »

หลังไมค์หรือตั้งกระทู้ใหม่ดีกว่าคุณ จะได้ไม่รกตาคนอื่น
เอาแค่ขอบเขตที่ผมอ้างถึงนะ ไอสไตน์ไม่เกี่ยว
บันทึกการเข้า
Tam-mic-ra
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 603


« ตอบ #80 เมื่อ: 08-08-2006, 01:51 »

รู้ใจไง อยากให้ตอบแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ...

น่าจะดีใจนะ...เราก็อุตส่าห์ปั้มยอดให้

เห็นใจน่ะ...ต้องทำงานเลี้ยงลูกเมีย สู้ๆนะ...

ก็เห็นวอนหาสำนวนแบบนี้บ่อยๆ เลยจัดให้ไง

ทั้งพวงนั่นแหละ


ถ้าจะแนวนักเลง มันหยาบเกินไปนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-08-2006, 02:48 โดย Tam-mic-ra » บันทึกการเข้า
GN-001 Exia
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 809


Celestial Being...


« ตอบ #81 เมื่อ: 09-08-2006, 19:20 »

รู้ใจไง อยากให้ตอบแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ...

น่าจะดีใจนะ...เราก็อุตส่าห์ปั้มยอดให้

เห็นใจน่ะ...ต้องทำงานเลี้ยงลูกเมีย สู้ๆนะ...

ก็เห็นวอนหาสำนวนแบบนี้บ่อยๆ เลยจัดให้ไง

ทั้งพวงนั่นแหละ

ถ้าจะแนวนักเลง มันหยาบเกินไปนะ


อันนี้มันตกไปละเจอกันข้างบนละกัน

ถ้าหยาบไปรับไม่ได้....ก็ทนหน่อยเพราะผมมันไม่ใช่คนพูดจาดีน่ะ
บันทึกการเข้า


พวกที่เอาคำว่า "เสรีภาพ" มาบังหน้าเพื่อเบียดเบียนคนอื่นนี่มันเลวที่สุด
หน้า: 1 [2]
    กระโดดไป: