ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
24-04-2024, 05:57
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สโมสรริมน้ำ  |  Life in Japan ตอนที่ 4: ทำอย่างไรที่จะเห็นบ้านเมืองของเรามีกฎระเบียบมากขึ้น 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
Life in Japan ตอนที่ 4: ทำอย่างไรที่จะเห็นบ้านเมืองของเรามีกฎระเบียบมากขึ้น  (อ่าน 2522 ครั้ง)
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« เมื่อ: 03-08-2006, 20:51 »

พอดีความคิดเห็นของประกายดาว เป็นเหตุที่ให้ อนา เขียนกระทู้นี้ขึ้นมา

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่วัฒธรรมที่อยู่มั่นคงมากประเทศหนึ่งในเอเซีย แถมยังได้ประกาศศักดา
ในโลกรู้อย่างน่าภาคภูมิใจ เหมือน ผ้าไทย อาหารไทย ยิ้มสยาม...
แต่ทำไม ประกายดาวรู้สึกว่า ความแข็งแรงของวัฒนธรรมในบ้านเมืองเราเองเสียอีก
ไม่แข็งแรง เท่าที่ควรเลย ...อนาคิดอย่างไรจ้ะ


ประกายดาวพูดได้ตรงจุดมาก  จุดอ่อน จุดแข็ง ของวัฒนธรรมจริงๆแล้ว อนามองว่าพื้นฐานจริงๆมาจากการมีระเบียบวินัยของประเทศเขา

ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่อนาคิดว่า ทำตามกฎระเบียบกติกา มากที่สุดประเทศหนึ่งค่ะ สาเหตุก็มาจากพื้นฐานของความคิดที่ว่า  ถ้าการกระทำที่ไม่คำนึงถึงหลักการ ดูแต่ความสะดวกหรือโอกาสเป็นหลัก เป็นการพัฒนาที่ไม่ถูกต้อง 

กฎที่สังคมสร้างขึ้นมาเพื่อให้คนในสังคมปฏิบัติตามนั้น  ส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่ผ่านการไตร่ตรอง ตรวจสอบ แล้วดูจากประสบการณ์หรือจากตัวอย่างที่เกิดขึ้นมาในอดีต คำนวณดูแล้ว ว่าถ้าปฏิบัติตามจะเกิดผลดี มากกว่าผลเสีย เช่นกติกาการข้ามถนนตามสัญญาณไฟ ถ้าคนข้ามไม่คำนึงถึงหลักการ มองซ้ายมองขวา อ้าวรถ ว่าง ไปได้ หรือ คำนวณสองสามนาที กะความเร็วหรือฝีเท้าทันแน่ เปอร์เซ็นต์เสี่ยงในการ บาดเจ็บเสียชีวิต ก็ตามมา ฉะนั้น การหยุดรอ หนึ่ง หรือ สองนาที  แลกกับความปลอดภัยแบบร้อยเปอร์เซนต์ คนญี่ปุ่นจึงเลือกอย่างหลัง


ชีวิตในแลป ในมหาลัยของอนาก็คล้ายกันค่ะ มาอยู่ในช่วงแรกๆปรับตัวอยาก เพราะคนไทย อะไรก็ได้ สบายๆ ไม่อยากให้เรื่องมาก แต่มันตรงข้ามค่ะ ญี่ปุ่นจะทำเรื่องง่ายๆๆให้กลายเป็นเรื่องใหญ่โตมโหฬารนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก เพื่อนอนาคนญี่ปุ่นไปทำงานที่เมือง ไทย ถามว่า ทำไมคนไทยมักง่ายจัง ชอบเกิดปัญหาค่อยมาแก้ ทำไมไม่ทำอะไรให้ชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ จะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง ชอบพูดคำว่า ไม่เป็นไร ไม่น่ามีปัญหา อนามาอยู่นี้ถึงเข้าใจ ตอนนั้นก็แก้ตัวไปว่า เพราะคนไทยเราอะไรง่ายๆๆ ไม่ค่อยเรื่องมาก ทำงานสบายๆๆค่ะ

เหมือนกับการข้ามไฟแดง ญี่ปุ่นเป็นประเทศหนึ่งที่เร่งรีบมากชาติหนึ่งของโลก แต่แปลกคนญี่ปุ่น ทั้งๆๆที่รีบร้อนขนาดนั้น  เขาจะข้ามตรงทางม้าลาย แล้วรอสัญญาณไปให้ข้ามเท่านั้น ถ้ารถติด ถนนว่าง ไฟจราจรข้ามถนนสีแดง น้อยมากที่จะเห็นคนข้ามค่ะ ส่วนคนไทย ปกติไม่เห็นรีบร้อนอะไรเลยนี้ค่ะ ทำไมเวลาข้ามถนน เราถึงรอไม่ได้ค่ะ ใจร้อนอะไรหนักหนา  อะไรที่เป็นสาเหตุให้คนไทยเราเปลี่ยนไปค่ะ?   


โอ..... ยาวไปป่าวนี้ เดียวไม่มีคนมาตอบ เรทติ้งกระทู้อนาจะไม่ดีเอา อิอิ 

ค่ะ อนาก็ไม่ได้ชื่นชมออกหน้ามากใช่ไหมค่ะ ก็อยากยกสิ่งที่อนาเห็นว่าดีกว่าบ้านเรามาแอบเปรียบเทียบคงไม่มีใครว่านะค่ะ เพราะอย่างน้อยในอนาคต หรือตอนนี้ อนาก็อยากเห็นบ้านเมืองเราเคารพกฎระเบียบของสังคม มากขึ้น โดยเฉพาะการปลูกฝังคนรุ่นใหม่ หรือพวกเราในตอนนี้ ให้มีจิตสำนึกเคารพกติกาที่สังคมสร้างขึ้น พร้อมกับเหตุและผล ว่าทำไมเราต้องรักษากฎระเบียบนั้น ถ้าเราทำได้ สังคมเราจะมีประสิทธิภาพขึ้นมากแน่นอน จากผลอันนี้ก็จะมีความเป็นไปได้ที่จะให้คนปฏิบัติตามมากขึ้น
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
ธ.ส.
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,086



« ตอบ #1 เมื่อ: 03-08-2006, 21:16 »

การที่ญี่ป่นเป็นชนชาติที่มีระเบียบแบบแผนในชีวิตในทุกๆเรื่องนั้นมันเกิดจากการ ขัดเกลาทางสังคม ซึ่งไม่ใช่แค่เวลาเพียงสิบหรือยี่สิบปี แต่คนญี่ป่นผ่านการขัดเกลาทางสังคมมาเป็นพันปี หลักปรัชญาที่ทำให้ญี่ปุ่นมีสังคมที่ยึดแบบแผนและระเบียบปฏิบัตินั้นมาจากหลักปรัชญาในลัทธิชินโตที่นับถือธรรมชาติ การไม่ก้าวล่วงต่อธรรมชาติ หลักปรัชญาขงจื๊อที่รบเอามาในสมัยนาระ ที่เน้นเรื่องคุณธรรม จริยธรรม และการปฏิบัติตนตามจารีตโดยเคร่งครัด นอกจากนี้ยังมีปรัชญาในนิกายเซนที่เน้นเรื่องความสงบ เรียบง่าย สามปรัชญานี้ได้หลอมรวมกันและอยู่ในพื้นฐานทางความคิดของชาวญี่ป่นในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน เรียบง่าย เป็นธรรมชาติ และถูกต้องตามประเพณีปฏิบัติ
บันทึกการเข้า

ปีนี้เราจะได้ Triple Champ

คุณพนันกับผมไม๊ แต่ผมไม่พนันกับคุณนะ
ธ.ส.
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,086



« ตอบ #2 เมื่อ: 03-08-2006, 21:26 »

อย่างที่กาเม่จังบอกมานั้น ถูกต้องแล้ว คนญี่ปุ่นอยู่ในสังคมที่กดดัน จึงเป็นหนึ่งในประเทศอันดับต้นๆที่มีการฆ่าตัวตายสูงสุด โดยเฉพาะประชากรญี่ปุ่นในรุ่นที่เราเรียกกันว่า Baby Boomer คนกลุ่มนี้คือคนที่เกิดระหว่างปี 1945-1960 ซึ่งเป็นยุคที่ญี่ป่นกำลังฟื้นฟูทุกๆอย่างในประเทศ คนกลุ่มนี้นอกจากจะเป็นกำลังสำคัญของประเทศแล้วยังได้รับความกดดันต่างๆจากสังคมในฐานะทายาทของผู้สร้างความผิดบาปแก่สังคมโลก ทำให้คนญี่ป่นส่วนใหญ่ต้องหาทางระบายความเครียดจากการที่ต้องอยู่ในสังคมนั้นด้วยวิธีการต่างๆนานา
บันทึกการเข้า

ปีนี้เราจะได้ Triple Champ

คุณพนันกับผมไม๊ แต่ผมไม่พนันกับคุณนะ
จูล่ง_j
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,901



« ตอบ #3 เมื่อ: 03-08-2006, 21:58 »

คุณคาเม พูดอย่างนี้ แล้วผมนึกถึงลูกค้าญี่ปุ่นที่ผมเคยเจอ

มารยาททรามมาก ขว้างงานลงพื้น

พวกนี้มาอยู่เมืองไทยแล้ว นิสัยเสียก็มี

เห็นมันอยู่ประเทศมันนิสัยดี มาอยู่เมืองไทยแล้วทำไมนิสัยเสียหว่า
บันทึกการเข้า

cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #4 เมื่อ: 03-08-2006, 22:01 »

คุณคาเม พูดอย่างนี้ แล้วผมนึกถึงลูกค้าญี่ปุ่นที่ผมเคยเจอ

มารยาททรามมาก ขว้างงานลงพื้น

พวกนี้มาอยู่เมืองไทยแล้ว นิสัยเสียก็มี

เห็นมันอยู่ประเทศมันนิสัยดี มาอยู่เมืองไทยแล้วทำไมนิสัยเสียหว่า

ผมว่าคนไทยนี่แหละ นิสัยดีที่สุดในโลก
เพราะถึงอยู่เมืองไทยจะนิสัยมักง่าย ตามใจตัวเอง
พอไปอยู่ประเทศอื่น
หงอ กลัวเขาจะว่าเอาทุกอย่าง Mr. Green Mr. Green
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
999
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,022



« ตอบ #5 เมื่อ: 03-08-2006, 22:12 »




วินัยโดยภาพรวมเกิดจากการฝึกฝนครับ การไม่เห็นคุณค่าของวินัยเกิดจากสภาพดั้งเดิมของเราสะดวกสบาย ไม่เร่งร้อน ไม่แออัด ไม่มีเป้าหมายต้องกดดันมากนัก เมื่อต้องกดดัน ก็จะโทษสิ่งรอบข้าง และเพิกเฉยเฉื่อยชา  ทำบ่อยๆก็จะยโส และภาคภูมิใจในสิ่งที่คนอื่นๆไม่รู้สึกดีด้วย..ย้อนกลับมาทำให้ตนเองขาดวินัยมากกว่าเดิม

สรุป คือ วินัยเป็นค่านิยม ที่ต้องฝึกฝน ของสังคมต่างๆ  หากไม่ตระหนักความเจริญก็ไม่เกิดเพราะขาดความพร้อมเพรียง และสัญชาตญาณดิบในความเห็นแก่ตัวก็จะออกมา เหมือนภาษิตหลายอย่างของเราเช่น นกกระจาบติดแห หรือ ไก่จิกตีกันเองในสุ่ม วินัยคือกรอบปฏิบัติที่ต้องสร้างขึ้นจนเป็นนิสัยและต้องไม่ละเมิด..

ดูให้ดีทุกแห่งมีปัญหา ความคิด ค่านิยม รวมทั้งบางสังคมยุ่งเหยิงเพราะความซับซ้อนเร่งรีบ เห็นแก่ตัวในยุคโลกาภิวัฒน์ วินัยจะกดความเคยชินที่เห็นแก่ตัวขาดระเบียบนำไปสู่นิสัยใหม่ที่ผู้ฝึกประสงค์จะมีไว้เป็นคุณสมบัติของตนเอง..


ส่วนญี่ปุ่นที่เจริญขึ้นมาได้ ผมเห็นว่าเป็นเพราะแผนการที่ดีของชาวอเมริกันที่วางแผนฟื้นฟูช่วงหลังสงคราม ขณะที่ชาวญี่ปุ่นมีพื้นฐานดั้งเดิมที่อดทนต่อสู้ ภูมิประเทศของญี่ปุ่นก็มีส่วนครับ เพราะเป็นเกาะและที่ลาดชันสูงต่ำทั่วไป..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-08-2006, 22:19 โดย 999 » บันทึกการเข้า

999
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,022



« ตอบ #6 เมื่อ: 03-08-2006, 22:27 »






สำหรับบ้านเมืองไทย ผมว่าเรารับวัฒนธรรมมาจากแขกเยอะครับ ซึ่งผมกลับมองว่า กฎ กติกา มารยาท ของเราไม่จำเป็นต้องหยุมหยิมมากนักแต่ทว่า ควรจะฝึกให้ทุกคนปฏิบัติตามให้ได้โดยเร็วไม่สึกอึดอัดขัดเขิน ก็น่าจะให้ผลรวมที่ดีต่อสังคมมากกว่า..เพราะว่าทุกคนเข้าใจและยอมรับเหมือนกัน.. ไม่เกิดอาการสองมาตรฐาน..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-08-2006, 12:29 โดย 999 » บันทึกการเข้า

ประกายดาว
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,266


" ดาว " ดวงน้อยประกาย นั่นยังพร่างพราย.....


« ตอบ #7 เมื่อ: 03-08-2006, 23:09 »



ประกายดาว ว่า

 ในญี่ปุ่น ผ่านวิธีการ บ่มเพาะ แบบกดดันเพื่อให้เกิด เลือดรักชาติ มานานเน
คิดถึงการคว้านท้องทำ ฮาราคีรี สยองมากๆ...

คิดถึงวัฒนธรรมเก่าแก่ งดงามตามนอกเมืองของญี่ปุ่นหลายๆ แห่ง
คิดถึงเทคโนโลยี่ สมัยใหม่ ขบวนการมาเฟียค้าหญิงข้ามชาติ
เทคโนโลยี่เพื่อ ...ตอบสนอง ...ทางเพศของทั้งหญิงทั้งชาย

ประกายดาวไปเดินเล่น ที่โตเกียว พบใบปลิวโมษณาในเรื่องเริงรมย์ ผู้หญิง เซ็กส์ อย่างอุตลุด
ทั้งในโรงแรมที่พัก พี่ชายเล่าว่า ถ้าใครโทรไปเล่นๆ จะมีแก๊งยากูซ่ามาจริงๆ รอได้เลย

สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องต้องคิดตามค่ะ ในโลกที่พัฒนาไปทุกๆด้าน ในท่ามกลางการทั้งพยุง และ ผดุง
วัฒนธรรมเก่าแกเอาไว้ไม่ให้ผุกร่อน


ประกายดาว เคย มีวิวาทะกับชาวญี่ปุ่น สองครั้ง อย่างรุนแรง
 (ที่จริงกลัวสุดๆ แต่ความบ้าบิ่นส่วนตัวมันแรงกว่า)

เหตุเกิดในร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีป้ายห้ามสูบบุหรี่วางไว้ทุกโต๊ะ แถมคิดไว้ที่กระจกทางเข้าหน้าร้าน
หนูให้เผอิญต้องไปนั่งโต๊ะ ใกล้ชายญึ่ปุ่นนั้น ..หนูบอกพนักงานเสริฟให้ไปขอร้องโต๊ะนั้น
ให้ เลือกย้ายโต๊ะ หรือไม่ก็ หยุดสูบ ...พนักงานไม่กล้า ...เพราะ ชายญี่ปุ่นเป็นแขกวีไอพี
ลูกค้าประจำ ...ผู้จัดการหญิงสาว ก็ไม่ยอม หนูงงมากๆ ...กฏหมายบ้านเมืองเราไร้ความศักสิทธิ์ หรือ?

ก็เลยเกิดการเจรจา ...บลาๆๆๆๆ....
เค้าไม่ทำอย่างนี้ ในบ้านเค้า ทำไมมาทำในบ้านเรา ไม่น่ารักมากๆ ค่ะ
แต่ในที่สุด เค้าก็ ไม่ดื้อเท่าไหร่ จบลงแบบแฮปี้เอ็นดิ้ง




ถามอนา  Question

ผู้ชายญี่ปุ่น ไม่น่ารักที่สุดในโลก ประกายดาวว่า
อนาว่า จริงไหมจ๊ะ Question
บันทึกการเข้า



วันที่ดาว ทวงฟ้า นภากระจ่าง
ดาวล้านดวง ทวงทาง ระหว่างฝัน
ผุดขึ้นมา  คราเดียว พร้อมพร้อมกัน
ประกาศมั่น.... วันนี้... เสรีไทย



http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=twinkling-stars&group=1
ภูพาน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 671


« ตอบ #8 เมื่อ: 04-08-2006, 10:01 »

เห็นด้วยนะครับว่า...หลายอย่างประเทศไทยมีดีที่ประเทศอื่นมีไม่เท่า
เช่น  'ความมีน้ำใจ'  'ความรักสงบ'  'การทำตัวง่ายๆ'  'ยิ้มง่ายๆ'
ในอดีตประเทศเราอยู่กันด้วยความผาสุกมานาน ในน้ำมีปลาในนามีข้าว
เภทภัยพายุ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดไม่มี  แต่อย่างไรก็ตาม
ขณะนี้สังคมเปลี่ยนแปลงไป ประชากรและผลิตผลมีมากขึ้น
ปัญหาเรื่องสังคม&สิ่งแวดล้อม มีมากขึ้น  จึงจำเป็นสำหรับการปรับปรุง
และพัฒนาให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลง  ควรเริ่มจากวินัยที่ตัวเอง
ขยายเรื่อยๆ ไปยังสังคม  โดยไม่ต้องรอให้มีกฏหมายมาบังคับ
ให้เราเคร่งเครียด มีแรงกดดันเหมือนบางประเทศ
ขอบคุณคุณใบไม้ทะเลที่ตั้งกระทู้สร้างสรรค์ในเสรีไทย
......ชอบครับและจะตามอ่านเสมอๆ
(...กระทู้ดีไม่จำเป็นต้อง rating สูงก็ได้... Smile   )
บันทึกการเข้า

ขอกันข้าให้ไกลห่างจากคนที่กล่าวว่า "ข้าเป็นดวงเทียนที่นำความสว่างให้หนทางของประชาชน"
หากแต่ผู้ที่แสวงหาหนทางของตนจากแสงแห่งประชาชนนั้น  ขอจงนำข้าเข้าไปใกล้ชิดด้วยเถิด
~ คาลิล ยิบราน
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #9 เมื่อ: 04-08-2006, 10:38 »

เห็นด้วยนะครับว่า...หลายอย่างประเทศไทยมีดีที่ประเทศอื่นมีไม่เท่า
เช่น  'ความมีน้ำใจ'  'ความรักสงบ'  'การทำตัวง่ายๆ'  'ยิ้มง่ายๆ'
ในอดีตประเทศเราอยู่กันด้วยความผาสุกมานาน ในน้ำมีปลาในนามีข้าว
เภทภัยพายุ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดไม่มี  แต่อย่างไรก็ตาม
ขณะนี้สังคมเปลี่ยนแปลงไป ประชากรและผลิตผลมีมากขึ้น
ปัญหาเรื่องสังคม&สิ่งแวดล้อม มีมากขึ้น  จึงจำเป็นสำหรับการปรับปรุง
และพัฒนาให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลง  ควรเริ่มจากวินัยที่ตัวเอง
ขยายเรื่อยๆ ไปยังสังคม  โดยไม่ต้องรอให้มีกฏหมายมาบังคับ
ให้เราเคร่งเครียด มีแรงกดดันเหมือนบางประเทศ
ขอบคุณคุณใบไม้ทะเลที่ตั้งกระทู้สร้างสรรค์ในเสรีไทย......ชอบครับและจะตามอ่านเสมอๆ
(...กระทู้ดีไม่จำเป็นต้อง rating สูงก็ได้... Smile   )

คุณ ภูพาน ประชดอนาป่าวค่ะ เพราะนานๆๆทีจะเห็นกระทู้สร้างสรรค์จากอนาใช่ป่าวค่ะ น้องนั้นไร้สาระ  Laughing Laughing Laughing Laughing (นู๋ล้อเล่นนะค่ะ Wink)

อนามองว่า ที่คนไทยเราสบายๆๆ แล้ว ก็ อิสระ เพราะตั้งแต่สมัยโบราณ บ้านเราสงบสุข อุดมสมบูรณ์ แล้วประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะออกเฉียงไต้ ที่ไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของชาติไหน อันนี้ อนาภูมิใจมากค่ะ เวลาอยู่กับเพื่อนๆกลุ่มนี้ แล้วพูดเกี่ยวกับประเทศตัวเอง พราวมากๆๆ อิอิ อีกทั้งประเทศเรายังอุดมสมบูรณ์ต่อให้ไม่มีเงินก็ไม่อดตายค่ะ หาผักหาปลาข้างนอกกินได้ อีกทั้งไม่มีเงิน ไม่มีบ้าน ไปนอนอยู่ข้างนอกเราก็ไม่หนาวตาย หรือร้อนแบบทะเลทราย

อนามองว่า เพราะเหตุนี้ที่ทำให้คนไทยเรามีชีวิต อยู่สุขสบายๆ การเดินเหินเอื่อยเฉื่อยไม่ค่อยรีบร้อน ต่างจากคนที่นี้มักจะเดินอย่างรวดเร็ว.....
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #10 เมื่อ: 04-08-2006, 10:57 »





ก็เลยเกิดการเจรจา ...บลาๆๆๆๆ....
เค้าไม่ทำอย่างนี้ ในบ้านเค้า ทำไมมาทำในบ้านเรา ไม่น่ารักมากๆ ค่ะ
แต่ในที่สุด เค้าก็ ไม่ดื้อเท่าไหร่ จบลงแบบแฮปี้เอ็นดิ้ง[/color]



ถามอนา  Question

ผู้ชายญี่ปุ่น ไม่น่ารักที่สุดในโลก ประกายดาวว่า
อนาว่า จริงไหมจ๊ะ Question


ถ้าไม่เล่าให้ฟัง ไม่รุ้จริงๆๆค่ะ ว่าคนที่เจแปนที่อยุ่เมืองไทยเป้นไง

เพราะสำหรับอนาแล้ว ส่วนมากก็คลุกคลีกับนักวิจัยญี่ปุ่นเป็นส่วนมากที่มาเมืองไทย แล้วทุกคนก็น่ารัก

แล้วมาคลุกคลีเอากับคนทุกชนชั้นที่นี้ ก็เมื่อมาอยุ่นี้ค่ะ แล้วยังยืนยันว่า ชาวญี่ปุ่นยังน่ารักสำหรับอนาเสมอค่ะ

แต่อนาเคยบอกไปแล้วใช่ไหมค่ะ ว่าถ้าจะให้อนาแต่งงานหรือ ทำงานอยู่ที่นี้เลย อนาไม่เอาค่ะ เพราะวัฒนธรรมบางอย่างอนายอมรับว่าที่นี้ดี แต่วัฒนธรรมบางอย่าง ยอมรับว่ารับไม่ค่อยได้ค่ะ

สิ่งดีๆๆแน่นอน อนาเห็นหมด สิ่งไม่รุ้ อนาขอเก็บไว้ ยิ่งอยุ่นานเรายิ่งเข้าไปในแก่นรากของวัฒธรรมเขาเข้าทุกวัน

ถามว่าผู้ชายประเทศไหนที่คุณไม่ควรแต่งงานด้วยมากที่สุด อนาคงตอบว่า ส่วนมากจะเป็นผู้ชายที่นี้ค่ะ

ถ้าไปเดินตามห้าง คุณจะเห็นภรรยมือหนึ่งอุ้มลูก มือหนึ่งถือของ สามีเดินสบายๆๆไม่ทำไรเลย

จนตอนนี้ได้เกิด รายการโทรทัศน์ชื่อ "จะวางแผนอย่ากับสามีอย่างไร" หรือไม่ก็ มีบริษัทรับทำเลยค่ะ

ดิฉันไม่ขออธิบายลึกนะคะ เพราะมันเหมือนตัวเองมาอยู่นี้แล้วเอาเรื่องไม่ดีๆของเขามาแฉ  Mr. Green

แต่คนรุ่นใหม่ รุ่นน้องอนา ก็ค่อนข้างน่ารักค่ะ แต่ทุกคนจะต้องเข้าคอส จะเป็นสุภาพบุรุษได้อย่างไร กับอนาทุกคน ไม่ไหวค่ะ หนุ่มเจแปนไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรษเลย แต่อนาไม่ถือค่ะ ถือเป็นวัฒนธรมมของเขา แต่ก็พยายามสอนเขาว่า วัฒนธรรมทั่วไป สุภาพบุรุษควรปฏิบัติอย่างไรกับสุภาพสตรี

หากคุณมีคนรักเป็นหนุ่มญี่ปุ่น ยากมากที่คุณจะได้ยินคำว่า คิดถึง  ผมรักคุณ คุณน่ารัก คำหวานๆๆไม่มีค่ะ แต่การกระทำของเขาจะสอนคุณเองว่า เขาจริงใจมากแค่ไหน แล้วอนาเชื่อว่า ในแง่ของความจริงใจ sincere หนุ่มญี่ปุ่นก็ไม่แพ้ชาติไหนเหมือนกัน ออกจะไปแนวของความมั่นคงด้วย  Very Happy
ยกเว้นแต่ว่า หนุ่มชาตินี้ไม่โรแมนติก และยังถือว่าผู้หญิงเป็นเพศที่ด้อยกว่าเขามากค่ะ  Very Happy



บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #11 เมื่อ: 04-08-2006, 11:03 »





สำหรับบ้านเมืองไทย ผมว่าเรารับวัฒนธรรมมาจากแขกเยอะครับ ซึ่งผมกลับมองว่า กฎ กติกา มารยาท ของเราไม่จำเป็นต้องหยุมหยิมมากนักแต่ทว่า ควรจะฝึกให้ทุกคนปฏิบัติตามให้ได้โดยไรไม่สึกอึดอัดขัดเขิน ก็น่าจะให้ผลรวมที่ดีต่อสังคมมากกว่า..เพราะว่าทุกคนเข้าใจและยอมรับเหมือนกัน.. ไม่เกิดอาการสองมาตรฐาน..

นุ๋เห็นด้วยกับคุณ 999 ค่ะ  แต่ว่า บ้านเราคงต้องรออีกสักระยะค่ะ เพื่อปลูกฝังเยาวชนคนรุ่นใหม่ ให้มีจิตสำนึกที่ดีต่อสังคมเรรามากกว่านี้ โดยเฉพาะ สถาบันครอบครัว โรงเรียน ที่ทำงาน เหล่านี้ ล้วนส่งผมต่อภาพรวมของสังคมเป็นส่วนใหญ่ หากสามองค์กรทำได้ มีหรือค่ะว่าสังคมเราจะไม่ดีขึ้น
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
ธ.ส.
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,086



« ตอบ #12 เมื่อ: 04-08-2006, 11:10 »

ถ้าอนาไปเกาหลี อนาจะได้พบวัฒนธรรมที่แปลกกว่าญี่ปุ่นอีก ผมเคยคุยกับนักวิจัยผู้หญิงชาวเกาหลี คนนี้เป็นอาจารย์ในมหาลัยดังเลยแหล่ะ จบการศึกษาปริญญาโทจากอเมริกา จริงๆแล้วเธออยู่อเมริการมาตั้งแต่เด็กเลยหล่ะ เธอเล่าว่า ผู้ชายเกาหลีคือพระราชาของบ้าน เขาคิดว่าตัวเองเป็นอย่างนั้น แม้กระทั่งในที่ทำงาน ตอนคุณคนนี้กลับจากอเมริกามาใหม่ๆ เป็นอาจารย์ใหม่ในคณะนั้นเลย ก็มีงานเลี้ยงสังสรรค์กันในคณะ เธอเล่าว่าเธอต้องไปนั่งรินเบียร์ให้กับคณบดี และอาจารย์หญิงท่านอื่นบอกกับเธอว่า อาจารย์หญิงในคณะทุกคนก็ต้องทำอย่างนั้น เธอชมว่าผู้หญิงไทยโชคดีกว่าผู้หญิงเกาหลีเยอะ ผู้ชายไทยให้เกียรติ เพราะเธออึ้งมากที่ รอง ผอ ที่ทำงานผม เป็นผู้หญิงและมีตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์

ปล เกาหลีเค้าต้องตั้งกระทรวงความเท่าเทียมกันทางเพศขึ้นมาเลยนะครับ
บันทึกการเข้า

ปีนี้เราจะได้ Triple Champ

คุณพนันกับผมไม๊ แต่ผมไม่พนันกับคุณนะ
ภูพาน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 671


« ตอบ #13 เมื่อ: 04-08-2006, 11:24 »

อ้างอิงจากคำตอบข้างบน  ไม่ได้พูดถึงกระทู้ของ 'อนา
แต่เห็นหลายกระทู้ในเสรีไทย  เข้าไปดูแล้วรู้สึกว่า...จะเกินไปหน่อย
ควรต้องแบ่งแยกให้ดีระหว่างสาระกับอารมณ์ แบ่งแยกให้ถูกที่ถูกทาง
เหมือนกับการฟังข่าว  ควรแยกให้ออกว่าเนื้อหาข่าว  หรือวิจารณ์ข่าว
ตัวเองเข้าไปอ่านบางกระทู้นิดหน่อยก็คลิกออก  มีอะไรหลายอย่าง
...เราก็คงต้องเลือกอะไรที่ สร้างสรรค์ ดีกว่า...ใช่ไหม ?

พอดีว่าคุณธ.ส.พูดถึงชาวเกาหลี  มีคนเกาหลีหลายคนที่เข้ามาเมืองไทย
แล้วชอบใจนะ ว่าอยู่แบบสบายๆ แล้วก็พยายามมองหาธุรกิจที่ทำได้
กำลังจะบอกว่า.... ประเทศเราน่าอยู่ครับ
บันทึกการเข้า

ขอกันข้าให้ไกลห่างจากคนที่กล่าวว่า "ข้าเป็นดวงเทียนที่นำความสว่างให้หนทางของประชาชน"
หากแต่ผู้ที่แสวงหาหนทางของตนจากแสงแห่งประชาชนนั้น  ขอจงนำข้าเข้าไปใกล้ชิดด้วยเถิด
~ คาลิล ยิบราน
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #14 เมื่อ: 04-08-2006, 11:33 »

ถ้าอนาไปเกาหลี อนาจะได้พบวัฒนธรรมที่แปลกกว่าญี่ปุ่นอีก ผมเคยคุยกับนักวิจัยผู้หญิงชาวเกาหลี คนนี้เป็นอาจารย์ในมหาลัยดังเลยแหล่ะ จบการศึกษาปริญญาโทจากอเมริกา จริงๆแล้วเธออยู่อเมริการมาตั้งแต่เด็กเลยหล่ะ เธอเล่าว่า ผู้ชายเกาหลีคือพระราชาของบ้าน เขาคิดว่าตัวเองเป็นอย่างนั้น แม้กระทั่งในที่ทำงาน ตอนคุณคนนี้กลับจากอเมริกามาใหม่ๆ เป็นอาจารย์ใหม่ในคณะนั้นเลย ก็มีงานเลี้ยงสังสรรค์กันในคณะ เธอเล่าว่าเธอต้องไปนั่งรินเบียร์ให้กับคณบดี และอาจารย์หญิงท่านอื่นบอกกับเธอว่า อาจารย์หญิงในคณะทุกคนก็ต้องทำอย่างนั้น เธอชมว่าผู้หญิงไทยโชคดีกว่าผู้หญิงเกาหลีเยอะ ผู้ชายไทยให้เกียรติ เพราะเธออึ้งมากที่ รอง ผอ ที่ทำงานผม เป็นผู้หญิงและมีตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์

ปล เกาหลีเค้าต้องตั้งกระทรวงความเท่าเทียมกันทางเพศขึ้นมาเลยนะครับ

อนาพอจะได้ยินเหมือนกันค่ะ เรื่องนี้ เพื่อนของอนาเป็นชาวรัฐเซียมาทำ ดร. อยู่ที่เกาหลี นี้แระค่ะ เธอเป็นเพื่อนที่อนาเจอในการประชุมต่างๆ แบบเจอกันบ่อยมากจนสนิทกันไปเลย หลังๆๆมาจะมาบ่นเรื่องคนเกาหลี เรื่องที่อนาจำได้แม่น เธอบอกว่า เธอไปทานข้าวกลางวัน แล้วโต๊ะมันเต็ม เจ้าของร้านก็บอกให้นั่งรอ เธอก็รอๆๆ เธอ งง ว่าทำไมคนเกาหลีมาหลังเธอถึงได้นั่งก่อน เพราะโต๊ะนั้นไม่มีการเขียน จอง หรืออะไรเลย เธอโมโห ก็อาละวาด ซะร้านเกือบพัง เธอบอกว่า เธออยู่เกาหลี มาสี่ปี ยังรับไมได้กับชาติอนุรักษฺนิยมแบบนี้เลย เขาไม่ค่อยต้อนรับคนต่างชาติ แล้วเธอก็เป็นหญิงอีกด้วย เธอ งง หลายอย่างมากกับความแตกต่างระหว่างชายหญิง เธอถามว่า ญี่ปุ่นเป็นงั้นไหม  อนาก็ตอบตามความจริง ว่ามันก็คล้ายกัน แต่เราไปอยู่เมืองเขาทำได้ไงล่ะ เราก็ต้องปรับ ยอมรับไม่ยอมรับ ก็เก็บไว้ในใจ เพื่อนบอก เก็บจนรู้สึกอยากจะฆ่าผู้ชายที่นี้ไปเกือบหมดแล้ว  Evil or Very Mad Evil or Very Mad  Laughing Laughing Laughing

ระหว่าง สไภ้ จีน(แท้) ญี่ปุ่น เกาหลี  ชาติไหนดีกว่ากันค่ะ
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
so what?
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,729


« ตอบ #15 เมื่อ: 04-08-2006, 11:57 »

วัฒนธรรมความเชื่อของญี่ปุ่นกับเกาหลีใกล้เคียงกันมากครับ โดยเฉพาะเรื่องในครอบครัว
คนเกาหลีเชื่อว่าบรรพบุรุษของพวกเขาส่วนนึงที่อพยพไปขึ้นบกที่ญี่ปุ่น เป็นผู้นำความเจริญจากแผ่นดินใหญ่
ไปสู่หมู่เกาะญี่ปุ่น ซึ่งแต่เดิมเป็นที่อาศัยของชนเผ่าพื้นเมืองตัวเตี้ยๆซึ่งคนไทยเรียกว่าพวกยุ่นนั่นแหละครับ

ผมมีเพื่อนเกาหลีหลายคน พวกนี้มีความฝันเหมือนกัน คืออยากได้ภรรยาเป็นสาวญี่ปุ่น
หรือสาวเกาหลีที่เติบโตมาในครอบครัวญี่ปุ่น เพราะพวกเขาเชื่อว่าครอบครัวญี่ปุ่นสามารถ
ให้การเลี้ยงดูอบรมลูกสาวให้เป็นแม่ศรีเรือนได้ดีที่สุด แต่ผมว่าอันนี้คงไม่ได้หมายถึงญี่ปุ่น
ใน generation ปัจจุบันหรืออนาคตแน่ๆครับ
  Mr. Green  Mr. Green
บันทึกการเข้า
ประกายดาว
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,266


" ดาว " ดวงน้อยประกาย นั่นยังพร่างพราย.....


« ตอบ #16 เมื่อ: 04-08-2006, 12:18 »

ขอคัดค้าน Exclamation Exclamation Exclamation


แม่ศรีเรือน แบบ ไทยๆ ดีที่สุดในโลก
บันทึกการเข้า



วันที่ดาว ทวงฟ้า นภากระจ่าง
ดาวล้านดวง ทวงทาง ระหว่างฝัน
ผุดขึ้นมา  คราเดียว พร้อมพร้อมกัน
ประกาศมั่น.... วันนี้... เสรีไทย



http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=twinkling-stars&group=1
ThailandReport
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,415


« ตอบ #17 เมื่อ: 04-08-2006, 12:23 »

ขอคัดค้าน คนที่คัดค้านครับ

ผมเห็นด้วยกะเรื่องสาวญี่ปุ่น... เหตุผล ยืดยาว
ไว้ว่างๆจะมาตอบ

โอนให้คุณ ธส. ผู้ศึกษา vdo ชีวิตสาวญี่ปุ่นมามาก ตอบก่อนเป็นคนแรก
บันทึกการเข้า

The only thing necessary for the triump of evil is for good men to do nothing !!
สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ นั่นคือการที่ คนดีๆนิ่งดูดาย !
so what?
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,729


« ตอบ #18 เมื่อ: 04-08-2006, 12:23 »

ขอคัดค้าน Exclamation Exclamation Exclamation


แม่ศรีเรือน แบบ ไทยๆ ดีที่สุดในโลก


ต้องไปคัดค้านกับหนุ่มเกาหลีพวกนั้นครับ   Mr. Green
บันทึกการเข้า
999
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,022



« ตอบ #19 เมื่อ: 04-08-2006, 12:52 »










ถ้าเราพูดถึงวัฒนธรรมและภาษา ส่วนใหญ่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของบางคนและความบังเอิญของสังคมที่เป็นไป ผมเป็นห่วงมากที่สุดก็คือความบังเอิญที่เบี่ยงเบนออกไปมากและให้ผลร้ายต่อวัฒนธรรมนั้นๆ ในยุคโลกาภิวัฒน์นี้ แต่ขณะเดียวกันผมบอกตรงๆว่าวัฒนธรรมแบบฮอล์ลิวูดก็ไม่ใช่สิ่งที่ผมชื่นชมหลายๆอย่าง

ผมเชื่อว่าหากเรายอมรับสติปัญญา เราต้องรู้ว่าอะไรคือความจริงของชีวิต ? และสังคมเราต้องมีแกนกลางที่มุ่งไปสู่ทิศทางนั้น การอนุรักษ์จึงจำเป็นกับเฉพาะสิ่งที่จะอยู่รอดได้ในสังคมยุคใหม่เท่านั้น !!!   ก็มีองค์ประกอบเป็นการนำเสนอของแต่ละคน การตัดสินเกิดจากตนเองเองของทุกคน ว่าอะไรต้องอนุรักษ์อะไรต้องละทิ้ง...

การกลั่นกรองอย่างเป็นระบบก็ยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่ดี หากจะหวังความสำเร็จโดยหลีกเลี่ยงความไม่เจตนาที่ไม่พึงประสงค์ของใครเลย..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-08-2006, 14:41 โดย 999 » บันทึกการเข้า

999
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,022



« ตอบ #20 เมื่อ: 05-08-2006, 19:47 »






สังคมหรือคนรักกันยอมเสียเวลาวางกฎระเบียบของหัวใจล่วงหน้าร่วมกันก็ไม่เลว !!!

ส่วนใหญ่จะหลีกเลี่ยงมากกว่าเป็นไปตามสัญชาตญาณของมนุษย์ เมื่อถึงที่สุดแล้ว เหตุผลและอารมณ์เป็นเพียงส่วนประกอบ
บันทึกการเข้า

THE THIRD WAY
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,821


Love looks not with eyes, but with the mind.


« ตอบ #21 เมื่อ: 05-08-2006, 20:04 »

บ้านมีกฎบ้าน
เมืองมีกฎหมาย
อยู่ที่การสร้างจิตสำนึก ความรับผิดชอบ
ผู้นำหน่วยทุกระดับเป็นแม่ปูตัวสำคัญ เป็นตัวอย่างที่ดี
เคยมีผบ.ชน.พลขับฝ่าไฟแดง ท่านสั่งให้เลี้ยวเข้าสน.ไปเสียค่าปรับ
นักข่าวไปถามท่านประทินว่าทำไมไม่สมัครกกต.
ท่านบอกว่าไม่ได้ ท่านไม่เป็นกลาง
พ่อสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า แล้วสอนลูกว่าไม่ดี ไม่ได้
ทำผิดกฎหมายแล้วบอกว่าบกพร่องโดยสุจริต
มีแต่คนเสียจริต เสียสติเท่านั้นที่สรรเสริญ
   Evil or Very Mad
ตั้งแต่กฎเล็กไปถึงกฎใหญ่ ต้องเริ่มตั้งแต่เด็กๆ
สรรเสริญคนเคารพกฎ เป็นสิ่งที่ต้องสร้างสรรค์
พวกขี้ฉ้อตอหลด อย่าไปนับถือ
อย่าไปยกมือไหว้

เจอติดๆกัน สักสองสามงาน
รู้สึก
Tongue out Tongue out Tongue out
บันทึกการเข้า

ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้
************************
การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
999
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,022



« ตอบ #22 เมื่อ: 05-08-2006, 22:11 »





ตอนที่4 คงจะจบแล้ว? ก็รออ่านตอนที่5 จะมีหรือเปล่า??  Very Happy Cool
บันทึกการเข้า

RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #23 เมื่อ: 05-08-2006, 22:41 »

หัวข้อเป็นหัวข้อที่ดี ความเป็นระเบียบเรียบร้อยเป็นเรื่องดี แต่มากไปก็ทำให้อึดอัด
เพื่อนชาวญี่ปุ่นบอกผมเองว่าอยู่ญี่ปุ่น "ต้อง" ทำตัวเรียบร้อย คำว่า "ต้อง" น่าจะแสดงให้เห็นว่าคนญี่ปุ่นบางคนก็ไม่ได้เรียบร้อยโดยนิสัยดั้งเดิม
แต่ว่าเป็นการเรียบร้อยโดยแรงกดดันจากรอบข้าง เรียบร้อยเพราะว่าสังคมบอกว่าต้องเรียบร้อย
ผมก็รู้จักคนญี่ปุ่นหลายคน แต่ก็เป็นคนธรรมดา ออกจะเหมือนคนไทย ไม่เห็นมีใครทำตัวเรียบร้อยมีแบบแผนสักคน
จะเป็นอาการเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่เท่าที่เจอคือเป็นเช่นนั้น

ถ้ามาดูที่สังคมไทยจริงๆ คนไทยจะเป็นพวกที่ว่ายอมได้ก็ยอมไปเถอะ แต่ว่าขอบเขตการยอมนั้นบางทีก็กว้างเกินไป
ทำให้คนบางคนสามารถทำอะไรที่ไม่มีระเบียบจนเดือดร้อนผู้อื่นได้ ดังนั้นหากจะเริ่มก็ต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน
คือตัวเราเองก็ต้องอยู่ในกฎระเบียบ และหากเห็นผู้ที่ไม่อยู่ในกฎระเบียบ จะต้องไม่ปล่อยไปเฉยๆ
อันนี้ก็จะทำให้คนรอบข้างเราค่อยๆ รู้สึกขึ้นมาบ้างว่าน่าจะทำตัวแบบนี้ (หรืออาจจะรู้สึกตรงข้ามก็ได้ถ้าคุณล้ำเส้นมากไป ?)

ในแง่ของภาครัฐ ก็น่าจะมีมาตรการออกมาเป็นอย่างๆ ไป และจะต้องแสดงให้เห็นความคืบหน้าด้วย
ให้เห็นจริงว่าถ้ามีระเบียบในเรื่องนั้นๆ แล้วได้ผลดีอย่างไรบ้าง เช่นถ้าเป็นการแยกขยะ ก็แสดงการรีไซเคิลที่เพิ่มขึ้น
การเผาขยะน้อยลง มลพิษน้อยลง และแน่นอนว่าภาครัฐจะต้องแสดงให้เห็นถึงการทำงานที่เพิ่มขึ้นด้วย
จะทำให้ประชาชนรู้สึกดี เป็นการส่งเสริมซึ่งกันและกันระหว่างรัฐและประชาชน ไม่ใช่ประชาชนออกแรง ทำตัวอยู่ในกฎระเบียบฝ่ายเดียว
แต่ภาครัฐไม่ทำงาน ไม่ฉกฉวยโอกาสเพื่อสร้างประโยชน์ต่อยอดจากความเป็นระเบียบนั้นๆ แบบนี้มันก็ลำบาก
อุตส่าห์ทำตัวในกฎระเบียบมันก็อยากเห็นอะไรตอบแทนกันบ้าง

ความจริงผมคิดว่าหัวข้อนี้เป็นหัวข้อที่ใหญ่เกินไป เหมาะสำหรับเอาไว้โต้วาทีท่าจะสนุกกว่า
เพราะจากประวัติศาสตร์ของโลกที่ผ่านมาผมยังไม่เคยเห็นบุคคลคนใดสามารถเปลี่ยนสังคม "โดยเจตนา" และ "โดยสันติ" ได้เลยสักคน
เอาเป็นว่าเราอยากมีกฎระเบียบในเรื่องไหน เราก็รณรงค์กันไปเป็นเรื่องๆ คงจะดีกว่านะครับ  Mr. Green
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #24 เมื่อ: 16-08-2006, 11:14 »

มีแต่พวกเก่งแต่วิพากย์ วิเคราะห์ วิจัย
คนนั้นเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
สังคมนั้นเป็นอย่างโน้นอย่างนี้
ประเทศนั้นเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
อิจฉาริษยา อยากจะเป็นอย่างเค้ามั่ง....

แต่ถ้าถามหาวิธีการที่จะไปถึงตรงนั้น....ใบ้...ครับ........ Laughing Laughing Laughing
บันทึกการเข้า
Ghibli
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 54


Too small to be seen, yet too big to control


« ตอบ #25 เมื่อ: 16-08-2006, 14:56 »

"ทำอย่างไรที่จะเห็นบ้านเมืองของเรามีกฎระเบียบมากขึ้น" ???


คิดว่ายากมากครับ หรือไม่มีทางเลยก็ว่าได้ เพราะสายพันธุ์กรรมของคนไทย

ไม่ชอบกฏระเบียบและการถูกบังคับ


คนไทยเก่งเรื่องการปรับตัว หรือทำตัวให้เข้ากับท้องถิ่นที่อาศัยได้ดีเยี่ยม
ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก คนไทยมักจะทำตัวกลมกลืนได้แบบ...เนียนมาก...

แต่การที่จะทำให้คนไทยรักษากฏระเบียบแบบอารยประเทศ
คนไทย ยอมรับไม่ได้และไม่คิดจะยอมรับ ปลูกฝั่งก็ไม่ขึ้นครับ...

สิ่งที่สำคัญที่สุดต้องเริ่มจากคนที่เป็นผู้ใหญ่แล้วในวันนี้...แต่...เหลียวมองผู้ใหญ่ในวันนี้ ดูแล้ว  Rolling Eyes

ไม่ต้องคิดที่จะฝากฝั่งไว้กับเด็กรุ่นใหม่ในอนาคต ตราบใดที่ผู้ใหญ่ในวันนี้ไม่เป็นแบบอย่าง
ที่ดีให้เด็กๆเห็น....แล้วท่านทั้งหลายจะไปสอนพวกเด็กๆได้เต็มปากอย่างไรไม่ทราบ??


ผมว่ายอมรับความจรึงดีกว่าครับ อย่าไปคิดเปลี่ยนแปลงหรือเปรียบเทียบกับชาติอื่นๆเลย
คิดได้ แต่ทำจรึงๆ......ไม่มีทางครับ.... Sad
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: