ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 11:47
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  โผโยกย้ายสไตล์'สมานฉันท์'จัดแถว'ผู้บัญชาการ'คุมเลือกตั้ง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
โผโยกย้ายสไตล์'สมานฉันท์'จัดแถว'ผู้บัญชาการ'คุมเลือกตั้ง  (อ่าน 801 ครั้ง)
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« เมื่อ: 02-08-2006, 23:22 »

โผโยกย้ายสไตล์'สมานฉันท์'จัดแถว'ผู้บัญชาการ'คุมเลือกตั้ง

2 สิงหาคม 2549 13:48 น.
สถานการณ์การเมืองที่กำลังพลิกกลับจนทำให้พรรคไทยรักไทยในฐานะรัฐบาลรักษาการส่ออาการเพลี่ยงพล้ำอยู่ในขณะนี้ ส่งผลถึงการจัดทำบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจและนายทหารระดับสูงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :ล่าสุดฝ่ายการเมืองจำต้อง "ยอมงอ" เลิกล้มแนวคิด "หักด้ามพร้าด้วยเข่า" ที่จะเปลี่ยนตำแหน่งระดับหัว เพื่อดันคนของตนเองผงาดขึ้นคุมตำแหน่งสำคัญดังที่ตั้งใจไว้เดิม แล้วเปลี่ยนเป็นเล่นบท "สมานฉันท์" เกลี่ยตำแหน่งให้แต่ละขั้วอำนาจในแบบ "วิน วิน" สมประโยชน์กันทุกฝ่ายแทน 

            ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อให้กองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ในภาวะ "นิ่ง" และเป็นกลไกของรัฐบาลรักษาการชิงความได้เปรียบในสนามเลือกตั้งต่อไป


            โดยในส่วนของกองทัพ ถึงนาทีนี้ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) จะได้นั่งอยู่ในตำแหน่งเดิมต่อไป แต่ก็ต้องยอมโยก พล.ท.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาคที่ 3 เก็บเข้ากรุเป็นที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. หลังออกมาวิจารณ์การเมืองแบบดุเดือดรายวัน

             ขณะเดียวกันก็ดัน พล.ต.มนัส เปาริก รองแม่ทัพภาคที่ 3 เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 10 (ตท.10) ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นเป็นแม่ทัพแทน

            อย่างไรก็ดี เป้าใหญ่ของการโยกย้ายสไตล์ "สมานฉันท์" อยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะมีการ "แบ่งเค้ก" ระหว่าง 2 ขั้วอำนาจอย่างลงตัวที่สุด

            โดยในสายของ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ตำแหน่งรองผบ.ตร.ไป 1 ตำแหน่ง คือ พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นอกจากนั้นยังรักษาหน้าเพื่อนร่วมรุ่น นรต.22 คือ พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ที่แม้จะถูกโยกจากเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) จากกรณีถูกจับบ่อนการพนันขนาดใหญ่ในพื้นที่หลายครั้ง แต่ก็ยังขยับไปนั่งในเก้าอี้ที่น่าจะเรียกได้ว่า "ใหญ่กว่าเดิม" คือผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.)

            ส่วนในสายการเมือง งานนี้ต้องเรียกว่า "คุ้มเกินคุ้ม" เพราะนอกจากเพื่อนร่วมรุ่น นรต.26 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะคว้ารองผบ.ตร.ไปครองได้ 1 เก้าอี้ คือ พล.ต.ท.วงกต มณีรินทร์ และนายตำรวจที่ใกล้ชิดอีกหลายคนก็ได้ขยับขึ้นตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร.แล้ว ยังมีการจัดแถวระดับผู้บัญชาการภาค (ผบช.ภ.) เพื่อรับศึกเลือกตั้งด้วย

            โดยหากส่องกล้องวิเคราะห์ปูมหลังของ ผบช.ใหม่แต่ละคน ล้วนมีเส้นทางเกาะเกี่ยวกับฝ่ายที่ครองอำนาจการเมืองอยู่ในปัจจุบันทั้งสิ้น เริ่มจาก  พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ว่าที่ ผบช.น. เจ้าของผลงานเด่นสมัยดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.2 คุมภาคตะวันออก คือสกัดม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ให้เดินทางไปสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมในกรุงเทพฯ 

            ทว่าคนใหญ่คนโตอย่าง "กำนันเป๊าะ" นายสมชาย คุณปลื้ม ที่หนีฟังคำพิพากษาคดีจำคุกไปอย่างลอยนวล "ท่านจงรัก" กลับสกัดไว้ไม่อยู่

            พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ว่าที่ ผบช.ภ.1 คุมพื้นที่ภาคกลางทั้งหมด เป็นเพื่อนร่วมรุ่น นรต.23 ของ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี

            พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผบช.ภ.3 และ พล.ต.ท.สถาพร ดวงแก้ว ผบช.ภ.4 คุมภาคอีสาน นายตำรวจสองท่านนี้ไม่มีขยับไปไหน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.สถาพร ดวงแก้ว เป็นเพื่อนร่วมรุ่น นรต.26 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเคยปะทะคารมอย่างดุเดือดกับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อครั้งไปเปิดเวทีปราศรัยในพื้นที่มาแล้ว

            พล.ต.ท.วุฒิ วิทิตานนท์ ว่าที่ ผบช.ภ.5 คุมพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เป็นเพื่อนร่วมรุ่นของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาตั้งแต่สมัยเรียนมงฟอร์ดวิทยาลัย

            พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.7 คุมพื้นที่นครปฐม สุพรรณบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และภาคตะวันตก รวมทั้งสมุทรสาคร กับสมุทรสงคราม ตำแหน่งนี้ไม่มีการขยับ แต่ พล.ต.ท.ฉลอง ก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่น นรต.26 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เช่นกัน

            พล.ต.ต.ศิริชัย มีนะกนิษฐ ว่าที่ ผบช.ภ.8 คุมพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ก็เป็น นรต.26 อีกคนหนึ่งที่ขยับจากรองผบช. ผงาดขึ้นเป็น ผบช.

            ที่ไล่เรียงมาทั้งหมด มีเพียง 2 ภาคเท่านั้นที่ภาพไม่ชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมือง คือ พล.ต.ต.อัศวิน ขวัญเมือง ว่าที่ ผบช.ภ.2  และ พล.ต.ต.อดิศร นนทรีย์ ว่าที่ ผบช.ภ.6 คุมพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง

            น่าสนใจตรงที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดที่แล้ว ได้ออกคำสั่งเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ว่าด้วยการแต่งตั้งประธาน กกต.จังหวัด โดยกำหนดให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด เป็นประธานฝ่ายสอบสวนของ กกต.จังหวัดโดยอัตโนมัติ ซึ่งจุดนี้ย่อมส่งผลต่อการทำสำนวนการสอบสวนคดีทุจริตเลือกตั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เรียกว่าจะให้ทำสำนวนแบบ "ชงหวาน" หรือ "ชงขม" ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

            ขณะที่โดยสายการบังคับบัญชาแล้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดต้องรายงานตรงไปยังผู้บัญชาการภาค...

     
            และนี่เองคือคำตอบของการจัดโผโยกย้ายสไตล์สมานฉันท์ Exclamation



บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
หน้า: [1]
    กระโดดไป: