แนะเลิกสุมหัวทะเลาะกัน นายกฯเหน็บพวกว่างงาน [31 ก.ค. 49 - 20:11]
"วันนี้เป็นห่วงนักธุรกิจไทยที่ยังไม่เข้าใจระบบทุนนิยมสมัยใหม่ เพราะไม่ว่าชอบหรือไม่ชอบ ก็ต้องถูกบังคับให้อยู่ในเกมที่ต้องแข่งขัน ที่สำคัญปัจจุบันราคาน้ำมันยังฉุดไม่อยู่ จึงอยากให้บรรดานักธุรกิจจับทางให้ได้ สิ่งที่หากินกันทุกวันนี้ต้องหากินกับสิ่งที่อิงกับราคาน้ำมัน คือ ยางพารา แก๊สโซฮอล์ ไบโอดีเซล ส่งผลกับราคาน้ำตาลและมันสำปะหลังและปาล์ม เป็นวัตถุดิบ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังไปได้ดี หากไม่มีปัญหาภายในประเทศก็คงไปได้ นอกจากนี้ ยังมีอุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมท่องเที่ยว มีแนวโน้มไปได้ดี เวลานี้ต่างประเทศยังสนใจที่จะมาลงทุน เพียงแต่ว่าเมื่อใดเราจะเลิกทะเลาะกันเอง
โดยเฉพาะคนที่ว่างงาน ไม่มีอะไรทำ สุมหัวทะเลาะกันอยู่ไม่ดี"นายกรัฐมนตรี กล่าวและว่า การเมืองเป็นเรื่องสำคัญ แม้การเมืองจะเป็นเรื่องภายในประเทศ กลไกต่างๆเกี่ยวข้องกับเรื่องการได้มาซึ่งอำนาจ การใช้อำนาจทั้งหลายก็ทะเลาะกันเอง โดยไม่คำนึงว่าชาติจะเสียหายอย่างไร เอาชนะคะคานกันโดยไม่คำนึงถึงชาติ ทั้งที่ให้ฟัดกันได้ระดับหนึ่งเท่าที่ไม่กระทบต่อชาติ แต่ขณะนี้ฟัดกันจนลากชาติเข้ามา มีปัญหา ถือเป็นสิ่งที่น่าพิศวง อย่างไรก็ตาม สภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันสิ่งที่เป็นห่วงคือความน่าเชื่อถือของระบบ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้เกิดความไม่น่าเชื่อถือพอสมควร
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งได้ 377 เสียง แต่มีกระบวนการที่ทำให้รัฐบาลต้องล้ม แต่ถือว่ายังโชคดีและเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงลงพระปรมาภิไธยให้มีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.)
การเลือกตั้ง วันที่ 15 ต.ค.นี้ ประเทศไทยวันนี้ถอยไม่ได้แล้ว เพราะเป็นระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข
จะถอยเป็นอย่างอื่นไม่ได้ จะอ้างว่าหยุดหายใจชั่วคราว สมองก็จะไม่มีออกซิเจนไปเลี้ยง ก็จะเป็นง่อย ปัญญาอ่อน ฉะนั้นจะหยุดหายใจชั่วคราวไม่ได้ จะหยุดประชาธิปไตยชั่วคราวก็ไม่ได้ มีอะไรไม่ดีไม่ชอบกัน ต้องว่าไปตามระบอบประชาธิปไตยที่มีกลไกอยู่ หากการเลือกตั้งเป็นไปอย่างรวดเร็วและเรียบร้อย คิดว่าบ้านเมืองจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะวันนี้สิ่งที่เป็นพื้นฐานยังเข้มแข็งยังไม่ถูกทำลาย แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือความน่าเชื่อถือตัวเอง คำว่าน่าเชื่อถือมันแพงมาก แพงที่สุดของระบบเศรษฐกิจ "วันที่ไม่น่าเชื่อถือ ไปกู้ใครเขาก็ไม่ให้กู้ เอาไปจำนองพวกก็ไม่รับ เพราะไม่ได้กะยึดทรัพย์"
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวด้วยว่า
วันนี้ความน่าเชื่อถือของระบบกฎหมายและระบบกระบวนการยุติธรรมต้องได้รับความเชื่อถือ หากไม่เกิดความเชื่อถือจะอันตรายมาก ทำให้เงินลงทุนจากต่างประเทศหายไป หากประเทศไทยได้รับความเชื่อถือจริงๆ ประชาธิปไตยได้รับการสถาปนากลับคืนมา เชื่อว่าความน่าเชื่อถือและการลงทุนจะกลับมา ถ้าคนไทยหันหน้าเข้าหากัน มีอะไรก็พูดคุยและตำหนิกันได้ แต่ทั้งหมดต้องมีระบบการถ่วงดุล ใครทำผิดต้องใช้กระบวนการของกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ความน่าเชื่อถือก็จะกลับมา วันนี้ประเทศต้องการความสามัคคี ความสมานฉันท์ และรักษาระบบไว้ไม่ให้เสียหาย ตนจะไม่ยอมให้ระบบพังเพื่อแก้ปัญหาการเมือง เพราะการเมืองแก้ปัญหาด้วยการพูดคุยกันได้ เนื่องจากเป็นคนไทยด้วยกัน จุดนี้จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศเข้มแข็งได้ และหวังว่านักธุรกิจไทยจะปรับตัวได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น
http://www.thairath.co.th/onlineheadnews.html?id=14568